MUJIRUSHI สัญลักษณ์แห่งฝัน : นาโอกิ อุราซาวะ
“ความฝันที่มุ่งมาดปรารถนาเท่านั้น จะทำให้จินตนาการเป็นเรื่องจริงได้” สัญลักษณ์แห่งฝัน
นาโอกิ อุราซาวะ
 รูปนี้ถ่ายก่อนแกะ ชอบพลาสติกห่อแบบนี้นะ ดูมิดชิดดี
เหตุเกิดจาก ทาเคชิ คาโมดะ พ่อของคาสึมิ ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการโรงงานรองเท้าแตะเล็กๆ แห่งหนึ่ง ลองหลบเลี่ยงภาษีเป็นครั้งแรก แต่ดันถูกสรรพากรตรวจพบ เป็นเหตุให้โดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลังเมื่อมีไม่พอบ้านและทรัพย์สินจึงถูกยึดไป หนำซ้ำภรรยา (แม่ของคาสึมิ) ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจากถูกรางวัลล่องเรือสำราญ พอมีความหวังใหม่กับงานจ้างผลิตหน้ากากล้อเลียนประธานาธิบดีมะกันเข้ามาก็เกิดเหตุพลิกผันทางการเมืองจนถูกเทอีก เจ๊งสิ ขณะที่สองพ่อลูกรู้สึกหมดอาลัยตายอยาก พ่อของคาสึมิก็พบ "สัญลักษณ์แห่งฝัน" เขียนไว้ในกระดาษที่ผูกติดกับขาของอีกา วินาทีนั้นพ่อไม่สนใจแล้วว่านกนำโชคจะเป็นนกสีฟ้าหรือไม่ สองพ่อลูกเดินตามเบาะแสสัญลักษณ์นั้นจนไปพบบ้านโทรมๆ หลังหนึ่งมีชื่อว่า ศูนย์ศึกษาโอะฝรั่งเศส ซึ่งมีผู้อำนวยการศูนย์เป็น ชายแปลกหน้าฟันเหยินใส่สูทผูกหูกระต่าย ที่เทพเรื่องฝรั่งเศสและพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นอย่างยิ่ง
ภาพแรก :สองพ่อลูกคาโมดะ ภาพสอง : บุรุษปริศนาฟันเหยินในชุดสูทผูกหูกระต่าย
หลังจากชายคนนั้นได้ฟังเรื่องของบ้านคาโมดะ เขาจึงยื่นข้อเสนอให้พ่อของคาสึมิไปขโมยภาพเขียนภาพหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (โอ้!!! งานช้างเลย) เพื่อจะได้เอาภาพที่ตัวเองปลอมขึ้นมาออกขายทำเงินเป็นค่าตอบแทน ถ้าได้คือรวยเละ100% และเขายังฝากฝังให้นำของชิ้นหนึ่งกลับไปวางคืนที่ลูฟวร์ด้วย… (เฮ้ย!! ภารกิจสองเด้งเลยเหรอ ถ้าโดนจับขึ้นมาก็ซวย 100% แน่ๆ เช่นกัน).. เอาล่ะ สมมตินะ ถ้าเราต้องสวมบทพ่อของคาสึมิ เราจะยอมทำตามข้อเสนอของใครที่ไหนก็ไม่รู้ไหมอ่ะ แต่เขาชักแม่น้ำทั้งห้าได้เก่งเว่อร์สกิลเทพ และสถานการณ์ของบ้านคาโมดะตอนนี้คือหลังชนฝาแล้ว ลองดูสักตั้งก็ดีกว่าอยู่เฉยๆไหมล่ะ? แต่ขึ้นหลังเสือคราวนี้แล้วจะลงยังไงก็ยังไม่รู้เลยนะ.. เอาใจช่วยพ่อลูกบ้านคาโมดะด้วยเน้อ
   ปกหุ้มใช้กระดาษเคลืบเงาเกรดดีดูพรีเมี่ยมมากๆ ปกมีสองด้าน สามารถพลิกด้านในมาเป็นแจ็กเก็ตเวอร์ชั่นสองได้ด้วย ส่วนโปสการ์ดสองหน้าก็แถมมาในซีลเลย
ออกตัวว่าเราไม่ได้เป็น FC ของ อ.นาโอกิ อุราซาวะ ไม่ได้ตามอ่านงานอื่นๆ ของอาจารย์ แต่พอเห็นเล่มนี้ตั้งแต่โปรโมทในเพจ NED คือดึงดูดมาก และยังเป็นเล่มเดียวจบด้วยน่าอ่านเลย พอได้มาเห็นเล่มจริงยิ่งถูกใจกับความ “โก้ หรู ดูแพง” เพราะรูปเล่มสวยมาก เล่มก็ใหญ่ขนาดบิ๊กบุ้ค ปกอาร์ตเคลือบมันอย่างหนาสีทองดูหรูหรา ไม่พอยังพิมพ์เป็นปกสองด้านหลังที่สามารถพลิกปกในกลับมาเป็นปกนอกได้ด้วยนะ เยี่ยมยอด (แต่ส่วนตัวไม่ใจกล้ากลับปกนะ กลัวยับ แหะแหะ) แล้วยังแถมโปสการ์ดแข็งสองหน้า กว้างยาวขนาดเล่มบุงโกมาให้อีกด้วย (เฉพาะพิมพ์ครั้งแรกนะ) เท่าที่เล่ามานี่ก็ดูคุ้มมากๆ แล้วใช่ไหมล่ะ ในโหมดพล็อตเรื่องก็ผูกโยงได้น่าติดตาม เรื่องของคนธรรมดาที่เริ่มจากการลองทำผิดแบบที่เคยเห็นคนอื่นทำดูสักครั้งแต่ดั๊นซวยเจอแจ็กพ๊อตเข้า (ฟีลเหมือนเด็กเรียนแต่วันดีคืนดีอยากหนีโรงเรียนพร้อมกับหัวโจกแต่ดันโดนเฉ่งอยู่คนเดียวงี้) เลยเป็นเหตุให้ชีวิตมาถึงจุดหักเห เมียหนี พอมีงานใหม่ก็ถูกเทอีก สู้ชีวิตแล้วแต่ชีวิตสู้กลับ จนมาเจอกับตาแปลกฟันเหยินพูดชักจูงเข้าก็เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ไปตายเอาดาบหน้าที่ปารีสสองคนกับลูกสาว เราเองชอบตัวละครหนูคาสึมินะ เป็นเด็กช่างสังเกต รอบคอบ และเป็นลูกสาวที่รักพ่อมาก ทีแรกเธอไม่เอากับแผนการของตาเหยินท่าเดียว แต่เพื่อพ่อแหละเธอจึงยอม . สัญลักษณ์แห่งฝัน ผู้มีฝันย่อมมีไฟ หนึ่งชีวิตของคนเราสามารถพลิกวิกฤตมาเป็นโอกาส แต่โอกาสในมือก็อาจกลายเป็นวิกฤตได้อยู่ตลอดเวลาเช่นกัน เมื่อมีโอกาสเข้ามา เราไม่รู้หรอกว่าเสี่ยงแล้วจะเจออะไร แต่ส่วนใหญ่รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง ก็เพราะมนุษย์มีความฝัน และไม่ว่าใครก็อยากให้ฝันของตัวเองเป็นจริงกันทั้งนั้น
จงเป็นเราในแบบที่เราเป็น อีกา สัตว์ที่มนุษย์ตีตราว่าเป็นสัญลักษณ์ของความอับโชค โดยที่ไม่ทันได้ถามมันสักคำ 55 ก็เพราะมนุษย์มักไปพบตามแหล่งสกปรก โรคระบาด ตามหลุมศพ จิกกินของสกปรก จนติดตาเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดี โดยที่ยังไม่ทันรู้คุณค่าคุณประโยชน์ของตัวมัน เฉกเช่นการตัดสินใครบางคนจากรูปลักษณ์ภายนอก จริงอยู่ว่าภาพลักษณ์เป็น first Impression ที่ดึงดูดความสนใจของมนุษย์ และจูงใจให้ตัดสินคนตรงหน้าว่าเป็นคนดีหรือไม่ดี แต่การส่องลึกลงไปในใจของคนผู้นั้นต่างหากที่จะรู้เนื้อของตัวเขาแท้ว่าเขา “ดี” จริงหรือไม่ มิเชล เป็นตัวละครตัวหนึ่งที่ถูกรังแกและบูลลี่ในวัยเด็กจนถูกเรียกว่าอีกา แต่เพราะผู้มีพระคุณคนหนึ่งได้มอบความกล้าหาญให้แก่เขาว่า "อย่าแคร์กับคำดูถูก เธอเองก็มีสิ่งที่มีแต่เธอเท่านั้นที่ทำได้ ยืดอกอย่างภาคภูมิ แล้วทำในสิ่งที่ตัวเองควรทำ" นี่แหละคือสิ่งที่เด็กขี้แพ้ในวันนั้นยึดถือมาจนเติบใหญ่ และยืนหยัดในสังคมได้อย่างภาคภูมิใจ
“ความสุขไม่ใช่สิ่งที่จะไล่ตามหาแต่สักวันนกสีฟ้าจะนำข่าวดีมาให้เอง” MUJIRUSHI 夢印 สัญลักษณ์แห่งฝัน (2018) เล่มเดียวจบ เรื่อง : อ.นาโอกิ อุราซาวะ และ ฟูจิโอะ โปรดักชั่น ภาพ : อ.นาโอกิ อุราซาวะ ผู้แปล : อิศเรศ ทองปัสโณว์ สนพ. เนชั่น (NED) พิมพ์ครั้งที่1 ปี2022 ความหนา 272 หน้า รูปเล่มBIG BOOK
นอกรอบกับสัญลักษณ์แห่งฝัน  (สองภาพด้านล่าง cr. ภาพจากอินเตอร์เน็ต) กาแฟโอเล่ต์ café au lait เมนูหนึ่งที่พูดถึงในเรื่อง เป็นกาแฟดำใส่นมร้อนอุณหภูมิ 68 องศา ในอัตราส่วน 1:1 ข้อสำคัญคือต้องดื่มทันที จะให้ดีต้องใส่ถ้วยใบโตแบบดั้งเดิมด้วย หรือเอาครัวซองต์จุ่มในกาแฟแล้วกินแบบที่ผู้ดูแลศูนย์ฯ ชวนให้ชิมในเรื่องก็ได้ และวันที่ 17 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถือเป็นวัน National Cafe au Lait Day ด้วยนะ
 ภาพล่างซ้ายThe Lacemaker / ภาพล่างขวา Girl with a Pearl Earring cr.ภาพจากอินเตอร์เน็ต ภาพหญิงปักลายลูกไม้ The Lacemaker (1669-1670) เป็นภาพที่ผู้อำนวยการศูนย์โอะฝรั่งเศสให้พ่อของคาสึมิไปเอาออกมานั่นแหละ ภาพนี้เป็นผลงานของ โยฮันเนส เวอร์เมียร์ (Johannes Vermeer : 1632-1675) จิตรกรชาวดัทช์ในยุคบาโรค ซึ่งผลงานที่มีชื่อเสียงอีกชิ้นหนึ่งของเขา ที่หลายคนคุ้นตาคงหนีไม่พ้น ภาพหญิงสาวใส่ต่างหูมุก Girl with a Pearl Earring (1665)
โอะฝรั่งเศสโอะ : เป็นคำเสริมสำหรับใส่หน้าคำศัพท์เพื่อแสดงถึงความสุภาพหรือมีคลาส : จากผู้แปล คำๆ นี้เป็นคำที่ตาเหยินในเรื่องใช้เรียก สำหรับเราอ่านเจอหนแรกมันรู้สึกเขินๆ ไงไม่รู้ คงเพราะมีความเป็นคำลูกครึ่งมั้ง แล้วถ้าไม่ใช้คำนี้แต่เรียกเป็น คุณฝรั่งเศส ท่านฝรั่งเศส หรือ คุณท่านฝรั่งเศส ไปเลยล่ะ จะใช้ได้ไหมนะ?
Create Date : 01 สิงหาคม 2565 |
Last Update : 1 สิงหาคม 2565 10:18:44 น. |
|
31 comments
|
Counter : 1291 Pageviews. |
 |
|