ม่ายย ต้องกด VOTE ม่ายย ต้องกด LIKE มาแต่ใจ ก็พอแล้ว...จ๊ะ
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2550
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
17 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
ปลาทู ตัวเดียว 1400 จ๊ากกกก

เมื่อเช้า มีมอไซค์ร้องตะโกน ขายปลาทู ผ่านมาหน้าบ้าน ในใจผม นึกอยากกินน้ำพริกกะปิแกล้ม ปลาทู ขึ้นมาตะหงิดๆ เลยเลือกซื้อไว้ 2ตัว แต่ละตัวอวบอ้วนกะลังกินเลย กะว่ากลับมาตอนเย็น ทอดปลาทูให้หอมๆ กินกับข้าวสวยร้อนๆ น้ำพริกกะปิพร้อม แตงกวา ผักกระถินกรอบๆนะ โอ๊ยยยย แค่คิดก็น้ำยาย ไหลแหล่ว กลับมาตอนเย็น จากินให้หายอยาก ซักกะหน่อย คิดไปคิดมา อะเดี๋ยวสาย ไปทำงานดีกว่า
พอตกเย็นกลับถึงบ้าน ก็ลงมือทำกับข้าว วันนี้สวมวิญญาณ พ่อครัว(hell kitchen) ลงมือเองเลย จะว่าไปแล้วฝีมือทำกับข้าวของผมนั้น ไม่ใช่ย่อย
เหมียนกัน อย่างน้อยก็อร่อยกว่าแม่บ้าน 555 แต่ไม่กล้าบอกเดี๋ยวคืนนี้
แม่ไม่ยอมให้ทำ การบ้าน เลขคณิต คิดนานๆ อิ อิ ไม่นานนักด้วยฝีมือเชฟกระทะเหล็ก กับข้าวเมนูเอก คือ น้ำพริกปลาทู พรอ้มไข่เจียวเหลืองฟูร้อนๆ ตามด้วยผัดผักรวมมิตร ก็พร้อมเสริฟ ประมาณด้วยสายตา คงสัก 4-5 พันแคลอรีได้ เพราะเป็นของทอดซะท้างน้าน เอานะ นานๆกินที ม่ายเป็นไรน่า แล้วค่อยไปวิ่งขึ้นบันไดสัก 20รอบ แล้วกัน พุงจาได้ยุบตอนนี้ก็ท้องอ่อนๆสัก3เดือนได้ ไปหาหมอทีไร หมอทำหน้าอยากจะร้องไห้ บอกว่า ต่อไปนี้นะ คุณไม่ต้องกินข้าวแล้ว น้ำหนักไม่เคยลดเลยยย
ผมสลัดภาพตอนไปหาหมอออกไปจาก ความคิด ตั้งหน้าตั้งตา กินข้าว พร้อมแกะเนื้อปลาทูจิ้มน้ำพริก กินอย่าง เอร็ดอร่อย ได้ประมาณ 6 คำ ฉับพลันทันใดนั้น ก็มีความรู้สึกอยากจะร้องไห้ น้ำตาคลอ พร้อมกับเสียวแปลบในลำคอ
เวรละซิ ปลาทูเจ้ากรรม ทำพิษเข้าให้แล้ว ก้างติดคอ ความอร่อยหมดไปในทันที ทำไงดี ฟะ เสียงแม่บ้านตะโกนบอก สมน้ำหน้า อยากกินก่อนไม่รอ ร้องบอกว่า กลืนข้าวสวย เข้าไปแยอะๆเดี่ยวก็ออก ผมเชื่อฟังแต่โดยดี ก้มหน้าก้มตายัดข้าวใส่ปาก หวังว่า ก้างจะหลุดตามเข้าคอไป จนข้าวจะหมดชามก็ยังไม่ออก แม่บ้านตะโกนบอกว่า ลองกล้วยซิ ผมก็เชื่ออีก เด็ดกล้วยหอมครึ่งลูก ยัดเข้าปากทันที แล้วกินน้ำตามอีกครึ่งเหยือก กงแก้วไม่เอาแล้ว คราวนี้หลุดแน่ ลองกลืนน้ำลายดูซิ เฮ้ยยย เสียวแปลบ เหมียนเดิม เอาไงดีฟะ เสียงแม่บ้านตะโกนมาบอกว่า ต้อง แมวแล้ว ผมนึกขึ้นมาได้ว่า สมัยเด็กๆ คนโบราณ เค้าบอกไว้ว่า ถ้า ก้างติดคอ ให้เอาเท้าแมวมาลูบตรงคอ จะหายเพราะมันแพ้ทางกัน ผมตัดสินใจลองดู วิ่งไปหลังบ้าน ร้องเรียกเหมียวๆ ไอ้หม่าวแมวข้างบ้าน ที่ผมเคยให้ข้าวมันกินอยู่บ่อยๆ ก็วิ่งตัวกลมมาทันที จัดแจงอุ้มมันมา พยายาม เอาขาหน้าลูบคอ
ลุบไปลูบมา จนมันชักจะโมโห ทำท่าจะตบหน้าผม เลยต้องปล่อยมันไป คราวนี้หายแน่ คุณผู้อ่านลองทายซิคับว่า จะหายไหม ตำหรับโบราณนี่ชงัดจริงๆคับ
ม่ายหาย แง แง อยากจะร้องไห้ สงสัยต้องพึ่งเท้าหมอแล้ว เอ๊ยยย ม่ายใช่ มือหมอนะ สงสัยต้องไปร.พ.ท่าจะดี เพราะลองหมดทุกกระบวนท่าแหล่ว
ผมจัดแจงขับรถไปร.พ.เอกชนใกล้บ้าน ทันที นั่งอ้าปากให้หมอเอาไฟส่องหาก้างในคอ สักพักหมอก็บอกขอตัวเดี๋ยว สงสัยจาไปอ้วก เพราะกลิ่นน้ำพริกกะปิฝีมือผม 555 แล้วหมอก็มาส่องหาอีกพักใหญ่ ก็เอ่ยปากว่า หมอส่องหาจนทั่วแล้วไม่เจออะ อาจจะอยู่ลึก คุณลองเอายาไปกิน ถ้าไม่หายค่อยมาใหม่นะ ผมทำหน้าอยากจะร้องไห้ จ่ายค่ายาไป1000 นึง ได้ยาแก้ปวด แก้อักเสบ มากิน 2ถุง
ในใจก็นึกว่า หมอทำงานไม่สำเร็จ แล้วทำไมต้องคิดตังตูด้วยฟะ กลับบ้านดีฝ่า เผื่อโชคดี พรุ่งนี้คงหายน่า คืนนั้นผมก็กลับบ้านไปนอนด้วยความรำคาญ เรื่องก้างติดคอนี่ ใครไม่เจอด้วยตัวเอง จะไม่รู้หรอก ฟังดูเป็นเรื่องเล็กๆแค่รำคาญ ม่ายถึงกะตายซักกะหน่อย
เช้าผมก็ไปทำงานตามปกติ พยามกินแต่ของอ่อนๆ พวกเบียร์ที่เป็นวุ้น ม่าย ช่าย
กินก็ได้แต่น้ำเต้าหู้ ตอนเที่ยงผมก็รีบเผ่น ไปคลีนิคแถวใกล้ๆที่ทำงาน เจอคุณหมอสาว น่าตาน่ารัก พอเล่าอาการให้ฟังคุณหมอก็บอกผมให้อ้าปากกว้างๆไม่ต้องเกร็ง ผมก็ทำตามโดยดี อ้าปากกว้างจนเห็นลิ้นไก่ แฮ่แฮ่ วันนี้ไม่มีกลิ่นน้ำพริก เพราะแปรงฟันมาอย่างดี แต่เรื่องไม่ให้เกร็งนี่ จนปัญญาครับ เพราะมือคุณหมอที่มาสัมผัสใบหน้าผมนี้ นุ้ม นุ่ม อย่าบอกใคร ขณะที่ผมกำลังเคลิ้มอยู่นั้น หมอก็เอาปากคีบ(คีมนะ) อย่าเข้าใจผิด ดึงก้างปลาออกมา ชูให้ผมดู หมอทำหน้ายิ้มๆแล้วบอกว่า ก้างอันนี้ มันเป็น 2 เงี่ยงเอาออกยากหน่อย นะ คะ แล้วห่อใส่กระดาษทิชชู ส่งให้ผม บอกว่าเอากลับไปให้ แม่บ้านดูเป็นที่ระลึก นะคะแล้วยิ้มน้อยๆ ผมเอื้อมมือไปรับ น้ำตาคลอ ด้วยความดีใจ พร้อมนึกในใจว่า รู้งงี้มาหาคุณหมอซะแต่แรก ก็มไม่ต้องเสียตัง 1000นึง วันนี้เสียแค่ 400 สรุปค่าเสียหาย ค่าอยากกินน้ำพริกปลาทู ทั้งหมด 1400 บาท ขณะขับรถกลับบ้าน ผมสาบาญไว้เลยว่าจะไม่กินของที่มีก้างอีก เป็นอันขาด ยกเว้นถ้ามีคนมาป้อนเท่านั้น 555

 




Create Date : 17 ตุลาคม 2550
Last Update : 13 มีนาคม 2556 11:30:42 น. 7 comments
Counter : 2333 Pageviews.

 
เป็นเรื่องที่สนุกดีจัง (สนุกบนความทุกข์ของผู้อื่น)


โดย: Ninniko วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:17:09:32 น.  

 
เล่าได้ใจเลยค่ะเห็นภาพ


โดย: เอ๋ (nattakan ) วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:17:27:38 น.  

 

ยิ้มเข้าไว้ อุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
ต่อไปจะโชคดี2เท่า
Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


โดย: Yoawarat วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:18:37:41 น.  

 
อ่า ตกใจเลยนึกว่าปลาทูตัวละ 1400
เสียดายตัง 1000 แรก แหะ ให้คุนหมอสาวสวยมาเอาออกให้ทีเดียวเลยก้อดีเนอะคะ


โดย: Menan182 วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:19:18:59 น.  

 
โอ๊ะ เราก็นึกว่า 1400 kcal โตะจายหมดเลย
ฮี่ๆๆๆเพราะชอบกินปลาทูมาก
ที่ไหนได้
555555555555
เล่าได้สนุกจังค่ะ
นึกภาพออกเลยล่ะ
ทีหลังระวังนะคะ


โดย: จิ๊บ (มดน้อยในไร่ส้ม จิ๊บๆ ) วันที่: 19 ตุลาคม 2550 เวลา:15:51:56 น.  

 
๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
พี่อ่านทุกเรื่องที่เขียนแล้ว สนุกดี เห็นภาพเลย


โดย: พี่ ฝ น (Childcraft ) วันที่: 11 สิงหาคม 2551 เวลา:15:28:01 น.  

 
คลีนิคแรก โหดมากค่ะ 1000 พันบาท

เข้าใจอารมณ์ก้างติดคอค่ะ อ.เต๊ะ เคยเมื่อตอนเด็กๆ น่าจะเป็นปลาทูทอดเหมือนกัน ใช้วิธีกินข้าวอัดๆ ลงไปตามค่ะ ตั้งแต่นั้นมาเข็ดไปนานอยู่นะ เพิ่งมากินปลาเป็นจริงเป็นจังใหม่ เอาตอนแก่นี่ล่ะค่ะ เค้าว่าดีก็กินๆ เข้าไป





โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 16 กันยายน 2557 เวลา:15:00:02 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

multiple
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




INTERVIEW อ.เต๊ะ
Friends' blogs
[Add multiple's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.