เชียงคาน
ทริป           : เชียงคาน จ.เลย
ระยะเวลา    : 29-30 ธันวาคม 2554 (3 วัน 2 คืน) 
การเดินทาง : รถทัวร์
ค่าเสียหาย  : ประมาณ 7,000 บาท   ค่ารถ ไป - กลับ           1,608  บาท (2คน)
                                                     ค่าที่พัก                       1,100  บาท (คืนละ 550 บาท 2 คืน)
                                                     ค่าอาหาร                    2,000  บาท  (ชิมแหลก)
                                                     ค่านั่งรถเที่ยว ขึ้นภูทอก   240  บาท 
                                                     ค่าจิปาถะ                    2,000  บาท  (หมดไปกับการ์ด)

     เหตุเกิดจาก....
คุณหญิง : อยากไปเที่ยวหน้าหนาวมากกกก 
คุณชาย : ไปไหนล่ะ  -_-
คุณหญิง : หน้าหนาวก็ต้องไปเหนือ เห็นหมอกตอนเช้า กระทบอากาศหนาวตอนกลางคืน
คุณชาย : ไม่มีรถ ที่เที่ยวแต่ละที่ก็ไกล  -_-
คุณหญิง : แต่ฉันอยากไป -*-

     ทริปนี้เลยเกิดขึ้น ต้องเป็นที่ได้รับลมหนาว ต้องเดินทางระหว่างที่เที่ยวสะดวก กินง่ายอยู่ง่าย หันไปเจอหนังสือเล่มนึงที่ เชียงคาน เมืองเก่าเล่าเรื่องใหม่ เปิดๆ O[]o!!!! นี่ละ... ไปนี้ละกัน คุณหญิงเลย จัดโปรแกรมเองเป็นครั้งแรก ตั้งแต่หาข้อมูล จองรถ ติดต่อที่พัก เหนื่อย เมื่อยตูด แต่สนุกและประทับใจมาก ตลอด 3 วัน อยู่ตั้งแบบชิลๆ คนน้อยเดินสบาย จน คนเยอะ คึกคัก และแน่นหนา ได้ 2 อารมณ์เลย
     เชียงคาน (ในความคิดฉัน)  คือ ความลงตัวระหว่างวิถีชีวิตชาวบ้านของคนยุคเก่า กับ สีสัน เสียงเพลงยามค่ำของคนยุคใหม่ และที่นี่คือที่จุดประกายความฝันที่อยากจะมีโฮมสเตย์เป็นของตัวเอง อยากไปอีกครั้งจัง


เราจองตั๋วรถทัวร์ของ ขนส่ง มากันตอนกลางคืน นั่งๆนอนๆ กันให้เต็มที่ ตื่นมาก็ถึงพอดี ^^




รถทัวร์จอดลงตรงตลาดพอดี งงงวยกันสองคนว่าไปทางไหน หันมาเจอลุงเทือง สามล้อ พอดี จัดให้ลุงไปส่งซะเลย 
แหม่...ลุงซิ่งได้ใจมาก




ถึงที่พัก แต่ยังเข้าเช็คอินไม่ได้ T T พี่เจ้าของบ้านเลยบอกให้เราไปอาบน้ำอาบท่ากันก่อน แล้วออกไปปั่นจักยานเล่น เที่ยงๆ ค่อยมาเช็คอินก็ได้ ^^



เราเลือกอย่างหลังดีกว่า ฝากสัมภาระไว้ที่พัก แล้วไปปั่นจักรยานฟรี กัน
 (โว้!!! ค่าที่พักก็ถูกแถมยังมีจักรยานให้ปั่นด้วย)




อันดับแรก สำรวจริมโขงกันก่อน สวยป่าว?
กว้างใหญ่ ฝั่งกระนู้นคงเป็นประเทศเพื่อนบ้านเราสินะ 




เริ่มหิวกันล่ะ
มื้อเช้า มื้อแรก ที่ เชียงคาน
ไข่กระทะ + ข้าวเปียกเส้น
(หญิงก็เพิ่งเคยทานไข่กระทะเป็นครั้งแรกที่นี่เนี่ยแหละ อร่อยเว้ยเฮ้ย!!! ติดใจอะดิ ทุกมื้อเลยต้องกินไข่กระทะ)
รู้สึกว่าจะกลายเป็นเมนูประจำของที่นี่ไปแล้ว มองไปทางไหนก็ต้องมี ไข่กระทะ หรือไม่ก็ ข้าวเปียกเส้น 
จำชื่อร้านนี้ไม่ได้ แต่ร้านนี้คนเยอะมากกกกอ่า ขายทั้งวันทั้งคืนเลย ต่อแถวกันยาววววว




อิ่มแล้วเราก็ต่อด้วย การปั่นดูวิถีชีวิตของคนที่นี่กัน





ปั่นชิลๆ ไปจนมาถึงตลาดที่เราลงรถมาเมื่อเช้า
มาป๊ะคุณยายท่านนี้ ใช้กลยุทธ์ทางการตลาด + รอยยิ้มสยามหวานซะ ^______^




คุณชายเราเลยหลงเสน่ห์ ซัด ข้าวปุ่นน้ำแจ่วไปอีกชาม (นิมาเที่ยวหรือมากินเนี่ยยยย!!)
ส่วนเราไม่ไหวขอบายละกัน -_-




ปั่นย่อยกันต่อไปกับบรรยากาศ 2 ฝั่งของอาคารบ้านเรือนที่สวยงามเช่นนี้
เห็นบางร้านก็เปิดกันแล้วนะ จัดการกดภาพ แชะ! แชะ! เพราะกลัวว่าตอนเย็นคนจะเยอะกว่านี้ แล้วจะแย่งซีนถ่ายไม่ทัน!!








กำแพงบ้านเก่าหลังนี้... เพื่อนบอกว่าใครมาต้องมาถ่ายที่นี่ เลยขอซักรูป 555




ร้านนี้ โดนใจ สำหรับคนชื่นชอบของเก่า อย่างเรา ดูกันเพลินๆ อย่างกะที่นี่เป็นของเรา เพราะยังไม่มีใครมาเลยอ่า ขนาดเราจะซื้อของ ยังหาเจ้าของร้านไม่เจอเลย



ชมกันพอเจริญหูเจริญตา นิก็ใกล้เที่ยงแล้ว เรากลับที่พักกันเถอะ

สองผัวเมีย เกสท์เฮาส์ & แฮนดิคราฟท์
Husband & Wife GuestHouse and Handicraft
เราเลือกที่นี่เพราะ พี่เจ้าของบ้านประยุกต์เอาข้าวของชาวเชียงคาน และชาวไทดำ มาใช้ในการตกแต่งบ้าน เข้ากับบรรยากาศการมาพักผ่อนที่เชียงคานมาก นอกจากข้างบนจะเปิดให้เป็นที่พักแล้ว ด้านล่างยังเปิดขายของที่ระลึกอีกด้วยละ
นี่คือ ห้องพักของเราตลอด 3 วัน 2 คืน 
เราได้ห้องที่เราคิดว่ามันคือห้องที่วิวดีที่สุดเลยละ มีหน้าต่างเล็กมองออกไปเห็นคนเดินไปมาตอนกลางคืน สวยดี ถึงจะต้องใช้ห้องน้ำรวมก็เถอะ กับราคาคืนละ 550 บาท เราว่าไม่แพงไปเลยนะ
พี่เจ้าของบ้านใจดี แนะนำที่เที่ยวเยอะแยะ บรรยากาศในบ้านก็ดี มุมนั่งเล่นสวยๆหลายมุม ห้องน้ำธรรมชาติมาก มีกาแฟ ชา โอวัลติน น้ำดื่ม ให้ทานไม่อั่น มีจักรยานให้ปั่นฟรี แถมยังมีคูปองอาหารเช้าให้เราไปเลือกทานร้านไหนก็ได้ คุ้มๆจะตาย
(ไม่ได้อะไรกับที่นี่เลยนะ แต่ประทับใจจริงๆ)




มุมนั่งเล่นข้างบน มีทีวีดูด้วยยย



หลับไปหนึ่งตื่น ยังไม่มึด ทำไงดีละ นึกไม่ออก..
งั้นไปปั่นจักรยานต่อ คราวนี้สำรวจเส้นนอกกันมั้ง แล้วค่อยกลับมาดูพระอาทิตย์ตกดิน ^^

อากาศกำลังดี ไปถึงร้อนเลยละ




ปั่นมาเจอมุมนี้ หลงนึกว่า ต้นสนที่เกาะนามิ เกาหลี ป่าวหว่า สวยใช้ได้เลยอ่า >_<





ปั่นเพลินไปหน่อย งานเข้า!!! 
คราวนี้ปั่นแบบดริฟ!! เลยที่เดียว จะทันเห็นพระอาทิตย์ตกดินมั้ยเนี่ยย 
เย็นแล้วคนก็ออกมาเดิน เยอะ ไปหมด T T




ถึงแว้ววววว!!! 
ไหนละๆๆๆ -*-




อดไปครับพี่น้อง
มารู้ที่หลังว่า ยังไงมันก็มองไม่เห็นหรอกน้องเอย
งั้นเก็บภาพยามเย็น ริมโขงแทนละกัน -_-




ปั่นกันยาวจนสุดทางงงง 
เจอวิวภาพตรงนี้สวยมากกกก ไม่เสียแรงปั่นมาไกล ^_______^




อาการหิวมื้อเย็น เริ่มออกฤทธิ์
วกรถเข้ามาข้างไหน มาเจอกับร้านนี้
ซอยสอง ทุกอย่างต้องสอง ขนาดราคา ยังลงท้ายด้วยสองอ่า 
อาหารจัดว่า รสชาติชาวบ้านมากกก อร่อย ใช้ ได้
 (ฝากท้องกะที่นี้ทั้ง 2 วัน โดนไป มื้อละ 500 บาท แลกกับอาหารอร่อย ความเงียบสงบ เพราะห่างจากตรงที่เค้าเดินกันเยอะ มีดนตรีสด เพราะๆให้ฟังกันเพลินๆ)




อะ...หมดแล้วแกยังจะกินอีกหรอ o[]O
(เราติดใจปีกไก่สมุนไพรมากอ่า จนตอนนี้ทำกินเองแล้ว 555)




ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล ตราบใดที่แสงไฟยังสว่างเราก็ไม่หยุดเที่ยว >_<
ปรากฏว่า เราไม่ค่อยได้ถ่ายกันเลย ดูๆ ชมๆ กันอย่างเดียว เพราะคนเยอะมากก อย่างที่คิดไว้ 






ภาพนี้เราว่า มันช่างคัดกับบรรยากาศตอนกลางคืนนี้มาก ในขณะที่บ้านอื่นๆ เปิดร้านขายอาหาร ขายของต่างๆ เสียงดัง คึกคัก
แต่บ้านนี้ กลับนั่งเย็บผ้า เราว่ามันทำให้เราตีความหมายได้หลากหลายอารมณ์เลยละ
เย็บเยอะจนมาเลยออกมาข้างนอกเลยอ่า




หมดไป 1 คืน ลาไปด้วยภาพหน้าบ้าน สองผัวเมีย คืนนี้ สวยจัง




เช้าของวันที่ 2 
วันนี้เราตื่นกะตั้งแต่ตี 5 เพื่อจะไป ภูทอก  วัดพระพุทธบาทควายเงิน แก่งคุดคู้ >_<
เรานั่งรถปิกอัพ ไปพร้อมกับผู้ร่วมทางอีก 4-5 คน ค่าทัวร์ทริปนี้ก็ตกคนละ 100 บาท (ถ้าจำไม่ผิด แต่ถูกกว่า เหมาะสามล้อไปแน่นอน ติดต่อผ่านทางพี่เจ้าของบ้าน)

ไปถึงตีนภูทอกก็ต้องเปลี่ยนรถ เป็นของทางเจ้าหน้าที่ที่นั้น (เสียคนละ 20 บาท)
เราได้นั่งรถเปิดประทุน ขึ้นภู กัน อยากบอกว่า หน้านิตึงเลย หนาววววมากกกก




เห็นแสงสีส้ม ที่ขอบฟ้า มีทะเลหมอกด้านล่าง สวยมากกกกเลยยย




พระอาทิตย์ขึ้นแล้ววว O[]O
นิก็เพิ่งเคยเห็นพระอาทิตย์ขึ้น แบบนี้ เนี่ยแหละ
สวัสดีวันใหม่ ก่อนสิ้นปีจ้าาาาา




เช้าแล้วก็เก็บ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ 
เจอภาพนี้ไป... โว้!!! ไทยเที่ยวไทย เยอะจริงๆ




ต่อด้วย
วัดพระพุทธบาทควายเงิน




แต่เราว่า ไฮไลท์ มันอยู่ที่เจ้าพวกนี้นะ 
เยอะมากกก เยอะไปไหนเนี่ยย เจ้ากระต่ายน้อยยย น่าร๊ากกกก




ทริปสุดท้าย 
แก่งคุดคู้
กว่าจะเดินมาถึงตรงนี้ไกลมากอ่า ร้อนแล้วด้วย T T




ก่อนกลับ พี่คนขับรถ ถามว่าลองชิม ปาท่องโก๋ยัดไส้ ยัง ?
มันเป็นไงหว่า ?
ต้องลอง!!!




ยาววววมั๊กมาก เลยสั่งมาอย่างละชิ้น 
ทรงเครื่อง กะ กล้วย
เราว่ามันก็คือขนมปังที่มีไส่อ่า 
ไส้ทรงเคื่องเนี่ยให้อารมณ์ แบบ ป่อเปี๋ยทอด แต่ก็อร่อยดีนะ แต่เราชอบไส้กล้วยมากกว่า ราดนม หวาน หอมดี




ช่วงบ่าย ขอจัดทริปเองมั้ง
ปั่นจักรยาน ไหว้พระ ดีกว่า








เย็นมากแล้ว ก็ยังคงใช้ชีวิตแบบเมื่อวาน ^^ อย่างมีความสุข
 กินข้าวซอย 2 เดินเที่ยวเล่น ซื้อโปสการ์ด นอน




เช้าของวันสุดท้าย ณ เชียงคาน
ทำบุญตักบาตร ข้าวเหนียว กันเช้านี้ ส่งท้ายก่อนสิ้นปี 2554
พี่เจ้าของบ้านไปซื้อข้าวเหนียวมาให้ใส่บาตรกัน แถมยังให้ความรู้เกี่ยวกับประเพณีนี้กัน
เป็นประเพณีที่มีลักษณะเหมือนกับที่หลวงพระบาง ลาว วิธีแบบดั้งเดิมเลยคือ การใช้มือเปล่าปั้นข้าวเหนียวเป็นก้อนแล้วหย่อนลงบาตร ส่วนกับข้าวจะตามไปถวายที่วัดอีกที่
เป็นกุศโลบายให้หนุ่มสาวเข้าวัดมากขึ้น ^^




ยังเช้าอยู่เราไปเดินเล่นที่ริมโขงกันซักหน่อย ^^
โห...ว่าจะมาถ่ายรูป แต่หมอกนิลงหนามาก มองไม่เห็นอะไรเลยยย



ถึงเวลาเช็คเอาท์ T T 
กว่าจะขึ้นรถก็เย็น ว่างๆแบบนี้เขียนโปสการ์ด สวัสดีปีใหม่ดีกว่า



****THE END****






Create Date : 15 ตุลาคม 2555
Last Update : 24 ตุลาคม 2555 10:30:46 น.
Counter : 2805 Pageviews.

4 comments
  
โดย: Kavanich96 วันที่: 16 ตุลาคม 2555 เวลา:7:21:58 น.
  
ทริปนี้สนุกมาก ขนาดไม่ได้ไปด้วยนะเนี่ย
วิวสวยดี งามแต้ๆ *-----*
โดย: get up IP: 125.24.53.113 วันที่: 16 ตุลาคม 2555 เวลา:10:05:56 น.
  
สวย ^^
โดย: toy-ba วันที่: 16 ตุลาคม 2555 เวลา:10:09:46 น.
  
เค้าอยากไปปปปป พาเค้าไปหน่อยยย
โดย: ormeko IP: 203.158.155.104 วันที่: 19 ธันวาคม 2555 เวลา:15:54:30 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

MUTTANANG
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



พื้นที่เล็กๆ ของคนรักอิสระหัวใจใหญ่
Group Blog
ตุลาคม 2555

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
15 ตุลาคม 2555