รามเกียรติ์ : อวสานทศกัณฐ์ บทสุดท้ายแห่งชะตากรรมของพญายักษ์
รามเกียรติ์ : อวสานทศกัณฐ์ บทสุดท้ายแห่งชะตากรรมของพญายักษ์
รามเกียรติ์ : อวสานทศกัณฐ์ นับตั้งแต่ทศกัณฐ์ลักพาสีดาไป พระรามและพระลักษมณ์ออกมุ่งหน้าสู่กรุงลงกา , เพื่อพาตัวนางกลับคืนมา ระหว่างนั้นได้พบกับพญาวานรเผือก , หนุมานถวายตัวเพื่อติดตามรับใช้และช่วยการศึก มีพญาสุครีพราชาวานรแห่งเมืองขีดขินนำไพร่พลมาเป็นกำลังรบ , หากแต่ต้องสังหารพาลีเสียก่อน เพื่อเป็นไปดั่งคำสัตย์สาบานของวานรที่เคยว่าไว้
พระราม ได้กองกำลังวานรจากสองเมืองทั้งเมืองขีดขินและเมืองชมพูยอมสวมิภักดิ์ , ทั้งยังได้รับประทานพรจากพระอิศวรว่า หากพลวานรถูกฆ่าตาย เพียงโดนลมพัดหรือน้ำค้างพรมก็จะฟื้นคืนชีพดังเดิม จากนั้น พญาวานรทั้งสาม หนุมาน องคต และชมพูพาน ก็อาสาออกไปสืบข่าว และดูลาดเลา ณ กรุงลงกา , เดินทางไปจนถึงเขาเหมติรัน ระหว่างทางได้พบกับพญานก นามว่า สัมพาที และได้ช่วยให้พ้นคำสาป ,สัมพาทีจึงได้พาพญานกทั้งสาม ขึ้นบนหลังแล้วบินไปดูที่ตั้งแห่งกรุงลงกา , หนุมาน แปลงกายเข้าไปเพื่อสืบข่าวและแผลงฤทธิ์ เผากรุงลงกาจนวอดวาย คืนนั้น ทศกันฐ์ฝันร้าย , พิเภกทำนายว่าจะเกิดมหาสงคราม เป็นอันต้องสิ้นเผ่าพงศ์วงศ์ยักษ์ , ทศกัณฐ์โกรธเกรี้ยวถึงขั้นตัดพี่ตัดน้องและขับไล่พิเภกให้พ้นไปจากเมืองเสีย , แต่นั่น คือ หายนะใหญ่หลวง เมื่อพิเภก ไปขอสวามิภักดิ์ต่อพระราม ในที่สุด กองทัพวานรอันเกรียงไกรก็ข้ามมหาสมุทร เหยียบแผ่นดินลงกา , พระราม ส่งสาส์นตามธรรมเนียมศึก ให้ทศกัณฐ์คืนเสีดามาเสีย ทว่าทศกัณฐ์กลับสั่งสังหารฑูต ถือเป็นการเปิดฉากมหาสงคราม พญายักษ์ทศกัณฐ์ สูญเสียญาติวงศ์และขุนพลยักษ์ไปมากมาย , ไมยราพยักษ์จอมขมังเวทย์ปราชัยตายคาสมรภูมิ อีกทั้งกุมภกรรณน้องรักผู้เปรียบเสมือนปราชูแห่งลงกา ก็เอาชีวิตเข้าแลกสิ้นเพื่อแผ่นดินลงกา , ทศกัณฐ์เศร้าโศกระทมทุกข์ไปทั้งสิบเศียร เนิ่นนานจนในที่สุดได้ยินเสียงหนึ่งคำรามก้องออกมา “ลูกขออาสาไปฆ่าอ้ายสองมนุษย์” แล้วปรากฎร่างผงาดอยู่เบื้องหน้า ,ทศกัณฐ์ตื่นจากถวังค์ความโศกอีกครั้ง สวมกอดอินทรชิตบุตรชาย แล้วอวยพรให้มีชัยเหนือศัตรู , อินทรชิตผู้เป็นความภาคภูมิอย่างที่สุด ผู้เป็นเสมือนเพชรที่เจิดจรัสเหนือมงกุฎแห่งเผ่าพงศ์วงศ์ยักษ์ เป็นจอมทัพยืนตระหง่านบนรถศึก ประหนึ่งเป็นสัญลักษณ์ปลุกปลอบใจไพร่พล ,ทหารยักษ์ต่างคืนสู่ความเชื่อมั่น ในพลังและอำนาจจอมทัพผู้เกรียงไกร ขุนศึกยักษ์และไพร่พล ต่างกระหายหมายจะเข้าสู่สงคราม ,เวลานี้พร้อมบดขยี้ทุกสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าและล้างแค้นให้จงได้ , กระทืบเท้ากระหน่ำย่ำเหยียบแผ่นดินจนสะเทือนแล้วเคลื่อนพล อินทรชิตสั่งไพร่พลเข้าบุกโจมตี , พระรามสั่งพระลักษมณ์ ยกทัพเข้าประจัญศึก คมอาวุธแวบวาบไปทั่วสนามรบ ฝุ่นควันคละคลุ้งปกคลุมทั่วทั้งบริเวณ , เหล่าทหารยักษ์สังหารวานรตายเกลื่อน ,พญาวานรสิบแปดมงกุฎผนึกกำลังสังหารยักษ์ตายนับไม่ถ้วน หนุมาน ชักตรีเพชรบุกทะยานฝ่าแนวรบ เข้าไปจนถึงหน้ารถศึก , อินทรชิตแผลงศรพุ่งปักกลางอก หนุมานทรุดร่วงลงกลางสนามรบ ,สครีพ องคต และพญาวานร เหาะปราดเข้าประจัญหน้าจอมทัพยักษ์ , อินทรชิตแผลงศรด้วยกำลังฤทธิ์กล้าแกร่ง พุ่งปะทะร่างพญาวานรทั้งสามล้มลงแน่นิ่งอยู่กับที่ อินทรชิตจับกระชับคันศร โผทะยานขึ้นบนรถศึกของพระลักษมณ์ , พระลักษมณ์หวดด้วยคันศร ทั้งสองรุกรบติดพัน อินทรชิตกระเด็นร่วงตกจากรถศึก , เร่งลุกขึ้น แล้วแผลงศรเป็นลูกไฟเผาผลาญพลวาน , พระลักษมณ์จึงแผลงศรเป็นห่าฝนดับพิษเพลิง , ศรนั้นพุ่งทะยานเข้าปักอกอินทรชิต ให้เจ็บปวดปางตาย , อินทรชิตแข็งใจแล้วร่ายเวทย์ครบเจ็บคาบแล้วลูบกาย , ศรของพระลักษมณ์ที่ปักจึงหลุดออก , เมื่อสิ้นแสงสุดท้ายของวัน อินทรชิตสั่งเลิกทัพแล้วกลับเข้าลงกา อินทรชิตไคร่ครวญและตระหนักว่า ตน ประเมิณฝีมือของสองมนุษย์ต่ำไป ,จึงต้องทำพิธีชุบศรนาคบาศ ณ เขาอากาศ เป็นเวลาเจ็ดวัน , อันศรนาคบาศนั้นถือกำเนิดด้วยพลานุภาพของพิษพญานาค , หากบรรลุถึงอิทธิฤทธิ์ขั้นสูงสุดก็ไม่มีผู้ใดต้านทานได้ อินทรชิตสร้างโรงทำพิธีตั้งศรนาคบาศไว้เบื้องหน้า แล้วนั้งบริกรรมคาถาในโพรงต้นโรทัน ขนาดใหญ่ราวแสนคนโอบ , ฝูงนาคทั่วทั้งแผ่นดินต้องพระเวทย์อินทรชิต ก็ร้อนรนทนอยู่ไม่ได้ ต้องออกมาคายพิษใส่ไว้ในศรนาคบาศให้เรืองฤทธิ์ยิ่งขึ้น บัดนั้น...มังกรกัณฐ์ ผู้เป็นโอรสของพญาขร ได้รับคำสั่งให้ยกทัพไปตั้งรับ , คอยป้องกันข้าศึกชั่วคราว ด้วยความเคียดแค้นในพระรามอยู่ก่อนแล้ว เหตุเพราะเป็นผู้สังหารบิดาตน ,พญายักษ์มังกรกัณฐ์จึงระดมขุนศึกยักษ์ผู้กล้ายกทัพออกไปตั้งมั่น มังกรกัณฐ์ เป็นยอดฝีมือในการยิงธนู ทั้งยังมีจักรแก้วทรงอานุภาพของพระพรหมเป็นอาวุธ , พระรามทรงทราบดังนั้น จึงนำทัพออกไปต่อสู้ด้วยองค์เอง , มังกรกัณฐ์ขว้างจักรแก้วออกไปด้วยกำลังฤทธิ์ , คมจักรลิ่วเข้าตัดร่างไพร่พลลิงตายเกลือน , พระรามแผลงศรพลายวาตขึ้นต้าน ทำลายจักรแก้วแหลกละเอียด มังกรกัณฐ์แผลงศร ทะลุเกราะแก้วของพระราม , พระรามจึงแผลงศรพาลจันทร์ทำลายคันศรมังกรกัณฐ์หักสะบั้นลง , ด้วยศรนั้นพุ่งสังหารไพร่พลยักษ์ตายราบเป๋นหน้ากลอง , เมื่อรู้ว่า ตนไม่อาจต้านทานกำลังฤทธิ์ของพระรามได้ มังกรกัณฐ์จึงเหาะหนีอำพรางกายในกลีบเมฆ , ร่ายพระเวทย์สร้างรูปนิมิตรตนเต็มน่านฟ้า แล้วบันดาลห่าฝนถ่านเพลิง ตกลงมาทั่วทั้งแผ่นดิน เผาไหม้พลวานรให้ร้อนทุรนทุราย ฝ่ายพิเภกรู้กลมนต์ยักษ์ จึงทูลว่า “หากสังหารมังกรกัณฐ์ร่างจริงให้สิ้น รูปกายนิมิตรก็จะมลายหายไป” , พระรามตั้งจิตมั่น แล้วขึ้นศรพรหมาสตร์พร้อมวาจากำกับ “จงพุ่งไปปลิดชีพมังกรกัณฐ์”แล้วแผลงไป , ลูกศรแล่นลิ่วมุ่งตรงสู่เป้าหมาย ตัดหัวมังกรกัณฐ์ขาดกระเด็น , แล้วภาพมายาที่พญายักษ์สร้างไว้ก็มลายหาย แสงอาทิตย์ ผู้เป็นน้องชายทราบข่าว ก็โกรธแค้นอัดอั้นในใจ , อยากแผดเผาพระรามให้มอดไหม้ จึงยกทัพมาถึงกรุงลงกาเพื่ออาสาสู้ศึก , แสงอาทิตย์มีแว่นแก้วสุรการณต์ที่พระพรหมประทานให้ เป็นอาวุธทรงพลังร้ายกาจ เพียงจับแว่นแก้วแล้วส่องไปที่ผู้ใดก็จะปลิดชีวิตผู้นั้นได้ทันที บัดนั้น...แสงอาทิตย์เคลื่อนพลมายังสนามรบ กองกำลังยักษ์ฮึกห้าวถืออาวุธพรุ่งพร้อม หมายลงทัณฑ์สังหารศัตรุให้พินาศ ,ทราบความตามนั้น พญาพิเภกเร่งรุดแล้วทูลว่า อันแว่นแก้วนั้นได้ฝากไว้บนฟากฟ้า หากมีเหตุต้องใช้คราใดแสงอาทิตย์จะสั่งให้ยักษ์จิตรไพรีขึ้นไปขอจากพระพรหม พระรามได้ฟังความดังนั้น , จึงส่งองคตแปลงกายเป็นจิตรไพรี ตามลักษณะที่พิเภกบอกไว้ แล้วเหาะขึ้นไปลวงขอแว่นแก้วสุรกานต์ จากพระพรหมมาได้สำเร็จ , เมื่อแสงอาทิตย์สั่งให้จิตรไพรีไปขอแว่นแก้วจากพระพรหมจึงรู้ ว่าศัตรูลวงเอาแว่นแก้วไปก่อนแล้ว , แสงอาทิตย์หวาดหวั่นเสียขวัญกำลังใจแต่ก็ยังข่มใจฮึดสู้ ขบเขี้ยวมุ่งมาจนถึงหน้ารถศึกพระราม , แสงอาทิตย์และจิตรไพรี ขึ้นศรพาดสาย ,พระรามรวดเร็วว่องไวแผลงศรไปตัดสายธนู ศรปักอกแสงอาทิตย์ล้มลงสิ้นใจ , ฝ่ายพระลักษมณ์ แผลงศรใส่จิตรไพรีตายตกไปตามกัน สถานการณ์ศึกที่พ่ายแพ้ติดต่อกัน ทำให้พญายักษ์ทศกัณฐ์ยิ่งร้อนรน ,ด้วยเกรงว่าก่อนที่อินทรชิตจะทำพิธีชุบศรสำเร็จ ทัพพระรามจะบุกเข้ากรุงลงกาได้เสียก่อน ,จึงสั่งให้ วิรุญมุก ผู้เป็นหลานชายของพญาทูษณ์ ยกทัพไปตั้งยันป้อวกันไว้ก่อน วิรุญมุข ชำนาญการศึกบนหลังม้า นำทัพอาชาแปรขบวน ตั้งมั่นคุมเชิงฝ่ายศัตรู , พระรามนึกฉงน ด้วยเหตุใด อินทรชิตจึงไม่นำทัพมาสู้ศึกเอง จึงให้พิเภกตรวจทานดูจึงรู้ ,พญาวานรชามพูวราชอาสาไปทำลายพิธี เร่งรุดเหาะทะยานไปยังเขาอากาศ พบอินทรชิตสำรวมกาย ร่ายเวทย์อยู่ในโรงโพรงไม้ใหญ่ เมื่อเห็นดังนั้น ชามพูวราชจึงเนรมิตรกายเป็นหมีตัวใหญ่มหึมา กระโจนตะปบกัดต้นโรทันจนโค่นทลายลง ,ฝุ่นคละคลุ้งดั่งทะเลควัน พญานาคในพิธีที่กำลังคายพิษ คิดว่าเป็นพญาครุฑบินมาจู่โจมก็ตกใจ รีบแทรกกายลงแผ่นดินหนีกลับบาดาลไป อินทรชิตกริ้วโกรธ เข้ารุกไล่หมีจอมอหังการด้วยคันศร ชามพูวราชคินร่างเดิม หัวเราะเยาะ เย้ยหยัยก่อนจะเหาะกลับทัพไป , อินทรชิตชุบศรได้เพียงสามวัน ก็ต้องกลับคืนสู่สนามรบ แผลงศรสาดซัดไพร่พลลิงล้มตาย ดุจใบไม้ร่วง ,พระลักษมณ์แผลงศรขึ้นต้านปะทะศรอินทรชิตแตกแหลกลาญ ศรพระลักษมณ์ทรงอิทธิฤทธิ์ เฉี่ยวกระชากร่างอินทรชิตเป็นแผลฉกรรจ์ อินทรชิตบัญชาให้วิรุญมุขรบถ่วงเวลาไว้ เพื่อจักได้ไปทำพิธีชุบศรให้สำเร็จบนรถศึก , วิรุญมุขร่ายเวทย์ล่องหน หายตัวไป พร้อมม้าศึกควบทะยานเข้ากลางทัพวานร , แล้วใช้หอกสังหานไพร่พลวานรล้มตายระเนระนาด พระลักษมณ์มองไม่เห็นศัตรูที่สังหารไพร่พล พิเภกทูลให้ทรงแผลงศรตัดหัวม้าศึกของวิรุญมุข , ศรนั้นได้กลายเป็นตาข่ายเพชรเข้ารัดร่างวิรุญมุข นอนดิ้นทุรนทุราย , หนุมานลากตัวมาให้พระลักษมณ์ลงทัณฑ์ วิรุญมุขร้องขอชีวิต พระลักษมณ์จึงให้เฆี่ยนตีแล้วสักหน้า ลากแห่ประจานวรอบทับแล้วปล่อยตัวไป ฝ่ายอินทรชิตปลุกศรยังไม่สำเร็จ ก็เดือดดาน จึงสั่งการให้วิรุญมุขแปลงกายเป็นตน ยืนเป็นจอมทัพบนรถศึกเพื่อลวงศัตรู , จากนั้น อินทรชิตก็ร่ายเวทย์กำลังกายเหาะขึ้นไปซ่อนยังกลีบเมฆ , กระชับคันศร จับจ้องพระลักษมณ์ ไม่ละสายตา พระลักษมณ์ไม่รู้กล จึงสั่งไพร่พลวานรเข้าสู้รบ , อินทรชิตแผลงศรนาคบาศทรงอานุภาพ บังเกิดเป็นพญานาคพุ่งทะยานจากฟ้าลงมาราวห่าฝน พ่นพิษร้ายไล่เลื้อยรัดพระลักษมณ์ และไพร่พลลิง ล้มลงนอนแน่นิ่งทั้งกองทัพ เหลือแต่เพียงพิเภกผู้เดียวที่รอดพ้นมาได้ด้วยเหตุเพราะเป็นยักษ์ , อินทรชิตประกาศชัยชนะอย่างมั่นใจ เหตุเพราะไม่เคยมีผู้ใดรอดพ้นจากศรนาคบาศได้แม้แต่ชีวิตเดียว พิเภกหลบเร้นหนีกลับไปแจ้งข่าว เมื่อเห็นพระลักษมณ์นอนแน่นิ่ง บ่วงนาครัดกายจากเท้าถึงท้อง ดึงอย่างไรก็ไม่ยอมหลุด , พระรามคร่ำครวญร่ำไห้ ทรมานใจด้วยสงสารพระน้อง ที่นอนอยู่เบื้องหน้า ต้องมาร่วมชะตากรรม ระหกระเหินทุกข์ทนจนบัดนี้คล้ายจะสิ้นชีวิตลง พิเภิกจึงทูลว่า อันพระลักษมณ์และไพร่พลวานรยังคงมีทางรอด , ด้วยการเรียกพญาครุฑมาช่วย จะสามารถแก้ให้บ่วงนาคบาศหลุดออกได้ , พระรามจึงแผลงศรพลายวาตขึ้นสู่ฟ้า พญาครุฑบนวิมารเหนือเมฆได้เห็นจึงส่งสัญญาณกระจ่างกลางเวหา ,พญาครุฑพากันบินลงมายังสมรภูมิ ,สำแดงเดชร่อนถลา โฉบจับหมู่นาคแล้วฉีกกิน ,พญานาคตื่นตระหนก รีบคลายบ่วงแล้วแทรกแผ่นดินหนีตายอุตหลุด , เมื่อละอองน้ำค้างยามค่ำคืนพร่างพรม , พระลักษมณ์และไพร่พลทั้งหมดก็ฟื้นคืนสติในทันที ติดตามเรื่องราวต่างๆ ผ่านการเล่าเรื่อง : Lifesty ธรรมดา channel
Create Date : 22 เมษายน 2566 |
Last Update : 22 เมษายน 2566 16:37:13 น. |
|
0 comments
|
Counter : 484 Pageviews. |
|
|