|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ประสบเกินการสัมภาษณ์งาน.. ตอนที่ 3
ความเดิมจากตอนที่เเล้ว ..
พวกที่อ่านหนังสือเเค่ก่อนสอบคงรู้ดีว่า วันก่อนสอบสำคัญยิ่งกว่าคืนหมาหอนตอนเลือกตั้งซะอีก
พอไปตะลอนๆ สอบสัมภาษณ์มา (แถมบ่นๆๆ ทั้งวันด้วยความเซ็ง)
วิธีเดียวที่ทำให้อ่านหนังสือทันสอบ คือ... อ่านหนังสือยันเช้า... นอนงีบเล็กๆ หนึ่งงีบ เเล้วก็ไปสอบ... เสร็จเเล้ว ค่อยกลับมานอนต่อ (อย่าเลียนเเบบนะเด็กๆ)
วันนั้นสอบบ่าย ดังนั้นเราจึงอ่านยันเเปดโมงเช้าเเล้วงีบ ประมาณ 10 โมงได้มั้ง .. เสียงโทรศัพท์ก็ดัง
เสียงหวานๆ มาตามสาย >> สวัสดีค่ะ ขอสายคุณ น้ำผึ้งหยดเดียวค่ะ เรา สะลึมสะลือ: เรียนสายอยู่ค่ะ (ใครวะ) >> ดิฉันโทรมาจากบริษัท XYZ เพื่อเเจ้งให้ทราบว่าคุณผ่านการสัมภาษณ์.. เราขัด (งง ตื่นขึ้นมาหน่อย): อะไรนะคะ >> ดิฉัน A (ชื่อจริง ย้ำช้าๆ) จาก XYZ โทรมาเพื่อเเจ้งว่าคุณผ่านการสัมภาษณ์ค่ะ
เรา (หัวเราะ ไม่เชื่อ งัวเงียๆ): ไม่เอาน่ะ เพื่อนโบใช่ไหม (คนที่รู้ว่าเราไปสัมภาษณ์) อย่าอำเลย ไม่ขำนะ เรามีสอบบ่าย >> ไม่อำค่ะ ดิฉัน A จริงๆ เเละคุณผ่านการสัมภาษณ์จริงๆ
เรา (ยังไม่เชื่อเเต่ตื่นเเล้ว): หืม จริงๆเหรอคะ พี่โทรผิดคนหรือเปล่าคะ หนู น้ำผึ้งหยดเดียว สุดสวยนะคะ >> ไม่ผิดเเน่ค่ะ น้ำผึ้งหยดเดียว สุดสวย
เรา (ย้ำ): น้ำผึ้งหยดเดียว สุดสวย รวยสเน่ห์ เท่ห์ซะไม่มี เเสนดี เเละมีคลาสนะคะ (เเน่นอน นั่นคือชื่อเต็มเรา 555) >> เเน่ค่ะ เป็นน้องผู้หญิงคนเดียวในลิสต์ที่พี่มีตอนนี้เลย เเต่วันนี้ยังมีสัมภาษณ์อีก เรา : จริงดิพี่ หนูผ่านจริงๆอ่ะ >> เอ ทำไมเชื่อยากจัง .. (หัวเราะ) ผ่านจริงๆค่ะ .. พี่โทรมาเพื่อนัดสัมภาษณ์รอบสอง อยากทราบว่า วันพฤหัสเนี่ยน้องสะดวกไหม เรา : วันพฤหัส ... พรุ่งนี้นี่คะ >> ค่ะ ติดสอบรึเปล่าคะ เรา : ไม่มีสอบพอดีค่ะ .. เช้าหรือบ่ายคะ >> ทั้งวันค่ะ เป็นกิจกรรมกลุ่ม เรา : (อึ้ง) เอ่อ ก็ได้ค่ะ (ตูจาอ่านหนังสือออออ) >> ตกลงมาได้นะคะ เเปดโมงเช้า ที่ XYZ ที่น้องมาสัมภาษณ์ เรา : (อึ้งอีกที) ค่ะ >> อย่าลืมเตรียมpresentation 15 นาที รายละเอียดตามเอกสารที่ได้ไปวันสัมภาษณ์ นะคะ ........................................................
เราตื่นเลยง่ะ เเล้วก็มานั่งงงๆ ไม่อยากเชื่อ ผ่านได้ไงวะ ... ก็ยัยผู้จัดการนั่นบอกว่าเราห่วยๆๆๆ ขณะที่กำลังงงๆ นอนคิดๆ อยู่เพลินๆ (หนังสือไม่อ่านเเล้ว)
เสียงโทรศัพท์ก็ดังใหม่ >> สวัสดีค่ะ A จาก XYZ นะคะ เรา : 555 พี่จะโทรมาบอกหนูใช่ไหมล่ะ ว่าโทรผิดคน >> (หัวเราะ) ไม่ใช่ค่ะ จะโทรมาเลื่อนเวลา เป็น 7 โมงครึ่งต่างหาก ............................................................
ทำไมมันเช้านักวะ!!!
เเล้วโทรศัพท์ก็ดังอีกครั้ง คราวนี้เราต้องวิ่งออกมารับจากในห้องน้ำ >> พี่ A อีกเเล้วนะคะ เรา : อย่าบอกนะพี่ว่าเลื่อนเป็น เจ็ดโมง >> (หัวเราะ) ไม่ใช่ค่ะ ยังเจ็ดโมงครึ่งอยู่ พี่เเค่จะบอกว่า น้องใส่กางเกงมาก็ได้นะคะ ไว้ทำกิจกรรมกลุ่ม เรา : งั้น ก็ไม่ต้องเเต่งนักศึกษาก็ได้ ใช่ไหมคะ >> น้องมีชุดนักศึกษาชายเหรอคะ เรา : (หัวเราะ) ไม่มีหรอกค่ะ มีเเต่เสื้อชอป >> เสื้อชอปก็ได้ค่ะ เรา : ขอบคุณค่ะ งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะคะ
เย็นวันนั้น สอบเสร็จก็ไม่เป็นอันทำอะไร นั่งร่างpresentation บอกเล่าเรื่องราวของตัวเองตามหัวข้อ (ไว้จะไปหาต้นฉบับอังกฤษมาลงอีกทีนะ) 1.ประวัติการศึกษา เเละทำงาน 2.เเรงจูงใจมาสมัครงานที่บริษัท XYZ 3.ข้อดีของตัวเอง 3 ข้อ 4.ข้อเสียของตัวเอง 3 ข้อ 5.ข้อดีเเละข้อเสียที่ทำงานกับบรษัท XYZ
ในส่วนนี้ มีทางเลือกว่า จะlist เป็นข้อๆ เเล้วพูดขยายเอา หรือเขียนร่างทั้งประโยค เเล้วก็หัดพูด(ท่องจำนั่นเอง)
เเบบเเรก ถ้าภาษาเเม่นๆเเล้ว จะเป็นธรรมชาติกว่า เเต่ตอนนั้นเรายังละอ่อนมากๆ เขียนร่างไปเลย (ตรงนี้ไม่เเนะนำให้คนอื่นเขียนให้นะคะ เพราะถ้าต้องท่องไป พอถึงเวลาตื่นเต้นเเล้วจะลืมหมด)
เราใช้พิมพ์บทพูดใส่กระดาษทั้งเเผ่น มาถือไว้ ตรงที่ต้องการเน้นก็ใช้ตัวโตๆขึ้นตัวหนา ตัวเอียง ไม่ควรใช้เกิน 3 สี เพราะจะลายตาเอง
เสร็จเเล้วก็ซ้อมสองสามรอบ เกณฑ์คนมานั่งฟังซัก รับคอมเมนท์ "เหมือนอ่านเลยเจ๊" "ภาษาเวอร์เหมือนภาษาเขียนอ่ะเจ๊" เเล้วก็ซ้อมต่อ หน้ากระจก เอาให้ดูเป็นธรรมชาติ
วันรุ่งขึ้น .. อีกครั้งที่เราต้องตื่นตั้งเเต่ไก่ยังไม่โห่ เราออกจากหอ ด้วยชุดเสื้อยืด กางเกงยีนส์ตัวเก่ง เราไม่ได้บอกใครต่อใครว่าเราผ่านรอบเเรก (เพราะยังคิดว่าไปฮาๆ ไม่อยากให้มีตีนมารอเหยียบซ้ำ) บังเอิ๊น... บังเอิญ ตอนเดินออกจากหอดั๊นไปจ๊ะเอ๋ กับกลุ่มเพื่อนต่างภาคที่เราเคยสนิทด้วยตอนปีสอง
มันเช้าเกินไป ที่เราจะตื่นมาอาบน้ำสระผม ออกจากหอ มันเเปลกที่เราไม่ได้เเต่งนักศึกษา เพราะอยู่ในช่วงสอบ ก็เลยต้องบอกว่าจะไปสัมภาษณ์ .. ก็ยิ่งเเปลกใหญ่ ใส่เสื้อช้อปไป ก็เลยต้องบอกว่ากิจกรรมกลุ่ม .. ทีนี้ทุกคนก็เดากันได้ว่าบริษัทไหน
เรื่องที่เราไม่รู้ในวันนั้น ก็คือ.. ตอนเช้าข่าวที่เราไปสัมภาษณ์งาน ก็ดังไปทั่วคณะ ... เเละ .... ข่าวว่าเราได้งานเเล้ว ก็ดังไปทั่ว ก่อนที่เรากลับมาถึงซะอีก
ปากคน ยาวกว่าปากกา ไม่น่าเชื่อ
เมื่อไปถึงที่ พบว่ามีเราคนเดียวที่เเต่งตัวไปอย่างนั้น รอบนี้มีผู้สัมภาษณ์ 14 คนเป็นผู้หญิง 3 คน .. ได้เจอเพื่อนต่างมหาลัยที่ฝึกงานด้วยกัน (สนิทกันด้วย) ทุกคนล้วนมาในชุดนักศึกษาทั้งสิ้น
เราเกือบเสียself ไปเหมือนกัน เราก็ไปกระเซ้าพี่ A เเก้เขิน .. ไหนพี่บอกหนูว่ากางเกงมาได้ไงคะ พี่ A บอกว่า พี่ก็บอกคนอื่นเเล้ว เเต่ไม่มีใครฟัง ไม่เป็นไรหรอก นั่งสบาย ไม่โป๊ดี
กำหนดการวันนี้ บอกเป็นเวลาละเอียดยิบ เเบบทุก15 นาที เปิดตัวด้วย ชี้เเจงหมายกำหนดการ .. ซึ่งมีเปลี่ยนเเปลงเล็กน้อย เพราะผู้ร่วมสัมภาษณ์บางส่วนมีสอบบ่าย จะเข้าร่วมกิจกรรมเเค่ช่วงเช้า .. เเยกย้ายไปสอบตอนบ่าย เสร็จเเล้วเย็นมาทำกิจกรรมต่อ สปิริตสูงส่งน่านับถือจริงๆ
หลังจากนั้น มีพรีเซนเตชั่นเเนะนำบริษัท .. เสร็จเเล้วก็สนทนาโต๊ะกลมพูดคุย กับผู้บริหารเเผนกต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เเล้วก็โตมาจากตำเเหน่ง field engineer
อ้อ ลืมบอกว่าทั้งหมดนี่ เป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ นะคะ
วันนั้นเราออกจะ เฮฮา .. เตรียมตัวไปพร้อม นั่งเเหมะตรงโต๊ะตัว U กางเเฟ้มพลาสติกใส เตรียมกระดาษ A4 ดินสอกด ยางลบ ตั้งหน้าตั้งตาฟัง จดเป็นระยะๆ เตรียมคำถามรอช่วงที่เปิดโอกาส (อันนี้ ติดนิสัยจากการประชุมบ่อยๆ) ที่ขาดไม่ได้ ก็น้องดิกฉบับพกพาคู่มือ คู่ใจนักเรียน
เราออกจะกระหยิ่มยิ้มย่องกลับการเตรียมพร้อมของตัวเอง เพื่อนๆ ก็มองด้วยสายตาทึ่งๆ (เเอบถูกข่มเล็กน้อย) เชื่อไหมคะ สิ่งเเรกที่ผู้จัดการฝ่ายบุคคลพูด หลังจากชี้เเจงตารางเวลาคือ For ones who prepare the dictionary ... I would like to ask you to leave the room now Because if you need to use dictionary , You wont be capable for the dynamic group today.
จ๋อยเเดกสิคะ .. เเต่เราหน้าด้านนะ ไม่ออกค่ะ เเต่เก็บดิกเข้ากระเป๋าเเทบไม่ทันเลยง่ะ
ถึงไหนเเล้ว .. อ้อ ช่วงพูดคุยกับผู้จัดการ หลักๆวันนั้นคือ โฆษณา บริษัท.. ว่าดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้ (เเต-หลอมาก)
เเท่นขุดเจาะก็มีโรงยิมนะ ออกกำลังกายได้ตลอด (มีจริง) พอเปิดโอกาสให้ถาม .. เราไม่ได้รีบร้อนชิงถามคนเเรก โชว์ความกระตือรือล้น เเต่อย่าลน หรือล้น ..
พอมีโอกาสเรายิงไปสองคำถาม (ที่คิดว่าดีนะ) อันเเรก เกี่ยวกับโอกาสของผู้หญิงในการทำงาน I would like to ask about the job opportunity for female like us. (มีการผายลม เอ๊ย ผายมือ ไปทางเพื่อนๆ ผู้หญิงทั้งสาม)
ซึ่งเขาก็ยกตัวอย่างพี่ๆ ผู้หญิง ที่ประสบความสำเร็จ รวมทั้งพี่ผู้จัดการฝ่ายบุคคลนี่ด้วย
อีกคำถามนึง .. ถามว่าลักษณะงานที่เขาบอกว่า ต้องมีใช้เเรงงานด้วยเเล้วจะมีโรงยิมไปทำไม From the presentation, I understand that this job also require physical work (ท่านๆพยักหน้า)... So
Why do you need Gym on the platform?
เรียกเสียงฮาพอสมควร เพราะผู้จัดการคนลงพุงน่ารัก ตอบง่ายๆว่า Look at me (ตบพุงเเปะๆ) เเล้วค่อยตอบจริงว่า Physical น่ะ เเค่ 20% ของทั้งหมด ที่เหลือก็สมอง เเถมเเซวๆ กันเองว่า ที่เกินๆ ก็ลงพุงต้องไปเล่น Gym
พอหมดช่วงสนทนา .. ก็ต่อด้วย Presentation เเนะนำตัวผู้เข้าสัมภาษณ์ที่เเต่ละคนเตรียมมา เป็นการพูดเเนะนำตัวเอง (ไม่มีใครเตรียมสไลด์ประกอบ )
อีกเเล้วครับท่าน .. ไม่มีการเรียงลำดับ ให้ออกมาพูดตามลำดับความสมัครใจ
ถ้าจำไม่ผิดหนุ่มลูกครึ่งนิวซีเเลนด์ ผู้มั่นใจในตัวเองสูงปรี๊ด สปรินท์ตัวออก หวังทิ้งคะเเนนนำห่าง หลังจากนั้นก็ช่วงชิงกันในเชิงถ้อยทีถ้อยอาศัย
เราก็นั่งชิวๆ (ศัพท์วัยรุ่นสมัยนี้ ไม่รู้ใช้ถูกไหม) กะออกไปเป็นคนกลางๆน่ะ
ระหว่างนั่งไป นอกจากจะทบทวนสิ่งที่เราจะพูดในหัว (ตอนออกไปพูดจะเเอบสอดโพยไว้หน้าเเรกในเเฟ้มใส) เราตั้งใจฟังสิ่งที่คนอื่นๆพูด .. เเล้วก็เอามา Link กันกับที่ตัวเองมีในหัว เพราะทุกคนได้หัวข้อเหมือนกัน สิ่งที่พูดออกมาก็ไม่ไกลกันมาก ทุกคนก็ฉลาดพอๆกัน พูดข้อเสียของตัวเองให้ฟังดูดีได้ พูดข้อเสียของการทำงานกับ XYZ ให้ฟังดูเเล้วเป็นสิ่งออกจะท้าทาย ถึงเเม้ว่าตัวเองจะไม่ชอบเเต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นปัญหา
ตอนเราไปพูด ตอนนั้นก็สั่นเหมือนกันนะ มีติดขัดบ้าง นึกศัพท์ไม่ออกบ้าง เเต่กระดาษอยู่ตรงหน้า สอดส่ายสายตาหาอย่างรวดเร็ว เราพยายามหาเเนวร่วม เช่น ตอนข้อเสียของการทำงานกับ XYZ คือต้องไกลบ้าน ซึ่งเหมือนกันกับสาวต่างมหาลัย ซึ่งเธอพูดเรื่องนี้เเก้เกี้ยวได้ดีมากๆ (อย่างที่เราคิดไม่ถึง) ว่าโลกปัจจุบัน การสื่อสารกว้างไกล ทำให้โลกเเคบลง พอเราพูดเรื่องข้อเสียจุดนี้ เราก็พยักเพยิดกับเธอ โดยที่ไม่ได้ลอกคำตอบ พูดเเต่ในส่วนที่เราคิดมา ..ให้ส่งเสริมกันไป มีจุดนึงที่เราคิดว่าเป็นข้อดีของเรา (ความมั่นใจ) เเต่มีผู้สมัครท่านนึงพูดว่าเป็นข้อเสียของเขา เราก็สบตาเขา เเล้วมีปรับคำพูดเรานิดหน่อย ไม่ให้มันฟังขัดหรือหักล้าง
เราว่าจุดนี้เราก็กล้อมเเกล้มผ่านไปได้ดีพอสมควร ไม่สร้างศัตรู เเถมมีมิตรเพิ่มจากท่าทางยิ้มเเย้มติดตลก กับความเปิ่นๆ ที่ไม่ได้เสเเสร้ง เพราะเราไม่เครียด ไม่กดดันตัวเองด้วยความอยากได้งาน
การเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม คือเป้าหมายสูงสุดของเรา ในการสมัครงานครั้งนี้
.. กว่าจะครบทุกคน .. ก็ล้ากันพอสมควร .. ก็ได้เวลาพักทานกาเเฟกับขนม
อืม... ลาไปพักผ่อนดื่มกาเเฟกันสัก2-3วันเเล้วกันนะคะ ตอนนี้เราเขียนจากความทรงจำ .. เเต่จะเขียนต่อเรื่อยๆ ไม่ให้ขาดไปนาน พอกลับเข้าฝั่ง จะไปหาเเผ่นข้อมูลสำรองมา เเล้วเพิ่มเติมรายละเอียดอีกทีนึง
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ
Create Date : 12 มกราคม 2549 |
|
10 comments |
Last Update : 19 มกราคม 2549 0:12:30 น. |
Counter : 1756 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: jeab&michelle IP: 62.195.13.219 13 มกราคม 2549 2:51:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: nepatak (Nepatak ) 13 มกราคม 2549 14:02:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: สุขหรือเศร้าเราทำเอง IP: 221.128.106.250 16 มกราคม 2549 17:57:43 น. |
|
|
|
|
|
|
|
นอนหลับฝันดีค่ะ