พฤศจิกายน 2559

 
 
1
2
3
4
5
6
7
13
14
16
17
18
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
ตอนที่ 11 ความยุ่งเหยิงเริ่มเขยิบเข้ามาอีกนิด




  สวัสดีค่ะ ตอนนี้เป็นตอนที่ต่อจากตอนที่แล้วนะคะ 

หลังจากเราสี่คนย้ายมาอยู่บ้านใหม่ สามีก็ลาออกจากงาน มาทำเทนนิสอย่างเดียว เรามีชีวิตอยู่ในบ้านหลังนั้น ได้ปีกว่า อินก็ยังเลี้ยงลูกอยู่บ้าน ส่วนน้องธิดา ก็พยายามให้เขาใปโรงเรียนใกล้ๆบ้าน ลองดูว่าเป็นไงบ้าง ธิดาก็เหมือนเด็กใหม่ทั่วไปตอนนั้นก็ยังไม่ถึงสองขวบดีเท่าไร่ เขาก็กลัวสถานที่แปลกใหม่ คนแปลกหน้าร้องให้ จะกลับบ้านลองให้อยู่หลายวันก็เริ่มดีขึ้น แต่ไม่ถึงกับดีที่สุด สงสารลูกนะ ตอนนั้นเราไม่อยากให้เขาอยู่กับใครเพราะเราเคยมีกันสี่คน ไปใหนมาใหนก็ไปด้วยกันตลอด แต่ก็ต้องจำใจเพราะการอยู่บ้านกับเรา บางที่เราก็ไม่อาจจะดูเขาได้ตลอดเวลา เพราะเรามีลูกคนเล็ก เราก็จะให้เขานั่งดูโทรทัศน์ ซึ่งอินไม่ชอบเลยค่ะ ตัดสินใจให้น้องธิดาไปโรงเรียนอนุบาลใกล้ๆ บ้านก็ดีหน่อยเราก็ได้พักบ้าง เวลามีร่านอนก็ทำงานบ้านต่อ เราอยู่บ้านหลังนี้กันจนวันหนึ่งแฟนอยากเปิดร้านเทนนิสเป็นของตัวเอง ซึ่งตอนนั้นวีซ่าของแฟน เนี่ยทุกๆ สามเดือนก็ต้อง ออกนอกประเทศ พอหมดปีหนึ่งก็อยากทำ วีซ่าเอง ทำใบอนุญาตทำงานเอง ด้วยบริษัทของตัวเอง ความยุ่งยากก็เลยมาเยือนทีนี้ เพราะไม่เคยทำเลยในชีวิต เดินเรื่องเอกสารต่างๆ ไอ้ตอนเปิดร้านไม่เท่าไร แต่ขอเอกสารทำวีซ่ากับใบขออนุญาตทำงานนี่สิคะ โอยปวดหัวเลย คือมันเยอะมาก มันทั้งคนเยอะ เอกสารเยอะ ไปทีก็หอบลูกไปด้วย เพราะเราเหมือนเป็นเจ้าของร้าน ไปทำเอกสารวีซ่า กับ ใบอนุญาตทำงานให้สามีมันก็เลยดูยุ่งยาก เราต้องทำวีซ่าให้ผ่านก่อน พอผ่านก็ไปขอ ใบอนุญาตทำงาน ก็ได้มา 1 ปี แล้วค่อยต่อใหม่ 

ถึงเวลาย้ายบ้านอีกแล้วค่ะ ที่ใหม่ที่กว้างกว่าเดิมแพงกว่าเดิม เพราะเราจะทำเป็นร้านขายอุปกรณ์เทนนิสด้วย ก็ได้บ้านเป้นบ้านพาณิชย์ 3 ชั้น (เอามาเพื่อ......คือมันใหญ่มากเกินความจำเป็น) ถึงเวลาย้ายบ้านเหนื่อยอีกรอบ คือ ของเยอะขึ้น มาก จุกจิกของลูก ของพ่อ อุปกรณ์เทนนิสอีก โอ๊ยจิปาถะค่ะ วันย้ายเข้ากว่าจะเก็บบ้านเสร็จเรียบร้อยก็กินเวลา เป็นอาทิตย์  เฮ้อ ย้ายทุกปีเลยค่ะ ตอนเป็นโสดนะอินเป็นคนอยู่กับที่มากไม่ชอบการย้ายบ้าน (ไม่ชอบเมียฝรั่งด้วยนะ อันนี้พูดจริงๆค่ะ) 
พอแต่งงานมีครอบครัว โหย้ายเป็นว่าเล่นเลย ย้ายบ้านใหม่แล้วน้องธิดาก็ไปโรงเรียนที่เดิมอยู่แต่ก็ให้รถบัสทางโรงเรียนมาส่งมารับบ้าง บางวันพ่อก็ไปรับบ้างด้วยการนั่งมอเตอร์ไซด์ไปด้วยกัน Smiley
จริงมันอันตรายมากเลยนะคะ เพราะที่ภูเก็ตรถเยอะมากอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นบ่อย ต้องระวังมากๆเลยแต่ก็ผ่านจุดนั้นมาได้ แต่การไปโรงเรียนของธิดา ไม่เคยทำให้เรามีความสุขเลย เพราะเห็นลูกร้องให้งอแงทุกเช้าที่ไปโรงเรียน หน้าตาเศร้ามากคือไม่มากไปโรงเรียน (ต่างกับโรงเรียนที่ฮังการียังไงเดี่ยวมาดูกันนะคะ) ทำให้เราคิดตลอดเวลาว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุด สำหรับลูกทีสามารถทำให้ลูกมีความสุขที่ได้ไปโรงเรียนแต่ ก็ไม่มีอ่ะค่ะ คือทุกวันน้องธิดา จะถามว่าแม่วันนี้ธิดาต้องไปโรงเรียนอีกแล้วเหรอ ธิดาไม่อยากไป เราก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็ได้แต่บอกลูกเนอะว่าทุกคนต้องไปโรงเรียนนะคะ เหมือนคุณแม่ก็ต้องไปโรงเรียนจนโตเลย จบแล้วก็ต้องทำงาน หนูต้องเรียนหนังสือตั้งใจเรียนนะคะลูก นี่คือ คำที่เราบอกลูกทุกวัน ตั้งใจเรียนหนังสือนะคะ ลูก ธิดาได้ภาษาอังกฤษจากที่โรงเรียนนี้ค่ะ น้องพูดได้ก็ต้องขอบคุณโรงเรียนนี้ด้วยจริงๆ น้องเรียนที่นี่  2 ปีได้ภาษาอังกฤษพูดคล่องเลย ฟังรู้เรื่องคุยกับเราได้ ตรงนี้ที่ติดตัวน้องธิดามาจากโรงเรียนนี้ 


งานวันแม่ที่โรงเรียนค่ะ

ทีนี้เรื่องเปิดร้านก็นานเหมือนกันค่ะกว่าจะได้เปิดเพราะ ต้องจัดร้านจัดบ้านนานเลย เปิดได้ก็ค่อยๆ ทำค่ะเราไม่ได้เปิดใหญ่โตอะไร ทำเล็กๆ ครอบครัวเราเอง ไม่ได้จ้างใครเลย อินก็ไม่ได้รู้เรื่องเทนนิสมากมายอะไร เวลาแฟนไม่อยู่ อินนี่แหละค่ะ ขายของ งูๆปลาๆไป ยอมรับว่าทำได้ไม่ดีสักเท่าไร่เลยค่ะ อินก็ช่วยสามีทำอาชีพเสริมด้วยโดยการขายเสื้อผ้าออนไลน์ กับ วางขายที่ร้านนั่นเอง ไม่ค่อยมีลูกค้าเลยค่ะ ขายไม่ค่อยได้ เพราะเราลงของไม่เยอะ ไม่มีแบบหลากหลายให้เขาเลือก (ไม่มีงบค่ะ)
ก็ขายได้บ้าง จนเหลือไม่มากก็ไม่อยากสั่งเข้ามาวางอีก ปู่ย่าก็ได้มาบ้านหลังนี้ด้วยนะคะ คือมาทุกปีก็ย้ายบ้านใหม่ทุกปี กิจการที่ทำก็ยอมรับว่ายังไม่ค่อยดีนักยังไม่ลงตัวเลย (ก็มาย้ายไปฮังการีซะก่อน) แต่ลูกค้าเทนนิสของแฟนก็มากันเรื่อยๆ อยู่ พอตอนหลังอินก็อยากขายน้ำด้วยก็เลยตัดสินใจซื้อซุ้มไม้ไผ่ มาวางหน้าร้านก็ขายกาแฟโบราณกับขนมปังปิ้งด้วย ก็ขายได้บ้างแต่ก็ไม่มากมายอะไร(เหมือนพยายามแต่ก็ยังไม่สำเร็จค่ะ เศร้าแปป) 


รูปร้านเทนนิสที่ภูเก็ตค่ะ

 จนปู่ย่ามาจากฮังการีช่วงคริสมาสน้องธิดาดีใจใหญ่เลย เพราะธิดารักปู่กับย่ามากปู่ย่าพาไปใหนมาใหนด้วยตลอดก็เลยทำให้น้องมีความสุขมาก ทำให้เรามีความสุขทุกครั้งที่มอง และท่านก็ได้พูดคุยกันว่าไม่อยากย้ายไปอยู่บ้านเหรอ อยู่ที่นี่ค่าใช้จ่ายก็เยอะ ได้มาเยอะก็จริง แต่ต้องเช่าบ้าน ต้องจ่ายค่าโรงเรียนอีก ค่ากินค่าอยู่ มันก็ไม่เหลืออะไรเลย ในแต่ละเดือน ตรงนี้อินก็ยอมรับนะคะว่า ในแต่ละเดือน อินเครียดมากไม่เหมือนเมื่อก่อน การที่ต้องรับผิดชอบอะไรเยอะขึ้นทำให้มีค่าใช้จ่ายมากขึ้น โดยที่รายรับเท่าเดิม เครียดนะคะ ทะเลาะกับแฟนบ่อยมาก เพราะการที่เขาทำงานคนเดียว เราไม่มีรายไดอะไร ขายของก็ไม่ค่อยได้ รายจ่ายก็เยอะ ทีนี้ความยุ่งเหยิงก็ทำให้เราเครียดทุกเดือน คิดตลอดเวลานะ ย้ายไปฮังการีดีใหม หลังจากที่ปู่ย่าพูดและกลับไปแล้ว และช่วงนั้นยังไม่ได้สวดมนต์ ทำจิตให้มันสงบ ก็เลยใจร้อนรนเครียด คิดถึงแต่เรื่อง อนาคตที่ยังมาไม่ถึง คิดว่าทำไมเราถึงไม่รวยเหมือนใครเขา ไม่เคยพอใจในสิ่งที่ตนมี อินจะมองคนอื่นตลอด แล้วเก็บมาคิดกับตัวเองน้อยใจในโชคชะตา ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำให้เรามองแฟนเราไม่ดีด้วยค่ะ เพราะเรามีความโลภ ความโกรธ ความหลง ไม่ได้มองตัวเองเลยสักนิด อยากขี้ตามช้าง แต่มันทำไม่ได้ ณ ตอนนั้น ก็เครียดสิคะ ก็พาลทะเลาะกับแฟน (มองย้อนกลับไปก็สงสารแฟนตอนนั้นมาก) Smiley ความคิด ณ ตอนนั้นมันมีแต่ลบ อะไรๆ มันก็ไม่ดีขึ้นสิคะ เครียดก็กินสิ รอไร อ้วนสิทีนี้ อ้วนมากอาหารเช้าก็ต้องซื้อมากิน เที่ยงก็ซื้อมากิน เย็นก็กิน ไม่ค่อยได้ทำกับข้าวทานเองเพราะ ความขี้เกียจ ไม่ได้เอะใจว่า ทำไมเงินในแต่ละเดือนมันหายไปใหนหมด ก็เพราะการไม่รู้จักวางแผนการกิน วางแผนการใช้เงินเลยค่ะ คือ เงินก็ไม่ค่อยมีแต่ทานข้าวนอกบ้านทุกวันไปห้างทีก็กิน อาหารห้างไรงี้ แล้วเงินมันจะเหลือไร มันสะสมแบบนี้ทุกเดือนก็หลายบาทอยู่นะคะ พอ ณ ตอนนี้มองย้อนกลับไปเออ เนอะจะเอาไรหนักหนา ในเมื่อเราไม่รู้จักการประหยัดเลย คือ ไม่คิดประหยัดเลยด้วยซ้ำ และจะเอาไรมารวย ช่วงหลังก็หันมาสวดมนต์ เพราะไปเจอการสวดมนต์ที่ถูกต้อง ชอบมากค่ะ สวดเกือบทุกวันวันใหนไม่ได้สวดมนต์ ก็จะเหมือนขาดไรไป ตอนเช้าตื่น มาก็ทำกับข้าวใส่บาตร ชีวิตไม่เคยทำแบบนี้เลยคิดเสมอว่า ไม่มีเวลา ต้องไปทำที่วัดไรงี้ พอเราทำเข้าจริงๆ มันก็แค่นั้นเอง เราทำได้ ทำให้น้องธิดาก็ตื่นมาตักบาตรกับเราเกือบทุกเช้า เขาต้องบอกแม่ว่า แม่ปลุกธิดาด้วยนะคะ ธิดาใส่บาตรด้วย เราภูมิใจมากที่น้องเขา อยากมีส่วนร่วมกับเราในพระพุทธศาสนาแบบนี้Smiley ชีวิตมีความสุขมากขึ้น ทำใจได้มากขึ้น ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นมากขี้นแต่ก็ยังไม่ดีมากนะคะ แต่อย่างน้อยก็ดีใจที่หาหนทางเจอ 

ไว้เจอกันตอนหน้านะคะ ว่าจะเกิดไรขึ้น บ้าง ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาชมบล๊อกของอินค่ะ ยินดีเป้นเพือ่นกับทุกคนนะคะ ขอบคุณมากค่ะ สวัสดีค่ะ ต้องพาเด็กๆ เข้านอนแล้ว 




Create Date : 19 พฤศจิกายน 2559
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2559 2:32:47 น.
Counter : 968 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3520464
Location :
Dabas  Hungary

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







New Comments