DR.MOO CAN DO
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2553
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
1 มิถุนายน 2553
 
All Blogs
 

Colt : ปืนพกสั้นที่ดีที่สุดในอเมริกา



            เอ่ยคำว่า “Colt” เชื่อได้ว่านักนิยมปืนทั่วโลกต้องรู้จักในฐานะผู้ผลิตปืนสั้นอันมีชื่อเสียงต่อเนื่องมาตั้งแต่ยุคที่ใช้ปืนใช้กระสุนดินดำจนถึงปัจจุบัน จากปืนลูกโม่ Single Action (Colt Walker) มาถึง Single Action Army ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ 1911 (M-1911 หรือ Government Model) ตลอดจนลูกโม่ดับเบิล (Python) แม้แต่ปืนสั้นลูกกรด (Colt Woodsman) ล้วนเป็นปืนมีระดับที่นักสะสมใฝ่หากันมาก ซึ่งบริษัท Colt ก็ให้การสนับสนุนด้านข้อมูลเป็นอย่างดี ผู้ที่สนใจสามารถสืบค้นประวัติความเป็นมาต่างๆได้


            ในปีที่ Colt ฉลองครบรอบ 150 ปี เป็นปีที่ปืน 1911 ปลดระวางจากกองทัพสหรัฐอเมริกา จากศตวรรษ 1800, 1900 Colt เข้าสู่ศตวรรษที่สามคือ 2000 แบบไม่ค่อยมั่นคงนัก ถ้าเป็นคนก็เหมือนเข้าสู่วัยชราแบบไม้ใกล้ฝั่ง แต่ในทางตรงกันข้าม หลังจากที่สิทธิบัตรคุ้มครองปืน 1911 หมดอายุไป 1911 กลายเป็นตัวเก่งให้หลายๆบริษัทสร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นใหม่ได้


            Colt M-1911 World War I Replica (.45 ACP)


            Colt 1911 World War I Replica เป็นปืนที่ Colt ทำส่งให้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาเมื่อคราวสงครามโลกครั้งที่ 1 ปี 1914 ถึง 1918


            Colt M-1911 A1 (.45 ACP)


            Colt 1911 A1 เป็นปืนที่กองทัพสหรัฐเคยใช้เป็นปืนประจำการและเคยถูกใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2


            คำว่า 1911 คืออะไร


            1911 เป็นปีที่ Colt ผลิตปืนกึ่งอัตโนมัติ ผลิตให้กับทหารสหรัฐในสงครามโลกครั้งที่ 1 ตั้งแต่ปี 1914 ถึง 1918 และ Colt ได้จดสิทธิบัตรปืนกึ่งอัตโนมัติไว้ว่าห้ามลอกเลียนแบบ คำว่า 1911 คือชื่อของแบบแผนปืนกึ่งอัตโนมัติที่ Colt ได้จดสิทธิบัตรไว้ หลังจากสิทธิบัตรคุ้มครองแบบแผนปืน 1911 สิ้นสุดลง ในช่วงปี ค.ศ. 1985 หลายบริษัท เลยหันมาผลิตปืนแบบ 1911 กันจำนวนมาก


            Colt M-1911 A1 (.45 ACP)


            เมื่อเอ่ยถึง Colt 1911 ผู้ที่รู้จักหรือคุ้นเคยกับอาวุธปืนอยู่บ้าง ย่อมจะนึกถึงปืนสั้นออโต้แบบกัฟเวอร์นเมนท์โมเดล ขนาด .45 ACP ของโรงงาน Colt กันแทบทุกคน โดยเฉพาะท่านที่เป็นทหารรุ่นเก่าของไทยย่อมจะต้องรู้จักคุ้นเคยเป็นพิเศษ เนื่องจากปืน Colt ออโต้โมเดลนี้มีชื่อเสียงกิติศัพท์อันเกรียงไกรมาจากพื้นฐานซึ่งเป็นปืนทหารมาก่อน นับตั้งแต่กองทัพบกของสหรัฐอเมริกาเข้ารับประจำการในปี ค.ศ. 1911 จึงเป็นที่มาของคำว่า “โมเดล 1911” หลังจากผ่านการทดสอบของกองทัพมาเป็นเวลาเกือบห้าปี ต่อมา ปืนโคลท์ กัฟเวอร์นเมนท์ โมเดล 1911 ได้รับการปรับปรุงอีกเล็กน้อยในทศวรรษแห่งปี 1920 จึงได้เปลี่ยนเป็น “โมเดล 1911 A1” นับตั้งแต่นั้นมา


            ด้วยเหตุที่ปืนโมเดล 1911 ที่กองทัพสหรัฐฯ แจกจ่ายให้ทหารของตน หรือส่งไปช่วยเหลือกองทัพประเทศพันธมิตร มีอักษรข้อความว่า UNITED STATES PROPERTY อยู่ทางด้านซ้ายของโครงปืน และโดยเฉพาะมีอักษรบอกข้อความอยู่ทางด้านขวาของโครงปืนว่า MODEL OF 1911 U.S. ARMY หรือ NAVY แต่ส่วนมากจะเป็น U.S. ARMY จึงทำให้นักเลงปืนชาวบ้านทั่วไปพากันเรียกปืนโมเดลนี้ว่า “ปืนยูเอส อาร์มี” หรือ “ยูเอส” เฉยๆ หรือไม่ก็เรียกว่า ปืนขนาดสิบเอ็ด ตามขนาดของปืนหรือกระสุนที่ใช้ยิงไปเสียเลย สาเหตุที่ผู้ใช้ปืนบ้านเรานิยมเรียกกระสุน .45 ACP ว่า สิบเอ็ดมอมอ เพราะยังยึดติดไปตามระบบเมตริกของกระสุนปืนจากยุโรปอยู่ จึงไม่ค่อยได้เรียกกันว่าขนาดจุดสี่ห้าสักเท่าใดนัก


       หากกล่าวถึงปืนออโตแบบ 1911 โดยทั่วไปแล้ว คนส่วนมากก็จะนึกถึงปืนขนาด .45 เอซีพี ทั้งๆที่โคลท์ก็ผลิตปืนโมเดลนี้ออกมาในขนาด .38 Super และ 9mm Luger ด้วย แต่เป็นเพราะคนรู้จักคุ้นเคยกับปืนขนาด .45 ACP มาก่อนนั่นเอง อย่างไรก็ตาม นักเล่นปืนในบ้านเราก็ให้ความนิยมปืน Colt 1911 ขนาด .38 Super รองลงมาจากขนาด .45 เอซีพี หรือ 11 มม. สาเหตุหลักมาจากการขอใบอนุญาต ป.3 สำหรับปืนขนาด .38 ได้ง่ายกว่า แต่ปัจจุบันนักยิงปืนระบบไอพีเอสซีนิยมใช้ปืนออโต้ 1911 ขนาด .38 Super ยิงแข่งขัน ปืนขนาด .38 Super จึงได้รับความนิยมขึ้นมาใกล้เคียงกับปืนขนาด .45 ACP นอกจากนี้กระแสความนิยมในปืนสั้นออโตวันเดอร์ไนน์มีส่วนช่วยเสริมให้เกิดความนิยมปืนออโต้ 1911 ในขนาด 9 มม. ไปด้วย แต่ปืนออโต้ 1911 ขนาด 9 มม. นี้มีวางจำหน่ายอยู่ไม่มาก เพราะร้านขายปืนของไทยไม่ค่อยสั่งเข้ามา ทั้งๆแต่เดิมบริษัทโคลท์ก็ผลิตปืนออโต้ 1911 ในขนาด 9 มม. ลูเกอร์มานานแล้ว เมื่อประมาณ 20-30 ปีก่อนหน้านี้ ผู้เขียน Colt Combat Commander ขนาด .38 Super และ 9 มม. มีวางจำหน่ายอยู่ประปรายบ้าง ในปัจจุบันปืนออโต้ 1911 ขนาด 9 มม. เริ่มสั่งเข้ามาขายมากขึ้นทั้งที่เป็นแบบลูกดกและลูกไม่ดก แต่เป็นปืนยี่ห้ออื่นมากกว่า ยี่ห้อโคลท์เจ้าเก่าหรือเจ้าตำรับยังสั่งเข้ามาน้อย จนแทบจะเรียกว่าหายากส่วนมากจะเห็นเป็นปืนมือสองครับ


            คราวนี้หันมาดูปืนออโต้ 1911 ของโคลท์กันบ้าง หลังจากมีการปรับปรุงเป็นรุ่น 1911A1 ก็มีการเปลี่ยนแปลงบูชลำกล้องจากรูปทรงกระบอกทึบไปเป็นแบบกลีบจำปาในปี 1970 เรียกว่า Series 70 และได้เพิ่มตัวกั้นเข็มแทงชนวน หรือสมอล็อกเข็มแทงชนวนเข้ามาอีกเมื่อปี 1980 เรียกว่า Series 80 แต่ปัจจุบัน แม้ว่าปืน Colt 1911A1 จะเปลี่ยนแปลงโฉมภายนอกให้เหมือนปืนซิ่งมากขึ้นตามกระแสความนิยมซึ่งก็ยังเรียกว่าเป็น Series 80


            Colt M-1991A1 (.45 ACP)


            ในปี 1991 โคลท์ได้ผลิตปืน Model 1991A1 ขึ้นมา ซึ่งฟังดูแล้วน่าจะเป็นการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของปืนโคลท์ 1911 แต่กลับเป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีหรือรูปแบบการผลิตเสียมากกว่า คือการแต่งผิวโลหะค่อนข้างด้านแบบปืนทหาร และรมออกสีเขียวๆอยู่บ้าง ส่วนหนึ่งที่เน้นคือราคาประหยัดมากขึ้นเพราะในช่วงเวลานั้นราคาของปืนโคลท์ไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ ว่ากันว่าเหล็กที่ใช้ทำปืนออโต้ 1991A1 ของโคลท์เป็นเหล็กที่มีคุณภาพแข็งแกร่งทนทานอย่างเดียวกับที่ใช้ทำปืนทหารมาก่อน ดังนั้น จึงพอหนุมานได้ว่า Colt 1991A1 เป็นปืนที่เน้นไปทางด้านการใช้งานสมบุกสมบันมากกว่าความสวยงามสะดุดตา นอกเหนือจากนี้แล้วก็ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากปืน Series 80 ของ Colt เอง ด้วยเหตุนี้จึงมีนักนิยมปืนที่มองเห็นข้อดีของ Colt 1991A1 แล้วซื้อมาแต่งซิ่งตามที่ใจชอบอีกประการหนึ่งทางโรงงาน Colt โฆษณาว่า Colt 1991A1 เป็นปืนที่ถ่ายทอดลักษณะดั้งเดิมของ Colt 1991A1 มาเกือบทุกกระเบียดแต่มีทั้งแบบ Government Model กับแบบ Commander และมีทั้งทำด้วยเหล็กรมดำและเหล็กสเตนเลสส์ ช่วยให้ผู้ใช้ปืนที่นิยมปืนรุ่นเดิมๆ มีโอกาสเลือกได้บ้าง


            Colt Gold Cup


            โมเดลแรกที่โรงงาน Colt ทำออกมาเพื่อยิงเป้าคือ Colt National Match แตกต่างจากปืนสายยิงคนคือ เลิกเอาลำกล้องที่คัดพิเศษ โดยมีหลักการว่า จำนวนหนึ่งพันลำกล้องของล็อตนี้ สองร้อยลำแรกเครื่องจักรยังไม่เสถียร เพิ่งเริ่มเดินเครื่องก็เอาไว้เป็นลำกล้องยิงคน สามร้อยถึงเจ็ดร้อยอันต่อมาถือว่าเครื่องจักรเดินนิ่งดีแล้วก็คัดเอาไว้ก่อน สามร้อยอันสุดท้ายของล็อตก็จัดไปเข้ากลุ่มลำใช้งานทั่วไปที่คัดมาดีๆนั้นมาเลือกเอาเรียบร้อยที่สุดไว้สักสองร้อยอันเพื่อมาประกอบกับลำเลื่อนที่ทำขึ้นต่างหากโดยเจาะรูเจาะช่องให้ประณีตกว่า มีสันลำกล้องให้เป็นแนวเล็งนำสายตา และเซาะร่องละเอียดกันแสงสะท้อน ใส่ศูนย์หลังแบบปรับได้สี่ทาง ใบศูนย์ใหญ่เล็งง่าย รุ่นแรกๆมีศูนย์สองยี่ห้อ คือ แอคโคร และ เอดิสัน ศูนย์หน้าเป็นแบบยกสูงตัดฉากหลังต่างจากศูนย์รูปวงเล็บจุ๋มจิ๋มของปืนสายยิงคน


       บูชลำกล้องและหลอดครอบสปริงทำมาเป็นพิเศษ โดยหลอดครอบสปริงตรงปลายจะเป็นลาดเอียงหรือเทเปอร์ เพื่อให้รับกับบู้ชลำกล้องที่ทำลาดเอียงไว้รับกัน เพื่อให้ล็อคลำกล้องนิ่งกว่าปกติ ซึ่งทำเป็นบ่าไว้เฉยๆ ไกก็ทำหน้ากว้างกว่าปกติ มีหมุดหยุดไกปรับได้ละเอียดมากด้วย นอกนั้นนกและหลังอ่อนก็ยังเหมือนปืน Government แต่จะทำผิวรมดำมาชนิดดีพบลูสวยงามกว่า เพราะแน่นอนละว่า ปืน National Match ขายราคาแพงกว่าโขอยู่ และเมื่อลงสู่สนามแข่งขัน มันก็ประสบความสำเร็จงดงาม จน Colt ผลิตรุ่นต่อๆมา โดยเพิ่มคำว่า ถ้วยทอง หรือ Gold Cup สาไว้หน้าชื่อ National Match


            Colt Gold Cup National Match เป็นความภาคภูมิใจของ Colt ในฐานะเป็นเหมือนเรือธง เป็นปืนในระดับสูงของปืนสาย 1911 ในขณะที่ปืนรีวอลเวอร์ Colt Python (.357 Magnum) ได้รับการวางตัวไว้ในระดับสูงสุดเช่นเดียวกัน ทั้งสองรุ่นนี้ กล่าวได้ว่า Colt ผลิตขึ้นเพื่อการโชว์ฝีมือของผู้นำในวงการผลิตอาวุธปืน เพื่อเป็นการประกาศศักยภาพให้คู่แข่งสำคัญคือ Smith & Wesson ได้ตระหนักว่า ศักดิ์ศรีของการเป็นผู้นำ มิใช่ได้มาเพราะโชคช่วย


            ปืน National Match รุ่นแรกๆ มีเข้ามาในเมืองไทยอยู่พอสมควร ครั้งกระโน้นสามสิบปีกว่าได้ ห้างปืนที่เป็นตัวแทนสั่งเข้ามาคละกับ Government คราวละไม่มาก เพราะเป็นปืนที่จับตลาดบน ชาวบ้านทหารตำรวจทั่วไปก็ไม่ซื้อเพราะแพงกว่าหลายพันอยู่ สมัยที่ Government ไม่ถึงหมื่นบาท แต่ Colt National Match ทะลุหมื่นขึ้นไป ปัจจุบันจะหา National Match ดูได้ยากมากแล้ว เพราะจะอยู่ในมือของนักยิงปืนระดับบนๆ เช่นนายทหารนายตำรวจ หรือพ่อค้าใหญ่เท่านั้น ซึ่งไม่ค่อยปรากฏว่ากลุ่มนี้จะขายปืนออกมาสู่ตลาดเหมือนชาวบ้านร้านช่องเขา


            Colt Gold Cup National Match มีวิวัฒนาการตามสายการผลิตของ Colt ขึ้นมาตามลำดับ เช่นเดียวกันกับสายปืนต่อสู้ปกติ โดยขยับมาเป็น Mark IV Series 70 ลำกล้องอวบปลายรับกับบู้ชสปริงสี่ขา แต่ก็ยังคงเป็นเหล็กรมดำขลับอยู่เช่นเดิม แม้ว่าช่วงนี้โลกปืนจะเริ่มนิยมเหล็กสเตนเลสขาวๆแล้วก็ตาม ซึ่ง Smith & Wesson เป็นผู้จุดกระแสก่อนในโมเดล 60 ชีฟส์สเปเชี่ยล จนมาสู่ยุคเอจตี้ ปี 1980 Colt ก็พัฒนาขึ้นมาอีกขั้นโดยใส่นิรภัยเข็มแทงชนวนและก็เริ่มปรากฏปืน Colt Stainless ออกมาแล้ว ทั้งปืน Revolver ตระกูลงูพันธุ์ต่างๆของ Colt เช่น ไพธ่อน ไดมอนแบ็ค คอบร่า ไวเปอร์ และอนาคอนดา ยังมีโบอาอีกตัว ทั้งที่บนปืนก็ตีม้าผยองตามปกติ


            Gold Cup National Match Mark IV Series 80 ผลิตขึ้นหลังจากที่สิทธิบัตรคุ้มครองแผนแบบปืน 1911 ของ Colt หมดอายุลง ในช่วงปี ค.ศ. 1985 แถม Colt ยังเสียการเป็นผู้ผลิตปืนพกให้กองทัพสหรัฐอเมริกา โดย Beretta จาก Italy ได้ออเดอร์มหึมานี้ไปแทน และก็เกิดกระแส 1911 ฟีเวอร์ขึ้นมาอีกด้วยการลงตลาดของผู้ผลิตปืนรายเล็กใหญ่สารพัด ที่นำเอาแผนแบบของปืน 1911 ไปผลิตในนามยี่ห้อของตน ซึ่งทำได้ถูกกว่า และแพงกว่าหลากหลาย ทำเอา Colt โซซัดโซเซไปพักหนึ่ง แต่ศักดิ์ศรีผู้นำที่สร้างสมมานานปานนั้น ผีผู้เฒ่าซามูเอล โคลท์ ผู้เป็นต้นตำนานคงเข้าสิงคนรุ่นต่อมาให้ฮึดสู้ หลังจากตั้งหลักเป่าน้ำแล้ว Colt ก็ออกจากมุมมาสู้อีกตรา ด้วยประสบการณ์และชื่อเสียง Colt ยังคงยืนหยัดในตลาดได้อย่างทระนง แถมยังสำทับพวกรุ่นลูกรุ่นหลานที่แตกหน่อเสียอีกว่า ถ้าไม่ใช่ Colt มันก็เป็นแค่ของเลียนแบบเท่านั้นนะเว้ย


            Colt Gold Cup ปัจจุบันนี้สามสี่ปีหลัง ในตลาดบ้านเราที่มีให้เห็นจะเป็นรุ่นต่อมา ที่ Colt เรียกว่า รุ่น โทรฟี (Trophy) ซึ่งคล้ายว่า ทำเป็นที่ระลึกถึงเกียรติภูมิในอดีต เป็น Gold Cup หลังลำเลื่อนกลม และไกรูเหมือนกับปืนสายต่อสู้ทั่วไป ต่างแต่ติดศูนย์หน้าสูงรับกับศูนย์หลังยี่ห้อ โบมาร์ ซึ่งกลายเป็นศูนย์มาตรฐานในปืน 1911 แบบแมทช์เกรดแทบทุกยี่ห้อ และ Gold Cup Trophy ราคาล่าสุดที่บอกขายหน้าร้านเกินหลักหมื่นไปแล้วด้วย จะหา Colt Gold Cup National Match หลังเหลี่ยมไกร่อง ศูนย์เอลลิสัน สภาพใหม่เอี่ยมจากหน้าร้าน เป็นเรื่องที่ยากเท่างมเข็มในสระว่ายน้ำ ต้องออกแรงมากหน่อย หรือมีประกาศขายมือสอง ก็ดูให้ดี


            นี่คือปืนระดับสุดยอดในแบบฉบับ 1911 ที่ Colt ผลิตออกมาหมายจะให้ดีที่สุด แม่นที่สุด ในสายการผลิต แต่จะอย่างไรก็ตาม มันยังคงต้องการฝีมือช่างระดัดดีเยี่ยมที่จะตกแต่งในหลายส่วนเพื่อเปล่งอานุภาพความแม่นยำให้ถึงขีดสุด


            ที่มาของคำว่า Government


            ในช่วงสงครามโลก รัฐบาลสหรัฐได้ให้บริษัทผลิตปืนได้ผลิตปืนในแบบ 1911 ขึ้นมา และมีเงื่อนไขว่า ปืนทุกกระบอกต้องเหมือนกัน และสลับชิ้นส่วนกันได้ เลยเป็นที่มาของคำว่า Government หมายถึง ปืนของรัฐบาล และ ตั้งแต่สงครามสงบลง Colt จึงนำปืนมาออกจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไป หลังจากที่ทหารเท่านั้นที่นำปืนมาใช้ในการแข่งขันยิงเป้า ก็มากลายเป็นยุคของประชาชนที่นำปืนมาแข่งขันยิงเป้า ซึ่ง Colt ได้ตั้งชื่อปืนในตระกูล 1911 ว่า Colt Government หรือ Government Model




 

Create Date : 01 มิถุนายน 2553
6 comments
Last Update : 1 มิถุนายน 2553 8:33:30 น.
Counter : 12215 Pageviews.

 

เนื้อหาดีมากๆเลย
Black Friday Deals 2011

 

โดย: spordo01 12 กันยายน 2554 20:41:26 น.  

 

ขอบคุณครับ เขียนดีนะครับ
ติดตามอยู่นะครับ เดี๋ยววันหลังจะตามมาอ่านใหม่ bookmark ไว้ละ :D
วันนี้พอก่อน วันละนิด จิตแจ่มใส่ :D




_________________________________________________________________________________


cheap halloween costumes | homemade halloween costumes | adult halloween costumes



 

โดย: lafaellcross 13 ตุลาคม 2554 4:55:57 น.  

 

ขอบคุณมากครับสำหรับบทความเขียนได้เยี่ยมเลยครับ
Halloween Costumes Couples | Couples Halloween Costumes | Costumes for Halloween

 

โดย: couples (AIRRO01 ) 6 พฤศจิกายน 2554 11:29:57 น.  

 

 

โดย: ขอบคุณนะจ๊ะ (solodano ) 18 พฤศจิกายน 2554 8:41:14 น.  

 

 

โดย: peter125 (steven1064 ) 2 มกราคม 2555 16:35:13 น.  

 

ขอบคุณมากครับสำหรับบทความเขียนได้เยี่ยมเลยครับ
Online Payday Loans Advance Lenders Payday Loan Online Payday Loan Direct Lender Direct Lenders for Payday Loans Direct Lender Payday Loans Direct Payday Loan Lenders Bad Credit Payday Loans

 

โดย: Payday Loans OnLine (AIRRO01 ) 20 พฤษภาคม 2555 23:02:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


DR.MOO CAN DO
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




ผมเป็น นิติพยาธิแพทย์ หรือ จะเรียกว่า หมอนิติเวช ก็ได้ครับ นิติพยาธิแพทย์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปีแล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง นิติพยาธิอีก 3 ปี และเมื่อสอบผ่าน ก็จะได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ และได้เป็นนิติพยาธิแพทย์ โดยสมบูรณ์
หน้าที่ของหมอนิติเวช แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ
ส่วนแรก จะเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยคดี โดยในผู้ป่วยคดีนั้นแพทย์นิติเวชจะมีหน้าที่ในการตรวจ และให้ความเห็นกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับบาดแผลที่ตรวจพบ ซึ่งตำรวจจะนำไปใช้ในการตั้งข้อกล่าวหากับคู่กรณี และหน้าที่ต่อมาของแพทย์นิติเวชคือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีดังกล่าว
ส่วนที่สอง จะเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต โดยในกรณีผู้เสียชีวิตนั้นแพทย์นิติเวชมีหน้าที่ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุในกรณีตายผิดธรรมชาติตามที่กฎหมายกำหนด และหากมีความจำเป็นต้องผ่าชันสูตร ก็จะต้องมีการทำรายงาน และให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต ส่งให้พนักงานสอบสวน สุดท้ายหน้าที่หลักที่สำคัญโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีนั้นๆครับ
ประวัติการศึกษา
1.แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
2.วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3.ประกาศนียบัตร “Crime Scene Investigation” โครงการร่วมระหว่าง International Law Enforcement Academy กับ Federal Bureau of Investigation Academy
4.ประกาศนียบัตร “การบริหารงานโรงพยาบาล” คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ผลงาน
1.อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มศว.
2.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
3.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
4.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
5.วิทยากร หัวข้อ "ICD-10" ของกระทรวงสาธารณสุข
6.วิทยากร หัวข้อ "การตรวจสถานที่เกิดเหตุ" ของมูลนิธิร่วมกตัญญู และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
7.วิทยากรอบรมหลักสูตรนายร้อยตำรวจอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
8.วิทยากร หัวข้อ "KPI รายบุคคล" ให้กับโรงพยาบาลและมหาลัยวิทยาลัย ในภาครัฐ
9.วิทยากร หัวข้อ "Living will" ให้กับโรงพยาบาลในภาครัฐและเอกชน10.วิทยากร หัวข้อ "นิติเวชศาสตร์กับงานด้านโบราณคดี" ให้กับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
11.ร่วมเขียนหนังสือ "KPI รายบุคคล"
12.ร่วมเขียนหนังสือ "มาตรฐาน ICD-10, ICD-9"
13.ที่ปรึกษารายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" และ "Redline"
14.บทความทางวิชาการและผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ 15 เรื่อง
15.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ตั้งแต่ ปี พศ.2553
16.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ ฯ คณะแพทยศาสตร์ มศว. ตั้งแต่ปี พศ.2551
ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (DR.MOO CAN DO)
New Comments
Friends' blogs
[Add DR.MOO CAN DO's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.