Group Blog All Blog
|
ตะลุยอยุธยา ไหว้พระ 9 วัด ★ 2 ไหว้พระ 9 วัด เสริมสิริมงคลแก่ชีวิต ตอน 2 วัดธรรมิกราช วัดที่สี่ของทริปนี้ เป็นวัดคิดว่าเก่าแก่อีกที่หนึ่งนะ วัดนี้ก็เริ่มจากเดินเข้าไปด้านในวัด ผ่านเจดีย์ และ วิหารเก่าแก่ที่เหลือซากปรักหักพัง และอิฐแดง แต่เค้าโครงก็ยังไม่เปลี่ยนไปมาก ให้ชม ภายในโบสถ์ที่นำดอกไม้ ธุปเทียนไปไหว้นั้น มีพระพุทธหลวงพ่อขาว ให้สักการะกัน พอไหว้เสร็จก็ ออกมาดื่มน้ำ เขามีน้ำฟรีให้กินอ่ะ หุหุ  ได้เดินชมบริเวณวัดทั้งเดินไปในวิหารเก่าแก่ด้วย ในนั้นมีพระพุทธรูปเก่าแก่ 1 องค์ที่พระเศียรถูกตัดไป และ พระพุทธรูปองค์ใหม่อีก 1 องค์ ภายในวิหารนี้ ชวนให้คิดว่า ถ้าในสมัยก่อน คงจะใหญ่ไม่น้อย เพราะแค่เหลือซากให้ดู ยังดุใหญ่ขนาดนี้ เพราะเสาแต่ละต้นนั้นสูงมากเลยละ จากนั้นเดินชมวิหารเสร็จก็ออกเดินไปไหว้ พระพุทธรูปนอน(ปางไสยาสน์ปะ) ถือว่าใหญ่นะ แล้วมิ้นท์ก็ได้ไปรับน้ำมนตร์กับเค้าด้วย เลยได้สายสิญจน์มาอันหนึ่ง ออกมาก็ได้มาจุดธูปบูชา พระราหู เป็นธูปดำ 12 ดอก จากไหว้เสร็จเรียบร้อย ก็ขึ้นรถเตรียมตัวออกเดินทาง สู่วัดที่ 5 คือ วิหารภูเขาทอง อ๊ะๆ ก่อนที่เราจะเข้าสู่ภูเขาทองกันนั้น เราจะผ่าน พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเศวรมหาราช ก่อน อนุสารีย์นี้สร้างขึ้นเพื่อไว้เป็น อนุสรณ์ขององค์ดำอีกที่หนึ่ง บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์นี้ จะเต็มไปด้วยรูปปั้นไก่ชน ซึ่งเป็นสิ่งที่องค์ดำโปรดปราน จึงไม่ต้องต้องแปลกใจว่าทำไปรูปปั้นไก่ชน ทั้งใฆญ่ เล็กจะเต็มไปในบริเวณอนุสารีย์แห่งนี้ พอรถขับผ่านอนุสารีย์เข้าไป ก็จะถึง ภุเขาทอง เป็นวิหารที่สูงมากแห่งหนึ่ง บันไดทั้งหมด 81 ขั้น มิ้นท์ พิชิต 81 ขึ้น ณ วิหารภูเขาทอง ฮาๆๆๆ (ซึ่งแม่ พ่อ ป้ามิ้นท์ไม่ยอมขึ้นไป ท่านบอกไม่ไหว  มิ้นท์ก็เลย อาสาบุกเดี่ยวขึ้นไปคนเดียว โหตอนขึ้นหวิวๆนิดๆ แต่ไม่เป็นไร สู้โว้ย ข้างบนขึ้นไปแล้ว วิวสวยดีอ่ะ ลมเย็น มองไกลไปเห็นอนุสารีย์องค์ดำที่ขับผ่านมาเลยละ ไอ้ตอนลงบันไดนี่สิ มองไปข้างล่าง หวิวโดยแท้ ฮา ไม่กลัวเฟ้ยย แล้วก็ลงมาสำเร็จ อิอิ) ไม่ใช่มีเพียงแค่วิหาร แต่ในวัดนี้ ยังมีพระพุทธรูปให้สักการะ บูชากัยด้วย ซึ่งมิ้นท์ก็ไปกราบมาแล้ว อ่อ ที่สำคัญช่วงที่เราไปภูเขาทองในวันนี้ มีพิธีบวชนาคกันด้วย เป็นบุญตาได้เห็น เพราะไม่เคยเห็นมาก่อนนะของจริง แต่ดูแล้วเป็นชบวนแห่นาคที่สนุกมากเลยอ่ะ แบบมีเต้นกันกระจายทั้งเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ขำดีอ่ะ (กระซิบ : แม่ของมิ้นท์ก็ได้ไปช่วยบริจาคแก่แม่ของผุ้ที่บวชนาคในขบวนด้วย เลยถามแม่ว่าทำไปช่วยเขาละ แม่บอกว่า ก็ไม่มีลูกชายให้บวชจับชายผ้าเหลืองนี่ เลยไปช่วยเขาทำบุญ  )ที่วัดนี้มีเช่าพระองค์เล็กๆด้วยละ 20 บาทเองมั้ง แต่ต้องเลือกดี บางอันก็หล่อมาไม่ดีเท่าไร ในวัดนี้มี บ่อทาน คือโยนเหรีญไปในบาตรที่อยู่กลางบ่อที่ 4 ใบ ซึ่งแต่ละใบก็มีความหมายไม่เหมือนกัน สรุปมิ้นมีอยู่เหรียญเดียวทั้งตัว แถมโยนในบ่อการงาน ก็ไม่เข้าอีก กำจริงๆ - -แล้วก็ถึงเวลาเดินทางต่อไปวัดที่ 6 นั่นคือ วัดตูม วัดนี้ค่อนข้างเงียบๆนะมิ้นท์ว่า ห่างจากวัดที่ 5 มาไม่เท่าไรเลย วัดนี้มิ้นท์ก็ได้เข้าไปสักการะไหว้พระพุทธรูปประจำวัด จากนั้นก็เดินมา ตรงช้อนใหญ่ๆอ่ะ คิดว่าเป็นช้อนเงิน ช้องทางนะ แต่ไม่ได้ทาสีอ่ะ เป้นสีขาวทั้งสองอัน เขามีให้เราผูกผ้า 7 สีอ่ะ แต่แต่หยอดตู้ก่อนนะ พอหยอดไปก็เลยเอาผ้า 7 สีมาผูกไว้ที่ช้อนอันแรก(ไม่รุ้นี่นะ ว่าผูกอันไหนดี เลยผุกอันแรกนี่ละ อิอิ) ลงมาจากโบสถ์ก็เดินไปบริเวณข้างวัด ตรงจุดนั้น ได้มี รุปปั้นช้างเอราวัญมาให้สักการะบูชา ก็ไหว้ไป แล้วก็ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ถึงแม้ว่ารูปปั้นจะไม่ใหญ่มาก แต่ก็สวยงามทีเดียว วัดนี้ไม่มีไรมาก ซื้อของฝากเป็น สร้อยน่ารักมา 4 เส้น (คือมิ้นไม่ได้เอาตังไปเที่ยวเลยอ่ะ ขอแม่มาได้แค่ 40 บาท ฮา เลยได้แค่ 4 เส้น อิอิ แต่ว่าจะซื้อไปให้ใครนั้น ไม่บอก ฮา) เสร็จกิจทั้งหมด ก็เดินทางออกจากวัดตูม และเคลื่อนขบวนไปสู่วันที่ 7 นั่นก็คือ วัดหน้าพระเมรุ วัดแห่งเดียว ที่ไม่โดนพม่าทำลาย จึงเหลือไว้ให้คนรุ่นหลังได้สักการะ สาเหตุที่วัดหน้าพระเมรุไม่โดนทำลาย เนื่องจาก วัดแห่งนี้เป็น สถานที่ของกองทัพพม่าที่มาตั้งค่ายโจมตี กรุมศรีอยุธยา จึงรอดมาอย่างหวุดหวิด (ถ้าไม่รอดมา คงไม่มีวัดเหลือเลยกระมัง  )วัดนี้ก็เลยถือว่า เป็นวัดที่พระพุทธรูปสวยที่สุดเลยก็ว่าได้ และฟังจากคนขับรถเล่ามา พระพุทธรูปของวัดนี้ ทั้งเศียรหรือครึ่งบนทำจากทองแท้ๆๆทั้งหมด ส่วนด้านล่างยังไม่แน่ใจว่าเป็นทองแท้หรือเปล่า ต้องรอให้มีคนมาตรวจหาอีกที กราบไว้เสร็จแล้ว ก็ได้เดินออกมายังบริเวณวัดส่วนอื่น ที่มิ้นท์เดินมา เป็นศาลาใหญ่ที่ มีพระพุทธรูปหลวงพ่อขาว(ถ่ายมาอ่ะ แต่มือไม่นิ่ง ภาพเลยเบลอ ก๊ากก ) เข้าไปกราบไหว้ ส่วนในศาลา ยังมี ยกช้างเสี่ยงทาย ถามเรื่องการงาน ลาภ คู่ครอง มีกติกาว่า ให้นั่งท่าเทพธิดา(สำหรับผู้หญิง) ท่าเทพบุตรสำหรับผู้ชาย เข่าชิด นั่งอยุ่ทางด้านซ้ายของตัวช้าง(ซึ่งเป็นรูปปั้นช้างสีทอง) แล้วตั้งจิตอธิษฐานในใจ สำหรับเรื่องที่อยากขอและบอกว่าถ้าจะสำเร็จขอให้ยกขึ้น แล้วให้เอานิ้วนาง(สำหรับผู้หญิง) นิ้วก้อย(สำหรับผู้ชาย) ยกช้างขึ้น และถ้ายกขึ้นคือทำสำเร็จ ยังไม่เสร็จพิธีนะ ยกครั้งที่สองต่อ ครั้งนี้ทำเหมือนครั้งแรก แล้วอธิษฐานสิ่งที่ขอไปเหมือนครั้งแรก และบอกว่า ถ้าสำเร็จขอให้ยกช้างไม่ขึ้น แล้วถ้าผลออกมาว่ายกช้างขึ้นก็หมายถึง สิ่งที่ขอไว้ไม่สำเร็จ สำหรับมิ้นท์ สิ่งที่ขอไปสำเร็จอ่ะ ยกครั้งที่ 2 ไม่ขึ้นจริงๆ มันเหมือนมีไรฉุดไว้นะ แต่ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลอ่ะ มิ้นท์คิดว่า ไม่ว่าเราจะขออะไร การกระทำของเรา ตัวเราเองเป็นคนกำหนดนะ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และเพิ่มความมั่นใจเท่านั้นเองต่อมาจากศาลานี้ก็ได้ไปกราบไหว้พระพุทธรูป หลวงพ่อเชียงแสน แล้วก็ได้รับน้ำมนตร์ไป เสร็จจากวัดนี้ เราก็ออกเดินทางสู่วัดที่ 8 ต่อกันเลย นั่นคือ วิหารมงคลบพิตร ที่วัดนี้ ก็เหมือนจุดแวะซื้อของฝากแห่งใหญ่เลย เพราะว่ามันมีทั้งสินค้าแฮนด์เมด ตกแต่งงบ้าน เสื้อผ้า และที่ขาดไม่ได้ ของกินเพียบบบบบบ ทั้งโรตี สายไหม(ของขึ้นชื่อจ.อยุธยา)ข้าวเหนียว หมู เนื้อแดดเดียว น้ำพริกต่างๆ กระจับ เยอะแยะมากมาย เห็นแล้วน้ำลายสอ  แต่เดินผ่านร้านมายังไม่ได้ซื้อหรอกนะ เพราะเดินเข้าไปไหว้พระมงคบิพิตรก่อนนะ องใหญ่มากๆๆเลยละ สวย สง่ามากเลย ไหว้เสร็จ นั่นละ ถึงภารกิจพิชิตขนม ซื้อไปพอสมควร แต่แบบอากาศร้อนมากอ่ะ หมดน้ำไปเป็นขวดๆๆเลย เหงื่อตกไปตามๆกัน ซื้อเสร็จก็ไปนั่งตากแอร์บนรถอ่ะ เพราะว่ายังไม่ถึงเวลาที่เขานัดรวมตัวอ่ะ เลยมีเวลานั่งกินเล่นไปพลางๆ อิ่มแปร้เลย หุหุ แต่ก็เหลือของฝากกลับมาบ้านด้วย และพอถึงเวลาขึ้นรถ ทุกคนก็มาพร้อมกัน และออกเดินทางสู่วัดที่ 9 นั่นก็คือ ติดตามชม ตะลุยอยุธยา ตอน 3 พร้อมปิดทริปทัวร์นี้ค๊าบ 
|
MiNT_DoReMoN
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]
|
|||||||||||||||||||||||
ไอ้วัดที่81ขั้น ฮา ถ้าพี่ไปต้องรออยู่ข้างล่างแหงๆ เลย แก่แร้ว แต่ประทับใจแม่น้องมิ้นอ้ะ หุหุ ช่างคิดได้นะค๊า อิอิ อุตส่าห์ช่วยปทำบุญให้คนบวชนาคซ๊าด้วย