|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
บทวิจารณ์...จนกว่าชีวาจะวางวาย
5 กันยายน 2549
หวัดดีเจ้าค่ะอ้ายพุ่ม ข้าพเจ้าส่งคำวิจารณ์มาให้ใหม่แล้วนะตามสัญญา ว่าไปก็สนุกดีนะ วิจารณ์คนอื่นเนี่ย แถมไม่มีเกรดไม่มีคะแนนเหมือนตอนเรียน ไม่ต้องเกร็ง ข้าพเจ้าร้างลาการวิจารณ์วรรณกรรมมานับสิบปี หลงๆ ลืมๆ ไปบ้าง มั่วบ้างก็อย่าว่ากัน พยายามเขียนให้เท่าที่นึกออกและสติปัญญามี จริงๆ แล้วข้าพเจ้าเองไม่เคยแต่งนวนิยายเลยสักเรื่องอาจหาญมาวิจารณ์งานของอ้าย อย่าโกรธข้าพเจ้าก็แล้วกันนะ จริงๆ แล้วถ้าอ้ายไม่ขอมาข้าพเจ้าก็ไม่กล้าวิจารณ์หรอก เอาเป็นว่าทำเพื่ออ้ายก็แล้วกันนะ ราตรีสวัสดิ์เจ้าค่ะ
จนกว่าชีวาจะวางวาย- ไม่ตายก็เขียนใหม่ได้เนอะ
๑. โครงเรื่อง
ชีวา พนักงานเงินเดือนที่ตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อมาเขียนหนังสือ เขาพยายามเสนอผลงานให้ บก.สำนักพิมพ์แห่งหนึ่งพิจารณานับครั้งไม่ถ้วน แต่หนังสือของเขาก็ไม่ได้รับการตีพิมพ์
ชีวาพยายามปรับปรุงงานเขียนของเขาโดยการหาข้อมูล พูดคุยกับนักเขียนชื่อดังหลายท่าน จนวันหนึ่งเขาได้พบกับ อังกาบ นักศึกษาสาวคณะรัฐศาสตร์ผู้มีความใฝ่ฝันจะเป็นนักการเมือง
ชีวาตามอังกาบกลับบ้านต่างจังหวัดที่ลำปลายมาศ ชีวิตเขาผกผันเมื่อได้พบกับนายกรัฐมนตรี หลังจากนายกฯ ลาออกตามคำแนะนำของเขา ชีวาก็เป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศภายในระยะเวลาชั่วข้ามคืน
สำนักพิมพ์หลายแห่ง สนใจจะนำหนังสือของเขาไปตีพิมพ์ ท้ายที่สุดเขาก็มีหนังสือเป็นของตัวเอง แต่หนังสือเล่มนั้นไม่ได้เป็นหนังสือของเขา มันถูกแก้ไขดัดแปลงจากนักเขียนมืออาชีพจนไม่เหลือเค้าเดิม
๒. แนวคิดที่สำคัญของเรื่อง
งานของนักเขียนแท้จริงแล้ว ถ้าเขียนเพื่อถูกให้ถูกใจคนอ่าน โดยนักเขียนต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดโดยใส่บางอย่างที่คนอ่านรับได้ และถอดบางอย่างที่คนอ่านไม่ต้องการออก นอกจากนี้ยังถูกดัดแปลง ตบแต่ง เปลี่ยนภาษาจากนักเขียนมืออาชีพ และ บก. งานเขียนชิ้นนั้นก็ไม่ใช่งานเขียนของนักเขียนคนนั้นอีกต่อไป
(ถ้าข้าพเจ้าสรุปโครงเรื่องกับแนวคิดที่สำคัญของเรื่องผิดไปล่ะก็ ขอยกความผิดนั้นให้ผู้แต่งคนเดียวเพราะผู้แต่งดันเขียนให้ผู้อ่านๆ แล้วไม่เข้าใจ ฮ่า ฮ่า )
๓. กลวิธีในการประพันธ์
- เป็นการเล่าเรื่องโดยการลำดับเหตุการณ์ตามช่วงเวลา และให้บุรุษที่หนึ่ง คือชีวาเป็นคนเล่าเรื่อง ถือว่าอ้ายทำได้ดีนะจุดนี้ ชีวาสามารถดำเนินเรื่องไปได้เรื่อยๆ สลับกับบทพูดสนทนากับบุคคลอื่นๆ เรื่องก็ดำเนินไปได้ตลอดรอดฝั่งดี ดูไม่ขัดเขินแต่ประการใด
- ผู้แต่งขึ้นต้นด้วยบทนำ ซึ่งกล่าวถึงชีวา เพื่อนำเข้าสู่เรื่องราว และในบทส่งท้ายก็เป็นการเฉลยชื่อเรื่อง จนกว่าชีวาจะวางวาย ว่าชีวาจะเขียนหนังสือไปจนกว่าชีวาจะวางวาย ข้าพเจ้าถือว่าอ้ายทำตรงจุดนี้ได้ดีทีเดียว น่าสนใจดี
ส่วนเนื้อหาข้างใน อ่านรอบแรกข้าพเจ้างง จับต้นชนปลายไม่ถูกว่าอ้ายต้องการจะสื่ออะไร หาแนวคิดสำคัญของเรื่องไม่เจอ เพราะไปมุ่งสนใจแต่กลวิธีในการแต่งของอ้าย ซึ่งงัดเอาแทบทุกกลยุทธ์มาใช้ในนวนิยายจำนวนไม่ถึงร้อยหน้า อ้ายใช้ทั้งสัญลักษณ์(ปกหนังสือที่เปลี่ยนแปลงไปมาตามความรู้สึกของชีวา) การทะลุมิติเข้ามาพูดคุยของนักเขียนชื่อดังนับไม่ถ้วน การให้ข้อมูลเรื่องประวัติศาสตร์ผ่านตัวละคร การทะลุมิติเวลาเจออังกาบวัยเด็กกับอังกาบวัยสาว และอื่นๆ อีกมากมายที่ข้าพเจ้าจนปัญญาจะนำมายกไว้หมด ข้าพเจ้าอ่านแล้วละลานตาไปหมดจนหาเนื้อเรื่องและแก่นของเรื่องแทบไม่เจอทีเดียว
-คอนฟลิคของเรื่อง ข้าพเจ้าว่ามันน้อยไปนิดนึงนะ เรื่องของอ้ายที่ดำเนินมาก็งงๆ พออยู่แล้ว ว่าต้องการสื่ออะไร ในเรื่องความรู้สึกขัดแย้งของชีวากับงานเขียนของตนที่ได้รับการตีพิมพ์ จู่ๆ ก็มาไม่ทันให้ตั้งตัว ตัวเอกน่าจะมีการแสดงออกถึงความขัดแย้งเพิ่มอีกนิดนึงนะอ้าย เพราะเป็นจุดสำคัญของเรื่อง ว่าตัวเอกสับสนและจะเลือกหนทางเส้นไหนดี อ้ายให้คำตอบแก่คนอ่านโดยใช้สัญลักษณ์ สื่อความหมายมาทางหน้าปกหนังสือให้ตีความเอาเอง ก็ดูเข้าที แต่อย่างที่บอกอ้ายใช้เทคนิคในการเขียนมากไปนิดจนคนอ่านเวียนหัวเจ้าค่ะ
๔. ตัวละคร
ตัวละครเอกในเรื่อง ชีวา มีบุคลิกเด่นชัดดีนะ หนุ่มอีสานหน้าตาดี มีอารมณ์ขัน เจ้าชู้เป็นที่หนึ่ง ( เหมือนคนแต่งไม่ผิดเพี้ยน) ถือเป็นแรงจูงใจที่ดีอันหนึ่งให้ผู้อ่านติดตามอ่านไปอย่างสนุก จะว่าไปอ่านแล้ว นึกถึง พุ่มฮัก พานเสือ ขึ้นมาทันทีทันใด อันนี้ถือเป็นเอกลักษณ์ของอ้ายทีเดียวเชียว ลอกเลียนค่อนข้างลำบาก ฮ่า ฮ่า
ส่วนตัวละครอื่นๆ บุคลิกไม่เด่นชัด ตัวอังกาบเองก็แปลกๆ นะอ้าย เหมือนไม่ใช่มนุษย์ ดูแปลงร่างพลิกบทบาทได้ยังไงพิกล ฮ่า ฮ่า
ตัวละครบางตัวไม่มีผลกับการดำเนินเรื่อง ใส่มาให้รกรุงรังเปล่าๆ เช่น ติ๋ม (อาจจะช่วยอยู่บ้างที่ทำให้บุคลิกของชีวาดูชัดเจนขึ้น) ,อาจารย์สมฤทธิ์, เด็กน้อยในชุดอนุบาล, ตัว รปภ.ย้อนยุค
ตัวละครบางตัวบุคลิกไม่สมจริง ข้าพเจ้าไม่แน่ใจว่าอ้ายต้องการแต่งให้เป็นแนวแฟนตาซีเกินจริงหรือเปล่า ตัวละครของอ้ายแต่ละตัวเลยดูแปลกๆ เด็กหญิงอังกาบกับเด็กน้อยในชุดอนุบาลดูรอบรู้เกินวัยไปนิด แต่ถ้าอ้ายตั้งใจให้ออกเป็นแนวแฟนตาซีอยู่แล้ว ก็คงพอรับได้
ตัวละครของอ้ายแต่ละตัว ข้าพเจ้าว่าที่เหมือนมนุษย์หน่อยก็ ชีวา กับ ติ๋ม นี่แหละ ดูเป็น round character ดี มีรัก โลภ โกรธ หลง เหมือนมนุษย์ทั่วไปหน่อย แต่ด้านพัฒนาการของตัวละครยังน้อยไปนิด หลังคอนฟลิคน่าจะให้ตัวเอกมีการเปลี่ยนแปลงอะไรให้เห็นเด่นชัดหน่อยน่าจะดี
ในส่วนของนักเขียนชื่อดังทั้งหลายที่อ้ายใส่มา ก็ใช้เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครกับเนื้อเรื่องได้ดี ชีวาอยากเป็นนักเขียน และได้มีโอกาสได้พูดคุยกับนักเขียนชื่อดังหลายท่าน ที่ทะลุมิติเวลามาพูดคุยด้วย และได้แนะนำชีวาในด้านต่างๆ ก็ถือว่าโอเคนะอ้าย แต่ถ้านักเขียนชื่อดังเหล่านี้จะช่วยเสริมให้แนวคิดของเรื่องเด่นขึ้นกว่านี้น่าจะดีกว่านี้เนอะ ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนอ้ายเอามาแปะๆ ไว้ยังไงพิกล โครงเรื่องดำเนินไปได้ แต่แนวคิดขาดหาย ปรากฎให้เห็นแต่ตอนต้นเรื่องกับท้ายเรื่องเท่านั้นเอง
๕. ฉาก
ฉากมากมายหลากหลาย ทั้งที่บ้านไม้สองชั้น,ร้านคาราโอเกะ, สำนักพิมพ์, บ้านสวน, ร้านกาแฟเจ๊ลั้ง, หมู่บ้านที่ลำปลายมาศ, บนโบกี้รถไฟ, วัดประจำหมู่บ้าน, สนามหลวง, พิพิธภัณฑ์ หมดยังเนี่ย
ไม่บอกไม่รู้นะเนี่ยว่าฉากเหล่านี้ปรากฏอยู่ในนวนิยายไม่ถึงร้อยหน้า การบรรยายฉากแต่ละฉากจึงก็มีน้อยมาก ไม่เป็นไรข้าพเจ้ารู้ว่าอ้ายอยากให้คนอ่านจินตนาการฉากเอาเองตามใจชอบ ฮ่า ฮ่า
ดังนั้นข้าพเจ้าไม่วิจารณ์ล่ะนะว่าฉากสมจริงไหม มีผลต่อบุคลิกของตัวละครไหม เพราะอ้ายแทบจะไม่ให้ความสำคัญกับฉากเลย ใช้ก็เพียงเพื่อให้ผู้อ่านทราบว่า เกิดเหตุการณ์นั้นที่ใดมากกว่าเหตุผลอื่น
๖. การใช้ภาษา
ภาษาเขียนอ้ายดีอยู่แล้วล่ะ คงไม่มีอะไรท้วงติง บทสนทนาระหว่างตัวละครก็ทำได้ดี บทจะหวานอ้ายก็หวานได้ใจ บทจะเสียดสีก็เสียดสีได้แสบๆ คันดี แต่พอมันมาอยู่ในนวนิยายเรื่องเดียวกัน ข้าพเจ้าล่ะปรับเปลี่ยนอารมณ์แทบไม่ทันเชียว แถมแนวคิดสำคัญของเรื่องก็ไม่ได้เข้ากับความรักโรแมนติกกับการเสียดสีการเมืองของอ้ายเลยให้ตายเหอะ อ้ายจะไปแนวไหน เลือกเอาสักแนวเถอะนะ ท่านย่าขอร้อง
๗. คุณค่าของงานนวนิยายเล่มนี้
-ให้ความรู้ แม้จะไม่เป็นความรู้ใหม่ แต่ก็ถือว่าสอดแทรกความรู้ในด้านต่างๆ ไว้หลากหลายทีเดียว เช่น ประวัติพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ประวัติศาสตร์การเมืองไทยและประวัติของนักการเมืองสำคัญในอดีต ประวัตินักเขียนชื่อดังท่านต่างๆ
-สะท้อนสภาพสังคมปัจจุบันของไทย เช่น การให้ความสำคัญกับการอ่านการเขียนหนังสือในเมืองไทย, ความสนใจและการให้คุณค่าแก่พิพิธภัณฑ์ของคนไทย, การเข้ามาของอารยธรรมต่างชาติ ,การปรับเปลี่ยนทางวัฒนธรรมให้อยู่รอด, วิถีชีวิตความคิดความเชื่อของคนในสังคม เช่น เล่นหวย ดูหมอ ขอหวยกับพระสงฆ์องค์เจ้า นอกจากนี้ยังสะท้อนการเมืองในประเทศไทย ให้เห็นถึงภาวะผู้นำในประเทศ พฤติกรรมของนักการเมือง เป็นต้น
****
หนุงหนิง(เหลาชมจันทร์)
5/9/49
Create Date : 05 กันยายน 2549 |
Last Update : 5 กันยายน 2549 23:34:08 น. |
|
31 comments
|
Counter : 1335 Pageviews. |
|
|
|
โดย: หนุงหนิง IP: 203.113.34.7 วันที่: 6 กันยายน 2549 เวลา:0:01:42 น. |
|
|
|
โดย: ธุลีดิน IP: 203.170.228.172 วันที่: 6 กันยายน 2549 เวลา:1:40:58 น. |
|
|
|
โดย: ธุลีดิน IP: 203.170.228.172 วันที่: 6 กันยายน 2549 เวลา:1:50:31 น. |
|
|
|
โดย: ธุลีดิน IP: 203.170.228.172 วันที่: 6 กันยายน 2549 เวลา:1:56:29 น. |
|
|
|
โดย: หนุงหนิง IP: 195.213.95.34 วันที่: 6 กันยายน 2549 เวลา:12:54:48 น. |
|
|
|
โดย: แม่นางนีน่า IP: 124.121.16.91 วันที่: 6 กันยายน 2549 เวลา:15:26:50 น. |
|
|
|
โดย: merf1970 วันที่: 6 กันยายน 2549 เวลา:16:36:13 น. |
|
|
|
โดย: พุ่มฮัก IP: 58.9.193.203 วันที่: 6 กันยายน 2549 เวลา:18:54:18 น. |
|
|
|
โดย: ธุลีดิน IP: 203.170.228.172 วันที่: 6 กันยายน 2549 เวลา:21:19:29 น. |
|
|
|
โดย: tanada-จัง (tanada-จัง ) วันที่: 6 กันยายน 2549 เวลา:21:22:05 น. |
|
|
|
โดย: กอฮัก พานกระทิง IP: 124.157.212.48 วันที่: 7 กันยายน 2549 เวลา:0:32:55 น. |
|
|
|
โดย: veerara วันที่: 7 กันยายน 2549 เวลา:2:13:18 น. |
|
|
|
โดย: ธุลีดิน IP: 203.170.228.172 วันที่: 7 กันยายน 2549 เวลา:12:18:16 น. |
|
|
|
โดย: พุ่มฮัก IP: 61.47.104.72 วันที่: 7 กันยายน 2549 เวลา:12:37:15 น. |
|
|
|
โดย: ยายนีน่าเองค่า IP: 124.121.17.114 วันที่: 7 กันยายน 2549 เวลา:13:37:05 น. |
|
|
|
โดย: พุ่ม love IP: 61.47.104.72 วันที่: 7 กันยายน 2549 เวลา:15:01:56 น. |
|
|
|
โดย: หนุงหนิง IP: 203.113.34.9 วันที่: 7 กันยายน 2549 เวลา:20:00:45 น. |
|
|
|
โดย: ธุลีดิน IP: 203.170.228.172 วันที่: 7 กันยายน 2549 เวลา:22:34:45 น. |
|
|
|
โดย: nena IP: 124.121.16.104 วันที่: 8 กันยายน 2549 เวลา:13:04:08 น. |
|
|
|
โดย: ไอซ์ IP: 58.147.124.72 วันที่: 9 กันยายน 2549 เวลา:10:02:35 น. |
|
|
|
โดย: ธุลีดิน (กระท่อมธุลีดิน ) วันที่: 9 กันยายน 2549 เวลา:18:26:15 น. |
|
|
|
โดย: tanada-จัง (tanada-จัง ) วันที่: 9 กันยายน 2549 เวลา:21:01:54 น. |
|
|
|
โดย: ยายเอง IP: 124.121.23.199 วันที่: 9 กันยายน 2549 เวลา:21:32:41 น. |
|
|
|
โดย: หนุงหนิง (เหลาชมจันทร์ ) วันที่: 9 กันยายน 2549 เวลา:23:57:18 น. |
|
|
|
โดย: ธุลีดิน IP: 203.170.228.172 วันที่: 10 กันยายน 2549 เวลา:13:01:44 น. |
|
|
|
โดย: merf1970 วันที่: 12 กันยายน 2549 เวลา:0:09:44 น. |
|
|
|
โดย: ไอซ์ (parchya ) วันที่: 12 กันยายน 2549 เวลา:9:58:02 น. |
|
|
|
โดย: ธุลีดิน (กระท่อมธุลีดิน ) วันที่: 12 กันยายน 2549 เวลา:19:24:56 น. |
|
|
|
โดย: ธุลีดิน IP: 203.170.228.172 วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:17:42:40 น. |
|
|
|
โดย: poop IP: 222.123.24.161 วันที่: 5 ธันวาคม 2549 เวลา:15:00:33 น. |
|
|
|
โดย: ีนี IP: 222.123.24.161 วันที่: 5 ธันวาคม 2549 เวลา:15:03:29 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
สงวนสิทธิ์ตามกฏหมายในการทำการคัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลงส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมด ของงานเขียนในบล็อกนี้ ผู้ใดทำการคัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง ส่วนหนี่งส่วนใดหรือทั้งหมด โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษ ปรับตามกฏหมายตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือนำเรื่องไปเสนอสำนักพิมพ์ ถือเป็น การเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 100,000 บาทถึง 800,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ. กฏหมายลิขสิทธิ์
|
|
|
|
|
|
|
เอามาประจานหราอย่างนี้เลยหรืออ้าย เกิดอาจารย์ข้าพเจ้าแวะเวียนผ่านมา จะมาริบเกรดข้าพเจ้าคืนเสียก็ไม่รู้