Lisbon Lissabon Lisboa: เที่ยวเมืองลิสบอน โปรตุเกส: ตอน 3 เที่ยว Belém ย่านศักดิ์สิทธิ์และชมมรดกโลก วันที่สองเรายังไม่แน่ใจว่าจะไปเที่ยวไหน แต่เท่าที่ได้ศึกษาหนังสือคู่มือเที่ยวและคำแนะนำ ทำให้เราอยากไปเที่ยว Mosteiro dos Jerónimos ซึ่งเป็นโบราณสถานแห่งหนึ่งโดยมีทั้งโบสถ์และคลอสเตอร์ (ที่พักของนักบวช) แถมยังได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย พอได้ทานอาหารเช้าที่ร้านใกล้ๆ ร้านเดิมที่ทานไปเมื่อวันแรก เราก็เดินในเมืองซักพัก แล้วก็ตกลงว่าถ้างั้นเราไปเที่ยวย่าน Belem ละกัน (ก็คือย่านที่โบราณสถานแห่งนี้ตั้งอยู่) โดยเราสามารถเดินทางไป Belém ได้สองทางคือ นั่งรถไฟจากสถานี Cais do Sodré ที่อยู่ในตัวเมือง (ตรงข้ามกับตลาด Ribeira ที่ไปเมื่อวันแรก) แล้วไปลงที่สถานีรถไฟ Belem ส่วนวิธีที่สองนี่ก็คือ นั่งรถรางสาย 15 จาก Plaça do Comércio ไปลงที่ป้ายรถเมลล์ที่เป็นชื่อของโบราณสถานเลย โดยเราเลือกวิธีที่สอง เพราะไม่แน่ใจตั๋วที่เรามี (ตั๋วแบบ 1 วัน) นั้นสามารถใช้กับรถไฟได้รึเปล่า แต่แนะนำว่านั่งรถรางก็ดีนะ ได้เห็นส่วนต่างๆ ของเมืองลิสบอนออกไปทางตะวันตก แถมได้ลอดใต้สะพานข้ามไปอีกฝั่ง (ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ Golden Gate ที่อเมริกาเลยอ่ะ) แถมมองไปอีกฝั่งตรงข้ามก็จะเห็นรูปปั้นพระเยซูขนาดยักษ์ คล้ายๆ กับรูปปั้นพระเยซูที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง ที่เป็น landmark ของ เมือง Rio De Janeiro ของประเทศบราซิลเลย พอไปถึงย่าน Belém ก็เริ่มเดินเที่ยวกันเลย มีทั้ง Palácio de Belém (ที่พักของประธานาธิบดีของโปรตุเกส) <-- อันนี้แค่เดินแล้วก็ถ่ายรูปเฉยๆ จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยัง Mosteiro dos Jerónimos กันเลย โดยวันนั้นโชคดี เหมือนเป็นพวก holy day ก็เลยไม่ต้องเสียค่าเข้า แค่เห็นข้างนอกก็อลังการสวยสุดๆ แล้ว พอเข้าไปดูข้างในยิ่งตะลึงในความงามต่อ โดยสถานที่นี้สร้างตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 12 โดยใช้หินทรายที่ขาวสวยมาก และแต่หลังเมื่อไม่นานมาก็ได้รับการบูรณะโดยการทำความสะอาดโดยใช้เลเซอร์ทำให้สิ่งสกปรกออก ทำให้ขาวผ่องอีกครั้ง เพราะสถานที่ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ทะเล จะได้รับไอเกลือและสิ่งสกปรกที่ทำให้ทรุดโทรมได้ง่าย และชื่อ Belém นี่ก็มาจากชื่อกรุง Bethlehem นั่นเอง เราก็ไปกันต่อที่ Padrão dos Descobrimentos ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองยุคแห่งการค้นพบในช่วงศตวรรษที่ 15 - 16 (ชาวโปรตุเกสเป็นชาติที่เดินเรือเยอะ และค้นพบดินแดนต่างๆ ในอดีต) แล้วเดินต่ออีกหน่อยไป Torre de Belém (Tower of Belém) ซึ่งเป็นหอคอยเก่าแก่สร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 ที่ตั้งอยู่กลางน้ำเพื่อคอยรักษาความปลอดภัยให้กับเมืองลิสบอน กว่าเราจะเดินเที่ยวเสร็จก็บ่ายสี่โมงกว่าแล้ว หิวก็หิว ก็เลยเดินไปที่ร้านกึ่งคาเฟ่ Pastéis de Belém ที่เป็นร้านที่เก่าแก่มากในย่าน Belém เปิดมาตั้งแต่ปี 1837 เป็นร้านที่ใหญ่มากๆ และตามไกด์บุคที่พกมา ต้องมาชิมขนมตามชื่อร้านเลย เหมือนเป็นพัฟเป็นรูปถ้วยเล็กๆ ใส่ครีม และอบ กินกับผงอบเชย อร่อยมากๆ เลย ยิ่งกินกับโกโก้ร้อนแบบข้นๆ นี่ยิ่งสุดยอดเลย พอกินเสร็จก็นั่งรถรางกลับไปยัง Plaça do Comércio แล้วก็กลับไปพักผ่อนตามอัธยาศัยที่โรงแรม ตอนเย็นเรานั่งรถเมล์ไปที่ห้าง Amoreiras แล้วก็ไปที่ Food Center ที่มีร้านอาหารหลายๆ ร้านตั้งอยู่ เดินไปมาหลายรอบ จนเห็นสามีภรรยาคู่นึงนั่งย่างเนื้อบนเตาหินอยู่ ก็เลยเกิดอยากกินขึ้นมาบ้าง บอกพี่เย็นซ์ว่าจะกินที่ร้านนี้แหล่ะ ก็เลยเลือกที่ร้านนี้เลย ตอนจะสั่งก็เดินไปชี้โต๊ะที่สามีภรรยาคู่นั้นนั่งทานอยู่เลย สั่งเมนูนี้ ก็จะมีเนื้อที่หั่นแล้ว (สำหรับย่าง) เสิร์ฟพร้อมกับข้าว เฟรนช์ฟรายส์ ผลไม้รวมมิตร และถั่วดำตุ๋น โดยเดาว่าน่าจะเป็นอาหารแนวๆ อเมริกาใต้ เราว่าถั่วดำตุ๋นอร่อยมากๆ เลย คาดว่าน่าจะตุ๋นกับหมู เพราะเห็นหนังหมูอยู่ด้วย งานนี้ย่างไปกินไปสนุกดีแท้ โดยเฉพาะพี่เย็นซ์ไม่เคยลองกินแบบย่างไปกินไปมาก่อน ก็สนุก แถมบ่นอีกว่าเราไม่เหลือเนื้อให้เค้าย่างเลย Practical Information: ตั๋วค่ารถราง metro และรถเมล์ เป็นตั๋ววัน (ราคาต่อคนคือ 3.77 ยูโร อาหารเช้า 2 คน ประมาณ 6 - 7 ยูโร (วันนี้เปลี่ยนร้านแบบที่นั่งทานได้) ค่ากินที่ Pastéis de Belém โกโก้ร้อน 2 ที่ และ ขนม Pastéis de Belém 4 ชิ้น ประมาณ 6 ยูโร อาหารมื้อเย็นสำหรับสองคน รวมเครื่องดื่ม (ไวน์สำหรับพี่เย็นซ์ และน้ำอัดลมสำหรับเรา) ประมาณ 35 ยูโร (ถูกกว่าวันแรกอีก ดีใจจัง) ภาพมาเลยดีกว่า Palácio de Belém ที่พักของประธานาธิบดีของโปรตุเกส Mosteiro dos Jerónimos ได้รับยกย่องจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก ภายในส่วนที่เป็นโบสถ์ของ Mosteiro dos Jerónimos ยังสว่างเลย เพราะหินที่ใช้ขาวขนาดนั้น เข้าไปข้างในของโบราณสถานนี้ งามสุดๆ คาดว่าเป็นห้องทานอาหารของนักบวช เป็นโถงยาวเลย ขนาดทางเดินรอบๆ ยังสวย แดดออกดีเหลือเกิน ข้างหน้า Mosteiro dos Jerónimos เดินต่อมาที่ Padrão dos Descobrimentos วิวสะพานข้ามไปยังอีกฝั่ง (ที่บอกว่าคล้ายๆ กับ Golden Gate) และรูปปั้นยักษ์ของพระเยซูที่คล้ายๆ กับรูปปั้นที่มีชื่อที่เมืองริโอ ของบราซิล Torre de Belém ภายในมีปืนใหญ่สำหรับปกป้องเมืองลิสบอน และแล้วก็มาถึงที่หมาย จะได้นั่งพักกินซักที มาแล้ว อร่อยยยยยย อาหารมื้อเย็นของเรา อิ่มอร่อย สนุกสุขสันต์ และหมดไปอีกหนึ่งวันเต็มๆ   Create Date : 28 มีนาคม 2550 13 comments Last Update : 12 กรกฎาคม 2552 17:29:16 น. Counter : 1022 Pageviews. Share Tweet

ดูภาพสวยๆ อาคารสวยๆ แบบนี้ อยากไปเห็นของจริงมั่งจังมิ้งค์ ตอนนี้ท้องโตแล้วล่ะ กิ๊ฟกลายเป็นคนท้องไปแระ แต่แข็งแรงดี ลูกกิ๊ฟก็ดิ้นดีด้วยล่ะ ไม่เป็นอะไรเลย ไม่แพ้แล้ว กินเยอะมากด้วย มิ้งรักษาสุขภาพน้า   โดย: grippini 28 มีนาคม 2550 2:03:57 น.

สวยมากครับ ขอบคุณครับที่พาเที่ยว เห็นขนมแล้วนึกถึงที่ Paris อร่อยมากครับ ตอนแรกว่าจะไป Spain & Portugal แต่ลูกสาวว่าจะไปดู Art ที่ Greece เอาไว้กลับมาแล้วจะมาเล่าให้ฟังนะครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ   โดย: N.C.kit (N.C.kit ) 28 มีนาคม 2550 8:45:09 น.

สวยน่าไปมาก อลังการงานสร้างจริงๆ เลย เฮ้ ได้กินหมูกะทะที่โปรตุเกส ด้วยเหรอมิ้ง 5555 แซวๆ   โดย: gothenburger 28 มีนาคม 2550 13:24:13 น.

กิ๊ฟ รักษาสุขภาพด้วยนะ ตื่นเต้นแทน อยากเห็นหน้าหลานจัง เราก็อ้วนเหมือนเดิมเลย ยิ่งเรียนความรู้มันไม่เข้าหัว แต่มาพอกที่ตัวแทนว่ะ คุณ N.C. kit ขอบคุณนะคะที่แวะเข้ามาเที่ยวด้วย ที่ Greece ก็สวยและน่าเที่ยวมากๆ ค่ะ (อยากไปเที่ยวที่นั่นมากๆ เหมือนกัน) ไว้คุณ N.C. kit มายุโรปรอบหน้าแล้วก็ไปเที่ยวสเปนกับโปรตุเกส รับรองเลยค่ะว่าไม่ผิดหวัง เจ๊เบนซ์ ไปเที่ยวให้ได้นะเจ๊ สวยมากๆ จริงๆ ถ้ามีเวลาซัก 1 อาทิตย์ น่าจะดีกว่านี้ ตอนกินมื้อเย็นวันนั้นนี่นึกถึงที่เจ๊เบนซ์ว่าเลย คือ หมูกะทะ แต่เสียดายว่ะที่เค้าไม่ได้เอาเนื้อไปหมักกับอะไรเลย ตอนย่างไปก็เอาเกลือโรยไปพลาง แต่ก็พอถูไถไปได้ ฮิฮิ   โดย: MingDK 28 มีนาคม 2550 20:04:25 น.

สวยทุกรูปจริงๆนะมิ้งค์ แบบน่าไปเที่ยวมากๆเลยอ่ะ อาหารเย็นน่ากิ้นน่ากิน มิ้งค์เป็นยังไงบ้างสบายดีไม๊จ๊ะ   โดย: stila 29 มีนาคม 2550 6:36:44 น.

พิม ไปเที่ยวดิ ชวนเอ็ดไป รับรองว่าโรแมนติคมากๆ อาหารก็อร่อยๆ เยอะมาก พวกขนมปังนิ่มๆ หรือฝอยทอง มีเยอะแยะเลยพิม (ถ้าคิดถึงขนมพวกนี้นะ) ตอนนี้เราก็สบายดีจ้า เรื่อยๆ เฮิร์ทนิดหน่อยเรื่องที่ไม่ได้งาน แต่ก็ทำใจได้แล้วล่ะ ตอนนี้ก็เตรียมตัวชีพจรลงเท้าไปเที่ยวช่วงอีสเตอร์ต่อ พอกลางมิถุนา สอบเสร็จก็กลับไทย แล้วพอเกือบปลายๆ สิงหา ก็ไปแคนาดาต่อ (เพื่อนบอกว่าเครื่องสำอางค์ M.A.C. ถูกที่สุดที่แคนาดา) ถ้าสนใจทำลิสต์มาได้เน้อ   โดย: MingDK 29 มีนาคม 2550 21:52:31 น.

โอ สวยงามมากเลยจ้ะ น่าไปมากๆ ชอบหลายๆรูปเลย ท่าทางโรแมนติค แล้วนักท่องเที่ยวคงไม่เยอะมาก แต่จริงๆเครื่องบินไป lisbon น้อยมากเลย มีก็แพงสุดๆ ต้องรอรวยๆก่อน อิอิ   โดย: DropAtearInMyWineGlass 2 เมษายน 2550 0:29:05 น.

อาย เราแนะนำเลยว่าเมืองนี้ (และประเทศโปรตุเกส) น่าเที่ยวมากๆ แล้วถ้าไปช่วงฤดูหนาวอย่างที่เราไป นักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก แล้วก็ราคาไม่โหดอย่างที่คิดอ่ะ ลองเป็นพวก travel agent ดิ แบบว่ารวมทั้งค่าเครื่อง + ที่พักอ่ะ อย่างเราจองทางเน็ตกับ travellink.dk ราคาค่าเครื่องบินรวมที่พักก็เริ่มต้นที่ 2300 โครนขึ้นไปต่อคน (สำหรับค่าที่พัก 4 คืน) ถ้าจะเอาโรงแรมหรูหน่อย ราคาก็ขึ้นตาม หรือว่าถ้าจะเพิ่มจำนวนคืนที่พักก็ได้ราคาก็จะปรับขึ้นนิดหน่อย ที่สวีเดนก็รู้สึกจะมี travellink.se นะ เราว่าราคาไม่ได้โหดเท่าไหร่นะ บริการก็ดีใช้ได้   โดย: MingDK 2 เมษายน 2550 16:54:56 น.

น่าไปเที่ยวจังอ่ะ ถ้าโอกาสอำนวย และตังในกระเป๋ามีเก็บจะไปมั่งเน้อ   โดย: LiLLa_JoY 3 เมษายน 2550 20:00:26 น.

เห็นภาพแล้วอยากไปเที่ยวบ้างจัง ช่วงนี้ก็คงได้แต่ฝันไปก่อน   โดย: Hokey 5 เมษายน 2550 5:01:30 น.

นอกจากหมูกะทะแล้วได้ทาน ฝอยทองมั้ยคะมิ้ง อยากไปมากๆ เหมือนกันค่ะ อยู่ไม่ไกลพี่ด้วย แถมคุณลุงแท้ๆ ของสามี อยู่ ลิสบอน พี่ยังไม่ได้ไปซักกะทีค่ะ เห็นรูปที่มิ้ง ถ่ายแล้ว ทำให้อยากไปมากๆ ต้องหาเวลาไปให้ได้   โดย: *พิณ* 13 เมษายน 2550 12:40:47 น.

กำลังวางแผนไปเดือนตุลาค่ะ มาดามฟร้องซ์   โดย: Mme France 20 กรกฎาคม 2550 5:21:08 น.

สวยมาก   โดย: meaw_1985 3 สิงหาคม 2550 6:24:24 น.