เรื่องราวรอบๆตัว
|
||||
"นมแม่" ยังไงก็พอแน่ ถ้าเข้าใจ วันนี้อยากเขียนเรื่อง "นมแม่" (น้องพลอย-คนโต ทานนมแม่ล้วน จนอายุได้ 11 เดือน เหตุที่ต้องหยุดนมแม่ เพราะว่าโบว์ท้องน้องพลับต่อ น้องพลับ-คนกลาง ทานนมแม่ล้วน จนอายุได้ 10 เดือนครึ่ง เหตุที่ต้องหยุดนมแม่ เพราะว่าโบว์ท้องน้องเพลินต่อ น้องเพลิน-คนสุดท้อง ตอนนี้อายุได้ 10 วัน เป็นหนูน้อยนมแม่แล้วจ้า) นี่คือลูกๆทั้งสามของโบว์ตอนแรกเกิดค่ะ ช่วงอาทิตย์ (หรืออาจจะเลยไปถึงเดือน) แรก ของการเป็นคุณแม่นั้น โดยเฉพาะถ้าเป็นคุณแม่ป้ายแดง โบว์ว่าน่าจะมีความเครียดสูง ไหนจะอ่อนเพลียจากการคลอด (ไม่ว่าจะเป็นคลอดเองหรือผ่าคลอด) ไหนจะเจ็บแผล แล้วยังจะมีอาการ Baby blue เข้ามาอีก (อาการซึมเศร้าหลังคลอด สาเหตุน่าจะมาจากระดับฮอร์โมนในตัวมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก) นี่เฉพาะกับร่างกายคุณแม่นะ ยังมีเรื่องการให้นมอีก นมแม่จะมีรึเปล่านะ แล้วมันมีพอให้ลูกอิ่มรึเปล่า ลูกดูดเข้าไปแค่ไหน (ใครจะไปรู้) อิ่มมั้ย (ทำไมยังร้องอยู่อีกล่ะ) ปัจจัยแวดล้อม ซึ่งโบว์คิดว่าทุกคนต้องหวังดีกับคุณแม่และลูกน้อยทั้งนั้น แต่บางทีทั้งคำพูดและมือ (ที่มองเห็น) ที่ยื่นเข้ามาให้ความช่วงเหลือ มันช่างบั่นทอนกำลังใจของการให้ นมแม่จริงๆ ไม่ว่าจะเป็น "ลูกร้องเพราะหิวน่ะซิ นมแม่มันไม่มี ต้องให้นมผง" (ว่าแล้วก็ชงนมใส่ขวด เอาลูกเราไปป้อนนมอย่างชำนาญ) หรือ"กินนมแม่ มันไม่อยู่ท้อง ลูกมันถึงร้องกวนอย่างนี้" หรือบางที "นมแม่มันไม่ดี ไม่เห็นมีสารอาหารต่างๆ เท่าที่มีในนมผงเลย" หรือบางครั้ง "ชั้นก็เลี้ยงลูก (เลี้ยงเธอ) มาอย่างนี้แหล่ะ ก็ใช้นมผงเลี้ยง ก็เห็นเธอก็โต"ขึ้นมาได้ดีนี่" ซึ่งคำพูดเหล่านี้ บางทีก็ทำให้กำลังใจของคุณแม่นมแม่ทั้งหลายแห้งเหือดไปในบัดดล จนบางทีก็นึกท้อเลยนะคะ ดังนั้นโบว์จึงคิดว่า การที่จะให้นมแม่นั้น น่าจะเริ่มจากความเข้าใจเรื่องนมแม่อย่างถูกต้องก่อน ต้องเข้าใจทั้งตัวคุณแม่เอง และคนรอบข้าง จะได้จัดการกับปัญหาต่างๆที่เข้ามาได้อย่างถูกวิธี นมแม่นั้น ดี และมีประโยชน์ต่อลูกน้อย มากกว่านมชง หรือนมผสมเป็นไหนๆ ไม่ว่าจะเป็นย่อนง่าย เหมาะกับระบบการย่อยอาหารของทารกที่ยังไม่เจริญเต็มที่ นอกจากนั้นยังอุดมไปด้วยสารอาหารและภูมิคุ้มกันต่างๆ ที่แม่จะส่งผ่านไปยังลูกน้อย (ดังนั้น ถ้าอยากให้น้ำนมแม่ดี มีคุณภาพ ต้องบำรุงคุณแม่ค่ะ โดยเฉพาะธาตุเหล็กที่มันจะมีน้อยในนมแม่) นมกระป๋องเค้าถึงต้องโฆษณา ว่าเติมสารต่างๆ เพื่อให้ใกล้เคียงกับนมแม่มากที่สุด และนอกจากนี้ คุณสมบัติของนมแม่จะเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมตามวัยของทารกตลอดเวลา ที่สำคัญประหยัดด้วยค่ะ (ไม่ต้องเสียเงินซื้อ เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว) ข้อดีของนมแม่ ก็มีมากมายแล้วนั้น เมื่อตัดสินใจให้นมแม่ ต้องรู้อะไรอีก (ขอเขียนเท่าที่รู้นะคะ) นมแม่มาเมื่อไหร่ ของโบว์ ท้องแรก กว่านมแม่จะมาแบบเต็มๆนี่ใช้เวลาถึง สองอาทิตย์แน่ะค่ะ ขณะที่ท้องสองและท้องสาม ยังไม่ครบ 7 วันดี ก็มาแล้วอย่างเต็มที่ ดังนั้นโบว์เลยคิดว่า นมแม่แต่ละคนจะมาไม่พร้อมกัน แต่ปัจจัยหลักๆน่าจะเป็นที่ตัวแม่มากกว่า ถ้ากินดี บำรุงดี ไม่เครียด นมแม่น่าจะมาได้เร็ว ทำอย่างไรให้นมแม่มา พยาบาลนมแม่ทุกคนน่าจะบอกคำนี้นะคะ คือ "ดูดเร็ว ดูดบ่อย ดูดถูกวิธี" ดูดเร็ว คือพยายามให้ลูกได้มาดูดกระตุ้นให้เร็วที่สุด (ที่ดีที่สุดคือภายในสองชั่วโมง หลังคลอด) หลังจากคลอด แต่ขอบอกว่า ข้อนี้โบว์ทำไใได้เลย เพราะว่าผ่าคลอดหมดทั้งสามท้อง กว่าจะได้มาดูดนม ก็ปาเข้าไป 5-6 ชม แล้วนั้นแหล่ะค่ะ ดูดบ่อย คือให้ลูกดูดกระตุ้นบ่อยๆ ทุกๆ 2 ชม. ดูดถูกวิธี โบว์ว่าข้อนี้สำคัญสุดนะคะ เพราะการดูดถูกวิธีจะทำให้นมแม่ได้รับการกรตุ้นอย่างเต็มที่ทำให้น้ำนมมาเร็ว ลูกได้ปริมาณน้ำนมไปเต็มที่ ก็จะอิ่มท้อง ไม่ร้องกวนให้คุณแม่ เครียด และที่สำคัญ ถ้าลูกดูดได้ถูกวิธี คุณแม่จะไม่เจ็บเวลาลูกดูด หัวนมไม่แตกด้วยค่ะ ทีนี้ดูดถูกวิธีคือทำอย่างไร วิธีสังเกตุดูว่าลูกดูดได้ถูกต้องรึเปล่า คือ ดูริมผีปากลูกทั้งบนและล่างจะต้องบานเป็นปากแตร (ห้ามหุบหายเข้าไป) เหงือกลูกจะต้องกดอยู่ที่ลานนม (คือส่วนของหัวนมที่เป็นสีเข้มๆทั้งหมด) ไม่ใช่ดูดอยู่ที่ปลายหัวนมเท่านั้น (ถ้าดูดที่ปลายหัวนม นอกจากลูกจะได้น้ำนมน้อยแล้ว ยังจะทำแม่เจ็บ และหัวนมแตกในเวลาต่อมาด้วยค่ะ) และอย่างสุดท้าย สังเกตุจังหวะการดูดของลูก ถ้าดูดได้ดี มีน้ำนม ลูกจะดูด แล้วมีจังหวะหยุดดูด เพื่อกลืนน้ำนมลงไปค่ะ (คือดูดประะมาณ 3-4 ครั้ง แล้วก็จะนิ่งไปซักแป๊บนึง แล้วดูดใหม่) ระหว่างที่ลูกดูด อาจจะใช้มือช่วยบีบเต้านมช่วยกระตุ้นไปด้วยก็ได้นะคะ นอกจากนี้ ยังมีท่า Foot ball hold ท่านอนให้นมอีก (ท่านอนนี้แม่สบาย โบว์ใช้บ่อยเลย แต่ต้องระวัง อย่าหลับไปด้วย) โบว์ว่าถ้าทำได้อย่างนี้นะคะ ซักพัก ไม่นานเกินรอ นมแม่จะมากระฉูดแน่นอน ทีนี้ขอเขียนความรู้เกี่ยวกับนมแม่ เพิ่มเติม เวลาให้ลูกดูดนม ควรจะให้ดูดข้างละ 15-20 นาที ดูดไปทีละข้าง ไม่สลับไปมา ทำไมล่ะ ? เพราะว่านมแม่จะมีคุณสมบัติไม่เหมือนกันตอลดเวลาที่หลั่งออกมาค่ะ ช่วงแรกที่ลูกเริ่มดูด เราจะเรียกว่า"นมแม่ส่วนหน้า" หรือที่เรียกว่า "Fore milk" ส่วนนี้จะค่อนข้างใส ร่างกายจะรีบผลิตออกมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูก และพอลูกดูดไปซักพัก "นมแม่ส่วนหลัง" หรือที่เรียกว่า "Hind milk" ก็จะหลั่งออกมา ซึ่งส่วนนี้ก็จะประกอบด้วยไขมัน โปรตีน และแคลลอรี่สูง เพื่อช่วยให้ลูกอิ่มท้องค่ะ Let down คืออะไร มันคือช่วงเวลาที่เต้านมแม่ถูกดูดกระตุุ้น แต่น้ำนมจะยังไม่หลั่ง (ช่วงนี้ลูกจะดูดรัว เร็วเลยค่ะ) จากนั้นซักพัก นมแม่ถึงจะหลั่งออกมาค่ะ เมื่อนมแม่เริ่มหลั่งแล้วลูกก็จะเริ่มดูดเป็นจังหวะที่ช้าลง (เครื่องปั๊มนมบางรุ่น สามาารถปรับจังหวะการดูดให้กระตุ้นถี่ๆในช่วง let down เลยด้วยค่ะ) แต่ละคนก็มีระยะเวลาในการ let down ไม่เท่ากันค่ะ รู้จักเต้านมกันหน่อย ส่วนของเต้านม ส่วนที่เป็นสีเนื้อเหมือนสีผิวหนังก็จะทำการสร้างน้ำนมค่ะ แล้วมาเก็บไว้ที่กระเปาะน้ำนมซึ่งอยู่ตรงลานนม (เป็นเหตุผลว่าทำไมเวลาให้ลูกดูดนม ต้องพยายามให้ลูดเอาเหงือกมากดให้มิดลานนม) จากนั้นน้ำนมก็จะหลั่งมาทางท่อน้ำนมซึ่งอยู่บริเวณหัวนม (มี 16-20 ท่อ)
ที่โบว์รู้ทั้งหมดก็มีแค่นี้แหล่ะค่ะ ซึ่งเท่านั้นก็ทำให้โบว์สามารถให้นมแม่ได้กับลูกทั้งสาม อย่างมั่นใจว่า นมแม่ ถ้าเข้าใจ ยังไงก็พอค่ะ อันนี้ web ของสมาคมนมแม่แห่งประเทศไทยค่ะ //www.thaibreastfeeding.org/ อ่านแล้วมีประโยชน์มากเลยอะคะ
น้องอาเดียวก็เป็นเด็กนมแม่นะคะ แต่เป็นได้สี่เดือนเพราะฟันมาเร็วพอนมไม่ได้ดั่งใจก็ใช้เหงือกกัดซะ ลูกยิ่งดูดนมยิ่งหายไม่รู้ทำไง แต่ก็ยังดีทีไ่ด้นมแม่มั่ง 555 รู้สึกว่าน้องเพลินจะโอเค หน้าไม่แดง ตัวไม่แดง555 ว่าง ๆ ขะแวะเช้ามาอีกนะคะ โดย: ปันฝัน วันที่: 23 มิถุนายน 2554 เวลา:13:56:32 น.
โบว์เขียนได้ดีมากๆเลยจ้า ^.^ เข้าใจง่ายๆ ไม่วิชาการเกินไป เอาไว้หาเรื่องอื่นๆมาเขียนอีกเน๊าะ
^.^ ต่าย มามี๊หนูเจย์ญ่า โดย: ีusagimom มี๊น้องเจย์ญ่า IP: 124.120.205.37 วันที่: 23 มิถุนายน 2554 เวลา:14:46:43 น.
สาระเพียบ เหมาะกับคุณแม่มือใหม่มาก ๆ เลยค่ะ ของเราตอนนั้นก็ได้ยินมาแบบเดียวกับคุณโบว์เลยค่ะเรื่องนมแม่ เพราะลูกร้องไห้เยอะมาก และไม่ยอมนอนนาน ๆ เลย กว่านมจะมาเต็มที่ก็วันที่ 5 หลังคลอดน่ะค่ะ ตอนนั้นสาหัสเลย แต่ก็กัดฟัน ไม่ให้นมผงค่ะ และลูกก็ร้องโคลิคด้วย แม่ก็ร้องตาม แหะๆ
จนตอนนี้น้องอายุ 5 เดือนแล้ว ทานแต่นมแม่ล้วน ๆ เลยค่ะ กะจะให้ไปจนครบขวบเลยค่ะ ปล. น้องทั้งสามคนตอนแรกเกิด หน้าคล้ายกันมากเลยค่ะ โดย: ANGEL_CS วันที่: 23 มิถุนายน 2554 เวลา:18:32:16 น.
ขอบคุณทุก comment นะคะ
@น้ำชา แวะไปเยียมบล๊อกมาแล้วนะคะ อ่านแล้วอยากไปบ้างจัง (แต่คงอีกนาน) @ปันฝัน 4 เดือนก็ไม่น้อยแล้วนะคะ น้องงฟันขึ้นเร็วเนอะ ของโบว์ พลอย กับพลับกว่าฟันจะขึ้นก็ขวบนึงแน่ะ เลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องกัด @ต่าย ขอบคุณมากจ้ะ @ANGLE_CS ใช่ค่ะ ตอนคนแรก ที่น้ำนมไม่มา โบว์ก็เครียดมาก โดย: nongbow วันที่: 24 มิถุนายน 2554 เวลา:9:47:30 น.
โอ้โห คุณแม่ลูกสาม..ลูก ๆ น่ารักทุกคนเลย
น้องเพลินเพิ่งจะคลอดไปเมื่อเร็ว ๆ นี้เองเนอะ โตเร็ว ๆ นะจ๊ะสาวน้อย เห็นด้วยจ๊ะ นมแ่ม่แน่กว่านมใคร..จุ๊แล้วลูกแข็งแรงจริง ๆ โดย: ริวคิ-mawin-maji-minic วันที่: 24 มิถุนายน 2554 เวลา:12:53:43 น.
ทักทายสวัสดีครับ
มาชื่นชมกับการให้นมลูกๆ ทั้ง 3 คนด้วยครับ และเป็นข้อมูลที่ดีมากๆ เลยครับ ไว้เจอคุณแม่มือใหม่ จะได้แนะนำให้มาเยี่ยมชมที่ blog นี้ด้วยครับ โดย: ถปรร วันที่: 24 มิถุนายน 2554 เวลา:15:55:19 น.
สวัสดีคะ
ลูกๆคุณชื่อเพราะมากๆคะ พลอย พลับ เพลิน น่ารักจังเลยคะ โดย: เจ้าช่อมาลี (PP_Skywalker ) วันที่: 25 มิถุนายน 2554 เวลา:12:34:40 น.
เทคนิคดี ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ...ขอบคุณที่มาแบ่งปันกันน่ะค่ะ
เพราะกังวล กลัวน้ำนมไม่มาอยู่เลยค่ะ โดย: Li Shana วันที่: 1 กรกฎาคม 2554 เวลา:13:09:01 น.
|
nongbow
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] เรื่องราวรอบๆตัว มันก็ช่างเปลี่ยนแปลงไปตามตัวเราที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้เป็นแม่ลูกสามแล้ว เรื่องราวต่างๆก็หนีไม่พ้นเรื่องราวของลูก การเลี้ยงดู กิจกรรมต่างๆ เพราะตอนนี้ สิ่งเหล่านี้ก็คือจุดศูนย์กลางของความสนใจ
Group Blog All Blog Friends Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
น้องหนูน่ารักจัง
ไปเยี่ยมบล็อกของน้ำชาได้ค่ะ ThaiLand Travel l สถานที่ท่องเที่ยว