BlogGang.com : : MysteriousSlave : วิถีผู้กล้า ตอน "มหากาพย์การพิชิตดอยสุเทพ 3"

วิถีผู้กล้า ตอน "มหากาพย์การพิชิตดอยสุเทพ 3"

สวัสดีครับ ผมรุตไรเดอร์ ฉายานี้ ผมไม่อยากให้เป็นการตั้งไว้เท่อย่างเดียว แต่ต้องให้มันสมชื่อด้วย โดยเฉพาะในภาษาอังกฤษ RouteRaideR หมายถึงผู้พิชิตทุกเส้นทาง และพาหนะของผมคือจักรยานล้อเดียว ผมจะต้องสามารถนำจักรยานล้อเดียวไปขี่ในทุกสภาพเส้นทาง เท่าที่ศักยภาพของจักรยานล้อเดียวจะทำได้

จึงเป็นที่มาของปฏิบัติการขึ้นดอยสุเทพในครั้งนี้ จากการประเมิน และวางแผนมาจากที่บ้าน ผมคาดว่ามันจะขึ้นได้ แต่ผลก็เป็นอย่างที่เห็นในตอนก่อนหน้า ถ้ากลับไปดูภาพดีๆ จะเห็นว่าผมหน้าซีดแล้วนะครับ โอกาสที่จะนอนรอให้ทีมงานมาเก็บศพอยู่ตรงนั้นมีสูงมาก พลังงานจากสตอเบอรี่ ไอติมต่างๆ ที่กินมา ถูกใช้ไปหมดอย่างรวดเร็ว

แต่ก็เหมือนโชคช่วย เพราะอย่าลืมนะครับว่า ยิ่งขึ้นดอยสูง อากาศก็จะยิ่งเย็นลง ช่วยให้หายเหนื่อยได้เร็ว บวกกับได้นอนพัก ผมก็เลยมีแรงลุกขึ้นมาใหม่ ประหนึ่งว่าร่างกายมีพลังงานก๊อกสองซ่อนไว้ ผมจึงตัดสินใจออกเดินทางต่อครับ

สถานีต่อมา คือวัดผาลาด มาถึงตรงนี้ผมเหมือนไม่ค่อยเหนื่อยมาก ก็เพียงแต่ยืนพักถ่ายภาพ

วัดกำลังสร้าง ถ้ากลับมาคราวหน้าก็คงจะเสร็จ

ที่วัดผาลาดนี้ วัดความสูงได้ 610 เมตร เวลา 17.19 น
เท่ากับว่าผมไต่ระดับความสูงมาแล้ว 265 เมตร และใช้เวลาไป 57 นาที เดินทางจากหน้าสวนสัตว์

เดินทางต่อเลยครับ อย่างที่เห็นในภาพ เส้นทางหลายช่วงเป็นทางชันต่อเนื่องยาว ไม่มีที่ให้หยุดพักเลย ถ้าหมดแรงขึ้นมาจริงๆ ก็ต้องลงเดินช่วยด้วย แล้วค่อยขี่ไปใหม่ เพราะอย่าลืมว่าเวลาก็เป็นตัวบีบผมเช่นกัน ถ้าผมมัวแต่ช้า มืดเสียก่อนก็แย่เลย มองทางก็ไม่เห็น อันตรายด้วย รถขึ้นเขาลงเขาไม่รู้จะเห็นเราหรือเปล่า

ดีใจจริงๆ เจอป้ายอีกแล้ว รีบคว้ากล้องมาถ่ายไว้เลยครับ อีก 7 กม. ถึงที่หมาย ก็แค่ดีใจที่เจอป้าย เรื่องระยะทางที่เหลือนั่นก็คนละเรื่องกันครับ

ไกลๆ ในภาพจะเห็นคนปั่นจักรยานแซงผมไป ที่ดอยสุเทพนี้มีคนมาปั่นเสือภูเขา เสือหมอบเยอะมากครับ แต่ก็แซงผมไปหมด บางคันก็ทักทายผมบ้าง เรื่องขึ้นเขา ถ้าจะเอาจักรยานล้อเดียวไปเปรียบเทียบกับเสือหมอบ หรือเสียภูเขา คงสู้ไม่ได้ เพราะพวกเสือเขามีเกียร์ สามารถเลือกอัตราทดได้ง่าย และตอบสนองต่อสภาพเส้นทางได้ดีกว่า

แต่การที่ผมจะเอาเสือภูเขา ใส่รถทัวร์ หรือใส่รถเก๋งแล้วมาปั่นที่นี่ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน ฉนั้นจักรยานล้อเดียวจึงสะดวกกว่าในเรื่องการพกพา

ดูๆ ไปแล้ว ผมอิจฉาคนเชียงใหม่มาก เพราะไม่ไกลจากตัวเมือง ก็สามารถที่จะสัมผัสกับป่าเขา น้ำตก อากาศเย็นสบาย สามารถแวะมาปั่นเที่ยวเมื่อไหร่ก็ได้ อิจฉาจริงๆ ครับ

ถึงจุดพักสักที เป็นสถานีควบคุมไฟป่า

ตรงจุดนี้วัดความสูงได้ 670 เมตร เท่ากับว่าผมไต่ระดับความสูงมาแล้ว 325 เมตร

ส่วนอุณหภูมิวัดได้ 24.3 องศา เท่ากับว่าจากหน้าสวนสัตว์ที่วัดได้ 33.3 องศา เท่ากับว่าอุณหภูมิลดลงไปแล้ว 9 องศา

อุณหภูมิที่ลดลงอย่างมาก ช่วยผมได้มากเช่นกัน เหงื่อผมออกน้อยลงมาก กินน้ำเพียงแต่จิบๆ เอาก็พอ ความเหนื่อยก็ลดลง แต่ความเมื่อยล้าสะสมนั้นก็ยังคงมีอยู่ครับ

ดีใจสุดๆ เลยครับ มาถึงแล้วครับ จุดชมวิว ตรงจุดนี้สามารถมองเห็นวิวตัวเมืองเชียงใหม่ได้อย่างชัดเจน แบบพาโนราม่าเลยทีเดียว คนเยอะเหมือนกัน แต่ด้วยความดีใจก็ขอไปเก็บภาพประทับใจไว้ด้วย เพราะเดินทางมาถึงตรงนี้ ก็น่าจะได้ประมาณครึ่งทางแล้วครับ

ขอสักภาพ

ที่จุดชมวิวนี้ จะมีแก้งสองล้อจอดพักน่องกันอยู่เยอะมากครับ ก็มีแวะมาทักทายผม ด้วยความเหลือเชื่อว่ามาได้ยังไง บางคนก็กล่าวว่าผมเป็นคนแรกที่ทำเรื่องแบบนี้ คือการเอาจักรยานล้อเดียวปั่นขึ้นดอย ผมก็หวังให้เป็นอย่างนั้น เผื่อจะได้อยู่ใน hall of fame กับเขาบ้าง

ผมก็คุยไปกลางๆ ว่าฝึกซ้อมมาพอสมควร แล้วก็เตรียม crank arm ที่สามารถปรับระดับความยาวได้มาด้วย จะได้ช่วยให้ปีนเขาขึ้นมาได้ (เรื่องหมดสภาพแถวๆ น้ำตกมณฑาธารนั้น เก็บไว้เป็นความลับเลยครับ)

แล้วผมก็ชวนแก้งสองล้อ ให้มาลองล้อเดียวดู บางคนก็บอกว่าไม่ไหวแน่ ถ้าจะยาก ขอปั่นสองล้อดีกว่า แต่บางคนก็บอกอยากลอง ผมก็แนะนำให้ฝึกจากคันเล็กๆ ก่อน เดี๋ยวก็คล่องเอง

จึงได้ขอให้แก้งสองล้อถือจักรยานของผม เพื่อผมจะได้ถ่ายไว้เป็นที่ระรึก และจะได้เห็นขนาดล้อด้วยว่าจักรยานของผมเป็นขนาดล้อเดียวกับเสือภูเขาคันทางซ้ายของภาพ คือ 26 นิ้ว แต่จะเล็กกว่าคันทางขวาของภาพที่เป็นเสือหมอบ (28 นิ้ว ขอบล้อของเสียหมอบ เห็นเขาเรียกกันว่า 700c ถ้าใส่ยางเล็กๆ แบบเสือหมอบ พอวัดเส้นผ่านศูนย์กลางทั้งหมด จะได้ 28 นิ้ว แต่ถ้าเราใส่ยางใหญ่ๆ แบบเสือภูเขา เส้นผ่านศูนย์กลางก็จะเพิ่มเป็น 29 นิ้่วครับ)

ภาพนี้เป็นชื่อทีมของสองล้อแก้งนี้ครับ

ล้อเดียวก็อยากมีแก้งเหมือนกันนะ ไม่รู้ทำไงดี

key words: RouteRaideR, 26" unicycle, Uphill unicycling, Chiang Mai, Doi Sutheb

Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2554

Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2554 12:30:50 น.

0 comments

Counter : 1312 Pageviews.