เฝ้าบ้าน+อ่านหนังสือ

วันอาทิตย์ มาถึงอีกแล้วหรือเนี่ย
คนอื่นเขาหยุดพักผ่อน หางานอดิเรกทำกัน
แต่เราไม่ใช่อย่างนั้น ตั้งแต่อายุ 12-13 ปี ก็ต้องนั่งเฝ้าบ้านขายของ เนื่องจากอยู่ในคลองถมนิ วันเสาร์กับวันอาทิตย์เป็นวันหาเงินเข้ามาใช้จ่ายในบ้าน เราเลยไม่ได้พักผ่อนไปด้วย
มันก็ดีไปอย่างฝึกเราให้มีสมาธิในการทำอะไรให้แข็งแกร่ง แต่ตอนนี้ไม่ค่อนจะไว้แล้ว
แต่คุณแม่ก็ยังเฝ้าอยู่ เพราะว่าเราต้องทำงานวันจันทร์ถึงศุกร์ งานก็หนัก แต่ไม่หนักเท่ากับรบกับคน เบื่อตรงนี้ล่ะ
แต่ไม่เป็นไร จบงานเดินออกจากที่ทำงาน ก็อยากไปคิดถึงมันล่ะกัน

วันอาทิตย์นั้นเป็นวันที่เราได้อ่านหนังสือได้เต็มที่ จะโดนกวนนิดหน่อยเพราะมีคนมาซื้อของเราก็ขาย พอว่างเราก็นั่งอ่าน วันนี้จัดการอ่านจบไปสองเล่ม คือ กรรมกรข่าวของคุณสรยุทธ กับ พุทธประวัติฉบับเยาวชน

เล่มแรกนั้น ไม่มีตังค์จะซื้อ เพราะว่า เห็นเล่มมันเล็กแล้วอ่านครั้งเดียวก็ไม่ได้อ่านอีกแล้ว เลยไม่ซื้อดีกว่า ไปหาที่ยืมเอามาอ่านดีกว่า พอดีเมื่อวานนี้ไปคืนหนังสือที่ห้องสมุดมารวย เลยยืมกับมา (ในใจคิดว่า ได้อ่านกับเขาซักที ไม่ตกข่าวกับเขาล่ะกัน) เล่มนี้แสดงถึงตัวตนของคนหนึ่งคน ที่ประชาชนทั่วประเทศชอบ กลายเป็นบุคคลสาธารณะ ทุกเช้าทุกค่ำ คนทั่วไปก็ฟังว่าวันนี้ นายคนนี้จะพูดอะไร แล้วเช้ามาพูดอะไร บ้างเรื่องเป็นtalk of the tower ไปในที่สุด
อ่านแล้วคุ้มค่าที่รอคอยจริงๆๆ

ส่วนอีกเล่มหนึ่ง พุทธประวัติฉบับเยาวชน ที่อ่านเพราะว่า ความอยากจะรู้อยากจะเห็น เพราะว่าเราก็ไม่มีเวลาที่จะนั่งอ่านพุทธประวัติ ที่ยาวมากๆๆ อ่านแค่นี้พอรู้สังเขป ก็พอใจแล้ว ในเล่มเป็นหนังสือสำหรับเยาวชนจริงๆๆ มีเลขกำกับทุกย่อหน้าทำให้เวลาอ่านต่อรู้ว่า เราอ่านถึงย่อหน้าไหนแล้ว สะดวกในการจำว่าอ่านค้างที่ไหนล่ะ

ตอนนี้เลยกลับกลายเป็นหนอนหนังสืออีกครั้งหนึ่ง
แต่หนอนตัวนี้วันธรรมดาเป็นวันที่อ่านได้น้อยกว่าวันเสาร์และวันอาทิตย์ เพราะว่าจิตและสมาธิ หมดไปกับการทำงาน จะหาเวลาอ่านหนังสือก็ล่วงไปถึง 4 ทุ่มแล้ว (เร็วสุดที่ได้อ่านคือ 3 ทุ่ม) ต้องมานั่งดูแลportอีกต่างหาก ดูแนวโน้มตลาดว่าดีหรือไม่ดี ค่อยสังเกตรอบนอกว่าเป็นไงกันบ้าง มีข่าวอะไรกระทบกับตลาดหรือเปล่า อันนี้ทำให้เวลาอ่านหนังสือน้อยลงไปอีก และที่สำคัญตอนเช้าก็ต้องไปทำงานอีกแล้ว เป็นแบบนี้ล่ะมนุษย์เงินเดือน

สุดท้ายคือ ตอนนี้มีปัญหาเรื่องการอ่านหนังสือแปลของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เรื่อง เหนือกว่าวอลสตรีท (one up on wallsteet) อ่านไป 5 บาทแล้ว ยังไม่เข้าใจว่ามันจะบอกอะไร จะสื่ออะไร เพราะว่า ยิ่งอ่านยิ่งงงในจุดยืนของคนเขียนหนังสือเล่มนี้ มันจะบอกอะไรหรือ แล้วมันบอกแบบไหน ตอนแรกเรากะจะไม่ซื้อมาอ่าน เพราะว่า หนังสือที่เราซื้อมานั้น เอาพิจารณาอยู่อ่านเดียวคือ เล่มนั้นคำนำต้องเขียนให้ดี อ่านแล้วรู้ว่าผู้เขียนจะสื่ออะไรกับผู้อ่าน อันนี้เราให้ความสำคัญมากๆๆ แต่เล่มนี้อ่านไปอ่านไป เหมือนกับไม่ได้อะไรเลย ต้องรบกวนผู้ที่อ่านไปแล้วช่วยมาบอกหน่อยล่ะกัน หรือเป็นเพราะว่าเรายังไม่เข้าใจการลงทุนแบบนี้

ราตรีสวัสดิ์

Create Date : 14 สิงหาคม 2548		0 comments
Last Update : 14 สิงหาคม 2548 18:31:25 น.
Counter : 448 Pageviews.
Share Tweet