เราไม่ได้แต่งหน้าจัดเต็มทุกวัน แต่ลงรองพื้นไม่เคยขาดทำให้ต้องใช้เคลนเซอร์ล้างเครื่องสำอางทุกครั้ง สภาพผิวเราก็มันมากตามแบบหญิงไทยทั่วไปและมีปัญหาสิวอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้หนักหนา ส่วนมากเราจะชอบใช้เคลนเซอร์ที่เป็นออยส์มากกว่าพวกครีมหรือโลชั่นเพราะมันลื่นดีแล้วก็ไม่ค่อยแสบตา รีวิวนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ เลยนะคะ เชิญชมได้ ขอให้เรตคะแนนด้วย เต็มที่ 5 คะแนนแล้วกันนะคะ

DHC - Deep Cleanser Oil

เป็นเคลนเซอร์ตัวแรกที่ใช้ และก็ใช้ติดต่อกันหลายขวดอยู่ ถึงเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นก็แอบวนกลับมาซื้อตัวนี้ ถือเป็นออยล้างเครื่องสำอางตัวหลักของเราเมื่อก่อน (แต่ตอนนี้เจอที่ถูกใจกว่าแล้ว) ตอนนั้นซื้อตามโฆษณาในทีวี ที่มีคนแต่งตาสีจัดๆ แล้วแค่ให้ออยไหลผ่านเครื่องสำอางก็หลุดออกไปเรยโดยที่ไม่ต้องนวดต้องถู

ข้อดี ละลายเครื่องสำอางดี ลื่นปรึ๊ด สิวเสี้ยนหรือสิวหัวเล็กเล็กหลุดตามออกมาด้วยเลย ใช้ไม่เปลือง เพราะมันมากแล้วก็ค่อนข้างใส ไร้กลิ่น

ข้อเสีย ต้องใช้น้ำเปล่าลูบแล้วนวดต่อซักพัก ถ้าล้างน้ำเลยบางครั้งล้างน้ำมันออกไม่หมดทำให้อุดตันเป็นสิวได้ จะใช้น้ำอุ่นล้างก็กลัวหน้าแห้งอีก คือต้องล้างออยละเอียดนิดนึง

ราคา ขวดเล็กประมาณ 400-500 บาท ซื้อในเว็บค่ะ

คะแนน 4

Biore - Cleansing Oil

หรือเจ้าขวดม่วงที่ใครๆ ว่ามันใช้ดี แต่เราว่าใช้แล้วมันแสบๆ หน้าอ่ะ ล้างเครื่องสำอางก็ไม่สะอาดเท่า DHC แต่ก็ดีว่าเอาเบบี้ออยมาใช้อ่ะนะ ขวดเดียวเลิกค่ะ แต่เราซื้อมาใช้นานมากแล้วนะก่อนที่จะมีวางขายในไทย ไม่รู้ตอนนี้เปลี่ยนสูตรรึยังนะ แต่คงไม่ลองแล้วล่ะค่ะ

ข้อดี ออยสีสวย

ข้อเสีย ล้างเครื่องสำอางไม่สะอาด ล้างน้ำออกก็ยาก แสบหน้าด้วย

ราคา จำไม่ได้ ไม่น่าเกิน 500

คะแนน 2

SK II - Facial Treatment Cleansing Oil

ถึงจะปะหน้าว่า SK II แต่ออยตัวนี้ก็ไม่ได้เริ่ดหรูอลังการเท่าไหร่นัก ก็ใช้ทาถูๆ ล้างเครื่องสำอางเหมือนทั่วไป ความสะอาดก็โอเคอยู่ แต่ราคามันไม่โอเคมากๆ เนื้อออยก็เป็นออยใสๆ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ส่วนตัวชอบ DHC มากว่าเพราะมันลืนปรื้ดกว่าและราคาเป็นมิตร

ข้อดี ไร้สี ไร้กลิ่น ล้างเครื่องสำอางสะอาดใช้ได้

ข้อเสีย ราคาสูง ล้างน้ำยากกว่า DHC นิดนึง

ราคา มันมากะเซตค่ะ แต่รู้ว่าแพงเกินจำเป็น อยากรู้ลองเสิร์ชดูนะ

คะแนน 2 (เพราะถ้าใช้ซื้อแยกคงต้องกินแกลบแน่)

Estee Lauder - Take It Away Gentle Cleansing Milk

โลชั่นล้างเครื่องสำอางที่มีหัวปั้มแถมมาให้ไม่ต้องซื้อแยก ใช้มา 3-4 ขวดแล้ว โอ มันใช้ดีขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่เลยเพราะมันจัดเซตแล้วมีไอ้ตัวนี้พ่วงมาด้วยต่างหาก ซื้อเซตไหนก็มักได้มันตามกลับบ้านมาด้วย คุณภาพก็กลางๆ ไม่ดีไม่ร้าย พอใช้ได้ แต่นวดๆ ไปเนื้อโลชั่นมันจะค่อยๆ แห้งลงเราก็กดใหม่เรื่อยๆ หวังให้มันหมดเร็วๆ แต่ขวดนึงกลับใช้ได้นานเหมือนกันนะ

ข้อดี มีหัวปั้มแถม ล้างเครื่องสำอางสะอาดพอใช้ ล้างน้ำออกง่าย

ข้อเสีย เนื้อเหลวไปหน่อย บางครั้งถ้าหน้าลอกแอบยิบๆ นิดนึง แต่ถ้าคนไม่ชอบมันๆ ตัวนี้โอเค

ราคา ไม่รู้ เพราะตัวนี้ชอบอยู่ในเซตโปรโมชั่นของเอสเต้ประจำ ไม่เคยซื้อแยกเดี่ยว

คะแนน 3

Botanics - Soothing Eye Make Up Remover 

ในขวดเป็นน้ำและน้ำมันแยกชั้นกันอยู่ ต้องเขย่าๆ แล้วเทใส่สำลีโปะไว้ที่ตาแล้วลูบออก เนื้อเคลนเซอร์มันมาก อย่าได้เอาไปเช็ดทั้งหน้าเพราะจะมันแผล่บๆ เดี๋ยวล้างยาก

ข้อดี ก็ล้างสะอาดดี แต่ต้องแปะไว้แป๊บนึงก่อน

ข้อเสีย เราไม่ได้ใช้ eye remover เพราะเสียเวลา ใช้แค่เคลนซิ่งรวดไปทีเดียวเลย คงเหมาะกับพวกแต่งตาแบบกันน้ำซะมากกว่า

ราคา ขโมยของน้องมาลอง หาได้ตามร้านบูทส์ทั่วไป ไม่แพงค่ะ หลักร้อย ไม่น่าเกินสามร้อยนะ (เดาล้วนๆ)

คะแนน 2 (สำหรับเราไม่จำเป็น + มันไป)

                                  Bifesta - Cleansing lotion รุ่น Moist (สำหรับผิวธรรมดา - ผิวแห้ง)

อันนี้เป็นตัวแรกเลยของบิเฟสต้าที่ซื้อมาลอง เป็นสูตรน้ำ คือมันเป็นน้ำจริงๆ อ่ะ ไม่ได้มีความหนืดข้นใดๆ เลย วิธีใช้ก็ให้ปั้มลงบนสำลีให้ชุ่ม (เน้นว่าให้ชุ่มนะคะ) แล้วก็แปะๆ เช็ดๆ ไปบนหน้าแบบเบาๆ มือ (เน้นว่าให้เบาๆ นะคะ) ก็กลับสำลีไปมาจนทั่วแล้วก็เปลี่ยนแผ่นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสะอาด ถามว่าสะอาดมั้ย สะอาดค่ะ หมดจดเกลี้ยงเกลา ถามว่าเปลืองสำลีมั้ย ก็เปลืองค่ะถ้าอยากให้สะอาด ถามว่าเปลืองเคลนซิ่งมั้ย ตอบว่ามากกกกค่ะ เพราะถ้าไม่ชุ่มพอสำลีก็บาดหน้าอีกเดี๋ยวหน้าเหี่ยวกันพอดี แถมกดทีมันพุ่งออกมาแบบแรงมาก ฉีดใส่สำลียังกระเด็นกระจายไปทั่ว (ส่วนนึงที่เปลืองก็ตรงนี้) กะก็ยาก กดทีไรมันก็คอยจะปริ๊ดออกมาทุกที ถามว่าเหมื่อยมั้ย ก็ตอบเลยว่ามาก เพราะขี้เกียจกลับสำลี แต่ถ้าใช้คอตต้อนบัดจุ่มแล้วเช็ดอินเนอร์ที่ใต้ตานะขอบอกว่าเริ่ดมาก แค่เช็ดเบาๆ ก็ออกแล้ว นี่ถ้ารวยนะอยากจะถอดจุกปั้มออกแล้วเทใส่มือล้างหน้าแทนน้ำเปล่าไปเลยน่าจะเวิร์ก แบบขวดนึงใช้ได้ครั้งนึง จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเช็ด

ข้อดี สะอาดค่ะ ใช้แล้วหน้าไม่แห้ง เค้าเคลมว่าไม่ต้องล้างน้ำซ้ำก็ยังได้ แต่เราไม่มั่นใจอ่ะเลยตามด้วย Acne Aid สีฟ้าแบบเบาๆ

ข้อเสีย เปลืองมากอ่ะ ความจริงก็เป็นเคลนเซอร์ที่ราคาไม่แพงนะ ประมาณ 400 บาท แต่มันหมดเร็วเกิ๊น ขี้เกียจไปซื้อบ่อยๆ อ่ะ 555 แล้วก็ใช้สำลีเช็ดหน้าทุกวันกลัวรูขุมขนแหกอ่ะค่ะ เพราะยิ่งเช็ดยิ่งมันมือ แรงขึ้น ๆ

ราคา ถ้าจำไม่ผิดประมาณ 420 นะ

คะแนน 4

Bifesta - Liquid

ขีดเส้นใต้เอาไว้ว่า ตัวนี้เป็นลูกรักที่สุดค่ะตอนนี้ ด้วยความที่เราชอบใช้เคลนเซอร์แบบออยที่สามารถล้างออกได้ด้วยน้ำเปล่า ตัวนี้เลยตอบโจทย์มากที่สุด เนื้อเคลนเซอร์เหมือนออยมีความหนืดและลื่น ล้างเครื่องสำอางออกหมดจดดี รวมถึงเมคอัพแบบกันน้ำต่างๆ ก็สามารถค่ะ ก็นวดๆ ไปหัวสิวต่างๆ ก็ลื่นหลุดออกมาพร้อมกัน ทั่วดีแล้วก็ล้างน้ำเปล่าออก แค่นี้ก็สะอาดแล้ว แต่ตามสูตรเราต้องตามด้วย Acne Aid สีฟ้าเหมือนเคย เพราะใช้แล้วหน้ามันลื่นๆ ดีและไม่แห้งด้วย รวมถึงชัวร์ว่าสะอาดจริง เคลนเซอร์ตัวนี้เนื้อมันเหมือนออยแต่มันคงไม่ใช่ออยทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะมันใช้น้ำเปล่าล้างออกง่ายมาก แต่ก็ไม่รู้นะว่าส่วนผสมมันมีอะไรบ้างรู้แต่ว่าเริ่ดอ่ะ ขวดนึงใช้ได้นานนนนดี ทั้งๆ ที่เราหน้าใหญ่และบางวันรองพื้นหน้าเลยใช้ค่อนข้างเยอะมาก แต่ก็ใช้ได้นานลื๊ม

ข้อดี ถูมัน ลื่นปรื๊ดๆ ไม่มีกลิ่น แถมหัวจุกที่เทดีไซน์ดีมากอ่ะ เวลาเทออกมาแล้วไม่มีไหลย้อยเลย

ข้อเสีย อืม...

ราคา น่าจะ 420-450 ใกล้เคียงตัวบนนะ

คะแนน เต็ม 5 ไปเลยลูก

Bifesta - Gel

นับวันๆ Bifesta ก็จะยิ่งมีผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ออกมามากขึ้นๆ ตอนแรกมีอยู่ 3-4 รุ่น จนตอนนี้แทบจะล้นออกมานอกเชลฟ์ พวกเคลนเซอร์รุ่นที่เป็นน้ำๆ แบบหัวปั้มเราคงจะลาขาด เพราะเทใจไปให้แบบ Liquide (ก็คือรุ่นที่เป็นแบบออยอ่ะค่ะ) หมดแล้ว แต่วันนึงตาเหลือบ (หรือจะเหลือกดี) ไปเห็นรุ่นที่มันเป็นเนื้อเจลเข้า เฮ้ย ไม่ได้ ตอนลองสอยเอามาถูหน้าดูหน่อย ผลที่ได้ก็โอเคนะ ชอบเลย สะอาดดีแถมหน้าก็ไม่ได้แห้งอย่างที่คิด ไม่มีกลิ่นแอลกอฮอล์ ไม่แสบ รุ่นนี้สำหรับเราจะเอาไว้พกเวลาเดินทาง จะพกไปทั้งหลอดหรือแบ่งใส่ตลับเล็กไปก็ได้ ด้วยความเป็นเจลมันเลยไม่ไหล ไม่มัน แต่ถ้าเอาไปทั้งหลอดก็ใสถุงซิปไปหน่อยก็ดี กันกระเป๋าถูกทับจะได้ไม่ถูกบีบออกมาเลอะเทอะ แต่ก็ยังไม่เคยหกนะเพราะจุกมันค่อนข้างปิดแน่นดี

ข้อดี ล้างน้ำออกง่ายกว่ารุ่นออย (Liquid) หน่อยนึง ความสามารถในการล้างเครื่องสำอางก็ไกล้เคืองกันนะ แล้วก็ไม่ไหลย้อยง่ายเหมือนออยด้วย

ข้อเสีย ความจริงก็ไม่ได้หมดเร็วอย่างที่คิด ครั้งนึงใช้ปริมาณไม่มาก แต่รุ่น Liquid ยังไงก็ใช้ได้นานกว่า

ราคา พอกะด้านบน

คะแนน 4.5

Create Date : 17 กันยายน 2556
Last Update : 20 กันยายน 2556 10:18:17 น.		0 comments
Counter : 1014 Pageviews.
Share Tweet