ผมจำได้ลางๆว่าแรกเห็น แคนดี้ที่แผงหนังสือ เธอไม่สะดุดตาผมเท่าไรนัก ผมก็มองๆแล้วผ่านเลย แต่เธอมาออกทีวีด้วยนะ ก็ได้ดูบ้างไม่ดูบ้าง ทว่าชื่อเสียงเธอค่อนข้างโด่งดังทีเดียวในขณะนั้น ผมเคยแง้มดูบันทึกเรื่องราวของเธออยู่หนหนึ่ง .....................ผ่านดีกว่า ไม่น่าสนใจ ดูเศร้าๆ ไม่ชอบอ่ะ ผลออกมาเป็นแบบนี้ ผมเลยหันไปคบกับเพื่อนแว่นขี้แง เพื่อนสนิทเค้าอ้วนๆ มีของซ่อนอยู่ในกระเป๋าเยอะแยะ , เทพบุตรดาวหาง ที่มักงัดท่าไม้ตายมาอวดพวกเราอยู่บ่อยๆ ,เด็กน้อยที่แปลงร่างเป็นลิงยักษ์ แต่หลังจากโดนตัดหางไปค่อยยังชั่วหน่อย จะได้ไม่ทำลายข้าวของเสียหาย ยังมีเพื่อนผู้หญิงรุ่นพี่เป็นนักเรียนสาวโบราณคดีผมบลอนด์ด้วยนะ แต่เธอมักหายหน้าไปครั้งละนานๆ แม่และพี่เธอตามหากันให้วุ่นเลยล่ะ จากวันนั้นล่วงมาเกือบสามทศวรรษ (นับตั้งแต่ที่ผมเริ่มอ่านการ์ตูนนะครับ ไม่ใช่เริ่มอุแว้ 55) ผมเจอแคนดี้อีกครั้ง เห็นเธอนั่งเงียบๆอยู่ในร้านหนังสือแห่งหนึ่ง เลยเดินเข้าไปทักทาย เธอก็ยังดูสดใสอยู่ แม้ความจริงถ้านับกันตามอายุ ปีนี้เธอก็ล่วงเข้า51แล้ว ผมบอกเธอว่าอยากจะทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้น เลยชักชวนเธอไปเที่ยวบ้าน ซึ่งเธอก็ตอบตกลง แล้วผมก็ได้เรียนรู้เรื่องราวชีวิตวัยเด็กของเธอ นั่นเองคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงความคิด...
แคนดี้ เด็กสาวชาวอเมริกัน ที่อาศัยอยู่ในโบสถ์เลี้ยงเด็กกำพร้า รัฐมิชิแกน เราเรียกที่นั่นว่า บ้านโพนี่ แคนดี้ดูเป็นเด็กสาวที่มีชีวิตค่อนข้างอาภัพ เพื่อนๆรุ่นเดียวกันในบ้าน ต่างมีครอบครัวผู้ดีรับไปอุปการะกันหมด เหลือเพียงเธอที่กลายเป็นหัวโจกอยู่โยงกับรุ่นน้องๆ เมื่อถึงคราวเธอบ้างกลับกลายเป็นว่า ถูกรับไปเลี้ยงดูไว้เป็นเพียงเพื่อนเล่นของลูก จนกระทั่งลดสถานะกลายเป็นเด็กรับใช้ นั่นเพราะเธอถูกกลั่นแกล้งและโดนใส่ร้ายมาตลอด ชะตากรรมประหนึ่งแม่นางซินก็ไม่ปานครับ
แคนดี้ถือคติที่ว่าดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว แม้เจอเรื่องราวหนักหนาแค่ไหน เธอก็ยังยืนหยัดสู้ไม่ท้อถอย ที่นั่นเธอได้รับมิตรภาพจากเพื่อนๆสามหนุ่มตระกูงอันเดร อาชี่ ,สแตร์ และ แอนโทนี่ ผู้เป็นเหมือนเจ้าชายของเธอ ในคราวแรกที่ทั้งคู่พบกันรอยยิ้มและเสียงปี่สก็อตของแอนโทนี่ ช่วยกลบความทุกข์และคราบน้ำตาของแคนดี้อย่างสิ้นเชิง แต่โชคชะตาก็เล่นตลกเสกให้เจ้าชายของเธอจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
ในช่วงเวลาที่เคว้งคว้างนั้นแคนดี้ได้รู้จัก คุณอัลเบิร์ตชายหนุ่มผู้ใช้ชีวิตสมถะ อาศัยตามบ้านไร่ชายทุ่งคลุกคลีกับสัตว์น้อยใหญ่ อัลเบิร์ตเป็นเสมือนเพื่อนตายของแคนดี้ก็ว่าได้ หลายครั้งที่เธอตกระกำลำบากอยู่แห่งหนตำบลไหน สุดท้ายอัลเบิร์ตเป็นคนเดียวที่คอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอ
ต่อมาแคนดี้ได้ถูกรับเป็นบุตรบุญธรรมในตระกูลอันเดร ผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เลควู้ด โดยคำสั่งของคุณลุงวิลเลียม ทำให้เธอมีโอกาสได้ไปเรียนหนังสือในโรงเรียนประจำที่อังกฤษ ที่นั่นเธอได้รู้จักกับแพท สาวแว่น ,เทรี่เด็กหนุ่มผู้จะมากุมหัวใจเธอ และแอนนี่เพื่อนรักสมัยอยู่บ้านโพนี่ด้วยกัน
ขณะที่โลกระส่ำระสายด้วยภาวะสงคราม แคนดี้ก็ได้สวมชุดนางพยาบาลสีขาวอย่างที่ได้ตั้งใจไว้ แต่ชะตาชีวิตของเธอมักผกผันอยู่เสมอ ขณะที่กำลังก้าวหน้าในอาชีพพยาบาล เธอถูกใส่ร้ายด้วยเหตุไม่สมควรทำให้ต้องระหกระเหินอีกครั้ง แต่เพราะความเป็นสาวโลกสวย ไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น ให้อภัยคนอื่นอยู่เสมอ ทั้งยังมีเพื่อนๆอย่าง อาชี่ สแตร์ แอนนี่ แพท และอัลเบิร์ต คอยให้กำลังใจเธอเสมอมา หลายครั้งที่เธอสิ้นหวังหรือท้อใจเธอก็จะกลับไปที่บ้านโพนี่ และพร้อมจะเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่เสมอเมื่อล่วงสู่วันใหม่
เรื่องราววัยเด็กจนถึงวัยรุ่นของแคนดี้ เป็นชีวิตที่ถูกแต่งแต้มทุกสี ไม่ว่าจะเป็นสีสดใดอย่างลูกกวาด สีเทาหม่นน่าทนทุกข์ สีหวานงดงามราวกลีบดอกไม้ และสีอันเรืองรองของแสงตะวันที่พร้อมเผชิญหน้ากับทุกสิ่ง
ฉากประทับใจ (สปอยล์นิสนึงครับ)
ถ้าแบบแฮปปี้ เอนดิ้งก็ต้องฉากเปิดตัวลุงวิลเลียม ผู้ที่เป็นคนอุปถัมภ์ เธอมาตลอด ถึงแม้เนื้อหาจะดูว่าเดาได้ไม่ยาก แต่ อ.ยูมิโกะ วาดฉากนี้ได้ประทับใจมาก
แต่ถ้าแบบเศร้า ขอยกให้ฉากการจากไปของแอนโทนี่ครับ ก็แหม มาไม่ทันกี่ตอน ไปซะแล้ว แคนดี้ใจสลายเลย
Candy Candy การ์ตูนคลาสสิค ผลงานการเขียนเรื่องโดย อ.เคียวโกะ มิซุกิ ภาพโดย อ.ยูมิโกะ อิงาราชิ ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารนากาโยชิ ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงปี พ.ศ.2518-2522 ในสมัยนั้นเมืองไทยนำมาตีพิมพ์แบบไพเรทหลายสำนักพิมพ์ ที่ผมได้มาอ่านนี้เป็นอีกพิมพ์หนึ่งรุ่นหลังๆแล้ว เรียกว่ารุ่นหนังสือเลขละกันครับ เพราะหนาไม่แพ้หนังสือเลขสมัยผมเรียน ม.ต้นเลย แต่พิมพ์ที่คลาสสิคกว่าชุดไหน คงเป็นรุ่นลิขสิทธิ์ 5เล่มจบ ปกแข็ง เย็บกี่ สันลายสก็อต ในราคาเล่มละ60บาท...แหมผมพลาดของดีไปซะแล้ว
อย่าตัดสินใครๆ ด้วยความคิดของตนเอง ถูกที่สุดครับ