สวัสดีคุณ
ผมไม่รู้จะกล่าวบอกคุณผ่านตัวหนังสือยังไงดี ถึงสิ่งที่จะสะท้อนความรู้สึกจากเบื้องลึกของผมว่าผมประหลาดใจเพียงใดกับการได้รับจดหมายตอบกลับจากคุณ ในภายหน้าหากเรามีโอกาสได้มาเจอกัน คุณจะเข้าใจได้เองว่าทำไม ผมถึงได้ใช้คำว่าประหลาดใจในการได้รับจดหมายตอบกลับฉบับนี้ แต่ยังไงผมก็ยังอยากบอกคุณอยู่ดีว่าผมดีใจเหลือเกิน ที่ได้อ่านจดหมายจากคุณ มันทำให้ผมรู้สึกราวกับว่าการรอคอยได้สิ้นสุดลง เพื่อเริ่มต้นการรอคอยสิ่งใหม่ถัดไป
คุณสบายดีนะ ส่วนผมตอนนี้สบายใจขึ้นมาก ผมนั่งเขียนจดหมายฉบับนี้ในร้านกาแฟร้านเดิม ร้านประจำของผม แต่ผมยังไม่มีโอกาสได้พาคุณมานั่งที่นี่เลย แล้วคุณล่ะเขียนถึงผมจากที่แห่งใดกัน ไม่แน่ บางทีเราอาจกำลังเขียนถึงกันจากที่แห่งเดียวกัน แต่ต่างกันตรงห้วงเวลาเท่านั้นเอง หากเป็นเช่นนั้นจริงคงจะแปลกพิลึก คุณว่าไหม
ส่วนเรื่องอากาศ ทางผมก็เป็นเช่นคุณ บางวันฝนกระหน่ำไม่ทันตั้งตัว บางวันร้อนแทบทำอะไรไม่ได้ แต่ไม่ว่าอากาศจะเป็นเช่นไร ผมก็ได้ร้านกาแฟแห่งนี้นั่งสังเกตการณ์เรื่องราวภายนอกจากที่นั่งประจำติดกระจกหน้าร้านของผม การเปลี่ยนแปลงของอากาศแต่ละวันนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของผู้คนด้วย หากคุณจะสังเกตเห็นเหมือนผม ที่นั่งเฝ้ามองแต่ฝูงคนที่เดินผ่านไปมา เช่นในวันอากาศร้อนรุนแรง สีหน้าผู้คนจะดูเร่งรีบรุนแรง ราวกับจะปะทะกับใครก็ได้ที่ประจันหน้า หากวันไหนอากาศเย็นตัวลงหลังฝนกระหน่ำนะ ก็จะเห็นแววตาสบายใจปรากฏเต็มใบหน้าของผู้คนมากมาย ผมนึกไกลไปถึงปลายปี ที่ว่ากันว่าอากาศปีนี้จะหนาวผิดปกติ ไม่รู้ว่าหน้าตาของผู้คนจะเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหนกัน ไว้ผมจะเขียนไปเล่าให้คุณฟังแล้วกันนะ
เรื่องที่คุณกลัวว่าผมจะถามถึงการกลับไปอยู่ด้วยกันนั้น ผมให้การรับรองได้เลยว่าคุณไม่ต้องเป็นกังวลกับสิ่งนั้น หากจะกล่าวให้ชัด ผมยังไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ด้วยซ้ำ คุณจะเข้าใจมันได้เองในภายหลังว่าทำไม แต่อย่าเป็นกังวลไปเลยกับสิ่งนี้ ผมยังคิดถึงคุณเหมือนเดิม เหมือนเช่นที่เคยเป็นมา และอีกอย่าง, ผมไม่รู้ว่าจะเรียนรู้การเลิกคิดถึงคุณได้ยังไง เนื่องเพราะผมทำมันมาตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา
คุณรู้อะไรไหม ผมได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากมายจากการใช้ชีวิตเพียงลำพัง ผมยอมรับว่าผมได้มีอิสระมากขึ้น ได้คิดได้ทำอะไรด้วยตัวเองมากขึ้น ตัดสินใจเรื่องสำคัญด้วยตัวเองมากขึ้น เพียงสิ่งเดียวที่แย่ แต่ก็ไม่ทั้งหมดหรอกนะ นั่นก็คือความเหงายังไงล่ะ คุณรู้รึเปล่า ตอนที่เรามีกันอยู่เพียงสองคนนั้น บางครั้งที่ผมท้อแท้ หมดพลัง เมื่อผมมองมาข้าง ๆ ผมจะเจอคุณอยู่เสมอและเป็นสิ่งที่ทำให้ผมลุกและก้าวต่อไปได้ ไม่เคยมีสักช่วงขณะจิตที่ผมจะรู้สึกเหงาเลย แต่หลังจากที่ผมมองไปที่ข้างกายแล้วไม่เจอคุณ ความเหงาก็จ้องจะเล่นงานผมอยู่เสมอ จนตอนนี้ผมเริ่มจะชินและรับมือกับมันได้ดีขึ้นแล้ว ไม่อย่างนั้นนะ ผมคงจะผ่านวันแต่ละวันได้อย่างยากลำบาก แล้วคุณล่ะเป็นยังไงบ้าง รับมือกับความเหงาได้ดีรึเปล่า เรียนรู้อะไรจากมันได้บ้างไหม เขียนมาเล่าให้ผมอ่านบ้างนะ
ผมรู้สึกว่าจดหมายนี้ออกจะยาวเป็นพิเศษ อันที่จริงผมก็ไม่ได้มีเรื่องเล่าอะไรมากมายเล่าสู่คุณ เนื่องเพราะผมใช้ชีวิตสามัญเหลือเกิน เกินกว่าจะมีเรื่องราวตื่นเต้นใดเล่าสู่คุณ แต่ผมเชื่อว่าคุณน่าจะมีเรื่องเล่ามากกว่าผม เล่าสู่ผมบ้างนะ ผมจะรออ่านจดหมายจากคุณนะ สัญญากับผมนะว่าคุณจะไม่ปล่อยให้ผมจมดิ่งอยู่ในวังวนแห่งมหาสมุทรตัวหนังสือของผมเอง จดหมายตอบกลับจากคุณเหมือนเชือกเส้นหนาที่ทิ้งตัวลงมาให้ผมให้ฉุดดึงตัวเองขึ้นจากการว่ายวนอยู่ในตัวหนังสือของผมเอง ทุกขณะลมหายใจ ผมจะรอคอยคุณ รอคอยจดหมายจากคุณ
ผมเอง หกเดือนหก
คงรู้สึกดีไม่น้อยเลยนะคะ^_^