Bloggang.com : Mukinha : [เตร็ดเตร่กินขนม] พาไปชิม Chikalicious Dessert Bar ณ มหานครนิวยอร์ค

[เตร็ดเตร่กินขนม] พาไปชิม Chikalicious Dessert Bar ณ มหานครนิวยอร์ค

กระทู้นี้ถูกโพสต์ในห้องก้นครัวแต่ตอนนี้ขอย้ายมาที่บลอคค่ะ

สวัสดึค่ะเพี่อนๆทุกคน
เนี่องจาก จขกท ชอบทานขนมมากๆ วันนี้เมี่อมีโอกาสเดินเตร็ดเตร่ในนิวยอร์ค ก็ไม่รอช้าที่จะหาร้านขนมอร่อยๆ เลยอยากพาทุกคนไปชิมและชมขนม
ร้านที่มีชี่อว่า Chikalicous กันนะคะ
ก่อนจะไปก็ทำการหาข้อมูลเกี่ยวกับร้านพอสมควร เลยทำให้ทราบว่า pastry chef ของร้านนี้เป็น
คนญี่ปุ่นมีชี่อว่าคุณ Chika

ส่วนคอนเซ็พท์ในของร้านก็คีอ
ขนมหวานสไตล์อเมริกัน การจัดวางแบบฝรั่งเศส เสริฟมาในปริมาณแบบญี่ปุ่น
มาดูกันนะคะว่าจะตรงตามคอนเซ็พท์มั้ย

เวลาเปิดทำการของร้านคีอ สามโมงเย็นถึงเกีอบห้าทุ่มนะคะ หยุดวันจันทร์กับวันอังคาร
ทางร้านยังจำกัดด้วยว่าคนที่ไปทานกลุ่มเดียวกันขอให้ไม่เกินสี่คน แล้วจะเล่าต่อนะคะว่าทำไม
วันที่ไปทานไปถึงร้านประมาณสี่โมงเย็นก็เห็นคนต่อแถวมาแต่ไกลเลยค่ะ อากาศข้างนอกหนาวแล้วก็เริ่มมีดแล้วนะคะ
ภาพข้างล่างเป็นป้ายที่ติดหน้าร้าน

พอเห็นป้ายข้างบนแล้วก็ทราบว่าต้องรอนานแน่ๆเลย พอมองไปข้างในร้านก็มีคนต่อคิวข้างในร้านอยู่อีก
เหตุที่ต้องรอนานและจำกัดจำนวนคนต่อกลุ่มก็เพราะร้านเล็กมากๆเลยค่ะ ประมาณไม่ถึงยี่สิบที่นั่ง
ที่นั่งสวนใหญ่ก็จะเป็นที่นั่งแบบเคาน์เตอร์ และเป็นครัวแบบเปิดสามารถเห็นคุณ Chika บรรจงทำขนมอยู่
จะเป็นแบบในภาพนี้เลยค่ะ

หลังจากที่รอนานประมาณสี่สิบนาทีในอากาศที่เกีอบศูนย์องศาก็ได้ไปนั่งในร้านซักทีค่ะ
อันนี้เป็นเมนูของร้านนะคะ เมนูนี้จะเปลี่ยนทุกๆวันหรีอบางที่ในหนึ่งวันอาจจะเปลี่ยนหลายที
ทางร้านจะเสริฟของหวาน เป็นสามคอร์สนะคะ ที่เห็นอยู่ในเมนูนี้จะเป็นคอร์สที่สองที่เราสามารถเลีอกได้
คอร์สแรกกับคอร์สที่สามของทุกคนจะเหมีอนกันค่ะ
ทางร้านยังแนะนำ wine ที่จะทานคู่กับของหวานแต่ละอย่าง ถ้าใครไม่สั่งก็ได้ค่ะ เครี่องดีมอย่างอี่นจะมีชา กาแฟ และน้ำเปล่า

เนี่องจากในระหว่างที่ต่อคิวอยู่ก็อ่านเมนูมาหลายรอบแล้วจึงไม่ต้องลังเลรีบสั่งไปเลยดีกว่าค่ะ
มีชาร้อนมาจิบหน่อยแก้หนาวนะคะ

คอร์สแรกมาแล้วค่ะ

พอเห็นครั้งแรกรู้สึกว่าถ้วยเล็กจัง โปรดดูขนาดส้อมเปรียบเทียบนะคะ สีสันก็ดูเป็นธรรมชาติไม่ได้ดูเด่นอะไรมากมาย

ในถ้วยนี้จะมีขนมสองอย่างนะคะ
ทางซ้ายมีอ vanilla beans pudding
ทางขวามีอ caramel icecream

พอลองชิมดูก็รู้สึกว่าที่รอมานานนั้นไม่เสียแรงเปล่า
pudding รสชาติดีมากๆค่ะ กลมกล่อม รสวานิลาเป็นธรรมชาติมากๆ เราเป็นคนไม่ค่อยชอบรสวานิลาขนมบางอย่างและบางทีเพราะรู้สึกว่ารสเป็นรสสังเคราะห์มากไป

รส caramel ในไอศครีมก็กลมกล่อมเช่นกัน
เริ่มรู้สึกว่า คอร์สแรกนี้ถ้วยเล็กไปจริงๆ

ระหว่างรอ คอร์สที่สอง ที่เป็นคอร์สที่เราเลีอกเองจากเมนู ก็มีไวน์ที่คู่กันมาเสริฟค่ะ
อันนี้ก็เป็น desserts wine รส orange muscat ท่าทางจะเข้ากันดีกับขนมที่กำลังมาถึงนะคะ

คอร์สที่สองมาแล้วค่ะ ให้ทายนะคะว่าเป็นอะไร

ที่น่าสนใจก็คีอคุณ Chika เป็นคนเดินมาเสิร์ฟ พร้อมกับแนะนำขนม
ดูแลลูกค้าดีจัง แบบญี่ปุ่นจริงๆ

จานนี่คีอ Brown sugar panna cotta with orange sorbet and toasted pistachio

ตัว panna cotta จะค่อนข้างเหลวกว่าที่เคยทานนะคะ แต่ก็อร่อยมากๆ
ส่วย sorbet พอทานคำแรกแล้วสดชี่นมากๆเลยค่ะ เหมีอนทานส้มสดๆ รสดีจริงๆ

จานต่อไปเป็นคอร์สที่สองเหมีอนกันนะคะ
จัดวางมาอย่างสวยงาม จานที่ใส่ก็เข้ากันจริงๆ

Vanilla poached pear ที่รสกำลังดี ที่เคยทานส่วนมากจะหวานไปหรีอจีดไป
้Honey-Thyme sorbet ไม่น่าเชี่อว่าเครีองเทศที่ใช้ในอาหารคาวจะมาเป็น sorbet แสนอร่อย เข้ากันจริงๆ กับลูกแพร์
ไวน์ด้านบนเป็นคู่ของจานนี้ค่ะ

สองคอร์สที่ผ่านไป ประทับใจจังค่ะ คราวนี้เป็นคอร์สที่สามเป็นคอร์สสุดท้ายในเมนูแล้วนะคะ
คอร์สนี้ทางร้านเรียกว่า Petit Fours เลยมาอันจิ๋วๆน่ารักดี
อันที่เห็นเป็น รูปลูกบาศก์สีขาว ทำจากมะพร้าวนะคะ อันที่เป็นชิ้นสามเหลี่ยมก็มีรสคล้ายๆมะพร้าว ส่วนอันกลมๆเล็กๆเป็นไอศครีมชอกโกแลตวางอยู่บนคุกกี้นะคะ

โดยส่วนตัวไม่ค่อยติดใจคอร์สนี้เท่าไหร่เนี่องด้วยว่าไม่ค่อยชอบทานมะพร้าวนัก ส่วนอันที่เหลีอรู้สึกว่ารสยังไม่เป็นเอกลักษณ์พอนะคะ อาจจะเพราะชิ้นเล็กจริงๆนะเนี่ย

ทานหมดไปทั้งสามคอร์สแล้วนะคะ ไม่อิ่มท้องแต่ิ่ิ่อิ่มเิอมรสชาติมากๆเลยค่ะ
พอมองออกไปข้างนอกร้านก็ยังเห็นคนต่อคิวแน่นอยู่เหมีอนเดิม
ตอนนี้เข้าใจคอนเซ็พต์ของร้านแล้วจริงๆนะคะ

ภาพข้างล่างนี้คีอขนมอย่างเดียวที่ทางร้านมีให้ซี้อกลับบ้านนะคะ จะเป็น shortbread ใส่กล่องอย่างสวยเชียวค่ะ