DR.MOO CAN DO
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
13 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
กฎหมาย “อุ้มบุญ” ผ่าน ครม.แล้ว รอสภาฯ พิจารณาเพื่อประกาศใช้


          ที่ปรึกษากฎหมาย กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เผยร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ หรือเด็กอุ้มบุญ ผ่านคณะรัฐมนตรีแล้ว หากประกาศใช้จะคุ้มครองคู่ที่ต้องการมีบุตร ในการได้สิทธิเป็นผู้ปกครอง จากปัจจุบันมีปัญหาผู้อุ้มบุญเกิดความรักเด็กไม่ยอมมอบให้ผู้ที่มาขอให้อุ้มบุญและควบคุมมิให้แพทย์กระทำเชิงพาณิชย์ โดยกำหนดคุณสมบัตรผู้อุ้มบุญในกฎหมาย เป็นต้น


            นายประหยัด ดีอ่อง ที่ปรึกษากฎหมายกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า วันนี้คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ หรือ “เด็กอุ้มบุญ” หลังจากกฤษฎีกาได้ปรับถ้อยคำใน ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวใหม่ให้ชัดเจน จากนั้นขั้นตอนต่อไปคือ การรอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา โดยถือว่าวันนี้เป็นการผ่านความเห็นชอบของฝ่ายบริหารแล้ว ขั้นตอนต่อไป ประเทศไทยจะมีกฎหมายดังกล่าวใช้ หากผ่านตามขั้นตอนขบวนการตามกฎหมาย คือ หลังจากเสนอไปยังสภาฯ แล้ว ต้องตั้งกรรมาธิการมาพิจารณาผ่านวุฒิสภาต่อไป จนประกาศใช้


            ที่ปรึกษากฎหมาย พม.กล่าวต่อว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้เพื่อคุ้มครองการมีสิทธิในบุตรที่เกิดจากการอุ้มบุญของสามีภรรยา ที่ต้องการมีบุตร โดยอาศัยการอุ้มบุญ เพื่อควบคุมมิให้เกิดการทำเชิงพาณิชย์ สำหรับแพทย์ และเพื่อควบคุมการกระทำเชิงวิทยาศาสตร์ เช่น วิจัยโคลนนิ่ง เป็นต้น โดยในระหว่างที่ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายดังกล่าวนั้น เคยเกิดปัญหาผู้ที่อุ้มบุญเกิดความรักในตัวเด็กทารกที่อุ้มท้องมา จนไม่ต้องการมอบให้กับผู้ที่มาขอให้ทำการอุ้มบุญให้ เป็นต้น โดยสำนักส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ (สท.) เป็นหน่วยงานที่เสนอร่างกฎหมายดังกล่าวนี้ ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จนวันนี้ได้ผ่านร่างฯ แล้ว


ที่มาจากสำนักข่าวไทย


Create Date : 13 พฤษภาคม 2553
Last Update : 13 พฤษภาคม 2553 8:45:53 น. 2 comments
Counter : 1014 Pageviews.

 
รู้สีกดีใจมากและอยากให้ประกาศให้เร็ว ๆ


โดย: nuch IP: 118.172.140.238 วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:14:54:58 น.  

 
แล้วประกาสหรือยังค่ะ


โดย: ราตรี IP: 120.151.67.79 วันที่: 2 พฤษภาคม 2555 เวลา:23:36:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

DR.MOO CAN DO
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




ผมเป็น นิติพยาธิแพทย์ หรือ จะเรียกว่า หมอนิติเวช ก็ได้ครับ นิติพยาธิแพทย์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปีแล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง นิติพยาธิอีก 3 ปี และเมื่อสอบผ่าน ก็จะได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ และได้เป็นนิติพยาธิแพทย์ โดยสมบูรณ์
หน้าที่ของหมอนิติเวช แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ
ส่วนแรก จะเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยคดี โดยในผู้ป่วยคดีนั้นแพทย์นิติเวชจะมีหน้าที่ในการตรวจ และให้ความเห็นกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับบาดแผลที่ตรวจพบ ซึ่งตำรวจจะนำไปใช้ในการตั้งข้อกล่าวหากับคู่กรณี และหน้าที่ต่อมาของแพทย์นิติเวชคือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีดังกล่าว
ส่วนที่สอง จะเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต โดยในกรณีผู้เสียชีวิตนั้นแพทย์นิติเวชมีหน้าที่ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุในกรณีตายผิดธรรมชาติตามที่กฎหมายกำหนด และหากมีความจำเป็นต้องผ่าชันสูตร ก็จะต้องมีการทำรายงาน และให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต ส่งให้พนักงานสอบสวน สุดท้ายหน้าที่หลักที่สำคัญโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีนั้นๆครับ
ประวัติการศึกษา
1.แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
2.วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3.ประกาศนียบัตร “Crime Scene Investigation” โครงการร่วมระหว่าง International Law Enforcement Academy กับ Federal Bureau of Investigation Academy
4.ประกาศนียบัตร “การบริหารงานโรงพยาบาล” คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ผลงาน
1.อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มศว.
2.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
3.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
4.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
5.วิทยากร หัวข้อ "ICD-10" ของกระทรวงสาธารณสุข
6.วิทยากร หัวข้อ "การตรวจสถานที่เกิดเหตุ" ของมูลนิธิร่วมกตัญญู และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
7.วิทยากรอบรมหลักสูตรนายร้อยตำรวจอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
8.วิทยากร หัวข้อ "KPI รายบุคคล" ให้กับโรงพยาบาลและมหาลัยวิทยาลัย ในภาครัฐ
9.วิทยากร หัวข้อ "Living will" ให้กับโรงพยาบาลในภาครัฐและเอกชน10.วิทยากร หัวข้อ "นิติเวชศาสตร์กับงานด้านโบราณคดี" ให้กับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
11.ร่วมเขียนหนังสือ "KPI รายบุคคล"
12.ร่วมเขียนหนังสือ "มาตรฐาน ICD-10, ICD-9"
13.ที่ปรึกษารายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" และ "Redline"
14.บทความทางวิชาการและผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ 15 เรื่อง
15.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ตั้งแต่ ปี พศ.2553
16.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ ฯ คณะแพทยศาสตร์ มศว. ตั้งแต่ปี พศ.2551
ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (DR.MOO CAN DO)
New Comments
Friends' blogs
[Add DR.MOO CAN DO's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.