ไอ๊ ถามวัต สุทธิพงศ์
 
มกราคม 2560
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
31 มกราคม 2560
 
 
เรื่องของไอ๊ EPISODE 38

11 มกราคม 2560
โดย ถามวัต สุทธิพงศ์

บังเอิญว่าช่วงนี้กำลังทบทวนบทเรียนเกี่ยวกับภาษาเพื่อการสื่อสาร...

หนึ่งในวิธีการถ่ายทอดจากความคิดให้เป็นภาษา คือ การเขียนสื่อสาร
ไอ๊กำลังให้ความสนใจมันอย่างจดจ่อ...

สำหรับสถานศึกษาโดยทั่วไปมองว่า วิธีการรับสารคือกระบวนการสื่อสารที่ต้องให้ความสำคัญ
ด้วยเหตุผลน่าฟังว่า หากคนเรารับสารมาไม่ดี ก็ไม่สามารถนำสารมาคิดวิเคราะห์เพื่อถ่ายทอดสารออกมาสู่คนอื่นได้

สาร หรืออาจเรียกว่า ข้อมูล ปัจจุบันมันถูกอวดโฉมโนมพันธุ์อยู่ทั่วไป ทั้งใน LINE, FACEBOOK, และเว็บไซต์อื่น ๆ
โดยที่ ข้อมูลที่เกิดมีขึ้นมานั้น บ้างก็ถูกคิดค้นมาจากมันสมองของมนุษย์สุดประเสริฐ
และมีไม่น้อยเลยที่ข้อมูลเหล่านั้นถูกคัดลอกมาอย่างน่าตาเฉย...
ที่ถูกคัดลอกแล้วใส่แหล่งที่มาข้างท้ายก็ไม่กระไรนัก...ยังพอยอมรับได้ว่าพวกเขายังมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม

...การรับสาร (สำหรับคนไทย) จึงยังมีความน่าเป็นห่วงว่า สารที่มากมาย ซึ่งบ้างก็ไร้ความน่าเชื่อถือเพราะไร้ที่มา และบ้างก็เป็นสารล้าสมัย กำลังท่วมทับหัวหูผู้เสพสาร (ไม่ใช่ผู้เสพสื่อ...เดี๋ยวด่า)
กระทั่งก่อให้เกิดมีการถ่ายทอดสารต่อ ๆ กันไปอย่างผิดพลาดคลาดเคลื่อน (ที่โดยมากจะเป็นการพูดปากต่อปาก)

อย่างไรก็ตาม แม้สถานศึกษาจะมีกระบวนการการรับสาร พร้อมด้วยกระบวนการวิเคราะห์วิจารณ์ แต่มันก็ยังเป็นเพียงแนวคิดบนกระดาษว่าควรทำอย่างไร (แบบไม่ชัดเจน)

สำหรับไอ๊ การรับสารที่ดีควรปฏิบัติกายใจ ดังต่อไปนี้

1. ทำกายให้พร้อม กล่าวคือ จะต้องไม่พยายามทำสิ่งอื่นขณะรับสารนั้น ๆ เพื่อการรับสารอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด สู่การถ่ายทอดสารออกมาอย่างสมบูรณ์

2. เปิดใจให้กว้าง ไร้ซึ่งอคติใด ทั้งต่อสารและผู้ส่งสาร

3. สรุปใจความออกมาให้ได้ว่า ผู้ส่งสารกำลังพูดถึงสิ่งใด และด้วยวัตถุประสงค์ใด

4. สารนั้นมีประโยชน์ต่อใคร เพื่อนำมาจัดเก็บให้เป็นหมวดหมู่ในสมอง สู่การหยิบยกมาใช้งานถ่ายทอดสารอย่างสะดวก

ทั้งนี้ทั้งนั้น สำหรับไอ๊กลับมีมุมมองที่ย้อนแย้งกับสถานศึกษาโดยทั่วไปว่า อันที่จริงแล้ว การถ่ายทอดสารออกมา ทั้งที่เป็นคำพูด หรือแม้แต่ตัวอักษร ล้วนมีความยากยิ่งกว่าการรับสาร

ซึ่งที่สุดปัญหาอาจถูกวนกลับมาที่ว่า เพราะการรับสารที่ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดการถ่ายทอดสารที่ผิดพลาด
“ผิดพลาด” ทั้งด้วยการลงรายละเอียดไม่ครบถ้วนสมบูรณ์
“ผิดพลาด” ทั้งด้วยการขาดทักษะการถ่ายทอดสาร
แน่นอนว่า คนเราถูกสอนให้รู้จักการรับสาร แต่ไม่เคยถูกสอนให้รู้จักเลียนแบบวิธีการถ่ายทอดสาร...เลียนแบบที่ไม่ได้หมายถึงการคัดลอกเขามาทั้งหมด

...ไอ๊จึงกำลังเป็นห่วงคนไทยทั่วไปอย่างใหญ่หลวงว่า จะทำอย่างไรให้พวกเขามีวิธีการถ่ายทอดสาร โดยเฉพาะการเขียนสื่อสาร ให้เกิดเป็นข้อมูลที่น่าอ่าน น่าเชื่อถือ และน่าคัดลอกเหลือเกิน

เรื่องของไอ๊ ที่ไอ๊เขียนมันทุกบ่อย นับแต่กลางเดือนตุลาคมปีกลาย เกิดจากความอยากถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์อันน้อยนิดเกี่ยวกับความพิการทางการเห็นของตัวไอ๊เอง
ด้วยตระหนักถึงปัญหาเกี่ยวกับความเข้าใจที่ยังผิดพลาดคลาดเคลื่อนของคนสายตาปกติซึ่งมองต่อคนพิการทางการเห็น โดยเฉพาะวิธีการดำรงชีวิตประจำวัน
เหนือสิ่งอื่นใดมากมายกว่านี้ บทความที่ว่าด้วยความพิการบนโลกออนไลน์ก็มีน้อยแสนน้อย ซ้ำยังไม่มีความต่อเนื่อง อย่างเช่นบทความหัวข้อ “A BLIND SAID” ของอาจารย์ปอม
หรือแม้แต่ “ของขวัญวันอังคาร” ของไอ๊ก็ตามที
ตำราวิชาการก็ไม่ต้องพูดถึง หามีให้อ้างอิงอะไรไม่
หนังสือที่เขียนขายก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการศึกษา จำได้ว่า ถ้าไม่ใช่ของอาจารย์วิริยะ ชื่อหนังสือว่า “เคราะห์สร้างโอกาส”
ก็เป็นของคุณพลอยสโรชา ชื่อหนังสือว่า “กว่าเด็กปิดตาจะโต”
อ้อ...ยังมีของคุณนิรมล ชื่อหนังสือว่า “แสงสว่างในโลกมืด” อีกเรื่องนี่แฮะ ลืมได้ไง
แล้วก็...ใช่...ยังมีของอาจารย์วิมล ชื่อหนังสือว่า “วิมลสนทนา”
เห็นไหมล่ะ...น้อยนะ
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่ได้ยกตัวอย่างมาล้วนเสิบอาหารจานหลักเป็นคน...ผู้เป็นเจ้าของหนังสือ แล้วจึงล้อมกรอบด้วยความพิการทางการเห็น โดยมีเครื่องเคียงเป็นสถานการณ์ต่าง ๆ
มันเป็นความจริงสำหรับคนทำหนังสือ ทำเรื่องเล่าทุกรูปแบบ จะต้องยอมรับอย่างหน้าชื่นอกตรมว่า ไม่มีทางที่นักเล่าเรื่องจะสามารถเล่าเรื่องราวทั้งหมดทั้งสิ้นตามแต่ใจอยากเล่าได้
อย่างน้อย พวกเขาจะต้องคำนึงก่อนว่า ใครฟังเรื่องเล่าอันนั้น และที่สำคัญ พวกเขาทั้งหลายเหล่านี้จะได้รับประโยชน์ใดจากเรื่องเล่า ถึงขนาดต้องคิดแทนไปว่า พวกเขามาฟังเรื่องเล่าทำไม
จากนั้นจึงมาเริ่มเลือกเรื่องจะเล่า แล้วเลือกวิธีการเล่า ซึ่งแน่นอนว่าการใช้ภาษาเป็นสิ่งสำคัญ แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ จะมีวิธีการเรียงลำดับเรื่องราวอย่างไร (เขียนต่อไปเกรงว่าใครต่อมิใครคงได้งงเต้ก พอดีกว่า)

...เรื่องของไอ๊ จึงไม่ต่างจากหนังสือพวกนั้น ที่เอาตัวไอ๊ยืนพื้น แล้วล้อมกรอบด้วยความพิการทางการเห็น และเคียงคู่ด้วยสถานการณ์ที่ไอ๊พบเจอมา
ทั้งนี้ ไอ๊ก็ยังไม่สามารถเขียนถึงความพิการทางการเห็นได้อย่างละเอียด นอกจากความไม่รู้ถ่องแท้ถึงความพิการของตนเองอย่างลึกซึ้ง มันยังรวมกับรูปแบบการเล่าเรื่องที่จำกัด (ไอ๊ทำเป็นไดอารี่ ไม่ใช่งานทางวิชาการ)
แต่จุดเด่นของเรื่องของไอ๊ก็คือ ไอ๊มีความพยายามเขียนมันอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ (ถ้าไม่มีใครเลิกสนับสนุนกันไปก่อนนะ)

กำลังใจจากการกดถูกใจ (กดไลค์) กดแบ่งปันเรื่องราว (กดแชร์) และร่วมแสดงความคิดเห็น (คอมเม้นต์) เปรียบเสมือนทิพยาหารจากผู้เสพสารสู่ไอ๊ได้ดีนักแล

ไอ๊ไม่หวังว่างานเขียนชิ้นนี้จะทำให้ทุกคนทั้งหลายเหล่านี้มีความเข้าใจไอ๊ถึงขนาดว่าสงสานไอ๊...ผู้เสียสละแรงกายแรงใจเขียนหนังสือเพื่อคนพิการทางการเห็น
แต่ไอ๊หวัง...ประสบ ได้พบบทความเกี่ยวกับความพิการทางการเห็น หรือความพิการด้านอื่น บนบรรณาพิภพ หรือบนสื่อสังคมออนไลน์ ต่อไปจากนี้ครับ

สุดท้ายนี้ ขอให้ความรักและความหวังดีที่ไอ๊มีต่อผู้คนทั้งหลายเหล่านี้จงนำทางให้ไอ๊ได้พบกับงานเขียนเรื่องคนพิการจากคนพิการด้วยเถิด...เจ้าประคุณ


Create Date : 31 มกราคม 2560
Last Update : 31 มกราคม 2560 1:19:49 น. 0 comments
Counter : 198 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

อาณาจักรแห่งเรา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




เราเป็นนักแสวงหา...
เรายังคงค้นหาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

เมื่อหามาแล้ว...
เราจะนำมาเล่า
New Comments
[Add อาณาจักรแห่งเรา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com pantip.com pantipmarket.com pantown.com