เมือง น่าน เมื่อนานมาแล้ว 4 วัดภูมินทร์,ในเมือง
..เมื่อกลับมาถึงที่โรงแรมเทวราชที่จองเอาไว้ 3 ห้องแยกกันไปคนละห้อง นุ้ยกับโจ้ห้องหนึ่ง พี่หลวย หนึ่ง น้องเดียร์อีกห้องหนึ่ง อีกห้องก็เป็นของเราพ่อแม่ลูก เรายังจัดข้าวของไม่เข้าที่เลย น้องเดียร์กับน้องฝ้ายอยากจะไปเล่นน้ำที่สระของโรงแรมที่อยู่อีกที่หนึ่งไม่ไกลกันนัก แต่ก็ไม่มีผูใหญ่คนไหนไปด้วย ต้อมก็จัดของออกจากกระเป๋าไม่เสร็จ ส่วนผมปรกติก็ชอบเล่นน้ำมากเหมือนกัน แต่วันนี้แบตตารี่อ่อนเต็มที อากาศก็เริ่มหนาวๆ น้ำต้องเย็นเจี๊บแน่ๆ ครั้นจะปล่อยให้สองสาวน้อยไปกันตามลำพังก็ไม่ได้ พี่หลวยจึงบอกให้พี่หนึ่งไปเป็นเพื่อนแทนทั้งที่ไม่ได้เล่นด้วย ทั้งสามคนหายไปสักพักก็เดินสั่นกลับมา...."หนาวมากค่ะ น้ำก็เย็นเจี๊ยบเลย ไม่มีคนเล่นสักคน"น้องฝ้ายพูดจบรีบเข้าอาบน้ำอุ่นทันที คุณแม่ต้อมพูดตามหลังไปว่า "ก็มันหนาวแบบนี้ใครเค้าจะอยากไปเล่นล่ะคะ" เมื่อตอนที่ผมกำลังหาจองที่พักอยู่น้องฝ้ายย้ำถึงความต้องการของเธอเสมอว่า ต้องมีทีวีนะ(อันนี้คุณแม่ต้อมก็ต้องการเหมือนกัน) และต้องมีสระน้ำด้วย......โรงแรมเทวราชอยู่ติดกันโรงแรมน่านฟ้า โรงแรมก่าแก่ของเมืองน่านตอนค่ำพวกเราออกมาเดินเล่นที่ถนนด้านหน้าโรงแรม ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้เค้าเปลี่ยนให้เป็น เป็น..เอ่อ ถนนคนเดิน..ตลาดนัดกลางคืน หรือตลาดโต้รุ่งอยู่รวมๆกัน ขายของหลากหลายดี เดินกันเพลินจนลืมหิว แล้วเราก็จบวันนี้ด้วยมื้อค่ำมื้อใหญ่ที่อร่อยและอบอุ่น.... zzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzzเช้าวันใหม่ หลังจากอาหารเช้าของโรงแรมกันแล้ว เราเดินออกไปเที่ยวที่วัดถูมินทร์เป็นที่แรก เพราะวัดอยู่ไม่ไกลมาก อากาศเช้านี้สบายๆ ไม่หนาว ร้านค้าต่างๆปิดกันหมด เมืองดูเงียบมากที่บริเวณใกล้กับวัดภูมินทร์ ผมขอเรียกสี่แยกแห่งการท่องเที่ยวก็แล้วกันเพราะตรงข้ามกับวัดภูมินทร์คือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน หัวมุมถนนอีกด้านคือวัดพระธาตุช้างค้ำ ยังมีวัดหัวข่วงที่อยู่ติดกับพิ พิธภัณฑด้วย....ระหว่างทางเดินไปวัดภูมินทร์ก็ชมไม้ ชมเมืองไปเรื่อยๆ....วัดภูมินที่ต้องมาถ่ายด้านข้างเพื่อเลี่ยงย้อนแสง.....................................ปี 2550....กระซิบรักบันลือโลก...ภาพนี้ถ่ายมาปี 53 "น่าน เมื่อกาลครั้งสอง....."...วัดพรธาตุช้างค้ำ มองจากหน้าวัดภูมินทร์ ปี 53...ภาพนี้มองจากหน้าพิพิธภัณน่าน ปี 50 ซึ่งเราไม่ได้เข้าไปชม..? นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ต้องมีครั้งที่สองจาวัดภูมินทร์เราก็เดินข้ามฝั่งมาชมพิพิธถัณฑแห่งชาติน่าน ภานในจัดแสดงไว้อย่างหน้าชมมาก ทั้งด้านประวัติศาตร์ โบราณคดี ชาติพันธุ์ มากมายใครที่ได้มาเที่ยวเมืองน่านจะต้องไม่พลาดมาชมที่นี่ด้วย น่าเสียดายที่ไม่อณุญาติให้ถ่ายรูป (เว้นแต่จะทำหนังสือขอเป็นทางการ) ไม่อย่างนั้นงาช้างดำต้องได้ภาพมาโชว์ให้ดูกันแล้ว ทางเดินห้นาพิพิธภัณฑ์เดินออกทางด้านข้างของพิพิธภัณฑ์ข้ามถนนซอยมาชมวัดไหว้พระที่วัดหัวข่วงวิหารวัดหัวข่วง....และเจดีย์ที่มีรูปแบบศิลปล้านนา สกุลช่างเมืองน่าน บริเวณภายในวัดได้รับการตกแต่งดูแลเป็นอย่างดี....จากนั้นเราก็เดินชมเมืองกลับมาเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมเพื่อออกเดินทางไปอำเภอ "ปัว"
เพราะไกลจึง..มิได้..ดังใจหวัง
เห็นครั้งใดเหมือน..ใจ..มีพลัง
เพราะความรักความหลังที่..ฝังใจ
.....ขอบคุณ...หมุนตามไมล์...ที่พาหัวใจกลับไปที่เดิม