 |
 |
 |
 |
 |
|
 |
 |
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
 |
3 กรกฏาคม 2556 |
|
 |
 |
|
 |
|
|
|
 |
 |
 |
 |
|
 |
 |
 |
 |
|
เรื่องสั้น อัตมะมายา โดย พิมพ์นิยม
...ร้านอาหารย่านถนนเชียงราก ไม่มีใครไม่รู้จักใบโมก...
โต๊ะขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้าทำด้วยไม้อัดหยาบ ๆ ฉาบด้วยน้ำยาเคลือบไม้จนเป็นมัน เรียงรายอยู่อย่างเป็นระเบียบ อันหมายความว่าเวลานี้ยังไม่มีลูกค้าเข้าร้าน
ในครัวยังวุ่นวายต่อการจัดเตรียมวัตถุดิบเพื่อรับรองกลุ่มเป้าหมายซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ไม่บ่อยเท่าไหร่ที่จะได้ต้อนรับขาจรเช่นคนขับรถที่บังเอิญหิวกลางทาง
สายลมพัดมาซู่หนึ่ง ไอเย็น ๆ แจ้งเตือนต่อสรรพชีวิตให้ทราบโดยทั่วกันว่าฝนกำลังจะตก เศษกิ่งไม้ใบไม้ถูกกวัดไกวไปคนละทิศละทาง แต่ส่วนใหญ่อยู่ใต้ชายคา
พ่อครัวคนเดียวในร้านกำลังส่งหมูลงกระทะที่มีน้ำมันร้อน ๆ รออยู่บ่นพึม
เจ๊ดแม่ง... เทวดาจะอั้นเยี่ยวสักเดี๋ยวก็ไม่ได้ อ้อยกำลังจะเข้าปากช้างแล้วแท้ ๆ
เพราะเป็นเวลาใกล้เที่ยง อันหมายถึงเวลาซึ่งคนจะแน่นร้านและหากใครลุกแล้วจะเสียม้า เมื่อมีปัจจัยภายนอกคือปรากฏการณ์ฝนตกมาเป็นอุปสรรคเช่นนี้ ทำให้บุรุษหน้ากะทะมีสีหน้าวิตกกังวลยามเมื่อเหลือบสายตามองออกไปยังบรรยากาศทึบทะมึนภายนอก
...ถ้าฝนตก แน่ล่ะต้องขาดรายได้ มิหนำซ้ำยังเป็นรายได้ก้อนใหญ่เสียด้วย เหนือสิ่งอื่นใดคือ ทุน จะได้คืนหรือเปล่า และไม่ต้องไปคิดถึงค่าเช่าที่ที่จะต้องจ่ายทุกเดือนหรอก...
หมูกรอบนะเว่ยไม่ใช่หมูเกรียม จะใจลอยไปหาสวรรค์วิมานอะไรอยู่ว้า
เสียงตะคอกข้างตัวของแม่ครัวรุ่นป้าที่กำลังแร่เนื้อเป็นคำ ๆ ทำเอาเขาสะดุ้งก้มลงมองกระทะ
แม่งเอ๊ย... ไอ้หมูบ้า
...ความจริงก็อยากจะด่าให้มันสาแก่ใจมากกว่านี้อยู่ หรือถ้าจะเควี่ยงหมูเควี่ยงกระทะให้มันสมแก่ความหงุดหงิดในใจได้ก็คงทำไปแล้วล่ะ...
^_^
วันนี้จะกินอะไร
คำถามที่กินความหมายไปถึงสถานที่รับประทานอาหารกลางวันด้วยถูกส่งต่อกันมาเป็นทอดจากหัวแถวแลคเชอร์ แล้วนานแสนนานเท่าชาติเศษคำตอบจึงส่งต่อกลับไปยังที่เก่า
ใบโมกโรงเอสซี เสียงครึ่งต่อครึ่ง
แสดเอ๊ย...
...เสียงจะไม่แตกกันสักวันฝนมันจะตกหรือแว้...
ซ่า...
คนหัวแถวยิ่งถอนฉุนหนัก
กินโรงเอสซีแล้วกัน
เจ้าตัวสรุป
...เสียงจะแตกหรือไม่ฝนก็ตกอยู่ดี...
ก็คงไม่ต่างอะไรไปกับ...เมื่อเอาเข้าจริงฝนจะตกหรือไม่ก็ไปใบโมกอยู่ดี
^_^
เสียงอึกทึกอึงอนจนฟังไม่ได้สรรพ ถ้าจะจับแยกเป็นองค์ประกอบน่ากลัวจะมีเพียงเสียงคนและเสียงสิ่งของเครื่องครัวกระทบกัน
...ป่านนี้พ่อครัวคงเลิกกังวลใจไปนานแล้ว...
หลังจากที่ชายร่างอ้วนเตี้ยสองคนพ้นจากร้านไปพร้อมอาหารห้ากล่องกับถุงแกงทั้งจืดและเผ็ดอย่างละสองสามถุง นักศึกษาก็ยกโขยงถล่มร้านกันเป็นฝูงใหญ่ มิไยจะสนใจต่อสายลมและเม็ดฝนที่ตกลงมาไม่ขาด โต๊ะหลายตัวต่างรู้สึกหนาวเพราะอากาศชื้นแม้จะอยู่ภายในร้าน
ปีสี่แม่งก็ทำไม่ถูก มีอย่างที่ไหนมีแต่มาอวยน้องปีสอง พอปีเรากลับด่าเช็ดหาว่าไปค่อนแคะแต่จุดอ่อนน้องเค้า แล้วอย่างนี้จะเป็นการถอดบทเรียนหลังกิจกรรมอย่างสมบูรณ์ได้ยังไงวะ
คนหัวโต๊ะสรุปคำพูดของเพื่อน ๆ ที่ต่างเล่าความรู้สึกอันกระจัดกระจ่ายให้เป็นประเด็นสำคัญ แล้วบ่นพร้อมส่ายศีรษะไปมา
แม่งข้าวก็ยังไม่เสร็จสักที รู้อย่างนี้จะสั่งข้าวไข่เจียวทุกจานให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเสียเลยก็ดี
เพราะคนบ่นมีเส็นผมยาวเต็มกลางหลัง เมื่อพนักงานเสิบนำอาหารมาส่งที่หัวโต๊ะคนที่เหลือจึงโวยสนั่น
ไอ้เฮ่... อย่าสะบัดผม
^_^
อึ๋ย... คูล์แน่ใจหรือว่าจะนำเรื่องนี้ลงตีพิมพ์
คนถามลดกระดาษลงวางกับตักของตน หันไปมองคนชื่อคูล์ที่บัดนี้ท่าทางดูห่างจากความหมายของชื่อไปหลายขุม
นี่มันงานของเรา ทำไมจะนำเสนอเรื่องนี้ไม่ได้...
ถ้าคนรักจะเป็นสื่อแล้วไม่สามารถอธิบายในความขัดแย้งออกสู่สาธารณะก็อย่าเป็นเลยส่งเลยสื่อ
คนฟังคำอธิบายถอนใจยาว เรื่องราวที่คูล์จะถ่ายทอดแม้ไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง กลุ่มคนเสื้อเหลืองเสื้อแดง ที่จนแล้วจนรอดต่างฝ่ายยังถืออัตตามานานปี แต่มันก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่เลย
...ตะกอนความแคลงใจระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องที่เกิดจากการตัดสินด้วยมุมมองของแต่ละฝ่าย อาจเกิดสงครามน้ำลายลุกลามบานปลายต่อไปไม่สิ้นสุด ถ้าฟืนเล็ก ๆ จะแอบติดไฟเอาไว้เงียบ ๆ คนเดียวเช่นนี้...
ก็เห็นว่าต่างฝ่ายก็ไม่ได้ติดใจเอาเรื่องอะไรนี่หน่า แล้วถ้าคูล์จะนำเรื่องพวกนี้ไปเผยแพร่ จากที่มันไม่มีอะไร...
ไม่มีอะไรก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องไม่เกิด... เราเชื่อว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องย่อมไม่มีทางหลงลืมเรื่องราวพวกนี้ได้หรอก สู้ผ่าตัดแล้วประจานก้อนเนื้อร้ายอันนั้นไปเลยไม่ดีกว่าหรือ...
อีกฝ่ายโต้ทันควันก่อนเสนอแนะ
ความจริงพวกเราน่าจะมาช่วยกันหาวิธีที่จะถ่ายทอดเรื่องราวนี้อย่างไรมิให้โน้มเอียงไปทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งดีกว่านะ
ในบรรยากาศรางเลือน แสงไฟตามถนนใหญ่รอดเข้ามาทางช่องระบายอากาศเหนือประตูร้านใบโมก พอให้เห็นรูปเงาของชายอ้วนเตี้ยสองคนที่ทั้งคู่ไร้มือ
^_^
สายวันถัดมาพนักงานเสิบค่อนข้างแปลกใจ ทุกโต๊ะภายในร้านคล้ายมีคลาบไครหรืออะไรบางอย่างเกาะเป็นฝุ่นขาว ๆ เมื่อใช้ปลายนิ้วไล้ทุกอย่างยังคงสภาพเดิม ร้อนถึงพ่อครัวที่มีหลายสถานะ ทั้งพ่อครัว นักบัญชี และลูกชายเจ้าของร้าน
อะไรไม่รู้ค่ะล้างไม่ออก
เพราะคนพยายามล้างมาก่อนไม่ใช่คนไทยจึงไม่ทราบว่าคลาบบนโต๊ะคือตัวอักษรไทยที่เรียงร้อยเป็นข้อความยาว ๆ ต่อกัน...จากโต๊ะหน้าประตูถึงโต๊ะท้ายร้าน
ปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละ
คนอ่านไทยได้ปลดปลง คิดเดาเอาเองว่าสักวันคลาบนั้นจะเลือนหายไปด้วยตัวของมัน
...ปัญหาของใครคนนั้นต้องแก้ไขเอง...
^_^
โต๊ะหนึ่งถึงโต๊ะทั้งหลาย สู่คนสู่ฝ่ายป้ายสี แสนรักปักท่วมร่วมปี ก่อนนี้ร่วมทุกข์สุขมา น้ำตารินรดหลั่งไหล ทุกข์ใจช่วยกันแก้ปัญหา รอยยิ้มพริ้มเพราแต้มหน้า เมื่อวาระสุขมาเยือน บัดนี้ภาพนั้นไปไหน ทุกข์สุขใดไม่แม้นเหมือน ภาพคืนวันเก่าย้ำเตือน น้องเพื่อนพี่ร่วมฝ่าฟัน อ้อนวอนจันทราฟ้ากว้าง ดาวพร่างร่วงตกผกผัน พรุ่งนี้ยามฉายตะวัน ขอฝันนั้นจงเป็นจริง เพื่อนพี่น้องรักกันเถิด ดวงใจแย้มเปิดกว้างยิ่ง สื่อสารด้วยใจแท้จริง ไม่มีสิ่งใดปิดบัง อาศัยใช้หลักเมตตา นึกถึงใจเขาเรามั่ง อย่าได้โกรธเกลียดชิงชัง ระวังละวางอารมณ์ ต่างฝ่ายย่อมคิดแตกไป ต่างได้ตามใจเห็นสม ควรใคร่ใคร่ครวญคิดคม อารมณ์เหตุผลแผกกัน ด้วยรักจากฉันสรรค์สร้าง พลังแห่งรักสร้างฝัน ด้วยรักสร้างสิ่งอัศจรรย์ ด้วยรักจากฉันสู่เธอ
Create Date : 03 กรกฎาคม 2556 |
Last Update : 3 กรกฎาคม 2556 0:05:41 น. |
|
2 comments
|
Counter : 755 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: zoi วันที่: 3 กรกฎาคม 2556 เวลา:18:50:16 น. |
|
|
|
| |
|
|
 |
 |
 |
 |
|
|
ภาษายังฟังดูขัดเขิน
แต่สื่อความได้เข้าทีครับ
แวะมาทักทาย