น้ำอัดลม ควรดื่มให้นัอยลง
น้ำอัดลม ควรดื่มให้นัอยลง
เมื่อคุณดื่มน้ำอัดลมครั้งต่อไป .... ลองอ่านส่วนผสมของน้ำอัดลมจากข้างขวดดู แล้วคุณจะพบว่าหนึ่งในส่วนผสมนั้นคือ กรดฟอสฟอริก และเอธีลีนไกลคอลอีกเล็กน้อย
เอธีลีนไกลคอลนี้เป็นที่รู้จักกันดีในวงการน้ำอัดลมว่า เป็นตัวทำให้น้ำอัดลมเย็นจัด และช่วยป้องกันการแข็งตัวที่อุณหภูมิ 0 องศา โดยจะทำให้น้ำอัดลมแข็งตัวที่อุณหภูมิต่ำกว่านั้น คือ -4 หรือ -5 องศา
สารเคมีตัวนี้ยังเป็นสารพิษอย่างอ่อนๆที่จัดอยู่ในกลุ่มของสารหนู เพราะฉะนั้นถ้าคุณดื่มน้ำอัดลม 4 ลิตร ภายในเวลาประมาณ 1 ชม. คุณอาจตายได ลองอ่านกันดูต่อไป แล้วเลิกดื่มน้ำอันตรายนี้เถิด หันไปดื่มน้ำธรรมชาติ เช่น นม น้ำมะพร้าว น้ำเปล่า แทนจะดีกว่า
ลองทายกันดูสิว่าค่า pH (ค่าความเป็นกรด-ด่าง) ของน้ำอัดลมมีค่าเท่าใด คำตอบคือ 3.4! ความเป็นกรดขนาดนี้สามารถทำให้ กระดูกและฟันผุกร่อนได้ และน่าเสียดายที่ว่าร่างกายคนเราหยุดสร้างกระดูกที่อายุ 30 เท่านั้นเอง น้ำอัดลมไม่ได้ให้สารอาหารใดๆที่มีคุณค่าต่อร่างกายเลย ซ้ำยังมีน้ำตาล กรดคารบอนิก และสารเคมีอื่น เช่น สีผสมอาหาร เป็นต้น บางคนชอบดื่มน้ำอัดลมหลังอาหาร โดยที่ไม่รู้ว่าผลกระทบของมันเป็นเช่นไร เอนไซม์ช่อยอาหารจะทำงานได้ดีที่ระดับอุณหภูมิ 37 องศา แต่อุณหภูมิน้ำอัดลมแช่เย็นจะต่ำกว่านี้มาก บางครั้งอาจต่ำจนเกือบถึง 0 องศา ซึ่งความเย็นขนาดนี้ทำให้เอนไซมจือจาง และระบบย่อยอาหารผิดปกติ อาหารที่เรากินเข้าไปจะไม่ย่อย ซ้ำยังหมักหมมจนเกิดแก๊สและของเสียที่จะกลายเป็นพิษ
สารพิษนี้จะถูกดูดซึมไปทั่วร่างกาย ก่อให้เกิดโรคต่างๆนานาตามมา แล้วเกิดอะไรขึ้นอีกเมื่อเราดื่ม น้ำอัดลม ลมนั้นก็คือคารบอนไดออกไซด์นั่นเอง
ตามปกติแล้วไม่มีใครแนะนำให้คุณดื่มคารบอนไดออกไซด์ เมื่อ 2 เดือนที่แล้วที่มหาวิทยาลัยเดลลี มีการแข่งขัน
"ใครจะดื่มน้ำอัดลมได้มากที่สุด" ผู้ชนะดื่มน้ำอัดลมไป 8 ขวดรวด แล้วล้มฟุบบนเวทีแข่งขันนั้นเอง
เนื่องจากว่ามีปริมาณคารบอนไดออกไซดในเลือดสูงมากเกินไป อธิการบดีจึงสั่งห้ามขายน้ำอัดลมทุกยี่ห้อในโรงอาหารของมหาวิทยาลัย นี่อาจเป็นตัวอย่างของคนที่ดื่มมากจนถึงขีดสุด แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็คงเป็นอุทธาหรณ์สำหรับคนที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าน้ำอัดลม จะเป็นอันตรายมากเพียงนี้
ยังไม่จบเท่านั้น มีคนเคยทดลองใส่ฟันลงไปในขวดน้ำอัดลม เชื่อหรือไม่ว่า ภายในเวลาเพียง 10 วัน ฟันนั้นถูกกัดกร่อนจนละลายไป ทั้งๆที่ฟันและกระดูกเป็นส่วนที่แข็งแรงที่สุดในร่างกายมนุษย์ ถึงแม้ร่างกายจะเน่าเปื่อยผุพังไป ฟันและกระดูกก็ยังคงสภาพอยู่เป็นปี แล้วคิดสิว่าลำไส้และกระเพาะที่อ่อนนุ่มของเราเล่าจะถูกกัดกร่อนมากเพียงใด คำร้องขอ ช่วยกันส่งข้อความนี้ไปยังเพื่อนๆที่คุณห่วงใย เพื่อช่วยให้เขาตระหนักถึงภัยของน้ำอัดลม ในอินเดีย เราพบว่า แทนที่คนจะจ่ายเงินเพียง 7-8 รูปี ซื้อน้ำมะพร้าวหอมหวาน กลับชอบที่จะจ่ายเงิน10 รูปี เพื่อซื้อน้ำที่อันตรายเหล่านี้
Create Date : 12 พฤศจิกายน 2550 |
|
2 comments |
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2550 12:40:31 น. |
Counter : 664 Pageviews. |
|
|
|
พอดีเพิ่งกลับจากเที่ยวอเมริกาครับ
รู้ไหมครับ น้ำอัดลมที่นั่นก็ราคาแพงกว่าเครื่องดื่มอื่นๆเช่นกัน
ทั้งๆที่คนที่นั่นดื่มน้ำอัดลมมากกว่าคนไทยแน่ๆ
ตามหลักเศษฐศาสตร์ ต้นทุนก็น่าจะถูกกว่าไทยเรา (เมื่อเทียบกับต้นทุนอย่างอื่น)
แต่เมืองไทยเราน้ำอัดลมกลับเป็นน้ำที่ถูกกว่าเครื่องดื่มอื่นๆ
ผมก็ยอมรับครับว่าเวลาอยู่นอกบ้าน หลายครั้งที่เลือกดื่มน้ำอัดลม ก็เพราะว่ามันถูกกว่าน้ำชนิดอื่นๆ ชาเขียว น้ำส้มคั้น สปอรต์ดริ้ง ฯลฯ
ตอนนี้กลับจากอเมริกาหมาดๆ ก็ติดน้ำอัดลมกลับมาจากที่นั่นเหมือนกัน
น้ำที่นั่นแรงและซ่ากว่าบ้านเราเยอะเลยครับ กินแล้วซาบซ่าน่าดู
ปล. แต่เรื่องที่เอาฟันแช่น้ำอัดลมแล้วถูกกัดจนหายไป อันนั้นไม่จริงแน่ครับ ทดลองดูก็ได้
น้ำอัดลมเปิดทิ้งไว้หลายวันกรดก็หายหมดแล้วครับ