ฟ้องแพทย์... ผิดสัญญา หรือ ละเมิด
ทุกวันนี้จะเห็นได้ว่า "แพทย์" ถูกฟ้องคดีปรากฏเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งๆ ที่ในอดีตเมื่อประมาณ 10-20 ปีก่อน เราแทบจะไม่เคยได้ยินว่าแพทย์ตกเป็นจำเลยถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายในกรณีที่คนไข้หรือญาติของคนไข้เป็นผู้ฟ้องคดีเท่าใดนัก แต่ในปัจจุบันนี้ การที่แพทย์ตกเป็นจำเลยถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่ง กลายเป็นเรื่องคุ้นหูหรือกลายเป็น "ลัทธิเอาอย่าง" กันมากขึ้นสำหรับประเทศไทยไปแล้ว "ลัทธิเอาอย่าง" นี้ มิได้หมายความแต่เพียงว่าในประเทศไทยของเรา ผู้เสียหายเลียนแบบกันในการฟ้องแพทย์ เฉกเช่นกรณีแพทย์ฉีดยาให้เด็กแล้วเสียชีวิตทันที (ตายคาเข็ม) หรือกรณีแพทย์ทำคลอดให้กับสุภาพสตรีท่านหนึ่ง แต่เกิดความผิดพลาดในการวางยาสลบ ทำให้มารดาเด็กเสียชีวิต แต่เด็กรอดชีวิต ศาลพิพากษาให้แพทย์ท่านนั้นและโรงพยาบาลที่แพทย์ท่านนั้นเป็นแพทย์ประจำอยู่ในขณะเกิดเหตุร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินหลายล้านบาท (ปัจจุบันคดียังอยู่ระหว่างอุทธรณ์) คดีนี้ทนายความได้ใช้ความสามารถมากพอสมควรในการอ่านเวชระเบียนศึกษาข้อมูลทางการแพทย์ วิธีการวางยาสลบว่าจะต้องทำอย่างไร (ในโอกาสหน้าผู้เขียนจะได้นำเสนอเป็นความรู้แก่ท่านผู้อ่านถึงข้อมูลทางการแพทย์อันเป็นความลับในวิธีการวางยาสลบอย่างเป็นขั้นเป็นตอนต่อไป) และอาจเป็นความโชคดีที่สามีของสุภาพสตรีที่เสียชีวิตไปขอออกหนังสือรับรองการตายจากโรงพยาบาลนั้น เจ้าหน้าที่ให้ลงลายมือชื่อในเอกสารฉบับหนึ่งซึ่งมีข้อความว่า "ไม่ติดใจในสาเหตุการตาย" แต่สามีของผู้ตายไม่ยินยอมลงลายมือชื่อในเอกสารฉบับนั้น มิฉะนั้นแล้วคดีนี้ศาลคงต้องพิพากษายกฟ้องอย่างแน่นอน อาจเทียบเคียงได้กับกรณีที่ว่า "ยินยอมให้ทำ เวรกรรมย่อมไม่มี" เพราะข้อแก้ตัวสำหรับความผิดของบุคคลในทางแพ่งประการหนึ่งที่ว่าถ้าผู้เสียหายยินยอม ผู้กระทำละเมิดไม่จำต้องรับผิด แต่ "ลัทธิเอาอย่าง" ที่สำคัญมากทำให้แพทย์ในประเทศไทยถูกฟ้องคดีมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเพราะว่าในต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศที่ใช้กฎหมายระบบคอมมอน ลอว์ เช่น อังกฤษ หรือสหรัฐอเมริกัน มีการฟ้องแพทย์ให้รับผิดทางแพ่งมากมาย จนกระทั่งมีคนบางคนพูดว่า "แพทย์ กับ ทนายความ" เป็นอาชีพที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันไปเสียแล้วในประเทศเหล่านี้ จากหัวข้อเรื่อง ฟ้องแพทย์...ผิดสัญญา หรือ ละเมิด? ที่จงใจตั้งชื่อเรื่องเช่นนี้ก็เพราะเหตุว่ามีหลายกรณีที่ศาลยกฟ้องเพราะ "ขาดอายุความ" เนื่องจากในการฟ้องคดีมีการตั้งเรื่อง และร่างฟ้องว่าเป็น "ละเมิด" เนื่องจากสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดนั้น สำหรับอายุความเรียกค่าเสียหายในกรณีทั่วไปย่อมขาดอายุความเมื่อพ้นปีหนึ่ง นับแต่วันผู้ต้องเสียหายรู้ถึงการละเมิด และรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน หรือเมื่อพ้นสิบปีนับแต่วันทำละเมิด เว้นแต่อายุความเรียกค่าเสียหายในกรณีมีมูลความผิดทางอาญา หรือกรณีอื่นๆ อาจมีอายุความที่มากกว่าหนึ่งปีได้ แต่ในการฟ้องแพทย์เรามักจะรอผลในคดีอาญา ซึ่งเป็นความคิดที่ผู้เขียนค่อนข้างไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะส่วนใหญ่หากต้องดำเนินคดีอาญากับแพทย์ผู้ซึ่งทำการรักษาผิดพลาด ซึ่งเป็นการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลิ่นเล่อนั้น เมื่อแพทยสภาลงความเห็นว่าแพทย์ท่านนั้นทำการรักษาถูกต้องตามหลักการแพทย์แล้ว พนักงานสอบสวน หรือพนักงานอัยการมักมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งกว่าแพทยสภาจะได้ประชุมครบองค์คณะและทำความเห็นดังกล่าวมักจะใช้ระยะเวลาเกินหนึ่งปี ดังนั้น การฟ้องร้องในทางแพ่งควรดำเนินการก่อนที่คดีจะขาดอายุความ หากเป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากแพทย์ ฐานแพทย์ทำผิดสัญญา มีอายุความถึง 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/30 ละเมิดและสัญญาต่างก็เป็นบ่อเกิดแห่งหนี้ด้วยกัน ที่ว่าละเมิดก่อให้เกิดหนี้เพราะกฎหมายบัญญัติให้บุคคลผู้เป็นเจ้าหนี้ ซึ่งได้รับความเสียหายจากการกระทำหรือเหตุการณ์ใดที่บุคคลผู้เป็นลูกหนี้ต้องรับผิดชอบ ส่วนสัญญานั้นได้แก่ข้อตกลงระหว่างบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปตกลงกันให้คู่สัญญาต้องมีความผูกพันอย่างใดอย่างหนึ่งต่อกัน... ตัวอย่างคดีแรกเกิดขึ้นในปี 1975 โจทก์ปรึกษาจำเลยซึ่งเป็นแพทย์ว่าตนมีความประสงค์ว่าจะทำหมันด้วยวิธีผ่าตัดเอาหลอดอสุจิออก ในราคาค่าจ้าง 20 ปอนด์ จำเลยบอกโจทก์แต่เพียงว่าเมื่อตัดออกแล้วเอากลับคืนไม่ได้ แต่ไม่ได้บอกหรือเตือนโจทก์ว่าจะมีโอกาสมีลูกได้
Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2553 0:32:30 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1888 Pageviews. |
|
|
คนที่จำต้องอยู่ก็คือ นศพ ที่จบใหม่ใช้ทุน ใช้ทุนหมด ก็ออกไปจากระบบเหมือนกัน
คนไทยคงลืมไป ว่าไม่ได้จ่ายภาษีแพงอย่างประเทศต้นแบบพวกนั้น คงลืมไป ว่าหลายๆคนเลี่ยงการจ่ายภาษีมาตลอดชีวิต แต่พอรักษาขอใช้สิทธิ์ 30 บาท รักษาทุกโรค (ซึ่งตอนนี้ก็ฟรีง่ะ) และคงลืมไป ว่าแพทย์เมืองไทยได้ค่าตอบแทนในระบบราชการ เล็กน้อยเพียงใด เทียบกับระบบเอกชนที่ค่าตอบแทนมาก คนไข้น้อย สภาพการทำงานพร้อมทุกอย่าง
ถ้าคนไข้ยังตะบี้ตะบันฟ้องกันอยู่แบบนี้ สักวัน ก็คงไม่มีหมอดีๆคนไหนมาคอยตรวจรักษาคนไข้ในโรงพยาบาลของรัฐอีก
ถึงวันนั้น ก็เฉพาะคนมีเงินเท่านั้นที่จะเข้าถึงหมอคุณภาพ
บ่นยาวเลยง่ะ แต่ไม่ได้เป็นหมอนะคะ แล้วก็ไม่ได้เข้าข้างใครด้วย
สวัสดีค่ะ เข้ามาเยี่ยมชมบล๊อก แล้วก็ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันนะคะ
ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ทุนด้วยค่ะ
ทุนเรียนฟรี 1 ปี พร้อมที่พักระหว่างเรียน IELTS-EFL / PreMaster @Cambridge, UK รวม 30 ทุน
ถ้าผู้ได้ทุนเป็นนักเรียน โรงเรียนจะได้รับเงินบริจาค จากวิทยาลัย 10000 บาท ต่อนักเรียน 1 คนด้วยค่ะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Mrs Rachinya Wilson,
International Director & Scholarship Coordinator
Cambridge Seminars Tutorial College
143-147 Newmarket Roead,
Cambridge, CB5 8HA
UK
Tel 00 44 1223 313 464
00 44 1223 300 123
00 44 7940 589 077
E mail camsem@hotmail.co.uk
rachinya@camsem.co.uk
rachinya.wilson@cambridgesemainars.co.uk
Websites: //www.cambridgeSTcollege.com
//www.camsem.co.uk
//www.cambridgeseminars.co.uk
หรือ ติดตามเอกสารประชาสัมพันธ์ทุนนี้ได้ที่สถานศึกษา หน่วยงานราชการทุกแห่งที่สังกัด กรมสามัญการศึกษา สำนักงานการศึกษาเอกชน กรมอาชีวศึกษา สกอ และ กพ
หรือ ติดตามได้ในบล๊อกนะคะ
กรุณาช่วยบอกต่อทุกคนที่รู้จักเพื่อเป็นวิทยาทานด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ