แต่ละวันฉันและลูกทำอะไร ไปบ้างหน้อ....
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
28 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
มาแล้ว.ภาค3...

มาแล้วๆๆๆ ไม่ใช่ซิงเกอร์นะจ้ะ มาต่อภาค3 กะการผ่าคลอดที่ญี่ปุ่นจ้า


ท้อง2นี้ห่างจากท้องแรก3ปีกว่าๆๆ แน่นอนว่าการผ่าคลอด หมอจะแนะนำให้มีลูกคนที่2หลังจากที่ผ่าคลอดไปอย่างเร็วสุดคือ6เดือน แต่ถ้าจะให้ดี 1ปีและน่า เพื่อที่แผลผ่าตัดจะได้ไม่ฉีกขาด เวลาที่ท้องขยายใหญ่ ...แต่เรา2คนตั้งใจว่าจะมีคนที่2ห่างจากเจ้กิสัก3ปี แม้แม่นยิ่งกว่าซื้อลอตโตซะอีก555


ทุกอย่างเมื่อเดิม คือให้ทางคลีนิกใกล้บ้านที่ฉันฝากท้องไว้ เขียนจดหมายให้หมอที่โรงพยาบาลที่จะคลอดลูก (ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเขียน ถ้าไม่มีจดหมาย ก็ไปไม่ได้อีก งง)โชคดีมากๆๆที่หมอคนที่ฉันเคยฝากท้อง และผ่าคลอดเจ้กิ ยังอยู่ เป็นหมอผู้หญิง (หมอที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่ จะย้ายไปประจำโรงพยาบาลอื่นเรื่อยๆๆ ไม่รู้ทำไมอีกเหมือนกัน เดี๋ยวจะหาคำตอบ) ครั้งแรกที่หมอเห็นหน้าฉัน หมอจำได้ อ้าวไอ้กระเหรี่ยงนี้อีกแล้วเหรอ....ยินดีด้วยค่ะ คราวนี้จะยังไงดี.....

ฉันบอกไปเลยว่าจะผ่าคลอด และหมอก็บอกว่า..อืมคงต้องเป็นเช่นนั้น เพราะคนแรกก็ผ่า และถ้าให้คลอดเอง กว่าจะถึง40วีค แผลที่เคยผ่าอาจจะปริได้ เพราะนน.คราวนี้พรวดมาเกือบๆๆจะ80กิโล

หมอเลยนัดวีคที่38 ให้ผ่คลอดเลย ทำให้คราวนี้ พี่จัง สามารถลาหยุดได้ตามกำหนด เข้ารพ.ตั้งแต่วันที่30 กย.-9ตค.โดยจะผ่าคลอดวันที่31ตค. รวมแล้ว10วันพอดี


คราวนี้ฉันรู้ตัวแน่นอนว่าจะผ่าคลอด และเคยเข้ารพ.ที่นี้แล้วตอนเจ้กิเกิด คราวนี้เลยเตรียมของทุกอย่างที่จำเป็น และไม่จำเป็น แต่อำนวยความสะดวก คราวนี้ฉันบอกพี่จังว่าอย่างอยู่คนเดียว ซ฿งหมอก็อนุญาติ หมอที่นี้ ส่วนใหญ่ แนะนำว่าถ้าคลอดลูกคนแรกให้อยู่ห้องรวมจะดีกว่า มีอะไรจะได้มีเพื่อนๆๆแม่มือใหม่พูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้กัน

คราวนี้อยู่ห้องส่วนตัว แต่ติดตรงที่..ห้องที่ฉันอยู้จะติดกับห้องพักพยาบาล และก็ห้อง...... จำได้ว่า3คืนสุดท้ายที่ฉันนอน ประมาณตี2กว่าๆๆ จะมีเสียงโหยหวน ฮ่า.........อิไตๆๆๆๆๆ กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ(อย่าเพิ่งคิดว่าเล่าเรื่องผี หรือหนังโป๊นะ) ตอนแรกฉันก็ไม่รู้หรอกว่าเสียงอะไร กลัวนะ แต่พอเสียงกรี๊ดๆๆๆสุดท้ายดังมากๆๆๆหมดลง ก็จะได้ยินเสียงแห่งความยินดี อ่ะๆ...อุแว้ อุแว้ เสียงเด็กทารก ใช่ห้องที่ฉันพัก ติดกับห้องคลอดอ่ะสิ คืนต่อๆๆมา ถ้าฉันได้ยิน ก็จะนอนลุ้นตลอดว่าคลอดยังหว่า... เอาๆๆๆวกเข้าเรื่องตัวเองต่อ

ก่อนคลอด1อาทิตย์ หมอจะนัดตรวจคลื่นหัวใจ เอกซ์เรย์ (สำหรับคนท้องนะ) ดูตำแหน่งเด็ก ตำแหน่งแผลเก่าที่เคยผ่าไว้

ฉันเข้ารพ.ตั้งแต่บ่ายวันที่30 หมอก็จะสั่งตรวจร่างกาย วัดความดัน โกนขนที่....พอตกเย็น หมอวิสัญญีก็จะมาแนะนำตัว พูดคุยว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง พอค่ำๆๆ หมอที่ฉันฝากท้องและเป็นคนผ่าคลอด ก็จะขึ้นมาคุยด้วย ให้ฉันผ่นคลาย ผ่าท้องครั้งนี้ตื่นเต้นอ่ะ และหลัง3ทุ่ม อดน้ำ อาหารทุกอย่าง ถ้าหิวน้า ให้จิบๆๆ หรือเอาสำลีมาชุบน้ำมาแตะๆๆที่ริมฝีปาก

แน่นอนก่อน3ทุ่ม ฉันตุนอาหารไว้ในท้องสุดๆๆ เพราะต้องอดไปอีก2วัน...

พอ7โมงเช้า หมอผ่าคลอดมาแล้ว หมอที่ญี่ปุ่นมาทำงานกันเร็วดีจังเลย มาคุยว่าเป็นไง ตื่นเต้นไหม ทำสบายๆๆผ่อนคลาย ถึงตอนนี้ฉันรีบไปอาบน้า แปรงฟัน สระผมก่อนเลย เพราะคงอีกหลายวันที่จะไม่ได้อาบน้ำเป็นแน่

8โมง พยาบาล2คน เข้ามาสวนฉี่ ใส่ถุงเท้าแบบรัด เปลี่ยนเสื้อคลุมผ่าตัด ให้น้ำเกลือ

แม่ฉัน แม่พี่จัง พี่จัง ยูกิ มากันตอน8โมงกว่าๆๆๆ

ออ..ลืมบอก ที่รพ.นี้ห้ามเด็กที่อายุต่ำกว่า15เข้าไปเยี่ยมเด็กแรกเกิด เพราะว่าอาจจะนำเชื้อโรคมาติดทารกได้ เพราะฉะนั้น ฉันได้เจอหน้าเจ้กิ ตอนที่พยาลบาลเข็น ฉันมาที่ลิฟท์ เพื่อที่จะไปชั้น3 ที่เป็นส่วนผ่าตัด

10โมงกว่าๆๆฉันก็ถูกเข็นเข้าไปห้องผ่าตัด พอรถเข็นเข็นเข้าไปในห้องผ่าตัด ใจฉันเต้นเร็วมาก มันตื่นเต้น เหมือนจะเป็นลม..หมอบอกให้ผ่อนคลาย ครังนี้ฉันดูการผ่าตัดผ่านกระจกไฟที่ส่องด้านบนตัวอ่ะ (ถ้าดูหนังจะเห็นไฟที่ห้องผ่าตัด เวลาหมอผ่าจะมีไฟอยู่ด้านบนหัวอ่ะ) เห็นทุกอย่าง บางครั้งทนไม่ได้ หันไปทางอื่นแทน แต่ก็นอนดูนะเกือบๆๆหมดและ เห็นเลือดเต็มไปหมดเลยมีบางเวลา ที่รู้สึกอยากจะเจียน ก็จะคอยบอกพยาบาลว่าไม่ไหว พยาบาลจะเข้ามาเช็คหัวใจ ให้ออกซิเจน และให้นอนตะแคง แต่ถ้าไม่ไหวมากๆๆก็อาเจียนออกมาได้ แต่ฉันไม่สามารถ เพราะอดอาหารไปตั้งแต่3ทุ่ม ป่านนี้ย่อยสลายไปหมดแล้ว ครั้งนี้ไม่สลบเหมือนคราวที่แล้ว และเสียดเลือดน้อยกว่าครั้งก่อน แค่900มิลลิลิตรเอง (ไม่เยอะนะ ไม่ถึง1ลิตร)

พอกลับมาพักฟื้นที่ห้องฉันก็คุยกับแม่ และก็ได้ดูรูปยูจัง ที่พี่จังเดินไปถ่ายมาจากห้องเด็กแรกเกิด และก็นอนหลับไป ตื่นมาอีกทีก็บ่ายแก่...ตื่นมา แม่ก็ยังนั่งเฝ้าฉันเหมือนเคย แม่ไม่ได้ลุกไปไหน และก็ยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้าเลย ฉันบอกให้แม่ไปกินข้าว แม่บอกว่าไม่หิว แม่เป็นห่วง อยากนั่งดูลูก เผื่อลูกตื่นมาหิวน้ำ จะได้หยิบน้ำให้กิน

ฉันบอกแม่ว่าไม่ต้องห่วงหนูหรอกแม่ ผ่าตัดครั้งนี้สบายดีกว่าครั้งก่อนมากๆๆ และหมอก็ยังไม่ให้กิน้ำด้วยทำใจให้สบาย ฉันหยิบโทรศัพท์ ไปเรียกพี่จัง ให้พาแม่ลงไปกินข้าวที่ห้องอาหาร


พอสักพัก แม่ก็ขึ้นมาอยู่เป็นเพื่อนฉันจนหมดเวลาเยี่ยม


วันแรกหลังผ่าตัด


วันนี้พยาบาลเข้ามาตอน10โมง วัดความดัน ดึงสายสวนฉี่ออก โอ..โล่ง..จัง และก็แกะเครื่องนวดเท้า ถุงเท้า ตอนนี้ร่างกายฉันขยับได้แล้ว ไม่ชาเหมือนเมื่อวาน ไร้ความรู้สึกจัง 55พยาบาลถอดทุกอย่างเสร็จ ปรับเตียงให้ฉันลุกเดินเลย...อะไรว่ะ เพิ่งผ่าเมื่อวานสันนี้ต้องเดินแล้วเหรอ..

พยาบาลไม่พูดอะไร จัดการเอาสัมภาระฉันใส่รถเข็น เข็นนำหน้าไปห้องพักใหม่ ฉันก็ต้องฝืนใจลุก แต่คราวนี้ มันเป็นแบบคนเดินกมเก็บเหรียญอ่ะ เจ็บมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆไม่ไหวค่ะ ขอรถเข็นด่วน ว่าแล้วก็มีพยาบาลหน้าตาน่ารัก เข็นรถเข็นเข้ามา ประคองฉันไปนั่ง และเข็นฉันไปยังห้องพัก


ที่ห้องพักใหม่ คราวนี้ฉันรีเควสแบบห้องพักเดี่ยว อยากนอนคนเดียว เวลาคุยกับแม่ จะได้ไม่ต้องกรงใจใครพอนอนได้สักพัก พยาบาลก็อุ้มดช.ยูจังมาให้ฉันได้อุ้ม และกินนม แล้วก็อุ้มกลับไป คราวนี้แปลก มีน้ำนมไหลด้วย ไหลได้ไหลดี ก็อาจจะเป็นเพราะลุกคนที่2ด้วยละมั่ง


ตอนบ่ายแม่มาอยู่เป็นเพื่อน ชวนคุยโน่นนี้ ดันไปคุยเรื่องเจ้กิที่บ้าน ทำเอาฉันหัวเราะท้องคัด ท้องแข็ง เจ็บแผลมากๆๆ ฉันบอกแม่อยากเล่าเรื่องตลกให้ฉันฟังได้ไหม เดี๋ยวแผลฉีกหรอก หัวเราะมาก


อยู่มา10วัน ทุกอย่างปรกติ ระบบการทำงานในร่างกายฉันปกติดี ตด และถ่ายหลังจากผ่าตัดได้2วัน ไม่มีไข้ ไม่มีภาวะแทรกซ้อน คงเป็นเพราะกำลังใจดีอย่างยูกิ ยูจัง แม่ เพราะฉันเป็นห่วงยุกิ กลัวว่ากิจะร้องไห้คิดถึงฉัน ป่าวเลย แม่บอกฉันว่ายูกิ ไม่เคยร้องไห้หาฉันแม้แต่ครั้งเดี่ยว เวลาถูกถามว่าแม่ไปไหน กิก็ตอบอย่างหน้าชื่นตาบานว่า***แม่ไปออกน้องที่โรงบาล เดี่ยวมา หนูอยากไปหาแม่ ไปกินข้าวแกงกะหรี่ที่ห้องอาหารของโรงบาล อร่อยดี ไปเล่นที่สวนใกล้ๆๆรพ.*** สรุป หนุไม่ร้องหาแม่ แต่ฉันร้องไห้คิดถึงยูกิ เกือบทุกคืน แต่ก็ยังมียูจังที่ฉันต้องดูและ เลยทำให้ฉันไม่เหงามาก


และแล้วก็ถึงวันที่9ตค.วันที่ฉันจะกลับบ้าน ฉันตื่นแต่เช้า ไปอาบน้ำ แล้วกลับมากินข้าวเช้า เก็บของเสร็จตั้งแต่ก่อน8โมง ฉันทรไปที่บ้าน ให้มาบเร็วๆๆอยากกลับบ้าน ของทุกอย่างเตรียมหมดแล้ว ออบัตรโทรศัพท์ที่โรงพยาบาล เก็บไว้เป็นที่ระลึกดีกว่า ไว้ให้ลูกๆๆได้ดูตอนโต

10โมงกว่าฉันก็กลับบ้านอย่างสุขใจ มีหมอ และพยาบาลมาส่งตรงทางออกของชั้นห้องพัก และฉันนั่งรอพี่จังไปจ่ายค่าเสียหาย ครั้งนี้ รวมๆๆแล้ว4แสน9หมื่นกว่าๆๆเยน โอ..พระเจ้า คลอดลูกที่เกือบครึ่งล้านเยน...แต่...ฉันได้รับคืนหมดจากรัฐบาล และบริษัทสามี โล่งอกหน่อย

ระหว่างทางนั่งรถกลับบ้าน ฉันก็คุยกับแม่ว่า ผ่าท้องครั้งนี้ดีจง อยู่รพ.10วัน ไม่เหมือนตอนยูกิ อยุ่ตั้ง14วันแน่ะ อยากจะบ้าตาย

และแล้วเหตุการณืไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เหมือนพระเจ้าแกล้งฉันยังไงอย่างนั้นเลย ตกดึก ฉันมีไข้สูงถึง40องศา ไม่ได้การแล้ว แช้วันรุ่งขึ้น พี่จังพาฉันกลับไปหาหมอที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ฉันไปถึงรพ..ไข้ลดลงแล้ว นิดหน่อย ประมาณ39.5 หมอขอตรวจภายในอีกครั้ง ปรากฏว่า มีก้อนเลือดของรก ทียังไม่ลอกมาหมดค้างอยู่ก้อนใหญ่มาก หมอบอกว่าอาจจะต้องผ่าตัดซ้ำ.... หา...พราะเจ้า แม่จ้า พ่อจ้า ไม่เอา ฉันไม่อยากผ่าตัดอีกครั้ง อยากกลับบ้าน แล้วใครจะดูแลยูจังหล่ะ สักครู่ หมอคนที่ตรวจ โทรไปตามหมอคนผ่าคลอดให้ฉันลงมาดู หมอบอกว่าอาจจะเม่ต้องผ่าก็ได้ นอนรพ..สัก2-3วัน หาสาเหตุก่อน ให้ยา และขูดมดลูกเอา


พระเจ้าอีกรอบ เพิ่งออกไปเมื่อวาน วันนี้กลับเข้ามาอีกแล้ว แนถูกส่งขึ้นไปยังชั้น6 แผนกห้องพัก สูติ ขึ้นไปเป็นเวลาพักของหมอ พยาบาลพอดี พอหมอ พยาบาลคนที่เข้าเวรเมื่อวานเห็นฉัน คิดว่าฉันลืมของ เลยกลับมาเอา ถามว่าลืมอะไร เปล่าค่ะ อิฉันกลับมานอนโรงพยาบาลอีกแล้ว จะโชคดีหรือร้าย เพราะของในกระเป๋าฉันยังไม่ได้เก็บ เลยถือมาใช้อีกรอบ

ฉันกลับไปนอนรพ..วันศุกร์ที่10 ออก จากรพ.วันจันทร์ที่13 สรุปแล้วอยุ่รพ..14วันเท่ากันกับตอนคลอดยูกิเลย ให้ตายสิโรบิ้น

ฉันกลับมานอนคนเดียว ส่วนยูจัง แม่ฉันเป็นคนดูแล โชคดีมากๆๆ ที่ยูจังเลี้ยงง่าย ไม่ร้องกวนตอนดึก จะร้องนิดหน่อย ตอนหิวนม แม่ฉันก็จะจำเวลาไว้ว่ากินกี่โมง และจะตื่นมาชงให้ตรงเวลาเสมอ ส่วนพี่จังก็หยุดงานต่ออีก3วัน ขับรถเทียวไปมา บ้าน-รพ.วันละ5-6รอบ คอยมารับน้ำนม ที่ฉันบีบ และเก็บไว้ในถุงแช่แข็ง เอากลับไปให้ยูจังกิน บางทีมาตั้งแต่6โมงเช้า บางครั้ง มาตอนเที่ยงคืน พยาบาลอนุญาติให้มาได้ เพราะว่าต้องการให้เด็กได้กินนมแม่ ส่วนฉัน มีไข้แค่2วัน ได้รับน้ำเกลือ และยาแก้อักเสบ กับยาขับเลือด และขูดมดลูก ก็อาการดีขึ้น แต่ยังต้องนอนรพ.ต่อไปจนถึงวันจันทร์ เพราะติดวันหยุด ไม่สามรถออกรพ.ได้

และก็ยังต้องตื่นทุก4ชั่วโมงคอยมาเก็บน้ำนมใส่ถุงให้ยูจังได้กิน...



พอถึงวันจันทร์ วันที่หมอมาตรวจ หมอบอกว่าปลอดภัยดีแล้ว ไม่มีปัญหา กลับบ้านได้ เท่านั้นแหล่ะ ฉันเก็บกระเป๋า เสื้อผ้า โทรไปบอกพี่จังมารับ และแน่นอน ฉันสั่งให้พี่จังเอาบัตรโทรศัพท์ที่ในโรงพยาบาลตอนคลอด ไปแลกเป็นเงินกลับ ไม่อยากเก็บเอาไว้แล้ว เพราะเก็บไว้แล้ว เหมือนจะได้กลับมาอีกครั้ง

ทั้งของใช้บางอยาง ฉันก็ทิ้งไว้ที่ถังขยะเลย ไม่เชื่อแต่ไม่ลบหลุ่นะเนี่ย..

ดช.ยูจังแรกคลอด นน3648 ยาว52ซม..นน.น้อยกว่าเจ้กิ126กรัม..











Create Date : 28 เมษายน 2551
Last Update : 30 เมษายน 2551 14:09:08 น. 13 comments
Counter : 1760 Pageviews.

 
โรงพยาบาลญี่ปุ่นดีเนอะ ยอมให้มารับนมแม่กี่โมงก็ได้ ชอบๆ


โดย: NeneShin วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:20:44:44 น.  

 
น้องกิจัง น่ารักมั่กๆ ค่ะ พี่หลิงอยากได้หน้าแบบนี้จัง คมเข้มดี แต่ตัวเล็กของพี่หลิงคงออกหมวยๆ แน่เลย เพราะพ่อมันตี๋มั่กๆ แต่ยังไงก็ได้เนอะ ขอให้สุขภาพแข็งแรงก็พอ

เมื่อวานไปหาหมอมา หมอนัดผ่า 37 วีคกะห้าวัน แฟนพี่หลิงบอกเร็วไปหรือเปล่า พี่หลิงก็ไม่รู้ว่าดีหรือเปล่า ก็เออออไปกันหมอไปก่อน แล้วกลับมานั่งคิดอีกที แต่กรณีของเจี๊ยบก็ใกล้ๆ พี่เนอะ น่าจะโอเคเนอะ ว่าแต่ว่าเจ้า yuichi chan หนักกีโลเหรอค่ะ แล้วน้องเจี๊ยบน้ำหนักถึงแปดสิบกิโลจริงเหรอ ไม่น่าถึงน้า

สงสัยด้วยว่าทำไมรกยังเหลืออยู่ แปลกจังเลย เพราะผ่าตัดน่าจะเลาะรกออกมาได้หมดเลย งงจังเลย

ขอบคุณนะค้า ข้อมูลละเอียดยิบดีจริงๆ ค่ะ มีประโยชน์มากๆ


โดย: zuling68 วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:7:11:47 น.  

 
อ่านบล๊อคสามหน้ารวดเลย
อูยยยยอ่านไปด้วยอินไปด้วย
เสียวแทน ถ้าเทียบระหว่างคลอดธรรมชาติกับผ่าคลอด
ผ่าคลอดดูหฤโหดจังเลย

ถ้าพี่ท้องคนที่สอง ขอให้ได้คลอดธรรมชาติเหมือนเดิมดีกว่า

ปล น้องยูอิจิ แรกเกิดน่ารักมาก ๆ เลย ทั้งผมและหน้าดูคลาสสิกมากเลย


โดย: Omiya วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:54:33 น.  

 
ปล อีกรอบจ๊ะ เขียนเรื่องผ่าคลอดได้ละเอียดดีมาก ๆ เลย
ขอบคุณมาก ๆ ที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์เป็นประโยชน์มากจ๊ะ


โดย: Omiya วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:00:06 น.  

 
มาเก็บข้อมูลจ๊ะ ว่าจะมีอีกคนเหมือนกันเร็ว ๆ นี้
แต่คุณชายบอกรอให้เจ้าคะน้า ผ่าตักอีกรอบ ตอน 5 ขวบก่อน
แล้วค่อยมีอีกทีดีกว่า

ผ่าคลอดเนี่ย โหดมากเลยง่ะ
ถามจริง น้ำหนักพุ่งถึง 80 กิโลเลยเหรอ

ปล.แล้วตอนนี้ กี่กิโลแล้วตัว


โดย: แม่น้องคะน้าจัง (Kana Jan ) วันที่: 2 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:58:31 น.  

 
มาดูลาดเลาไว้ก่อน แต่ ไม่รู้จะมีโอกาสแบบนี้รึป่าว



โดย: keichan วันที่: 3 พฤษภาคม 2551 เวลา:19:49:19 น.  

 
ยูจังแรกคลอดเหมือนเด็กผู้หญิงเลย น่ารักจัง

แต่อ่านประสบการณ์ผ่าคลอดแล้วเสียวแทนค่ะ


โดย: กาปุ้ย วันที่: 9 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:31:46 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ น้องยูจังน่ารักมากๆคะ พอโตขึ้นก้อหล่อขึ้นด้วยคะ


โดย: mintny_n วันที่: 10 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:58:31 น.  

 
ละเอียดดีจังเลย...ตอนเราคลอด เราก็ร้องไห้คิดถึงคนพี่เหมือนกัน...แบบว่าเนาะ เคยอยู่กับเราตลอด24 ชั่วโมง พอไปคลอดลูกบางทีมันก็ทำให้นึกนะ ว่าเค้ากำลังทำอะไรอยู่ จะงอแงกับคนอื่นไม๊...


อิอิ ยูจัง แรกคลอดนี่อวบออกมาเลยเนาะ ลูกเราตอนคลอดออกมาเหี่ยวทุกคนเลย ตัวเล็กด้วยมั้ง...มาบวมเอาตอนที่คลอดผ่านไปแล้ว 3 เดือนโน่นแน่ะ


โดย: LilyAi วันที่: 18 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:22:01 น.  

 
น่ารักจังไม่อยากมีลูกเลย ค่ะ กลัวเจ็บ

คาดว่าอาจจะได้ไปอีกรอบจ๊า ซื้อผ้าม่านที่นิโตริมาผิดไซส์ คงต้องเอาไปเปลี่ยนไม่รู้ว่าเขาจะให้เปลี่ยนหรือเปล่าไม่รู้ แถวบ้านพี่น่าอยู่มากๆ สวยงาม ห้างมากมาย กรี๊ดๆๆๆๆๆ


อยากอยู่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: meaw_1985 วันที่: 26 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:53:03 น.  

 
เราจะบอกว่าอ่านบล็อกนี้นานแล้วแต่ยังไม่ได้เม้นท์ เราอ่านที่ว่ามีก้อนเลือดออกมายังไม่หมดอ่ะ จะบอกว่า หลังคลอด 2อาทิตย์ได้มีก้อนเลือดเป็นก้อนๆเหมือนเยื่อบุอะไรซักอย่างออกมาอ่ะ เรานึกถึงเจี๊ยบจังเลย เรากลัว เลยไปหาหมอ แฮ่ๆๆ หมอบอกว่าไม่เป็นไร แล้วก็ตรวจภายในอ่ะ บอกว่าแค่ผนังมดลูกลอกออกมา แล้วให้ยามากินอ่ะ แต่หลังจากวันนั้นก็ไม่มีอีกเลย เรากลัวจะเป็นแบบเจี๊ยบจังไง

เราอ่านแล้วน้ำตาไหวว่ะ อ่านแล้วเป็นเราเราร้องไห้คิดถึงลูกคนแรกทุกวันแน่นอน

นี่ขนาดคลอดคนแรกนะ ห้องเด็กอ่อนอยู่แค่ไม่กี่ก้าวเรายังร้องไห้คิดถึงลูกเลยบ้าป่ะอ่ะ แฮ่ๆๆ แต่เรื่องจริงอ่ะ

แบบว่าคิดภึงอ่ะบอกไม่ถูก อยากนอนด้วยกันประมาณนั้นอ่ะ


โดย: แม่บ้านณ.โตเกียว วันที่: 3 มิถุนายน 2551 เวลา:9:48:53 น.  

 
ติดตามอ่านมาทั้งสามภาคเลยอ่ะพี่เจ๊ยบจัง
เล่าได้สนุกมากเลยค่ะ
หนิงเองคลอดเองยังเกือบตายเลย นี่ผ่าหนิงก็ไม่รู้เป็นไง
เคยถามเพื่อนที่นี่เค้าบอกไม่เจ็บเลย บางคนก็ทรมานกว่าคลอดเอง

คงแล้วแต่คนมั้งค่ะ แต่พี่เจี๊ยบจังก็ฮึดสู้เพื่อน้องยูจังมากเลย


โดย: หนูริวจัง วันที่: 15 มิถุนายน 2551 เวลา:23:01:05 น.  

 
สวัสดีค่ะ ยังไม่เคยผ่าคลอดที่ญี่ปุ่นค่ะเคยผ่าคลอดที่ลานนาเชียงใหม่ แต่ถามๆพี่คนไทยที่รู้จักกันก็มีปัญหาผ่าคลอดในญี่ปุ่นหมอพยาบาลลืมนั่นลืมนี่บ้างน่ากลัวค่ะ
ก็อยากมีน้องเพิ่มอีกคนแต่ทบทวนแล้วรู้สึกหวั่นๆยังไงไม่รู้
ขอบคุณนะค่ะที่เล่าสู่กันฟัง


โดย: eveava (eveava ) วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:15:12:18 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เจี๊ยบจัง
Location :
Hachioji-shi Tokyo Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




กำลังจะว่างงาน เด็กๆๆจะไปโรงเรียนกันหมดแล้ว

glitter-graphics.com
Friends' blogs
[Add เจี๊ยบจัง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.