บัตรเครดิตกับสิ่งที่มองไม่เห็น ได้โอกาสเขียนแล้ว เนื่องจากทำงานหนักมาเดือนกว่าๆๆ แบบมีความสขุบ้างไม่มีความสุขบ้างทำให้สติหายไปเพียบเลยอ่ะ เข้าเรื่องดีกว่า ทำไมบทความนี้ถึงได้บอกว่า บัตรเครดิตกับสิ่งที่มองไม่เห็น แล้วสิ่งที่มองไม่เห็นมันคืออะไรกับบัตรเครดิต สิ่งที่มองไม่เห็นนั้นคือ ค่าของเงินและแต้มหรือของรางวัลที่ได้ไงล่ะ อ้าวทำไมเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นได้ไงอ่ะ ก็มันคือความเชื่อใจว่า ทางบริษัทที่ออกบัตรกับคนที่ใช้บัตร(หรือคนที่รูดเงินจากบัตรพลาสติกใบนี้) เมื่อรูดแล้ว คนที่ใช้บัตรหรือคนที่รูดเงินมีเงินที่จะจ่ายเงินที่รูดไปก่อน ซึ่งเป็นการนำเงินในอนาคตมาใช้ อันนี้เป็นจุดแรก ซึ่งการนำเงินในอนาคตมาใช้นั้น ค่าของเงินนั้น จะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับอัตราเงินเฟ้อในอนาคต ยิ่งไปกันใหญ่แล้วล่ะนั้น ยกตัวอย่างว่า คนใช้ 1หมื่นบาท รูดสินค้าในเดือน10 แต่มีกำหนดค่าบัตรเป็นเดือน 12 ซึ่งอัตราเงินเฟ้อในเดือน 10 มันแค่ 2% แต่พอถึงเดือน 12 เป็น 4% จะเห็นว่าค่าเงินมันหายไป โดยที่ผู้ใช้บัตรไม่รู้สึกว่า ค่าของเงินมันลดลงแล้วอ่ะ แต่ได้สินค้าที่ราคาที่ถูก ส่วนเรื่องแต้มกับสิ่งของที่ให้แรก โดยที่คิดจากยอดใช้จริงนั้น เป็นผลพลอยได้ เป็นการส่งเสริมยอดการใช้บัตรเครดิต ซึ่งอันนี้ ณ ตอนนี้มันเหมือนเงินเข้าไปทุกทีแล้ว เพราะเอาแต้มที่ว่าไปแลกเป็นสิ่งของ (ยังดีที่ไม่ได้การโอนแต้มเกิดขึ้น ) ไม่รู้ว่ามีการซื้อขายแต้มเป็นเงินจริงหรือเปล่าอ่ะ (เหมือนในเกมที่ดังที่เกิดขึ้น) จุดใหญ่ๆมันมีแค่นี้อ่ะ แต่ที่จริงมันยังไม่หมดแต่แค่นี้ ยังมีการหนุมเงินโดยการใช้บัตรเครดิตในการหมุนเงินด้วย ซึ่งอันนี้เป็นการชี้โพรงให้กระรอก อย่ามาบอกกล่าวกันเลย มันจะทำให้ติดอยู่วังวนเห็นหนี้ ปล คนที่มีความรู้มาถกกันหน่อยล่ะกัน สงวนลิขสิทธิ์ในการคัดลอก   Create Date : 11 ตุลาคม 2548 2 comments Last Update : 11 ตุลาคม 2548 22:04:34 น. Counter : 1121 Pageviews. Share Tweet

ความคิดเห็นที่ 1 โดยส่วนตัวคิดว่า มันมีประโยชน์ตรงที่เอามาหมุนเงินได้นะคะ แต่ผลเสียมันอยู่ที่ ความมีระเบียบในการใช้เงินมากกว่า เพราะส่วนมากที่เห็นมีปัญหาก็เพราะใช้บัตรกันโดยไม่ประมาณตน เหมือนกับพอมี ก็ใช้ ๆๆๆๆๆ แต่พอใบแจ้งหนี้ออกมาก็ช๊อค ๆๆๆๆๆ จากคุณ : อิกคิว (iccue) - [ 8 ต.ค. 48 09:54:33 ] ความคิดเห็นที่ 2 บทความข้างต้น มันไม่ได้กล่าวถึง ระเบียบการใช้เงิน เนื่องจากจุดนั้น เป็นส่วนของ ผู้ใช้บัตรเครดิต เป็นคนจัดการในจุดนี้เอง ซึ่งปัญหาจุดนี้เป็นปัญหาส่วนตัว เลยไม่ได้เขียนไว้ในบทความ เอาแต่coreของมันมาเขียน ว่า สิ่งที่มองไม่เห็นคืออะไร เท่านั้น ขอบคุณที่บอกจุดที่คนเขียนไม่ได้ใส่ใจไว้ จากคุณ : Myth&Miracle - [ 8 ต.ค. 48 10:14:50 ] ความคิดเห็นที่ 3 อ้าว.. หลงประเด็นซะแร้วเรา อิอิ จากคุณ : iccue - [ 8 ต.ค. 48 11:09:24 ] ความคิดเห็นที่ 4 ...ปลง จากคุณ : Mr.Vop - [ 8 ต.ค. 48 11:28:55 ] ความคิดเห็นที่ 5 ... ขอบคุณครับ จากคุณ : GABLIEL - [ 8 ต.ค. 48 11:59:25 ] ความคิดเห็นที่ 6 ประโยชน์ก็มีนะคะ เช่นเราไม่ต้องพกเงินสดเวลาไปไหนมาไหน หรือเวลาไปต่าง ๆ ประเทศ แต่เราก็ต้องมีวินัยในการใช้ให้มาก ๆ คือเราใช้ให้เป็นเหมือนเงินสด เช่น เรารูดบัตรใช้ ไป 1000 บาท ณ . วันนี้ เราก็ต้อง เอาเงินสด 1000 ที่เราใช้มาใส่ซองเอาไว้วันต่อมา เพื่อเตรียมจ่ายสำหรับที่ใช้รูดบัตรไปแล้ว..... ที่สำคัญถ้าเรารู้ว่าเราไม่มีวินัยในการใช้เงิน ก็ไม่แนะนำให้ทำบัตรเครดิต จากคุณ : Sranya - [ 8 ต.ค. 48 12:10:38 ] ความคิดเห็นที่ 7 วิธีคิดละเอียดดีครับ และจริง แต่ในแต่ละความจริง มันหนักเบาไม่เท่ากัน เหมือน ซื้อบ้านแถมกระติกน้ำ อยากได้กระติกน้ำ เลยซื้อบ้านทั้งหลังนี่นะ ลองอัตราเงินเฟ้อ สูงๆทุกเดือน แล้วหันกลับมาดูเงินเดือนคุณสิ เก๊กซิม หรือกำไรครับ จากคุณ : Blue Planet Earth - [ 8 ต.ค. 48 12:52:45 ] ความคิดเห็นที่ 8 มีประโยชน์ในเรื่องความปลอดภัยด้วยครับ เมื่อเราไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมากเวลาซื้อสินค้า แต่ถ้าใช้บัตรเครดิตไปรูดซื้อทองคำ คือเปลี่ยนจากหนี้มาเป็นสินทรัพย์ แบบนี้ไม่น่าปลอดภัย บางคนใช้บัตรเครดิตรูดเป็นทองคำ แล้วเอาไปขายต่อ ได้กลับมาเป็นเงินสดอีก ยอมเสียค่ากำเหน็ด เพื่อหมุนเงินสดไปใช้ ทั้งเงินสดและทองคำต่างล่อหูล่อตาพวกมิจฉาชีพ มีหลายคนที่เสนอให้มีการชำระมูลค่าหุ้นด้วยบัตรเครดิต ถ้าโบรคเกอร์บ้าจี้ตามลูกค้าไปด้วย ไม่รู้ ธปท.จะว่ายังไง แต่ก็คงเหมือนเล่นมาร์จิ้นแบบกลายพันธุ์ แทนที่จะต้องชำระเงินภายใน T3 แต่ก็สามารถยืดเวลาจ่ายออกไปได้อีกยาวเป็นเดือนๆ แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 48 13:52:57 จากคุณ : roadtrip - [ 8 ต.ค. 48 13:45:21 ] ความคิดเห็นที่ 9 แหะแหะ ผมก็ใช้แบบที่พี่ roadtripว่าแหละครับ พอดีได้โปรโมชั่นดอก 0% เกือบปีแน่ะ คิดค่าธรรมเนียม แต่ตอนนี้เสียค่ายกครูให้หุ้นยังติดอยู่อีกสามพันกว่า เฮ้อ ต้องใช้คืนอีกเดือน ยังคิดอยู่ว่าจะโอนอีกสองบัตรมาบัตรนี้ แล้วรอโปรรอบใหม่ ยี่ห้อนี้มีให้บ่อยๆ จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 8 ต.ค. 48 14:02:25 ] ความคิดเห็นที่ 10 ค่าธรรมเนียม เจ็ดสิบเหรียญ กู้ฟรีดอกเบี้ย เงินล้านนึง ปีนึง หาที่ไหนได้ครับ จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 8 ต.ค. 48 14:03:22 ] ความคิดเห็นที่ 11 ... สงวนลิขสิทธิ์ในการคัดลอก หุๆ หุๆ //www.consumerthai.org/compliant_board1/index.php จากคุณ : ZORO_007 - [ 8 ต.ค. 48 15:37:30 ] ความคิดเห็นที่ 12 การใช้เงินผ่านบัตร คงลองนึกดูว่าประชาชนทั่วไปนั้น เมื่อมันมีสิ่งที่กระตุ้นว่า เมื่อใช้แล้วมีการสะสมแต้มเพื่อนำไปแลกสิ่งอื่นต่อได้อีก มันหมายความว่า สิ่งนั้นต้องมีค่าใกล้คือกับเงินที่เราใช้ มันเป็นขอผูกพันระหว่างตัวบริษัทกับเราแล้วว่า เมื่อเรามีแต้มถึงจำนวนที่แลกของได้ บริษัทก็ตัดแต้มของเราเป็นของไป และยิ่งถ้าช่วงไหน มีการคูณสองเท่าล่ะก็ ใช่กันมากผิดปกติเลยอ่ะ เพื่อแต้มที่จะได้รับ ประเด็นของ Blue Planet Earth นั้นมันเป็นของใหญ่ คือบ้าน ซึ่งตอนนี้มีโปรโมชั่นซื้อแล้วแถมชุดเครื่องครับ ชุดรับแขก โฮมเทียเตอร์ พวกนี้อ่ะถึงจะสมน้ำสมเนื้อ ส่วนประเด็นของพี่Roadtrip มันมีบริษัทจัดการกองทุนรวม บริษัทหนึ่ง(เราก็เป็นลูกค้าบริษัทนี้เหมือนกัน) บ่จี้ออกมาแล้วว่า ใช้บัตรเครดิตซื้อหน่วยลงทุนได้ อันนี้ต้องไปธนาคารแห่งประเทศไทยว่า ทำได้ไง ถ้าทำแล้ว แล้วบริษัทโปกเกอร์คิดจะทำบ้าง ทำได้ไหมอ่ะ ทำได้ถ้าธนาคารแห่งประเทศไทยไฟเขียว เอากันมันซิ จากคุณ : Myth&Miracle - [ 8 ต.ค. 48 20:19:48 ] ความคิดเห็นที่ 13 พอดี AJF & BAY อยู่ในเครือเดียวกัน ถ้าลงลึกในรายละเอียด กองทุนที่ใช้บัตรเครดิตได้ ก็ไม่ใช่กองทุนหุ้นเก็งกำไร แต่เป็นกองทุนที่เน้นการลงทุนระยะยาว ต้องแยกประเด็นกันด้วย คงไม่มีโบรกเกอร์ไหนอยากเพิ่ม NPL ตัวเองด้วยการให้ใช้บัตรเครดิตเพื่อการเก็งกำไร ล่ะมั๊ง ได้ไม่คุ้มเสีย จากคุณ : ส้มจุก (sujipuri) - [ 9 ต.ค. 48 21:01:02 ] ความคิดเห็นที่ 14 เราก็เป็นลูกค้าเขาอยู่เหมือนกัน ทั้งสองเจ้าเลยอ่ะที่พี่ส้มจุกบอกอ่ะ แต่ที่เห็นว่ามันควรเพราะว่า มันอาจจะเกิดNPLก็ได้ กองทุนที่ซื้อได้นั้น ทุกกองทุนไม่ใช่หรือ รายละเอียด https://www.ajffunds.com/th/AJFUpdateDetail.asp?id=822 มายันกันด้วยข้อมูลกันดีกว่าเรื่องนี้ เพราะมันกล่าวถึงบุคคลที่สาม ซึ่งเขาไม่สามารถมาโต้เถียงกันได้ในเวทีนี้ อาจจะทำให้คนอื่นได้ข้อมูลคาดเคลื่อนไปแล้ว มันจะเสียหายอ่ะ จากคุณ : Myth&Miracle - [ 9 ต.ค. 48 21:30:14 ] ความคิดเห็นที่ 15 มันดี เพราะผมบินฟรีหลายเที่ยวแล้วครับ :) ลองใช้ของ AMEX ดูจิ ถ้าใช้กลางๆ ปีนึงอย่างน้อยๆ ไปยุโรปได้เลย จากคุณ : -tai- - [ 10 ต.ค. 48 23:30:30 ]   โดย: Myth&Miracle 11 ตุลาคม 2548 22:05:40 น.

ถุยเอ่ย   โดย: ถุยเอง IP: 124.121.92.50 5 กรกฎาคม 2550 1:35:57 น.