4 | | | ตำนานอาถรรพ์ อาชญากรโลกไม่ลืม ฆาตกรรมบันลือโลก ประวัติศาสตร์ทั่วมุมโลก | | |

Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2558
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
15 กรกฏาคม 2558
 
All Blogs
 
อัลตัน โคลแมน & เดบร้า บราวน์ : คู่ผีนรกเร่รอน

“เขาเป็นผู้ฆ่า ส่วนเธอเป็นผู้ตาม”

ในปี ค.ศ. 1984 มีคู่ปีศาจคู่หนึ่งชื่อ อัลตัน โคลแมน กับ เดบร้า บราวน์ ชาวผิวสีจากเมืองวอกีแมน รัฐอิลลินอยส์ ทั้งคู่ใช้เวลาแค่ 53 วัน สร้างความโหดไปทุกหย่อมหญ้า แก่ผู้อาศัยอยู่แถบเกรตเลคส์ ทั้งคู่เดินทางพเนจรไปทั่ว 7 รัฐ ทำการสังหารคนไป 8 ศพ ข่มขืน 7 ราย ลักพาตัว 3 ราย แถมปล้นจี้ด้วยอาวุธนับไม่ถ้วน แต่ที่น่าแปลกใจคือทั้งคู่ก่อคดีแบบไร้ทิศทาง ไม่มีการวางแผนล่วงหน้า ทำไปแบบไร้เหตุผล ไม่เลือกเป้าหมาย ไม่ปิดบังใบหน้า จนคนอื่นเขารู้จนทั่วว่าคู่นี้เป็นฆาตกรโรคจิต! ที่จริงการฆาตกรรมแต่ละครั้งอัลตันจะเป็นคนฆ่าเหยื่อก่อนเป็นคนแรก ส่วนเดบร้านั้นมีหน้าที่เป็นผู้ตาม ยืนดูเฉย ๆ ขนาดตัวฆาตกรหรือเหยื่อเองยังไม่รู้เลยว่าเดบร้าอยู่ด้วยในที่เกิดเหตุ เดบร้า บราวน์ เป็นแค่ผู้ติดตาม เธอถูกรัศมีความดังของอัลตัน โคลแมน บดบัง แต่กระนั้นทั้งคู่ก็เป็นฆาตกรคู่ที่ตำรวจ FBI ต้องการตัวมากที่สุดแล้ว


➻ อัลตัน โคลแมน
อัลตัน เกิดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 1955 เป็นลูกชายคนที่สามของพี่น้องจำนวน 5 คน แม่เป็นผู้หากินในย่านสลัม ตอนเด็กของอัลตันพูดได้เลยว่า เขาเป็นเด็กมีปัญหาชัด ๆ แม่ของเขาไม่สนใจในตัวอัลตันสักเท่าไร เขาจึงถูกส่งตัวไปให้ยายเลี้ยงดู อัลตันเป็นเด็กที่มีพัฒนาการช้ามาก โตจนเข้าประถมแล้วยังฉี่รดกางเกงทุกวัน จนเพื่อน ๆ ให้ฉายาเขาว่า “ไอ้เด็กฉี่ราด”

อัลตันไม่สนใจในการเรียน เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปขลุกกับพวกกุ๊ยข้างถนน ชอบพกมีด พูดจาลามก หยาบคาย ทำลายข้าวของสาธารณะ ชอบทำตัวเป็นขาใหญ่ คอยรีดไถเด็กอนุบาลหรือเด็กอ่อนแอกว่า แถมตั้งฉายาตัวเองใหม่เป็น “บิ๊กอัล” ในแวดวงตำรวจเมืองวอกี้แมนนั้น ชื่อของอัลตัน โคลแมน นั้นอยู่ในบัญชีดำเป็นโหล เพราะเขาทำผิดกฎหมายมากมายจนเป็นที่รู้จักไปทั่ว

เมื่ออัลตันอายุ 18 ปี ในวันที่ 27 ธันวาคม 1973 เขาก็ก่อเหตุกับเพื่อน โดยลักพาตัวหญิงวัย 54 ปี จากห้างสรรพสินค้าในเมือง จัดการข่มขืนและปล้นทรัพย์สินของเธอจนหมดตัวแม้กระทั่งเสื้อผ้า จากนั้นก็ถีบเธอทิ้งจากรถที่กำลังแล่น........เธอเปลือยเปล่า หนาวจัด แต่ก็รอดมาได้ และสองวันต่อมาโคลแมนและเพื่อนก็โดนจับ น่าประหลาดที่เหยื่อปฏิเสธที่จะฟ้องร้องเรื่องข่มขืน คงเหลือแต่ปล้นทรัพย์สินอย่างเดียว ในวันพิจารณาคดี เหยื่อเอาแต่เงียบ มันทำให้อัลตันรอดพ้นมือกฎหมายได้อย่างสะดวกสบาย

รูปภาพของ Hathairat Traithip

ตอนหลังอัลตันโม้ว่า เขานับถือเทพวูดู “บารอน แซมมีดี๊” เทพผู้มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ เป็นเทพแห่งความตายของวูดูเลยนะ เป็นเจ้าแห่งเวทย์มนต์คาถาด้วย เขาช่วยปกป้องเราให้รอดพ้นความผิดในครั้งนี้ด้วยละ สำหรับลักษณะของเทพองค์นี้ จะสวมหมวกทรงสูงสีดำ โค๊ตหางยาวสีดำ ส
วมแว่นดำ ในตำนานเล่าว่ามันมีหน้าที่จับวิญญาณเร่รอนให้กลับไปอยู่สถานที่ที่เรียกว่า “บ้านของพระเจ้า” แม้อัลตันจะรอดพ้นความผิดฐานข่มขืนแต่ไม่พ้นคดีปล้นทรัพย์ ทำให้เขาต้องจำคุกในรัฐอิลลินอยส์อยู่ 6 ปี แต่เอาเข้าจริงก็แค่ 2 ปีเท่านั้น แล้วก็ถูกปล่อยออกมาสูดอากาศนอกคุกแบบสบายบรื๋อ

หลังพ้นโทษ อัลตันปรับปรุงตัวเสียใหม่จากโจรปล้นหันมาเป็นไอ้บ้ากาม! เนื่องจากประสบการณ์จากคนคุกด้วยกัน ที่มีเซ็กซ์แบบต่าง ๆ หลายรูปแบบ มีทั้งธรรมดาและพิเศษที่คนธรรมดาได้ยินแล้วต้องขนลุก (จากผลการวิเคราะห์จิตใจของอัลตัน ในเวลาต่อมาพบว่า เขามักมากในกามเอามาก ๆ เขายินดีที่ร่วมเพศกับสิ่งของ สัตว์ ผู้ชายและเด็ก) แค่สามเดือนหลังจากพ้นโทษ อัลตันถูกจับอีกด้วยข้อหาข่มขื่น แต่ไม่นานนักก็ถูกปล่อยตัว เพราะมีหลักฐานว่าฝ่ายหญิงยืนยอมพร้อมใจเองต่างหาก ปี 1980 อัลตัน โคลแมน แต่งงาน แต่ก็อยู่กินกันได้แค่ 6 เดือนก็หย่า สาวคุ่แต่งงานฟ้องตำรวจว่ารับไม่ได้กับความวิปริตในกามของเขา มันทั้งวิปริต และป่าเถื่อน ปี 1983 อัลตันข่มขืนน้องสาวอายุ 8 ขวบ ของตัวเอง เรื่องนี้ขึ้นสู่ศาล แต่เธอดันกลับให้คำให้การในตอนท้าย ๆ เชื่อว่าเธอโดนข่มขู่เหมือนพยานคนอื่น ๆ ก่อนหน้า มันยิ่งทำให้อัลตันย่ามใจ และก่อกรรมทำเข็ญคนอื่น ๆ มากยิ่งขึ้น ยิ่งขึ้น...

➻ เดบร้า เดนนิส บราวน์
เดบร้าเกิดที่วอกีแมน เช่นเดียวกับอัลตัน ในเดือนพฤศจิกายน 1962 เป็นลูกคนที่ 5 ในจำนวนพี่น้องถึง 11 คน ทั้งหมดถูกเลี้ยงดูแบบจน ๆ และชีวิตโดยรวมของเดบร้าก็ไม่ต่างกับอัลตันสักเท่าไร่ เพราะเธอมีพัฒนาการช้าเช่นกัน เกลียดการเรียน ลาออกกลางคันในขณะเรียนมัธยม วัน ๆ อยู่เงียบ ๆ คนเดียว แต่ไม่มีนิสัยก้าวร้าว และไม่ยุ่งกับใคร งานแรกของเธอคือเด็กล้างจานในครัว ซึ่งมันง่ายดี ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องใช้ความรู้และประสบการณ์ แต่ทำไปไม่นานก็ลาออก เหตุผลไม่มี แถมชอบพูดคำว่า “อยู่ไปวัน ๆ” อีก สรุปคือชีวิตทั้งคู่เหมือนสาหร่ายแถว ๆ อันดามัน ที่วัน ๆ มันจะลอยไปตามกระแสน้ำแบบเฉื่อย ๆ ไม่มีความคิดที่วางแผนการ และไม่รู้ทำอะไรต่อไปในอนาคต และแล้วเมืองวอกีแมนต้นฤดูร้อนปี 1984 ในบาร์เล็กๆ ในท้องถิ่น เดบร้า บราวน์ วัย 21 ปี พบกับ อัลตัน โคลแมน วัย 28 ปี!! ที่จริงตอนพบกันครั้งแรกเดบร้าหมั้นหมายกับชายคนอื่นแล้ว แต่เดบร้าก็หันมาคบกับอัลตัน เพราะเห็นเขาเท่กว่ากันเยอะ


หนุ่มสาวทั้งคู่ออกจากวอกีแมน ก่อนจบการเดินทางที่แกรี่ในรัฐอินเดียนา อัลตันเริ่มก่อกรรมทำเข็ญ เขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าข่มขื่นเด็กหญิงวัย 15 ปีคนหนึ่งที่มาจากชิคาโก ส่วนเดบร้าไม่สนที่คนรักตนทำผิดแต่อย่างใด มันคล้ายกับว่าเธอเห็นอัลตันเป็นผู้นำ ผู้นำทำถูกเ
สมอ เธอเป็นผู้ตามเท่านั้น อย่างอื่นไม่สน และแล้วชุมชนเกรตเลคส์ ก็กลายเป็นเวทีล่าสังหารของสองผีนรกเร่รอนคู่นี้

29 พฤษภาคม 1984 เวอร์นิต้า วีท เด็กน้อยอายุ 9 ขวบ รบเร้าให้แม่อนุญาตให้เธอไปเมืองวอกีแมนกับเพื่อนคนใหม่ เธอบอกว่าเพื่อนใหม่เป็นคนใจดีมาก ๆ เขาชื่อ โรเบิร์ต ไนท์ มากับแฟนสาวที่ดูน่ารัก เรียบร้อย เขาบอกว่าเขามีเครื่องเสียงสเตอริโออยู่ชุดหนึ่งที่เขาไม่ได้ใช้แล้ว เลยอยากให้ช่วยมาขนเป็นของขวัญวันแม่แก่เวอร์นิต้า เด็กน้อยรบเร้าแม่จนสำเร็จ และขึ้นรถไปกับมิตรใหม่ และก็หายจ้อย ไม่กลับมาอีกเลย ผู้เป็นแม่อกแทบแตก เธอรีบวิ่งแจ่นตำรวจทันทีทันใด เมื่อตำรวจรับแจ้งความ จากนั้นก็เอาภาพจากแฟ้มอาชญากรรมมาให้มารดาของเด็กดู ผลคือเธอชี้ไปที่รูปของ อัลตัน โคลแมน แล้วบอก “นี่ไงโรเบิร์ต ไนท์” ศพของเวอร์นิต้าถูกค้นพบวันที่ 19 มิถุนายน เธอถูกซ่อนในตึกร้างกลางเมืองวอกีแมน สาเหตุการตายคือถูกรัดคอ น่าเสียดายที่จริงเจ้าอัลตันนี้เคยถูกจับและขึ้นศาล เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 1984 อยู่แล้ว ในข้อหาข่มขืนและลักพาตัวแต่ก็รอดเงื่อมมือกฎหมายอีกครั้งเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ และในที่สุดใบหน้าของอัลตัน โคลแมนและ เดบร้า บราวน์ ก็กลาบเป็นหน้าที่ตำรวจต้องการมากที่สุด และการเป็นฆาตกรที่หน่วยงาน FBI ต้องการเป็นอันดับต้น ๆ

5 มิถุนายน 1984 สองผัวเมียคู่ผีนรกไปเช่าอพาร์ตเมนต์ในเมืองแกรี่ แต่การใช้ชีวิตล่องลอยไปมาทำให้พวกเขาตกต่ำลงทุกที อยู่ไปวัน ๆ เหมือนคนไม่มีอนาคต 17 มิถุนายน 1984 ดอนน่า วิลเลี่ยมส์ ช่างตัดผมวัย 21 ชาวเมืองแกรี่ หายสาบสูญไป มีผู้พบเห็นเธอครั้งสุดท้ายว่าไปกับหญิงคนหนึ่งที่มาจากบอสตัน คู่นี้ดูดีมาก พวกเขาบอกว่าอยากให้เธอไปชมโบสถ์ในหมู่บ้านของเธอ ดอนน่าอาสาเป็นไกด์และพาชายหญิงคู่นั้นไปเที่ยวโบสถ์สวย และก็หายจ้อยทั้งไกด์ทั้งแขก ส่วนฝ่ายครอบครัวของดอนน่ารู้สึกตัวช้าเหลือเกินกว่าที่จะแจ้งความกับตำรวจก็ต้องรอเวลาผ่านไปตั้งสองวัน จากนั้นตำรวจก็ไม่รอช้าเอารูปสองผีนรกนั้นให้ครอบครัวดอนน่าดู “นั่นแหละ ใช่เลย!”

หลังจากคดีของดอนน่าผ่านไปไม่กี่วัน อัลตัน กับเดบร้าก็ขับรถกินลมไปตามท้องถนนเมืองแกรี่ เขาพบเด็กสองคนข้างทาง ก็เลยจอดรถถามทางเด็ก ทำทีว่าพวกเขามาจากเมืองอื่น ทามิก้า เติร์ก วัย 7 ขวบ กับญาติ แอนนี่วัย 9 ขวบ เพิ่งกลับจากร้านขายของกำลังเดินกลับบ้าน รถของอัลตันจอดตรงหน้าของเด็กทั้งสอง ทำทีถามทาง เด็กน้อยพยายามอธิบาย แต่อัลตันบอกว่าเขาฟังแล้วไม่เข้าใจ เลยเสนอเงินจำนวนหนึ่งเป็นค่าตอบแทน ถ้าทั้งคู่ขึ้นรถไปกับเขา ทามิก้ากับแอนนี่ยอมตกลงขึ้นรถทันทีทันใด และเดบร้าที่นั่งมาด้วยก็ไม่รอช้าเอามีดมาขู่ไม่ให้ร้องขอความช่วยเหลือ ขณะที่อัลตันขับรถตรงไปในป่าแห่งหนึ่งที่ห่างออกไป 20 กิโลเมตร และบอกว่าจะไปเล่น “เกม” กัน อัลตันพาเดบร้ากับเด็กน้อยไปที่ป่าลึก เขาหยุดที่พุ่มไม้แห่งหนึ่งและกระชากเสื้อของทามิก้าออก และฉีกเป็นริ้วยาว ๆ เอามามัดและอุดปากเด็กทั้งสอง ทามิก้าเริ่มร้องไห้และดิ้นรนอย่างเสียขวัญ เด็ก 7 ขวบ เธอจะมีปัญหาทำอะไรได้ล่ะ นอกจากจะตะเบ็งเสียงดังไปเรื่อย ๆ แอนนี่มองญาติอย่างเป็นกังวล แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เธอทนดูอัลตันต่อยหน้าทามิก้าอย่างเมามันนับครั้งไม่ถ้วน เด็กหญิงถูกทุบตรงอกจนเสียงเงียบลง เหลือแต่เสียงครางแผ่ว ๆ จากนั้นอัลตันก็จับเธอนอนและลงมือข่มขืน เมื่อสำเร็จกิจ อัลตันก็คว้าสายอิลาสติคยางยืดรัดที่นอนมารัดคอทามิก้า เด็กน้อยน่าสงสารดิ้นรนอย่างกับปลาโดนค้อนทุบและอ่อนปวกเปียกเหมือนตุ๊กตาผ้าขี้ริ้วไร้วิญญาณ ในที่สุดเธอก็ตาย อัลตันใจเย็นพอที่จะอุ้มศพทามิก้าไปโยนทิ้งไว้หลังพุ่มไม้แล้วหันมาเล่นงานแอนนี่เป็นรายต่อไป เด็กหญิงวัย 9 ขวบ ถูกบังคับให้ทำออรัลเซ็กซ์ เสร็จแล้วเธอก็โดนรัดคอจนหมดสติ ชะรอยสองผีนรก คงหมดแรงฆ่าแล้ว พวกเขาเลือกที่จะทิ้งร่างเด็กน้อยที่ยังมีลมหายใจแผ่ว ๆ ให้นอนตายไปเลยดีกว่า สองผีนรกจากไป แอนนี่ฟื้นคืนสติ เธอกระเสือกกระสนจนออกจากป่ามาเจอถนน โชคดีที่มีมอเตอร์ไซต์คันหนึ่งผ่านมาเห็นแล้วพาเธอส่งโรงพยาบาล

แอนนี่เล่าเหตุการณ์สยองขวัญให้ตำรวจฟัง และชี้รูปอัลตันและเดบร้าจากแฟ้มได้ตรงเผง 19 มิถุนายน 1984 ตำรวจก็พบศพทามิก้าอยู่หลังพุ่มไม้ หลังฆ่าทามิก้า เติร์กไปแล้ว อัลตันก็ชวนเดบร้าออกไปปฏิบัติภารกิจนรกกันต่อไปอีก ที่ดีทรอยท์ รัฐมิชิแกน หญิงคนหนึ่งเดินออกจากบ้านมาไขกุญแจประตูรถ ทันใดนั้นเธอถูกอัลตันและเดบร้าจับขึ้นรถ เอามีดจี้ให้เธอขับรถพาไปไกลกว่า 80 กิโลเมตรถึงเมืองโทเลโด รัฐโอไฮโอ ระหว่างทางหญิงเจ้าของรถทำทีสงบเยือกเย็น พอได้จังหวะเธอขับรถชนท้ายรถบรรทุกดังโครมเบ้อเร่อ อัลตันและเดบร้าโจรสองคนตกใจรีบฟุบหลบลงเบาะหลัง ส่วนหญิงเจ้าของรถฉวยโอกาสหนีออกจากรถ กว่าโจรทั้งสองมารู้ตัวอีกที คนเป็นเหยื่อก็ก็หนีไปกับรถบรรทุกที่เธอชนด้านท้ายไปเรียบร้อยแล้ว เลยอดฆ่าเลย

โดยปกติฆาตกรต่อเนื่องจะมีรูปแบบฆ่าเหยื่อเฉพาะของตัวเอง มีการวางแผนเป็นอย่างดี แบบว่าสูตรใครสูตรมัน สำหรับรูปแบบการฆ่าของอัลตัน โคลแมน คือไร้รูปแบบ และไม่เคยวางแผนล่วงหน้า เวลาที่อัลตันและเดบร้าเดินทางไปไหนเขาจะหาเหยื่อแถว ๆ ที่ไป ยามทั้งคู่มีเซ็กซ์พวกเขาก็จะเอาใครก็ได้ที่ผ่านหน้าผ่านตา ใครเดินมาถือว่าถูกหวยเป็นเหยื่อของอัลตันไป โดยให้เดบร้าเป็นตัวล่อเหยื่อ! อัลตัน โคลแมน ณ บัดนี้ กลายเป็นสิบอันดับแรกของอาชญากรที่ FBI ต้องการตัวมากที่สุดในสหรัฐแล้ว ผีนรกคู่นี้คือฝันร้ายของตำรวจ มันน่ากลัวที่มันเป็นฆาตกรที่ปราศจากแรงจูงใจ ฆ่าดักไม่เลือกที่เลือกเวลา แถมเหลือเชื่อคือมันไม่ทิ้งหลักฐานและร่องรอยอะไรไว้เลย แถมไม่รู้ว่ามันจะไปไหน ไม่รู้ทิศไม่รู้ทาง...เหมือนผี วันที่ 27 มิถุนายน มีคนพบรถคันหนึ่งทิ้งข้างถนนในเมืองดีทรอยท์ ตำรวจเข้ามาตรวจสอบรถพบว่ามันเป็นรถของดอนน่า วิลเลี่ยมส์ ช่างตัดผมที่หายไปหลายวัน มันถูกทิ้งเพราะน้ำมันหมด และภายในรถยังพบบัตรประชาชนปลอมติดรูปเดบร้า คนแถวนั้นบอกว่ารถคันนี้จอดทิ้งมาตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน

30 มิถุนายน เมืองดีทรอยท์ ชายสองคน ซึ่งคนหนึ่งเป็นคนพิการชวนอัลตันและเดบร้าขึ้นรถอย่างเอื้ออารี แต่ทันใดนั้นอัลตันก็ใช้ปืนขู่ คนขับรถเกิดโมโหจึงเกิดการต่อสู้กับอัลตันยกใหญ่แต่ทำไม่สำเร็จเลยโดนถีบตกรถเป็นคนแรก ส่วนชายพิการถูกโยนออกจากรถในขณะที่รถแล่นด้วยความเร็ว แต่น่าอัศจรรย์ที่เขาไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย

2 กรกฎาคม อัลตันและเดบร้าออกท่องเที่ยวในชนบท Dearborn Heights ในเขตดีทรอยท์ นึกยังไงก็ไม่รู้ไปบุกบ้านสามีภรรยาวัยกลางคน พาล์มเมอร์และแม็กกี้ โจนส์ สองเจ้าของบ้านโดนแป๊บน้ำตีจนเลือดนองเต็มพื้น ส่วนอัลตันและเดบร้าช่วยกันขโมยเงินและรถยนต์ของพวกเขาไป รถของสามี ภรรยา โจนส์ ถูกพบที่โทเลโด้ ในสภาพน้ำมันหมดเช่นเคย

7 กรกฎาคม เกิดคดีฆาตกรรมแม่ลูก เวอร์จิเนีย เทมเบิล ม่ายสาววัย 30 และโรเซลล์ ลูกน้อยวัย 10 ขวบ ในบ้านเธอเอง จากการสันนิษฐาน ม่ายสาวคงพบแขกสองคนที่ดูดี น่าคบ เธอจึงชวนสองคนนี้มาพบเพราะหวังดี รุ่งเช้า แขกสองคนนี้ก็ขโมยเงินสดและข้าวของพร้อมรถยนต์เธอไปเกลี้ยง ส่วนศพสองแม่ลูก ถูกพบว่ามันถูกยัดอยู่ใต้ถุนเตี้ย ๆ ของบ้าน ทั้งสองถูกข่มขืนและรัดคอตาย

10 กรกฎาคม โทนนี่ สตอเรย์ สาวเมืองซินนาติ หายตัวไปอย่างลึกลับ มีผู้พบเห็นครั้งสุดท้ายว่าเธออยู่กับหนุ่มสาวที่มีลักษณะคล้ายอัลตันและเดบร้า มากับรถของบาทหลวงมิลลาร์ด เกย์ วัย 79 ปี ซึ่งบาทหลวงให้การว่าสองผัวเมียอาศัยกับท่านมาหลายคืนแล้ว ก่อนที่ท่านเองจะอาสาขับรถพาสองคนนี้ไปส่งเมือง ซินซินนาติ

11 กรกฎาคม มีผู้พบศพ ดอนน่า วิลเลี่ยมส์ ในบ้านร้างของเมืองดีทรอยน์ ใกล้มหาวิทยาลัย เวย์น สเตท ยูนิเวอร์ซิตี้ อยู่ห่างจากเมืองแกรี่ที่ดอนน่าอาศัยอยู่ถึง 350 กิโลเมตร เธอถูกฆ่ารัดคอจนตายด้วยถุงน่อง เชื่อว่าศพของเธออยู่ในท้ายรถ ในขณะที่อัลตันกับเดบร้าทำกา
รข่มขืนและฆ่า ทามิก้า เติร์กส์ และแอนนี่ในป่าเดียวกัน น่าสังเกตเหยื่อที่อัลตันฆ่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นคนผิวดำ การถูกฆ่า ถูกทำร้ายของเหยื่อจึงไม่เป็นที่สนใจของตำรวจมากนัก เพราะรู้ ๆ อยู่ พวกผิวดำเป็นพวกภาระในสังคม เก็บภาษีก็น้อย ไม่เหมือนคนขาวที่ถูกสังคมปกป้องยิ่งกว่าเทพ อีกทั้งเทพวูดูยังปกป้องสองผีนรกอีกแต่แล้ว บรรดาคนผิวขาวในเมืองวอกีแมนก็เริ่มฉุน เมื่ออัลตันและเดบร้าเริ่มสร้างความเดือดร้อนกับชนผิวขาวจนได้ 13 กรกฎาคม ที่นอร์วู้ด ปริมณฑลของซินซินนาติ สองหนุ่มสาวผิวดำ ไปยืนหน้าประตูของสามีและภรรยาผิวขาววัยกลางคน แฮร์รี่และมาร์ลีน วอลเทอร์ส ขอดูรถแวนที่แฮรร์รี่ติดประกาศขาย ในชั่วใมงนั้นเอง แฮร์รี่ถูกตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนมาร์ลีนผู้เป็นภรรยาโดนซ้อมจนขาดใจตายอยู่ภายในบ้าน อัลตันและเดบร้ารีบหนี โดยใช้รถของวอลเทอร์สเป็นพาหนะ

วันรุ่งขึ้นรถแวนของแฮร์รี่ถูกพบในไร่ข้าวโพดไกลออกไปจากที่เกิดเหตุ 125 กิโลเมตร ทางตอนใต้เมืองเลซิงตัน รัฐเคนทักกี้ จากคดีสังหารมาร์ลีน วอลเทอร์ส ส่งผลให้อัลตันและเดบร้าก้าวพ้นจากการปกป้องของเทพวูดู บารอน แซมมิดี้ ออกไปสู่แสงสว่างของกฎหมายและการไล่ล่าของตำรวจเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ปฏิบัติการชั่วร้ายของผีนรกยังไม่หมด

16 กรกฎาคม ที่เมืองเลซิงตัน คราวนี้ตำรวจจับโทมัส แฮร์รีส ชาวเมืองเลซิงตันในข้อหาสมรู้ร่วมคิด โทมัสสารภาพว่าเขาถูกบังคับให้ร่วมมือกับคู่หนุ่มสาวที่ดูท่าทางดีเหลือเกิน สองผีนรกขู่ให้โทมัสช่วยจับ โอลีน คาร์ไมเคิล วัย 44 ปี อาจารย์มหาวิทยาลัย ยัดใส่ที่เก็บของท้ายรถแล้วขับตรงไปเมืองเดย์ตัน ทิ้งเขาไว้ที่นั่น ยังดีที่มีคนมาพบเธอทัน และช่วยเหลือเธอจนปลอดภัย อัลตันและเดบร้าทิ้งโทมัสให้ถูกจับและเผ่นหนีด้วยรถกลับไปอยู่กับสาธุคุณมิลลาร์ด เกย์ เจ้าเก่า คราวนี้อัลตันทำร้ายสาธุคุณและภรรยา เขาจับคนทั้งคู่มัดและอุดปาก ก่อนที่ขโมยรถสเตชั่น แวกอน ของท่านสาธุคุณไป สองวันหลังจากนั้น รถของสาธุคุณถูกทิ้งไว้ในร้านล้างรถที่เมืองอินเดียนาโปลิส รัฐอินเดียน่า เพราะน้ำมันหมด แต่คราวนี้ไม่ทิ้งเปล่า เพราะอัลตันหนีบข้าวของในร้านไปด้วยเป็นของแถม ยูจีน สกอตต์ เจ้าของบริการล้างรถอายุ 77 ปี จะเอากำลังที่ไหนไปสู้สองผีนรกนี้ได้ละ พวกมันพาเขาขึ้นรถของเขาเองแล้วขับด้วยความเร็วสูงวิ่งไปทั่ว หลังจากมีรายงานแจ้งว่ายูจีนหายไปพร้อมกับรถ ตำรวจทำการค้นหาและในที่สุดก็พบชายชราในสภาพเป็นศพน่าสงสารถูกโยนทิ้งข้างถนน ยูยีนถูกแทงจนพรุน และโดนยิงที่หัว 4 นัด อาวุธสังหารเป็น .38 คาลิเบอร์ รอยบาดลึกที่ข้อมือเกิดจากมืด อันแสดงถึงการยกแขนขึ้นปกป้องตัวเองจากความบ้าคลั่งราวผีนรกของอัลตัน สองผีนรกยังคงหลบซ่อนต่อไป ด้วยการปลอมตัวและชื่อของตน


รูปภาพของ Hathairat Traithip

1
9 กรกฎาคม ตำรวจเมืองเดย์ตันออกตามหาคุณแม่คนหนึ่งที่หายไปกับลูกน้อยของเธอ คนโตเป็นหญิงอายุแค่ 4 ขวบ คนเล็ก 3 ขวบ มีคนพบเห็นครั้งสุดท้ายว่าคุยอยู่กับอัลตัน และในวันเดียวกันที่เมืองซินซินเนติ มีผู้พบศพ โทนนี่ สตอเรย์ สาววัย 15 ปี เธอถูกข่มขืนและแทงซ้ำ ๆหลายแผลก่อนที่จะถูกยิงศีรษะ 2 นัด ภายใน 24 ชั่วโมงหลังพบศพโทนนี่ มีรายงานพบเห็นสองผีนรกในเมืองอีเนสตัน และในคืนวันนั้นเองมีคน 3 คน พบเห็นทั้งคู่ ใน เวลา 4 ชั่วโมง แถว ๆ ถนนเวสลี่ย์อเวนิว ประมาณ 23.30 น. ชาวบ้านบนถนนเวสลี่ย์ อเวนิว อีกคนแจ้งพบเห็นอัลตันอยู่หน้าบ้าน แต่เมื่อตำรวจไปถึงก็ไม่อัลตันเห็นแม้แต่เงา 

เช้าตรู่วันที่ 20 กรกฎาคม คราวนี้ตำรวจก็จับสองผีนรกนี้ได้เสียที สองคู่รัก สุดแสบนั่งอยู่ในเมสัน พาร์ค กำลังดูคนเล่นบาสเกตบอลกัน ทั้งคู่ดูเหนื่อย โทรม คออ่อนคอพับ ใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ ยับ ๆ อย่างกับขอทาน เมื่อพวกเขาลุกออกจากม้านั่งเพราะเบื่อดูเกม ตอนนั้นแหละทั้งคู่โดนจับทันที ตอนแรกสองคนแก้ตัวว่าพวกเขาไม่ใช่อัลตันและเดบร้า ตำรวจเลยจับแยกทั้งคู่ออกจากกัน เพื่อสอบถามชื่อ ปรากฏว่าทั้งสองบอกไปคนละเรื่องเลย อัลตันบอกชื่อหนึ่ง เดบร้าบอกอีกชื่อหนึ่งซึ่งไม่ตรงกันเลย ตำรวจได้ทำการตรวค้นในกระเป๋าถือของเดบร้า พบปืน .38 คาลิเบอร์ และปืนพกรีโวลเวลเวอร์ ส่วนในกระเป๋าอัลตันพบมีดพกยาว 3 นิ้ว กับมีดหั่นสเต็กอย่างละเล่ม เมื่อสังเกตใกล้ ๆ เห็นชัดว่า อัลตันและเดบร้ามีคราบเลือดกระเด็นเปรอะอยู่ทั่วตัว แต่ถึงกระนั้นขั้นแรกตำรวจตั้งข้อหาพกพาอาวุธร้ายแรงในที่สาธารณะแก่คนทั้งคู่ ก่อนที่จะขยายผลต่อไป บ่ายวันนั้นเอง ตำรวจพบรถของยูจีน สกอตต์ เหยื่อรายหนึ่งของอัลตัน ที่สำคัญมีรอยนิ้วมือของเดบร้าครบ 10 นิ้ว อยู่ภายในรถคนนั้นเสียด้วยสิ เมื่อมีการฆาตกรรม สังเวยชีวิตเหยื่อของคนทั้งคู่ออกนอกลู่นอกทางแบบนี้ เทพวูดู บารอน แซมมิดี้ ก็ไม่อยากคุ้มครองพวกเขาแล้วล่ะ!

การจับกุม อัลตัน โคลแมน กับ เดบร้า บราวน์ เป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายอลหม่านในระบบศาลในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากคนทั้งคู่ดันขยันไปก่อเหตุพล่านไปทั่วในหลายรัฐ บางรัฐมีโทษประหารชีวิต แต่บางรัฐยกเลิกไปแล้ว เหลือแต่จำคุกตลอดชีวิตเท่านั้น แต่กระนั้นทั้งคู่ต้องขึ้นศาลที่มีโทษประหารชีวิตให้พิจารณาเป็นอันดับแรกก่อนกรกฎาคม 1984 ฝ่ายปกครองส่วนกลางแห่งชิคาโกยื่นขอประกันตัวโคลแมนเป็นจำนวนเงิน 25 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 20 ล้านเหรียญ สำหรับเดบร้า เพื่อรับการทัณฑ์บนในคดีสังหาร เวอร์นิต้า วีท อันมีผลให้ทั้งคู่ไม่ได้รับโทษตามที่ศาลพิพากษา แต่ต้องตระเวนไปขึ้นศาลทั่วรัฐที่ตัวก่อเหตุไว้ และต้องรับโทษทุกคดี ไม่ใช่มาติดแหง็กที่คดีเวอร์นิต้า วีท คดีเดียว


รูปภาพของ Hathairat Traithip

แต่ศาลไม่อาจกีดกันทั้งคู่แต่งงาน อัลตันกับเดบร้าได้แต่งงานกันอย่างเป็นทางการแบบง่าย ๆ ก่อนที่จะถูกแยกไปกักขังในเวลาต่อมา การก่อกรรมแบบไม่วางแผนของอัลตัน สร้างความยุ่งยากต่อศาลไม่น้อย ค่อย ๆ พิจารณาแต่ละคดีไปนะคะ ไม่งั้นจะงงแน่ ๆ ดังนี้

1. สำหรับกฎหมายใ
นโอไฮโอ ทั้งคู่ถูกพิพากษาให้ประหารชีวิต ด้วยความผิดฐานฆ่ามาร์ลีน วอลเทอร์ส และโทนนี่ สตอเรย์ คดีมาร์ลีน วอลเทอร์ส อัลตันโดนประหารด้วยเก้าอี้ไฟฟ้า ในขณะเดบร้าโดนลดโทษจำคุกตลอดชีวิต แม้เธอปฏิเสธว่าเธอไม่เกี่ยว คดีสตอเรย์ ทั้งอัลตันและเดบร้าถูกตัดสินประหาร

2. ในรัฐอินเดียน่า การฆ่าทามิก้า เติร์ก อย่างทารุณ อัลตันถูกตัดสินประหาร และจำคุกตลอดชีวิตฐานพยายามฆ่าและทำอนาจารต่อแอนนี่ ส่วนเดบร้า บราวน์ โดนโทษประหารและจำคุก 40 ปี ข้อหาเดียวกัน (งงไหมถูกประหารตายไปแล้ว ยังมาถูกจำคุกอีก หรือว่าจุกคุกก่อนแล้วค่อยประหารทีหลัง)

3. ในรัฐอิลลินอยส์ อัลตันถูกตัดสินให้ประหารชีวิตด้วยการฉีดสารพิษด้วยข้อหาลักพาและสังหาร เวอร์นิต้า วีท

สรุปแล้วอัลตันต้องโทษประหารตามลำดับคดีที่ก่อ รวมแล้วต้องถูกประหารชีวิตถึง 4 ครั้ง คดีเล็กก็ไม่ต้องพูดถึงแล้ว ขณะรับกรรมเดบร้า บราวน์ ถูกส่งไปสถานพินิจสตรีที่รัฐโอไฮโอเพื่อเข้าโรงเรียนดัดสันดาน และอัลตัน โคลแมน ก็รอความตายอยู่ในคุกแมนสฟิลด์ โอไฮโอ เช่นกัน......

มกราคม 1991 ฝ่ายปกครองรัฐโอไฮโอ ลดโทษเดบร้าจากประหารเหลือจำคุกตลอดชีวิต เพราะเห็นว่าเธอถูกชักนำและอยู่ใต้อำนาจของอัลตัน โคลแมน ฝ่ายอัลตันไม่ว่าจะยื่นอุทธรณ์อย่างไร ศาลทุกศาลก็ยังยืนยันว่าให้ประหารลูกเดียว แม้ฝ่ายทนายจะอ้างว่าการกระทำของอัลตันเป็นผลมาจากการทารุณกรรมและการการเลี้ยงดูที่ผิด ๆ ตั้งแต่เด็ก แม้กระทั่งความเชื่อของเทพวูดูก็ถูกหยิบมาอ้างว่าอัลตันถูกครอบงำจิตใจ

ทุกวันนี้ เดบร้า บราวน์ ชดใช้กรรมอยู่สถานพินิจสตรีของรัฐโอไฮโฮ ส่วนอัลตัน โคลแมน แน่นอน! เขาถูกประหารชีวิตในวันที่ 26 เมษายน 2002 เรื่องราวของสองผีนรกเร่ร่อนเป็นอันถึงจุดสิ้นสุด









Create Date : 15 กรกฎาคม 2558
Last Update : 20 ตุลาคม 2558 12:41:40 น. 0 comments
Counter : 764 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

hathairat2011
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]










Google

ขอบคุณที่แวะมา
อย่าลืมคอมเม้นท์นะจ้ะ

Flag Counter

ส่งอีเมล์

Facebook ของ Hathairat



New Comments
Friends' blogs
[Add hathairat2011's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.