 |
|
|
 |
 |
|
|
| | 1 |
| 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
| 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
| 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
| 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
| 30 | 31 | |
|
|
| |
|
 |
|
|
|
รสมนุษย์ชอคโกแลต
ตามธรรมชาติของมนุษย์มีประสาทสัมผัสทั้งห้า หรือ ตามหลักศาสนาพุทธนั้นเรียกว่า กามคุณทั้งห้าได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส แน่นอนว่าประสาทสัมผัสทั้งห้านั้น ย่อมมีการทำงานที่แตกต่างกันไปตามหน้าที่ของอวัยวะนั้นๆ
แต่มันมีประสาทสัมผัสอันหนึ่งที่แปลกประหลาดกว่าชาวบ้านชาวช่องเขาคือประสาทการรับรู้รส
ตามธรรมชาติประสาทรับรู้รสนั้นอยู่ที่ลิ้น ซึ่งสามารถแยกแยะได้สี่รสคือ หวาน เค็ม เปรี้ยว และขม
มักจะมีสุภาษิต คำพังเพยเกี่ยวกับเรื่อง รส เสมอๆ เช่น หวานอม ขมกลืน หวานเป็นลม ขมเป็นยา
หรือมักจะมีคำเปรียบเปรยระหว่างรสชาดกับชีวิตเสมอๆเช่น ชีวืตขมขื่น สาวเปรี้ยว สาวหวาน เป็นต้น
เริ่มมีการเอาชีวิตไปเปรียบกับรสชาติตั้งแต่เมื่อใดผมก็ไม่สามารถทราบได้ แต่คนมักพูดว่า นี่แหละรสชาดของชีวิต หรือ รสชาดของความเป็นคนนั่นเอง
การเอารสชาดไปเปรียบเทียบกับช่วงจังหวะของชีวิตนั้น คงไม่ได้มีแค่ประเทศไทยที่เดียวเท่านั้น ต่างชาติก็มีความคิดแบบนี้ด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือจากหนังเรื่องหนึ่งชื่อ Forrest Gump พระเอกของเรื่องชอบพูดว่า แม่ผมบอกไว้ว่าชีวิตเหมือนกับกล่องชอคโกแลต เราจะไม่รู้ว่าเราจะหยิบได้อะไรจากกล่อง (my mama always says, life is like a box of chocolate, you never know what youre going to get.)
ชอคโกแลตกำเนิดมาจากเมล็ดต้นโคคา (Cacao) เมล็ดมีรสขม เมื่อนำเมล็ดมาต้มเป็นน้ำดื่ม น้ำชอคโกแลตย่อมต้องมีรสขมตามไปด้วย
ด้วยวิทยาการสมัยใหม่ก็มีการคิดค้นวิธีการทำชอคโกแลตแท่งขึ้นมา และไอ้เจ้าชอคโกแลตแท่งนี่ละ ที่เรากินกันอยู่ทุกวันและขายกันทั่วโลก
ชอคโกแลตที่เห็นขายตามท้องตลาดนั้นสามารถแยกได้เป็น สามชนิดคือ ชอคโกแลตดำ ชอคโกแลตนม และ ชอคโกแลตขาว (Dark chocolate, milk chocolate, and white chocolate)
ชอคโกแลตดำนั้นมีรสขมนำและมีหวานตามพอให้ได้รับรู้ว่ามีรสหวาน แต่บางคนก็ว่ามีแต่รสขมอย่างเดียวเท่านั้น
ต่างกันกับชอคโกแลตนม ที่มีรสหวานนำ และมีรสขมตาม
ส่วนชอคโกแลตขาวนั้น ไม่มีความรู้สึกว่ามีรสขมเลยแม้แต่นิดเดียว
ตามที่หนัง Forrest Gump พูดไว้มันก็คงจะจริง เพราะบางครั้งชีวิตมันก็ไม่ได้หวานไปหมดซะทีเดียว มันก็มีรสขมแทรกขึ้นมาบ้าง หรือจะมีรสขมนำขึ้นมาก่อนก็เป็นไปได้
ในเมื่อชอคโกแลตเป็นที่นิยมของคนทั่วโลกนั้น แปลว่าคนทั่วโลกก็ชื่นชอบความหวานปนความขม หรือความขมปนความหวานด้วยเช่นกัน
และเมื่อเรากินชอคโกแลตเข้าไป เรากลับยินดีที่จะกินความหวานปนขมและความขมปนหวาน
มันก็เหมือนกับชีวิตของเรา ถ้าความเศร้ามีรส มันก็คงเป็นรสที่ขม กลับกันถ้าความสุขมีรสมันก็ต้องเป็นรสหวานที่หลายๆคนชื่นชอบมากกว่าความขม
หลายๆช่วงเวลาของชีวิตมันก็คงจะมีเหตุการณ์ชอคโกแลตขึ้นมาบ้าง มันก็คงเป็นความขมที่หอมหวาน เป็นความเศร้าที่มีความสุขได้เช่นกัน
คนบางจำพวกก็ชอบที่จะเสพติดความเศร้าปนความสุข หรือคนบางจำพวกก็ชอบเสพติดความสุขที่ปนความเศร้า
สองสิ่งนี้มองๆไปแทบจะแยกกันไม่ออกว่าแบบไหนคืออะไรกันแน่ เพราะจังหวะของชีวิตมันไม่ได้มีฉลากแปะไว้ด้านข้าง เหมือนกับ ฉลากห่อชอคโกแลต
ชอคโกแลตที่อยู่ในกล่องมันคงผสมไปด้วยชอคโกแลตสามชนิดนี้ ชีวิตมันจึงคล้ายกับกล่องชอคโกแลต เพราะเราไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นเช่นไร นอกจากหยิบชอคโกแลตออกมาจากกล่อง หยิบใส่ปาก รับรู้รสของมัน
น้ำเต้าหู้ฯ
02/01/11
The UK
| Create Date : 03 มกราคม 2554 |
| Last Update : 3 มกราคม 2554 1:21:52 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 486 Pageviews. |
|
 |
|
|
|
|
|
| น้ำเต้าหู้กะปาท่องโก๋ |
 |
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
