Take a sad song and make it better!
<<
มกราคม 2549
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
30 มกราคม 2549

Abbey Road The Beatles 1969

อัลบั้มสุดท้ายของสี่เต่าทอง ถ้าจะถามความเห็นส่วนตัว ผมก็ชอบแผ่นนี้ที่สุดแล้วล่ะครับ เป็นรักแรกฟัง และรักยืนยง กี่ปีกี่ชาติกี่พันครั้งก็ยังชอบไม่เลิกรา นี่ล่าสุดได้ฟังเวอร์ชั่น 'needle drop' CD (ซีดีที่บันทึกเสียงจากแผ่นไวนีล) ยิ่งเห็นคุณงามความประเสิรฐของมันไปกันใหญ่

แต่แม้จะชอบที่สุด ผมก็ไม่อาจบอกว่า Abbey Road นั้นที่สุดไปเสียทุกด้าน จุดแข็งของมันอยู่ที่ความเข้มข้นของดนตรีที่หาจุดอ่อนแทบไม่ได้ บางท่านอาจจะแย้งว่าเพลงเล็กๆแต่ละเพลงที่มาประกอบเป็นเมดเลย์ในหน้าบีนั้น ถ้าแยกออกมามันก็เศษเพลงชัดๆ... แต่ใครใช้ให้คุณทำอย่างนั้นล่ะ? และอีกประการคือ"ฝีมือ"ในการเล่นดนตรี (musicianship) ของทั้งสี่ ถือว่าบรรลุ และยอดเยี่ยมกว่าในอัลบั้มอื่นๆทั้งปวง

ในแง่ความคิดสร้างสรรค์ มันสู้ Revolver และ Sgt. Pepper's ไม่ได้ และในแง่ความหลากหลายและลูกบ้าก็คงต้องยกให้ White Album ไป ส่วน Rubber Soul ถ้านับเป็นจำนวนหมัดที่ต่อยเข้าเป้า มันน่าจะมาวิน เพราะมีเพลงระดับห้าดาวอยู่มากที่สุดในแผ่นเดียว.....



ความจริงพวกเขาน่าจะเก็บฉากตั้งแต่ความล้มเหลวในการทำอัลบั้ม Let It Be (ตอนนั้นใช้ชื่อ Get Back project) แล้ว ที่การบันทึกเสียงพร้อมกับถ่ายหนังไปแบบไม่มีสคริปต์ออกมาไม่ได้เรื่อง (น่าจะเข็ดจาก Magical Mystery Tour) แถมยังมีปัญหาเรื่องความขัดแย้งด้านการจัดการ การเงิน และความจุ้นของโยโกะเข้ามาอีก

แต่พวกเขาคงไม่อยากจากไปแบบ loser กระมัง น่าจะเป็นพอลที่โทรเรียกจอร์จ มาร์ตินกลับมาโปรดิวซ์ให้อีกครั้ง หลังจากที่พวกเขาใช้บริการของมาร์ตินน้อยลงทุกทีหลังจาก Sgt. Pepper's เป็นต้นมา

แต่กระนั้น เบื้องหลังว่ากันว่า Abbey Road ก็ไม่ได้เป็นการทำงานแบบร่วมมือร่วมใจกันเท่าไหร่ของสี่เต่าทอง น้อยครั้งนักที่จะเห็นพวกเขาอยู่ในห้องอัดด้วยกัน มีบางเพลงในแผ่นที่จอห์น เลนนอน ไม่ได้มีส่วนร่วมเลยก็มี




 

Create Date : 30 มกราคม 2549
5 comments
Last Update : 30 มกราคม 2549 0:12:41 น.
Counter : 2066 Pageviews.

 

นักวิจารณ์ส่วนมากจะยกย่องมาร์ตินและพอลที่ทำเมดเลย์ในหน้าสองออกมาได้อลังการและเร้าอารมณ์สุดๆ แต่อย่าลืมว่าจอห์นก็ส่งเพลงเข้ามาในหน้าสองหลายเพลง แถมในหน้าแรก ถ้าไม่มีร็อคเกอร์คลาสสิคอย่าง Come Together และเฮฟวี่บีบอารมณ์อย่าง I Want You (She's So Heavy) Abbey Road คงเบาโหวงไปเยอะ....

จอร์จ แฮริสันส่งเข้าประกวดสองเพลง แต่แค่นั้นก็พอเพียง เพราะมันคือ Something เพลงที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา กับ Here Comes The Sun ที่เปิดหน้าบีของแผ่นเสียงได้อย่างสดใส

 

โดย: winston 30 มกราคม 2549 0:17:46 น.  

 

แต่เพลงที่ผมชอบที่สุดในแผ่นมีสามเพลง....เป็นของพอลล้วนๆ...

Oh! Darling บลูส์โมดิไฟด์ ที่เขาร้องแบบถวายหัวใจ (ตอนเด็กๆฟังคิดว่าเสียงจอห์น) แต่มีเสียงประสานนิ่มๆลอยตัดแทรกอยู่ ทำให้ไม่เหมือนเพลงบลูส์เพลงใดในโลก

She Came In Through The Bathroom Window มันคือไคลแมกซ์ของเมดเลย์ พอลตบเบสได้สุดฟังกี้

Golden Slumbers.... เศร้าสร้อย ยิ่งใหญ่

 

โดย: winston 30 มกราคม 2549 0:21:47 น.  

 

ริงโก้ได้ร้องเพลงน่ารักๆที่เขาแต่งเอง Octopus's Garden ที่เหมือนจะเป็นภาคสองของ Yellow Submarine ส่วนฝีมือกลองที่เขาฝากไว้ในหลายๆเพลงนั้นถือว่าเลิศเลอเกินกว่าที่ใครจะคาดว่าเขาจะทำได้ ลูกทริปเปิลที่ต่อเนื่องเป็นกระแสคลื่นใน Come Together การเปลี่ยนจังหวะอย่างลื่นไหลใน Here Comes The Sun และครั้งแรกและครั้งเดียวกับการโซโลกลองใน The End ที่ไม่ได้เมามันและยิ่งใหญ่อะไรมากถ้าไปเทียบกับยอดมือกลองคนอื่นๆ แต่มันอาจจะเป็นโซโลกลองท่อนเดียวในโลกที่มีคนฮัมตามได้มากที่สุด.....

 

โดย: winston 30 มกราคม 2549 0:25:48 น.  

 

มันคงจะเศร้าและลงตัวที่สุดถ้าอัลบั้มจบลงด้วยประโยค And in the end...the love you take...is equal to the love....you make.... จากเพลง The End

แต่พวกเขาก็ดันไปเอา Her Majesty มาแปะไว้ต่ออีก

แต่นี่แหละครับ The Beatles พวกเขาไม่ทำอะไรที่มัน too sentimental เกินไปหรอก.....

 

โดย: winston 30 มกราคม 2549 0:28:10 น.  

 

because the wind is high it's blown my mind

 

โดย: secret garden IP: 203.170.19.2 29 กรกฎาคม 2552 9:24:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


winston
Location :
กรุงเทพ United Kingdom

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add winston's blog to your web]