ขึ้นจากแพที่ข้ามมาจากเกาะลันตามาแล้วเราก็มุ่งหน้ามาออกทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) เลี้ยวขวาลงมาทาง ตรัง แล้วมาเลี้ยวขวาใช้ทางหลวงหมายเลข 4046 ผ่าน อ.สิเภามาหน่อยก็เลี้ยวขวามาใช้ ทางหลวงหมายเลข 4162 เข้าหาดปากเม็งถนนมาบรรจบกับถนนเลียบชายหาดก็เลี้ยวขวา(อีกครั้ง)มายังท่าเรือปากเม็งที่เป็นจุดศูนย์กลางการท่องเที่ยวหมู่เกาะทะเลตรัง.ขอบคุณ แผนที่จากgoogle ระหว่างที่ขับเลีบยชายหาดมาท่าเรือ เราทุกคนไม่มีใครมองทางขวามือเลย มองแต่ทะเลทางซ้ายมือ...เห็นเกาะแก่งมากมาย...โอ้โหทะเลสวยอีกแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาเที่ยวทะเลตรังเลยดูมันตื่นตาตื่นใจไปหมดท่าเรือปากเม็งถึงท่าเรือเวลาประมาณ 9.00น. วันนี้เราใช้บริการของ บ. ลิบงการท่องเที่ยวที่โทรจองไว้ล่วงหน้า (เมื่อวานก็โทรตามเรา เมื่อเช้านี้ระหว่างขับรถมาก็แอบโทรตามอีก) ในราคาคนละ 750 บาท พร้อมอุปกรดำน้ำ อาหารกลางวัน(บุฟเฟ่)บนเรือ ส่วนรถนั้นฝากไว้ที่ บ.ลิบงนี่แหล่ะ (ค่าฝากวันละ 50 บาท) และเตรียมของใช้ส่วนตัวรอเวลาลงเรือกันระหว่างที่รอ มาดูบรรยากาศบริเวณท่าเรือกันจร้า...เก็บภาพกำลังเดินไปลงเรือ9.30 น.ได้เวลาลงเรือจ้า เรือของ บ.ลิบงเป็นเรือทัวร์ลำใหญ่ 2 ชั้น ชั้นล่างวันนี้มีกรุ๊ปเหมาทั้งชั้น ส่วนชั้นบนเป็นนักท่องเที่ยวที่ซื้อแพ็คเกจมากันเองเรือค่อยๆพาเราออกสู่กลางทะเล มุ่งไปทางเกาะที่มีรูปร่างคล้าย....?ภาพนี้...คล้ายกับคนท้องนอนอยู่แต่พอเปลี่ยนมุม...จินตนาการเริ่มเปลี่ยน อิ อิหันกลับไปดูท้ายเรือกันบ้างเป็นไรระหว่างเดินทางมาถ่ายรูปกันหน่อยจ้า....เรือใช้เวลาประมาณ 50 นาทีก็ถึงเกาะมุกเรือผูกทุ่นใกล้กับหน้าผา เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าถ้ำมรกตแต่ว่าปากถ้ำซ่อนตัวอยู่ในหลืบหินมองหาเท่าไหร่ก็ไม่เห็นจากบนเรือเลย สังเกตุจากสีน้ำบริเวณนี้น้ำลึกมากพอดูวิธีเข้าถ้ำก็ทำได้ด้วยการเข้าแถวเรียงหนึ่งเกาะหลังต่อๆกันไป โดยมีไกด์อยู่หน้าคอยลากจูงแถวของลูกทัวร์ พวกลูกทัวร์ก็ช่วยกันออกแรงใช้เท้าปั่นน้ำในท่าปั่นจักรยาน ค่อยๆเคลื่อนตัวผ่านเข้าไปภายในถ้ำที่ค่อยๆมืดลง...มืดลง...จนในที่สุดก็มืดสนิท...บรื๋อ..ซซซปากถ้ำมรกต?...ไม่ว่าจะดูไกลๆ...หรือมาจอดอยู่ใกล้ๆอย่างนี้ ดูดิ..ปากถ้ำอยู่ตรงไหนเอ่ย?หลังจากตะกุยน้ำท่ามกลางความมืดมิดด้วยความตื่นเต้นอยู่สักครู่ใหญ่ (แต่เหมือนนานสักชั่วโมงหนึ่งได้) เราก็เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปากถ้ำด้านใน แล้วเท้าก็เริ่มแตะถึงพื้น อา...(รอดตายแล้วเรา) ไม่รู้ว่าใครกันที่เป็นผู้ค้นพบถ้ำแห่งนี้เป็นคนแรก...สุดยอดจริงๆ ทำให้คนได้รู้จักและมีชื่อเสียงไปทั่วคนมาเที่ยวกันมากมาย ขนาดว่าวันนี้ไม่ใช่วันหยุดเทศกาล ก็ยังมีนักท่องเที่ยวนับร้อยๆ คนเข้ามาอยู่ในนี้ถ้ำด้านใน มีนักท่องเที่ยวมากๆทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติภายในถ้ำมรกตเล่นน้ำ ถ่ายรูปในถ้ำแถมอีกภาพจร้าขากลับออกมาก็ใช้วิธีเดียวกับตอนเข้า และก่อนจะออกนอกถ้ำ จะได้เห็นสีของน้ำทะเลที่ถูกแสงแดดส่องลงมาเป็นสีเขียวเข้ม แต่วันนี้แสงแดดไม่แรงเท่าไหร่ จึงไม่ได้เห็นเป็นสีมรกตเท่าที่ควร. ต่อจากนั้นเรือก็พาเราเดินทางไปยังเกาะต่อไป...เกาะกระดานเป็นเกาะที่ 2 ของรายการวันนี้ เกาะกระดานอยู่เลยจากเกาะมุกไปอีกหน่อย เป็นเกาะเล็กๆแต่ถูกจัดให้เป็นเกาะที่สวยงามที่สุดของทะเลตรัง มีหาดทรายขาวและกว้างมากๆ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีรายการขึ้นเกาะ ที่เกาะนี้มีรีสอร์ทของเอกชนและที่พัก ,เต้นท์ ,ร้าอาหารสวัสดิการในช่วงฤดูท่องเที่ยวของอุทยานเจ้าไหมให้เช่าด้วยตั้งใจเอาไว้ว่า มาเที่ยวตรังอีกเมื่อไรจะมานอนที่เกาะกระดานแล้วดำน้ำดูปะการังให้ชุ่มปอดเล้ย...แนวปะการัง อ่าวเนียง เกาะกระดานแนวปะการังบริเวณเกาะกระดานนี้ จัดว่ายังสมบูรณ์มากๆ ทำให้คิดต่อไปว่าถ้าได้มาพักบนเกาะก็แจ่มเลย เพราะแนวปะการังอยู่ใกล้ๆชายหาดไม่ต้องเช่าเรือไปที่อื่นเลย คงจะดำกันได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ หลังจากดำน้ำชมประการังแสนสวยกันแล้ว ก็ได้เวลาอาการมื้อเที่ยง เป็นบุฟเฟ่ที่อร่อยมากกินบนเรือกันที่อ่าวเนียงเกาะกระดานนี้เลยบ่ายโมงกว่าๆ หลังจากอิ่มกันแล้ว เรือพาดำน้ำที่เกาะเชือกเป็นรายการต่อไปผ่านเกาะแหวนเกาะเชือกกำลังรอเราอยู่ที่นั่นที่เกาะเชือกมีที่พัก(ของคนเฝ้ารังนก)ด้วยเจอะกัยเรือทัวร์ลำเดิม มาจองที่ตรงล่องน้ำไปซะแล้ว...เมื่อเรือผูกทุ่นริมหน้าผาเลยร่องน้ำมาหน่อยแล้วก็เริ่มกิจกรรมลงดำน้ำกันเลย... บริเวณนี้น้ำนิ่งมาก แม้ว่าจะไม่ใสและทั้งปลาทั้งปะการังไม่มากเท่าเกาะกระดาน ส่วนใหญ่เป็นปะการังเขากวาง เห็นร่องรอยแตกหักหลายจุด เป็นเพราะว่าน้ำตื้นและไม่ระวังของนักท่องเที่ยว แต่ที่นี่ก็มีเรื่องตื่นเต้นมากสำหรับเรา...บริเวณที่เราดำน้ำริมหน้าผา เกาะเชือกและในขณะที่เราว่ายดูปะการัง สลับกับความรู้สึกเสียดายปะการังที่เสียหายอยู่นั้น ทันใดนั้นเองงูงูตัวเป็น ๆจ้า ว่ายออกมาจากดงปะการัง โอ้..ว้าว..ไม่รู้ว่าใช่งูทะเลปล้องดำหรือเปล่า(ซึ่งมีลายดำสลับขาวหรือเทาอ่อนๆ) แต่ที่เห็นเป็นดำสลับเหลืองครับสถานที่จริง...บรรยากาศจำลอง งูทะเลปล้องดำจัดเป็นงูที่มีพิษ แต่จะใช้จัดการกับเหยื่อที่เป็นอาหาร ยังไม่เคยมีรายงานว่านักท่องเที่ยวโดนกัดเลย นอกจากคนหาปลาตามแนวป่าชายเลนจ้า...แต่ขึ้นชื่อว่างูแล้ว อยู่ให้ห่างไว้นะเป็นดีที่สุด...เกาะสุดท้ายสำหรับวันนี้คือเกาะม้าที่ดูอย่างไรก็ดูเหมือนกับอานม้ามากกว่า จากรูป จะเห็นว่าเกาะนี้ไม่มีพื้นที่หรือโขดหินเลย เป็นหน้าผารอบเกาะ แต่ที่นี่มีสัมปทานรังนก คนเฝ้ารังนกจึงต้องอาศัยอยู่ในเรือแทนรูปร่างของเกาะม้าเรือเฝ้าสมบัติ(รังนก)ที่เกาะม้ามีปะการังมากพอสมควร ข้างๆกองหินมีปะการังอ่อนด้วย แหม...นี่ถ้าน้ำใสอีกนี๊ด...แดดจัดอีกหน่อยละก็ จะประทับใจไม่แพ้เกาะอื่นๆเล้ย พี่น้อง...กองหินใกล้ๆเกาะม้าว่ายดูอยู่สักพัก ชักเริ่มหนาว...เลยหนีขึ้นเรือก่อน ปล่อยแม่ลูกเค้าว่ายดูกันต่อไป จนได้เวลาประมาณบ่าย 15.30 น.ไกด์ก็เรียกลูกทัวร์ขึ้นเรือเพื่อเดินทางกลับ โดยบนเรือเตรียมอาหารว่าง โอวัลติน-กาแฟ ไว้ให้จิบแก้หนาวด้วย...เยี่ยมไปเลยครับเกาะม้าซู๊ด ด ด...อา..ซ ซ(เสียงซดกาแฟจร้า..)กำลังหนาว ๆ นะ...ได้ซดกาแฟอุ่นๆนะ...ชมทิวทัศน์ไปด้วยนะ...โอว สุขอย่าบอกใครเชียวล่ะ สลับกับการบอกเล่าเรื่องราวความประทับใจของเราแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะเรื่องที่เราสองคนเจองู ส่วนน้านกยังติดใจที่เธอมาดูปลาทะเล แต่ดันมาเจอปลากัดซะงั้น!! โถ...แค่เจ็บ จิ๊ด จิ๊ด....บ่นไม่เลิก อิ อิวิวแกล้มกาแฟที่บนฝั่งเราขับออกจากท่าเรือตรงไปตามถนนเลียบชายหาด คราวนี้ไม่มองออกทะเลแล้ว แต่มองหาที่พักแทน กะว่าจะขับหาไปเรื่อยๆจนถึง อช.หาดเจ้าไหมโน่น แต่ขับออกมาได้หน่อยเดียวก็เจอแล้ว ปากเม็งรีสอร์ท...ไชโย หลังจากสาวๆเข้าไปดูห้องกันแล้วก็ตกลงพักที่นี่เลย (คืนละ700 บาทไม่มีอาหารเช้า) ไม่มีสระว่ายน้ำแต่ห้องสะอาดได้มาตรฐาน ขออภัยไม่มีภาพบ้านพักที่นี่ก็มีบริการทัวร์ทะเลตรังด้วยนะ ในราคาสำหรับแขกที่พักที่นี่ เพียงคนละ 650 บาทเท่านั้นแหม...ไม่รู้มาก่อนเล้ย ม่ายงั้นประหยัดไปอีกคนละ 100 บาทเชียวนะร้านอาหารของรีสอร์ทร้านอาหารของที่นี่ ตบแต่งได้บรรยากาศเข้ากับคนหน้าตาดี หุ หุ ราคาไม่แพง อาหารอร่อยจ้าได้เวลาก้มหน้าก้มตา...กินภาพนี้เดิมทีมีโคมไฟเจิดจ้ารบกวนสายตามาก เลยโคลนพุ่มไม้มาปิดไฟซะเลย จะได้ไม่ต้องกลัวใครแอบดูเราสองคน อิ อิชายหาดปากเม็งยามเย็น...ที่แสงกำลังน้อยลง...น้อยลง...แล้วก็หมดลงในที่สุด...พร้อมทั้งฝนก็เริ่มโปรยปรายลงมาพอดีพรุ้งนี้เช้าเราจะเข้าไปกินหมูย่างในตัวเมืองตรังกัน แล้วเดินทางต่อไปท่าเรือปากบาราเพื่อไปเกาะหลีเปะกันแล้วขออนุญาติเชิญตามไปเที่ยวด้วยกันนะครับ... Create Date : 31 สิงหาคม 2553 Last Update : 24 มกราคม 2554 1:38:44 น. 0 comments Counter : 6069 Pageviews. ShareTweet
ขึ้น
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [
