มนตรามุกจันทรา / ริญจน์ธร จำนวน 363 หน้า /ราคา 269 บาท

มรกตสนธยา / ริญจน์ธร จำนวน 415 หน้า /  ราคา 295 บาท

สนพ.อรุณ

ตอนรีวิวโมรารัตติกาล ไม่ได้เขียนอะไรไว้เลย มาถึงก็รีวิวแบบลุยแหลก 5555  เอาชื่อหนังสือเซ็ตอัญมณีทั้งสองเซ็ตมาฝาก เพิ่งคิดได้ตอนเห็น blog คุณ polyj ค่ะ  

นักเขียน        มนตราอัญมณี             อัญมณีเหนือกาล

อสิตา             มายาไฟในดวงตา                 โมรารัตติกาล

ริญจน์ธร         มนตรามุกจันทรา                  มรกตสนธยา

บุลินทร           ม่านธาราเร้นดาว                  ม่านทิวาพชร

สองเซ็ทนี้ซื้อทยอยซื้อตามๆกันมาค่ะ เวลาอ่านก็อ่านตามนักเขียนค่ะ นักเขียนคนที่สองคือคุณริญจน์ธรค่ะ  รีวิวแพ็คคู่เหมือนเดิมอาจยาวหน่อย เชิญอ่านได้ตามอัธยาศัยค่ะ

มนตรามุกจันทรา / ริญจน์ธร  ชุดมนตราอัญมณี

 โปรยปกหลัง...

  รักคือความอบอุ่น ละมุนหัวใจ รักคือการให้ เข้าใจกันและกัน
รักคือฉันและเธอ...คือเราเสมอ ไม่ว่าแห่งหนใด

มูนสโตน.อัญมณีแห่งดวงจันทร์ เครื่องรางอันเป็นตัวแทนของความรัก
ความอ่อนโยนและความสงบสุข ที่มาพร้อมกับเงื่อนงำบางอย่าง

ชีวิตของ มุกดาแปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เมื่อเธอได้รับมรดกชิ้นสุดท้ายจากผู้เป็นย่า
แหวนมูนสโตน...อัญมณีแห่งดวงจันทร์ ได้นำพาวิญญาณของเด็กหญิงดวงหนึ่งมาอยู่กับเธอ
หญิงสาวจะทำเช่นไรกับความซนของวิญญาณดวงน้อย
แถมยายผีเด็กยังชักนำเธอให้มารู้จักกับชายหนุ่มคนหนึ่ง...
แค่แรกพบ เพียงสบตา หัวใจเจ้ากรรมก็หลุดลอยไปไกลเสียแล้ว
ก็ในเมื่อเขาช่างอบอุ่น หล่อเหลา เรียกได้ว่าเพอร์เฟ็กต์สุด ๆ
โดยเฉพาะนัยน์ตาคมสีดำที่มองมาทีไร หัวใจก็จะพลันหลุดจากอกเสียร่ำไป
อ๊าย-ย-ย...แล้วอย่างนี้เธอจะยังรักษาหัวใจตัวเองไว้ได้อย่างไร

ส่วนวาริทชายหนุ่มที่มีเพียงภาระและความเศร้าเป็นเพื่อนมานานแรมปี
เมื่อได้พบกับมุกดา.หญิงสาวก็เปลี่ยนโลกของเขาให้สดใสขึ้นโดยพลัน
ทว่า...เขาจะจัดการอย่างไรกับหญิงสาวในดวงใจ
เมื่อเธอนันช่างแสนดี ช่วยเหลือใครต่อใครไปทั่ว ทั้งสัตว์ คน รวมไปถึงกระทั่ง...เอ้อ...ผี!
โดยไม่คิดสงสารหัวใจคนเป็น ๆ อย่างเขาบ้างเลย(ให้ตายถอะ!)

ร่วมสัมผัสความรักอันแสนอบอุ่นและโรแมนติกของสองหนุ่มสาวกับเรื่องราวสุดอลวนได้แล้ว

เล่าเรื่องย่อแสนย่อเอง...

มุกดา (มูน) ได้รับมรดกตกทอดจาก"ย่าอมินตา" เป็นแหวนมูนสโตน ในขณะที่พี่สาวของเธอได้พลอยตาเสือและน้องสาวได้รับอะความารีน

" มูนสโตนของเจ้า รักษาไว้ให้ดี ยังมีใครมากมายต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า "

เมื่อย่าอมินตาจากไปได้สั่งมุกดาว่าอย่าให้ใครเคลื่อนย้าย ทำอะไรกับศพจนกว่าทุกอย่างจะจบลง แต่สำหรับมุกดาแล้วแม้ย่าจะตายแต่ก็เหมือนคนหลับไปเท่านั้นเพราะร่างกายไม่เปื่อยไม่เน่า ความเศร้าเนื่องจากการตายของย่า ทำให้มุกดาต้องระเห็จไปอยู่คอนโด โชคดีที่เธอมีเพื่อนสนิทอย่าง "คณิตา" คอยช่วยปลอบใจ นอกจากจะเป็นเพื่อนรักแล้วทั้งสองยังทำธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์จัดงานแต่งงานร่วมกันอีกด้วย

เพราะอำนาจของแหวนมูนสโตน มุกดาเริ่มเห็นวิญญาณทั้งที่ไม่อยากจะเห็นเลยสักนิด ที่สำคัญกลับมีผีเด็กที่ไหนก็ไม่รู้ "สิตางศุ์" มาขออยู่กับเธอแถมยังเป็นผีที่ความจำเสื่อมอีกต่างหาก   ยิ่งไปกว่านั้นสิตางศุ์จอมซนยังขนเพื่อนผีมาให้เธอได้วุ่นวายและต้องเสี่ยงอันตรายช่วยเหลือ แต่ถึงกระนั้นผีเด็กจอมจุ้นอย่างสิตางศุ์ก็นำพาให้เธอได้รู้จักกับ "วาริท" ชายหนุ่มที่แอบกระชากใจเธอไปตั้งแต่แรกพบ นอกจากต้องช่วยวิญญาณที่มาขอความช่วยเหลือ สิ่งที่สำคัญก็คือมุกดาต้องค้นหาความทรงจำที่หายไปของสิตางศุ์เพื่อให้เธอได้ไปเกิดใหม่ แต่จะทำเช่นไร เมื่ออันตรายข้างหน้าก็อาจพรากแม้กระทั่งลมหายใจของเธอ!!!

ความรู้สึกหลังอ่าน...

 เนื่องจากเคยอ่านผลงานของคุณรินจน์ธรมาก่อนค่ะ จึงทำให้ทราบว่านิยายของของนักเขียนจะออกแนวหวานๆ และเรื่องนี้ก็ไม่หลุดคอนเซปต์ของนักเขียนแต่อย่างใด ^^ ถ้าเรื่องนี้มีชื่อเล่นก็คงชื่อ ผีน้อยสื่อรัก 555 (ตั้งแบบเชยสะบัด  ) เพราะสิตางศุ์นี่เป็นกามเทพตัวน้อยที่ช่วยให้พระเอกนางเอกของเราปิ๊งปั๊งกันแบบจริงๆจังๆหลังจากที่ได้แค่เมียงๆมองๆกัน (แอบอิจฉานะ 555) แม้จะมีผีมาเกี่ยวข้องแต่เรื่องก็ไม่ถึงกับน่ากลัวจนไม่กล้าอ่านค่ะ (มีขนลุกอยู่ฉากเดียวมั๊งที่เรากลัว ) ผีน้อยสิตางศุ์ก็เป็นผีที่น่ารักและตลกด้วยค่ะ คือเป็นผีความจำเสื่อมแถมยังกลัวผีอีกต่างหาก 555(เดาว่าเหมือนคนที่กลัวคนน่ากลัวมากกว่านะ) สิตางศุ์มีผีเพื่อนซี้ที่ชื่อกะทิ ซึ่งจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับโลกวิญญาณมากกว่าและมาคอยช่วยเหลือนางเอกด้วยค่ะ

เนื่องจากในเรื่องนางเอกช่วยเหลือผีหลายตนค่ะ ทำให้การเล่าเรื่องเหมือนแบ่งบทย่อยๆออกไปค่ะ ซึ่งจะทำให้ปมของเรื่องไม่ค่อยซับซ้อนเท่าไร แต่จุดเด่นน่าจะเป็นเรื่องความรักและความหวานของพระนางมากกว่าค่ะ  ที่สำคัญพระเอกเรื่องนี้ก็ยังแสนจะเพอร์เฟ็กซ์ค่ะ ขนาดมีนางร้ายคนสวยทั้งยั่วทั้งอ่อยพระเอกยังไม่สนเลย ปิ๊งนางเอกคนเดียว   ส่วนนางเอกนี่ทั้งสวยและแสนดีค่ะ แม้ตอนแรกจะไม่อยากยุ่งกับเหล่าคุณผี แต่สุดท้ายก็ใจอ่อนยอมช่วยเหลือจนพาตัวเองไปสู่อันตรายให้พระเอกและเหล่าผีน้อยตามไปช่วยเหลือ

จุดที่ชอบคือการผูกเรื่องในอดีต ว่าย่าอมินตาเป็นคนขอแหวนนี้มาจากแม่พระเอกเพื่อแลกกับคำพยากรณ์ทำนายอนาคต ไม่ได้เก็บเงินค่าดูหมอแต่อย่างใด เพราะย่าอมินตานี่ไม่ใช่คนธรรมดาแต่มีอำนาจหยั่งรู้ โดยที่อมินตาในตอนนั้นรู้ล่วงหน้าว่าแหวนมูนสโตนจะช่วยครอบครัวพระเอก ที่สำคัญเรื่องนี้เกี่ยวกับผีน้อยสิตางศุ์ด้วยค่ะ แต่จะเป็นเรื่องอะไรและสิตางศุ์มีความสัมพันธ์อะไรกับครอบครัวพระเอก ก็ให้ลุ้นกันเองนะคะ ^^

สรุปแล้ว เรื่องนี้แม้นางเอกจะเห็นผี แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวเท่าไรค่ะ ออกแนวผีน้อยน่ารักมากกว่า ^^ เนื้อเรื่องจะเน้นความหวานดังนั้นกลิ่นอายของเรื่องจะไม่ได้เน้นความตื่นเต้นเร้าใจเท่ากับเล่มแรกของเซ็ตแต่จะให้อารมณ์หวานๆกุ๊กกิ๊กมากกว่า คนที่ชอบแนวหวานๆน่าจะชอบกันนะคะ อันนี้แนวใครแนวมัน โดยที่ตอนนี้จขบ.อ่านมรกตสนธยาซึ่งเป็นเล่มต่อของชุดนี้จบแล้ว เป็นเรื่องของคณิตาเพื่อนนางเอกค่ะ ส่วนตัวเป็นคนชอบอะไรลุ้นๆตื่นเต้นๆค่ะ พอไปเจอเรื่องต่อไป มรกตสนธยา นับว่าถูกใจเรามากค่ะ  ^^

มรกตสนธยา / ริญจน์ธร   ชุดอัญมณีเหนือกาล

โปรยปกหลัง... (หาcopy ไม่มีเลยค่ะ ถ่ายเอาละกัน แต่ก็มองไม่ค่อยชัดเลยนะเนี่ยยยย  )

เล่าเรื่องย่อๆเอง...

เล่มนี้อยู่ในเซ็ตอัญมณีเหนือกาล จริงๆแล้วเล่มนี้เป็นเล่มที่สามของชุดนะคะ 555 เอามาอ่านก่อนเพราะอ่านต่อจากมนตรามุกจันทราที่เป็นเล่มสองค่ะ เรารีวิวตามนักเขียนเลยอ่านกระโดดนิดหน่อย  จริงๆแล้วจุดกำเนิดของของเซ็ตอัญมณีทั้งสองเซ็ตอยู่ที่เล่มแรกของคุณอสิตาค่ะ (เล่มคุณอสิตาจะเป็นเล่มเปิดตัวของทั้งสองเซ็ตเลย) แต่สามารถอ่านแยกได้ แต่ถ้าใครอยากรู้ต้นสายปลายเหตุที่มาที่ไปของร้านกาลเวลา ร้านขายอัญมณีปริศนาที่นำพานางเอกของเราสู่อนาคต ถ้าได้อ่านตั้งแต่เล่มแรกจะร้องอ๋อ แต่ถ้าไม่ได้อ่านก็ไม่งงกับเนื้อเรื่องแต่ประการใดค่ะ

"คณิตา" (เพื่อนสนิทของมุกดา นางเอกมนตรามุกจันทรา) หลงเข้าไปในวังวนแห่งกาลเวลาอนาคตแปดสิบกว่่าปีข้างหน้า เพียงเพราะเธอไปซื้อเพริดอตรูปหัวใจครึ่งซีกที่ถูกแบ่งออกเป็นสองเม็ดจากร้านขายอัญมณีแปลกประหลาดที่ชื่อว่า "กาลเวลา" 

เพริดอต หรือ มรกตยามเย็น จะสั่งสมพลังในตอนกลางวันและมีอำนาจเต็มเปี่ยมยามค่ำคืน เป็นอัญมณีที่เหมาะสมกับความรักมั่นคงและยืนยาว

" จากนี้ไปทุกๆคืนวัน เสี้ยวใจนี้จะเรียกหาคู่ของมันเสมอไม่ว่าอีกเสี้ยวหนึ่งจะอยู่คนละกาลเวลาหรือไกลแค่ไหน มันจะมาพบกันก่อนเวลาค่ำคืนจะมาเยือน..." เป็นคำพูดในเรื่องโมรารัตติกาล ผู้พูดคือมิตรเจ้าของร้านกาลเวลาในเรื่องนี้นี่เอง ต้นกำเนิดเพริดอตเม็ดนี้มาจากเรื่องโมรารัตติกาลค่ะ ..ครึ่งหนึ่งของหัวใจจะเรียกหากัน... และความรักของเจ้าของมรกตสนธยานี้ก็พัดพรากจากกันจริงๆ แต่ได้มิตรนี่ล่ะช่วยไว้^^ (ในเรื่องมรกตสนธยาก็มีเล่าไว้นะคะ)

เมื่อคณิตาได้ทำแพริดอตอีกครึ่งซีกหล่นหายไปในร้านกาลเวลา และไปโผล่ที่โลกอนาคต (ร้านกาลเวลาจะเคลื่อนที่ไปทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต แล้วแต่ร้านจะพาไปค่ะ ไม่มีใครกำหนดได้แม้แต่นายมิตรผู้เป็นเจ้าของร้านก็ตาม) เมื่อยามสนธยามาเยือนคณิตาจึงโดนอำนาจอัญมณีพาเธอไปสู่อนาคตและมาเจอแพริดอตอีกครึ่งที่ทำหล่นหาย  คณิตาได้พบกับ "อัทธ์" และเขาได้ช่วยเหลือเธอไว้ เธอหลงมาสู่อนาคตข้างหน้าจากเวลาเดิมแปดสิบกว่าปี แต่เมื่อถึงตอนเช้าด้วยมนตราของอัญมณีเธอก็จะกลับไปสู่ห้วงเวลาเดิม เรื่องราววุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อแพริดอตท้้งสองถูกดูดเข้าไปอยู่ในมือของเขาและเธอ ที่สำคัญคณิตาไม่รู้ว่าจะเอามันออกไปได้อย่างไร เธอจะต้องตามหาชายหนุ่มเจ้าของร้านอัญมณีให้เจอให้จงได้!! 

เมื่ออยู่ร่วมกันทุกคืน (อ๊ะๆ อย่าคิดลึก 555) คณิตาได้เรียนรู้ว่า ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาอย่างอัทธ์เป็นผู้ชายที่เจ้าชู้และมีผู้หญิงมาก คณิตาเกลียดผู้ชายเจ้าชู้เนื่องจากมีความหลังฝังใจที่แม่ตัวเองต้องเจ็บปวดกับพ่อที่มีผู้หญิงไปทั่ว เธอจึงพยายามทำเป็นไม่สนใจอัทธ์ที่คอยหว่านเสน่ห์ใส่ หากสำหรับอัทธ์แล้วคณิตาไม่ใช่ผู้หญิงทั่วไปที่เขาเคยคบ แต่เธอเป็นคนสำคัญและเขาต้องการให้เธออยู่กับเขาที่โลกแห่งนี้ แต่ทว่าด้วยมนตราแห่งอัญมณีคณิตาต้องไปกลับโลกของตัวเองเมื่อแสงตะวันส่องและกลับมายังโลกอนาคตของอัทธ์เมื่อทิวามาเยือน

เรื่องราวกลับไม่ง่าย เมื่อโลกแห่งอนาคตที่เต็มไปด้วยวิวัฒนาการก้าวล้ำ แม้แต่อวัยวะของมนุษย์ก็สามารถสร้างสำรองขึ้นมาปลูกถ่ายแก่ร่างกายได้ แต่ใครจะรู้ว่ามีองค์กรค้าอวัยวะเถื่อนที่หลบซ่อนอยู่และอวัยวะของเธอก็ตรงกับรหัสพันธุกรรมที่พวกมันต้องการ!!!

ความรู้สึกหลังอ่าน...

เซ็ตอัญมณีเหนือกาลนี่จะมีความพิเศษคือธีมของเรื่องจะเกี่ยวเนื่องกับกาลเวลาค่ะ โดยเล่มแรกโมรารัตติกาลจะย้อนอดีต ส่วนเล่มนี้จริงๆเป็นเล่มสุดท้ายของเซ็ต (แต่เอามาอ่านเป็นลำดับสอง) จะหลงเข้าไปสู่กาลเวลาแห่งโลกอนาคต เล่มนี้จะมีกลิ่นอายของนิยายแนวไซไฟผสมกับการสืบสวนสอบสวน เนื่องจากพี่สาวพระเอกตามสืบสวนเกี่ยวกับคดีฆาตรกรรมของชายคนรักซึ่งเกี่ยวพันกับขบวนการค้าอวัยวะเถื่อน เมื่ออ่านจบ ต้องบอกว่าเราชอบมากกว่าเล่มแรกค่ะ เพราะตัวเองเป็นคนที่ไม่ชอบอะไรหวานมากๆอยู่แล้วค่ะ แต่เล่มนี้สำหรับเราก็หวานนะคะ เพียงแต่พระเอกจะเกือบๆเพอร์เฟ็กซ์ เพราะคุณอัทธ์จะออกแนวเจ้าชู้ กรุ้มกริ่มนิดๆ และพอพระเอกเริ่มหลงรักนางเอกก็ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อนางเอกโดยเฉพาะเลย (เห็นไหม บอกแล้วว่าเกือบ ) ดังนั้นในช่วงแรกๆจะเน้นการพัฒนาความสัมพันธ์ของพระนางและการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของคณิตาที่ต้องเดินทางไปมาระหว่างโลกปัจจุบันกับโลกอนาคต แต่พระเอกก็ดีน๊า อัทธ์ยอมเดินทางมายังอดีตซึ่งเป็นโลกของคณิตาด้วยค่ะ แบบว่าผลัดกัน 5555 

ส่วนตัวแล้วตอนอ่านเราชอบช่วงท้ายๆที่มีเรื่องราวในการสืบสวนมากกว่าค่ะ จุดที่ชอบคือตอนหักมุมเกี่ยวกับพี่สาวพระเอก อันนี้เดาไม่ถูกเลย ชอบๆๆๆ ^^ คืออ่านแล้วชอบพี่สาวพระเอกมากเลยค่ะ เป็นผู้หญิงที่กล้า บ้าบิ่น แต่มีเสน่ห์ จริงๆถ้าเขียนให้เป็นคู่รองมีเรื่องราวกับคนที่รักเธอมากๆหน่อยก็คงจิ้นกันน่าดู 555 (แต่ก็คงยากนะเพราะพี่สาวพระเอกฝังใจกับคนรักเก่าที่ตายไป) จุดขัดใจในเรื่องก็มีนะคะ คือตอนที่พระเอกห้ามไม่ให้กระทำการฆ่าคนร้าย (แง่มๆๆๆ ) จากนั้นเนื้อเรื่องก็เดาได้เลยค่ะ ลองคิดดูสิ ถ้าคนร้ายไม่ตายจะเกิดอะไรขึ้น!!! มันน่าจับนายอัทธ์กดน้ำนัก  

ความรักของพระนางอ่านแล้วชอบค่ะ เพราะถ้าในนิยายนี่จขบ.จะไม่ชอบผู้ชายเพอร์เฟ็กซ์มากเกิน ชอบให้แอบมีร้ายนิดๆ หรือนิสัยไม่ดีหน่อยๆ มันทำให้เวลาจูนเข้าหากันมันมีเรื่องมีราวระหว่างกันดีค่ะ จริงๆอยากให้พระเอกแอบร้ายกว่านี้ด้วยซ้ำ   ตอนอ่านแอบขำจินตนาการโลกอนาคตของผู้เขียน ตรงที่ว่าอีกแปดสิบกว่าปีข้างหน้า เวลาดูหนังเขาก็ยังนิยมซื้อป็อบคอร์นกันอยู่เหมือนเดิม ขนาดวิวัฒนาการมีอาหารแคปซูลกินกันแล้วน๊า แต่ยังไงก็ยังชอบกินป๊อปคอร์น 5555 

สรุปแล้ว เรื่องนี้ก็ยังคงอ่านสนุกค่ะ จินตนาการในโลกอนาคตทำให้อ่านแล้วไม่เบื่อ ความรักพระนางไม่หวานจนเกินไป แม้เรื่องราวตอนจบจะคลี่คลายง่ายไปนิดนึง แต่นี่เป็นนิยายรักไม่ใช่นิยายแนว Action ตอนจบให้เดาเอาเองว่าทั้งคู่จะไม่พรากจากกันได้อย่างไร เพราะนางเอกจะต้องไปๆกลับๆระหว่างสองมิตินี้ตลอดไปหรือเปล่า ใบ้ให้ว่าได้เจ้าของร้านกาลเวลาเป็นคนช่วยค่ะ แต่จะวิธีช่วยวิธีไหนให้ลองเดาดูนะคะ แต่มันน่าช่วยไหมเนี่ย นางเอกมาเรียกมิตรที่น่ารักของเราว่า ลุงมิตร!!! (แม้จะเป็นลุงจริงๆก็เถอะนะ แต่เรียกแบบนี้มิตรดูแก่ไปเลย เอิ๊กๆๆๆ )

ปล. ณ วันนี้ยังอ่านนักเขียนคนสุดท้ายคือบุลินทรไม่จบ (2 เล่ม) หนังสือใหม่ที่ออกในงานหนังสือ#42 ก็เริ่มต้นดองแล้ว 3 เล่ม T T มันคงผิดที่เราอ่านช้าสินะ