Group Blog All Blog
|
12 - เสียงหัวใจแห่งสายลม : Clair de Lune (นิยายที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้อ่าน)  เสียงหัวใจแห่งสายลม InTheLivingWind #ClairdeLune สำนักพิมพ์ ทัช พิมพ์ 2559 จำนวน 587 หน้า ราคา 375 บาท ----- โปรยหน้าปก "นายสัตวแพทย์อ่อนโยนแบบดิบๆ ที่อยู่แต่กับสัตว์ป่า จะต้องมาดูแล "ภาระ" ที่ทั้งน่ารัก หวาน แต่แกร่งไม่น้อย เขาอยากจับจูงมือเธอไปข้างหน้าเพียงหนึ่งเดียว แต่เธอกลับมีเจ้าของดวงตาสีอำพันคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง ภายใต้ฟ้าครามและความมหัศจรรย์ บนผืนหญ้าสีทองแห่งทุ่งสะวันนา เธอคือสีชมพูที่โดดเด่นจนสายลมอย่างเขา ไม่อาจพัดพาหัวใจไปไหนได้อีกแล้ว" ----- เม้ามอยหลังอ่าน เพราะสายลมในทุ่งสะวันนาพัดพาให้ 'เรา' รักกัน อยากจะบอกว่า...ถ้าไม่ได้อ่านเล่มนี้ จะถือว่าเราพลาดมากกกก คือ มันดีมากกกกกกกก ดีในทุกๆองค์ประกอบที่รวมกันเป็นเล่มนี้ ตอนนี้กลายเป็น The best ในใจอีกหนึ่งเรื่อง ประทับใจสุดๆ หนาเกือบ6ร้อยหน้าแต่พอจบแล้วอยากอ่านอีก อยากได้สัก 7-8 ร้อยหน้าเลย งื้ออ(คนเขียนคงแบบกว่าจะได้เล่มนี้ เขียนมาหลายเดือน คนอ่านไม่ถึงครึ่งวันแถมอยากได้ต้นฉบับหนาๆ อีกหรออ555555) อยากจะกู่ ร้องอีกว่า มันสนุกมากกกกกก มุมโรแมนติกก็หวานสุดๆ มุมดราม่าก็กระชากอารมณ์ได้หดหู่ มุมข้อมูลบรรยากาศของเล่มแทบจะอยากจับทัวร์ไปลงเคนย่าเข้าไปซาฟารีที่มีทุ่งหญ้าสะวันนาและสัตว์ทั้งหลายเลยทีเดียว(ว่าแต่คนเขียนเคยไปมาแล้วแน่ๆเลยอ่ะ บรรยายได้เห็นภาพมากกก) ชื่นชมนักเขียนมากเรารู้เลยว่า กว่าจะเป็นนิยายเล่มนี้ต้องหาข้อมูลหนักมากขนาดไหน และคงเขียนยากมากด้วย กับการที่จะสอดแทรกเนื้อหาหนักๆในแง่มุมของการล่าสัตว์ การพิทักษ์สัตว์ป่าให้เข้ากับนิยายรักโรแมนติกแบบนี้ แล้วทำได้ลื่นไหล กลมกลืน อ่านแล้วมีความรู้สึกร่วมไปกันตัวละครมากๆ จริงๆต้องบอกว่าแทบไม่มีนิยายที่เกี่ยวกับซาฟารีออกมาสักเท่าไรเลยนะคะ ยังไม่เคยเจอแนวแบบนี้เลย แถมเป็นธีมที่ห่างไกลตัวมากกก เอาตรงๆนอกจากไม่เคยเที่ยวซาฟารีอะไรแบบนี้ เรื่องราวมูลนิธิ การอนุรักษ์สัตว์ก็ดูไกลตัวแบบไม่ค่อยทราบดีเทลเลยค่ะ เพียงแต่เคยเห็นรีวิวทริปท่องเที่ยวในดินแดนแถบนี้ หรือดูสารคดีตามช่องดิสคอฟเวอรี่อยู่บ้างทำให้อ่านๆไปก็พอนึกภาพบรรยากาศออก แม้ที่เหลือจะไม่ค่อยรู้เรื่องเลยก็ตามพวกการรักษา การดูแล หรือกฏต่างๆที่ได้อ่านแล้วเป็นความรู้เพิ่มเติมไปในตัวเลยทีเดียว (ถ้าจะให้สมบูรณ์อ่านทะเลใจในแสงจันทร์เล่มก่อนหน้ามาก่อนจะดีเลยค่ะ เพราะตัวละครเล่มนั้นมาแจมให้หายคิดถึงด้วย หรือจรงๆจะอ่านแยกก็ได้ค่ะ แต่เล่มจบในตัวเอง เพียงแค่ตัวละครเป็นพี่น้องก็เชื่อมโยงกันไปมา ^^) "คนหากิน สัตว์หากิน เราไม่เบียดเบียนกันและกัน" งาช้าง นอแรด หนังสัตว์ ไม่ได้อยู่ในวัฏฏะของห่วงโซ่อาหาร และคนก็ไม่มีสิทธิ์คร่าชีวิตของสัตว์ป่าเพื่อสังเวยความสนุก หรือเอาส่วนใดส่วนหนึ่งในชีวิตของมันมาประดับบารมี..... Doctor of Veterinary Medicine.. นี่ไม่ใช่แค่หน้าที่ที่ต้องทำ แต่มันคือศรัทธา อุดมการณ์แรงกล้าและความเมตตาของมนุษย์ที่มีต่อเพื่อนร่วมโลกที่พูดไม่ได้ เรียกร้องอะไรไม่ได้ นิยายเล่มนี้ธีมหลัก คือ การพิทักษ์สัตว์ป่าของผู้อุทิศตนให้กับสัตว์เพื่อการดำรงอยู่ในป่าตามครรลองของมัน การปกป้องสัตว์จากมนุษย์ที่ไม่หวังดี การล่าสัตว์ที่ทำเพื่อความสนุก การล่าสัตว์เพียงเพื่ออยากได้ไปประกอบบารมีและความโลภของเม็ดเงินมหาศาลที่ไม่ต้องลงแรงอะไรเยอะ แต่ในความหนักของธีมเรื่อง ภาพรวมเล่มนี้ยังคงเป็นนิยายรักโรแมนติกที่น่ารักมากเล่มนึงเลยค่ะ สำหรับเรื่องราวความรักของคนสองคนที่มีจิตผูกพันกันมาตั้งแต่เด็ก ที่มีจุดเริ่มต้นเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้ากับชะตาชีวิตของเด็กสาวคนนึ่งที่ต้องสูญเสียทุกอย่างไปในดินแดนซาโวแห่งนี้ แต่ในความโชคร้ายของเด็กสาวกลับโชคดีที่ได้เจอครอบครัวใหม่ที่อุปถัมน์นำพาเธอไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะเลดี้ของครอบครัวชนชั้นสูง กาลเวลาผ่านไปพร้อมกับความห่างหายที่ไม่ได้พบเจอกันของคนทั้งคู่ แต่โชคชะตาคงอยากนำพาเด็กสาวที่เติบโตเป็นสาวงามพร้อมในวันนี้กลับสู่ดินแดนที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่ฝังลึก ความผูกพัน และความพิศวง เมื่อต้องการหลีกหนีจากปัญหาแม่เลี้ยง เธอจึงเดินทางกลับมาเคนย่าสู่ผืนป่าซาโวอีกครั้ง และทำให้ได้เจอกับเขาคนนั้น พี่ชายที่เคยช่วยเหลือเธอในวัยเด็ก แต่พี่ชายที่แสนดีในวันวานกลับกลายเป็น สัตวแพทย์หนุ่มปากร้าย กวน ขี้แกล้งและชอบหาเรื่องเธอไปซะอย่างงั้น แต่ถึงจะกวนเธอมากมายอย่างไร เขากลับกลายเป็นคนที่เธอไว้ใจและพึ่งพิงได้มากที่สุด ความทรงจำวัยเด็กที่ไม่เคยลืมเป็นจุดความผูกพันที่ผูกคนสองคนไว้โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะพี่ชายที่ไม่เคยลืมเด็กสาวคนนั้นตลอดสิบแปดปี! ฉากหน้าที่ช่วงยียวนกวนประสาท กลับแฝงไปด้วยความรักและห่วงหาที่เต็มเปี่ยม แต่ความสัมพันธ์ที่กำลังก่อตัวขึ้นอีกครั้งอย่างสวยงามในดินแดนแห่งนี้ กลับต้องใช้แรงกาย แรงใจ ความไว้ใจเพื่อจับจูงกันก้าวผ่านอุปสรรคที่เกิดขึ้นอย่างมาก ทั้งจากปัญหาการล่าสัตว์ การดูแลสัตว์ป่า ความเลวร้ายจากน้ำมือมนุษย์ และสิ่งเร้นลับเหนือธรรมชาติที่เกือบคร่าชีวิต ซึ่งปัญหาที่เข้ามาอาจจะทำให้ทั้งคู่อ่อนล้า เหนื่อยใจมากแค่ไหน แต่มันกลับเป็นแรงที่ทำให้คนสองคนเข้าใจ เห็นใจและซึมซับความรู้สึกที่มีต่อกันและกันได้อย่างแนบแน่น ...แม่สาวน้อยที่เขาพบเธออยู่ก้นหลุมเมื่อสิบแปดปีก่อน บัดนี้อนิลราชพบเธออยู่ที่ก้นหลุมอีกครั้ง...หากเป็นหลุมรักของเขาที่ขุดไว้รอเธอ...เพียงคนเดียว (ฟินนนนนนนไหมล่ะ คู๊ณณณณณ) >>ขอกรี๊ดดดให้กับ 'คุณหมอวินด์' ในแง่ความรักที่มั่นคงที่มีต่อนางเอกเพียงคนเดียว คืองานดีมว๊ากกกกก โดยที่แม้พี่วินด์จะไม่ได้เข้าข่ายผู้ชายสุภาพ อ่อนโยน ปากหวานเลยด้วยซ้ำ เพราะพี่แกเป็นประเภทผู้ชายแมนๆที่ตรงๆทื่อๆดิบๆ ปากแข็ง ไม่ค่อยโรแมนติก แถมปากร้ายชอบแกล้ง เกรียนมากอีก จนนางเอกรับมือแทบไม่ได้(ฮาา) แต่ขอบอกเลยนะว่า เมื่อภาคพี่วินด์ของหนูอัณณ์ลงประทับเนี่ย มุมหวานๆและอ่อนโยนมีสายตามองแค่นางเอกคนเดียวเลยล่ะค่าาา หวานแบบไม่เกรงใจ หวานแบบแม่บ้านต้องเขิลแทน คือพี่แกเป็นประเภทแบบถ้าไม่สน คือไม่สน ไม่ยุ่ง ไม่แคร์ ตรงๆ แต่กับนางเอกเนี่ยจัดเป็นบุคคลพิเศษที่ทุกๆการกระทำนั้นทำเพื่อเธอจริงๆ ทั้งอ่อย ทั้งแอบดู ทั้งรุก ทั้งดูแลแบบห่วงสุดๆให้ความจริงใจ ปลดล็อคความกลัวในจิตใจ แถมสิ่งรายล้อมตัวยังสื่อถึงนางเอกในหลายๆอย่าง ทั้งเพลงที่ชอบ ชื่อบุชเบบี้ พาสเวิร์ด ต่อให้เกรียนยังไง ชอบแกล้งอย่างไร แต่มุมดีๆที่มีให้กับสาวน้อยคนนี้คนเดียว เราเป็นนางเอกเราก็ต้านทานใจไม่อยู่เหมือนกันล่ะค่าาาา (แถมพี่วินด์ยังชอบ ท็อปเลสบ่อยๆอีก อ่อยแบบนี้ เพราะรู้ว่านางเอกชอบมองใช่มะล่ะ อ่อยชัดๆ55) แต่จะว่าไปนะพี่วินด์นี่ก็หลายภาคในตัวเองสูงเหมือนกันแหะ ด้วยความที่ต้องสวมหลายบทบาททั้งลูกชายเศรษฐีในวัยเด็กกับพี่น้องผู้ชายทั้งหลาย การเป็นผู้บริหารโรงแรม เป็นสัตว์แพทย์ผู้อุทิศตันให้สัตว์ป่า เป็นอาจารย์หมอ เป็นลูกชายขี้อ้อนของแม่ แต่ละมุมนี่แบบหลงจ้าาาา เอนเอียงมาชอบพี่หมอวินด์มากกว่าพี่พุกกับพี่ดนตร์จากสองเล่มก่อนที่อ่านไปแล้วววว ...เอาจริงนะ ถ้าพูดถึงในแง่การทำงาน ตัวละครแบบหมอวินด์ คือ ผู้ชายที่น่านับถือมากๆคนนึง ผู้มีอุดมการณ์ในอาชีพตัวเองสูงมาก การอุทิศตนให้กับสัตว์ป่าเหล่านี้ถ้าใจไม่รักจริงทำไม่ได้เลย เป็นผู้ชายที่เรียกว่า เท่ได้เต็มปาก เท่ในฉบับของการเป็นสัตว์แพทย์ที่น่ายกย่อง เป็นเสมือนฮีโร่ เสียสละความสุขสบายในเมืองอยู่ในดินแดนที่ไม่ได้สุขสบาย และมีอันตราย แต่เขาพูดได้เต็มปากเลยว่านี่คือ บ้านของเขาและมีความสุขกับการอยู่บนผืนป่าแห่งนี้มาก เท่สุดๆ... ...คำรักหวานล้ำไม่ได้เกิดขึ้นบนโต๊ะดินเนอร์หรูหราใต้แสงเทียน ไม่ได้เกิดขึ้นในวันแสนสุขงดงาม หากมันผลิบานที่สุดในวันที่ทั้งคู่เหนื่อยล้าและอ่อนแอ... >>ส่วนนางเอก 'หนูอัณณ์' เธอช่างเป็นผู้หญิงที่เหมาะสมกับพี่วินด์ด้วยประการทั้งปวง ในความเข้มแข็ง อดทน กล้า แกร่ง ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค พร้อมดับเครื่องชนและยืนเคียงข้างพี่หมอวินด์ไปทุกที่ เห็นเธอเป็นนางเอกสวยๆดูคุณหนูบอบบางแบบนี้ แต่ขอบอกเลยว่า เธอทำได้แทบทุกอย่างงง คุณสมบัติครบเครื่องสุดๆ อึดถึกอีกต่างหาก ช่างเป็นเลดี้ที่เพียบพร้อมสรรพจริงๆ เหมาะสมแล้วที่จะมาเป็นคุณนายแฮมิลตันของหมอวินด์ อนิลราช ณ ดินแดนซาโวแห่งนี้ เป็นหนึ่งในนางเอกที่ชอบอีกหนึ่งคน แต่ถึงจะเข้มแข็งอย่างไร มุมอ่อนแอเธอก็มีให้น่าปกป้องนะคะ และที่ชอบอีกอย่างคือ เธอเป็นคนมีเหตุมีผล ไม่งี่เง่าเอาแต่ใจ เข้าใจและใส่ใจ เชื่อมั่นต่อตัวตนพระเอกจริงๆ อาจจะมีสั่นไหวบ้างบางครั้งแต่ก็ไม่เคยยอมแพ้ ถ้าบอกว่าหมอวินด์มีหลายภาค ตัวหนูอัณณ์เองก็มีหลายมิติเช่นกัน เราเลยชอบเธอ ภาคกบฏที่พระเอกชอบบอกว่าเธอเป็นนางมารตัวน้อยๆ มุมนี้เอาคืนพระเอกเล็กๆน้อยๆได้น่ารักทีเดียว แสบสันต์และร้อนแรง อิอิ แต่พอภาคแม่ชีเข้าสิงก็กลับมาอ่อนหวานเหมือนเดิม บทจะกล้าแกร่งก็ทำเอาพระเอกประทับใจสุดๆ แถมสุดท้ายเธอก็สามารถริเริ่มโครงการดีๆเพื่อ อ้ออ...ในเล่มนี้มีคู่รองมาแจมด้วยน๊า นั่นคือน้องสาวพี่วินด์ กับ เพื่อสนิทพี่วินด์นั่นเอง แต่ก็ไม่ได้มาแย่งซีนพระนางมากแต่อย่างใด เพิ่มเติมเข้ามาให้มีสีสันและสนุกมากขึ้น ซึ่งคู่นี้ก็น่าสนใจเพราะมีใจให้กันตั้งแต่วัยรุ่น แต่ด้วยสถานะที่ต่างกัน และทิฐิกำแพงในใจที่ไม่กล้าฝ่าเข้ามา วัยที่ยังเด็กทำให้เรื่องราวความรักที่ควรจะเริ่มต้นต้องห่างกันมายาวนานถึง 8 ปีจนกลับมาเจอกันใหม่ที่ซาโวแห่งนี้ คู่นี้น่ารักค่ะ ฝ่ายสาวก็เริ่ดๆเชิ่ดๆแอบร้ายไม่เบา สูสีกับฝ่ายชายที่กวนไม่หยอกกก นอกจากคู่รองแล้ว บุคคลที่มาแย่งซีนในเล่มนี้อีก คือ พี่ชายหมอวินด์อย่าง 'เฮคเตอร์' ผู้ชายซึ่งเป็นพี่ชายคนโตของตระกูลแฮมิลตัน ที่บุคลิกน่าสนใจมากกกกกก โหด เข้ม ดุ กวน ปากร้าย ซึ่งแอบคิดว่าพี่แกต้องแซ่บบบแน่ ขนาดน้องสาวยังหวงขนาดนี้ ถ้ามีผู้หญิงของตัวเองจะหวงและหึงขนาดไหน แค่คิดก็สนุกแล้ว อยากอ่านที่สุดดด(ซึ่งน่าจะต้องร้องเพลงรอกันต่อไป เพราะเล่มต่อไปคู่หลักคือ เซบาสเตียน+หนูนีร่า แต่ไปอ่านเรื่องนี้ในเด็กดีมา นางเอกของเฮคเตอร์ได้เผยตัวตนมาแล้วด้วยยนี่น่า เป็นหมอสาวอีกต่างหาก คนนี้แหล่ะต้องใช่แน่ๆ >//<) เป็นนิยายอีกหนึ่งเรื่อง ทีมีครบทุกรสชาติดราม่า หวาน ซาบซึ้ง หดหู่ แอ็คชั่น และแฟนตาซี ซึ่งอันหลังเนี่ยไม่น่าเชื่อว่าคนเขียนจะผูกเรื่องให้มีเรื่องราวเหนือธรรมชาติแบบนี้ผสมจนกลายเป็นไคลแม็กซ์ของเรื่องแบบ โอ้วว..มันเป็นอย่างงี้นี่เองได้แบบไม่น่าเชื่อ ส่วนความรักของพระนางก็มาแบบค่อยเป็นค่อยไปในความสัมพันธ์ อ่อนหวานในความรู้สึก แอบวาบหวิวบ้างในบางครั้ง แต่โทนเรื่องรักเราว่ารวมๆมันดูละมุนละไมเหมือนกันนะ ถึงพี่หมอจะแอบกวนไปบ้างก็เถอะ คนเขียนทำให้เราเชื่อในความรักของคนทั้งคู่ที่มีให้กันผ่านกระทำที่ไม่ต้องเอ่ยคำว่ารัก เป็นคู่รักที่เกิดมาเพื่อกันและกัน คอยช่วยเหลือประคองเกื้อกูลในชีวิตและการทำงานได้อย่างลงตัวมากกก แต่ขอชมพี่หมอหน่อยถึงพี่แกจะไม่ใช่คนโรแมนติก แต่ช่วงสำคัญที่ต้องสร้างความโรแมนติกขอแต่งงาน ทำได้น่ารักมากกกก ต๊ายยย ผู้ชายดิบๆทำแบบนี้โคตรน่ารักเลยแหล่ะขอบอกกกก และสิ่งสำคัญที่ประทับใจแบบสุดๆ คือ คนเขียนทำให้เรา 'อิน' ในเรื่องของสัตว์ป่าได้อย่างมากที่สุด รวมทั้งการสื่อให้เห็นการอุทิศตนของสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทุกแห่งบนโลกใบนี้ ก็ทำให้เราซาบซึ้งและตระหนักถึงความเสียสละของพวกเขาเหล่านั้นได้อย่างมาก นิยายเล่มนี้จึงไม่เป็นได้เป็นแค่นิยายรักเล่มนึง แต่เป็นนิยายที่สื่อให้เห็นถึงภายใต้ความหวัง ความศรัทธาของหัวใจผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ รวมถึงเข้าใจในความเคารพซึ่งกันและกันของมนุษย์และสัตว์ป่าเพื่อรักษาธรรมชาให้สมดุลบนโลกใบนี้ :)  mlimanisafarisafrica cr:pictuer ปล.อยากให้เปิดเพลง ชีวิตสัมพันธ์ ฟังไปด้วยระหว่างอ่าน ได้ฟีลเข้ากับธีมหลักของเรื่องนี้มากเลยค่ะ  เมษายน 2560
|
MiNT_DoReMoN
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]
|
|||||||||||||||||||||||||
