***...ปกปิดร่างกาย แต่ให้ร้ายผู้อื่น...***
| | | |
วันนี้วันดีวันที่เก้า เลยมาอัพเรื่องราวคราวห่างหาย เปล่าหรอกนะไม่ได้หายเพราะผู้ชาย แต่เพราะหลานวัยร้ายแย่งเวลา
ไม่ได้เข้ามาอัพบล็อกใหม่หลายวันแล้ว จนมีบางคนเข้ามาถามไถ่ว่าหายไปไหน ที่จริงไม่ได้หายไปไหนหรอกค่ะ เพียงแต่ว่า สมองมันตัน ไม่รู้จะเขียนอะไรดี
แต่วันนี้มาแล้วพร้อมด้วยเรื่องเครียดๆ เหอๆ แบบว่ามันอึดอัด แต่จะไปด่าว่าต้นเหตุมันก็ทำไม่ได้ เพราะนาห์เป็นคนดี (ตรงไหน ก็คิดเอาเอง อิอิ)
ไม่ว่าศานาใด ก็สอนให้คนทำดีคิดดี แต่...ไม่ว่าศานาใด ก็ล้วนมีคนที่คิดว่าตัวเองเป็นคนดี มองคนอื่นว่าเป็นคนไม่ดี หลงลืมคำสอนที่แท้จริงของศาสนา
เคยมีหลายๆคนถามว่า ทำไมฉันไม่คลุมศีรษะเหมือนอิสลามคนอื่นๆ ฉันมักย้อนถามไปว่า ถ้าคลุม แต่งกายตามศาสนา แต่ไม่เคยเอาศาสนามาใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่เคยประพฤติตนตามคำสั่งสอน ฉันก็เลือกที่จะไม่คลุมศีรษะตอนนี้ (อนาคตยังไงก็ต้องคลุมแน่นอน)
ไม่กี่วันมานี่เอง เกิดเรื่องราวขัดแย้งกันภายในสหกรณ์ชุมชน บุคคลต้นเหตุแต่งกายเรียบร้อยตามหลักศาสนา ละหมาดห้าเวลา ตามหลักคำสอน แต่ทำไม เขายังนินทาว่าร้ายผู้อื่น เขายังเห็นความมีอำนาจเป็นสิ่งน่าปรารถนา เขายังคิดอกุศลต่อผู้อื่น
บางครั้งการละหมาดห้าเวลา การคลุมผ้า โพกศีรษะ จึงไม่ได้บ่งบอกว่า บุคคลผู้นั้นเป็นคนดี อยู่ในศาสนา จะมีประโยขน์อะไร หากยังนินทาผู้อื่น จะมีประโยชน์อะไรหากยังหลงในอำนาจความเป็นใหญ่กิเลสตัวโต
ฉันเฝ้ามองดูแล้วเกิดคำถามให้ตัวเองว่า อิสลามให้ปกปิดร่างกาย แล้วทำไมต้องปกปิดใจให้มืดมนไปด้วย แล้วแบบนี้ศาสนาจะมีประโยชน์อะไรหากไม่นำไปปฏิบัติให้เห็นผล
| | | | |
Create Date : 09 กรกฎาคม 2551 |
|
25 comments |
Last Update : 9 กรกฎาคม 2551 20:18:33 น. |
Counter : 841 Pageviews. |
|
|
|
คนที่คุกเข่าอ้อนวอนไหว้ถึงพระเจ้า
แต่อีกมือกับโกงกินและเอารัดเอาเปรียบคนอื่น
มันก็เหมือนเราแต่งเครื่องแบบนักศึกษา
แล้วคิดว่าตัวเองฉลาด
ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน.....
เขียนได้คมคายและน่าคิดนะครับ
พี่ก๋าเชื่อว่าน้องนาห์คงปฏิบัติตามหลักศาสนาและความเชื่อแน่นอน
คงไม่ถึงขั้นขัดแย้งกับใคร
ธรรมะเป็นเรื่องเฉพาะตน
ไม่ว่าศาสนาใด พี่ก๋าเชื่อว่า
ถ้าเราเข้าใจหลักธรรมคำสอนอย่างเข้าถึงแก่น
ศาสนานั้นจะยึดเหนี่ยวจิตใจและทำให้เราเกิดปัญญาครับ
ฝันดีครับน้องนาห์