DR.MOO CAN DO
Group Blog
 
 
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
18 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
เห็ดพิษกลุ่ม Amanita Pantherina และ Amanita muscaria

เห็ดกลุ่มนี้ได้แก่ Amanita muscaria และ Amanita pantherina โดยที่เห็ดที่พบในบ้านเราและทำให้เกิดอาการคล้ายเห็ดกลุ่มนี้ได้แก่ เห็ดปอดม้า
ลักษณะโดยทั่วไปของเห็ดกลุ่มนี้
- ลำต้นมีวงแหวน
- มีถ้วยเห็ด
- มีสปอร์สีขาวบนหมวกเห็ด และครีบเห็ด
- บนหมวกเห็ดมีเศษเปลือกเห็ดติดอยู่

อาการพิษ
การออกฤทธิ์ของเห็ดทำให้เกิด Pantherina Syndrome ซึ่งประกอบด้วยอาการของ muscarinic effect ร่วมกับอาการของ atropine like poisoning อาการพิษเกิดจากสารพิษในเห็ดที่ประกอบด้วยMuscarine ที่ทำให้เกิดอาการของ muscarinic effect เป็น peripheral action, Pilz-atropine หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า mushroom atropine มีคุณสมบัติคล้าย l-hyoscyamine, Pilztoxin เป็น narcotic substance ออกฤทธิ์แบบ central effect เห็ดในกลุ่มนี้บางคนรับประทานได้โดยไม่เกิดอาการพิษ แต่บางคนเกิดอาการ เป็นเพราะบางคนมีภูมิคุ้มกัน หรือเห็ดเกิดในที่ที่มีทั้งสาร muscarine และ atropine like substance ซึ่งฤทธิ์ต้านกันพอดี อาการพิษจะเกิดภายใน 1 ชั่วโมงหลังรับประทาน มีหูอื้อ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ ต่อมาตื่นเต้น เอะอะโวยวาย ร้องตะโกน ผิวหนังแดง ม่านตาขยายเต็มที่ ส่วนใหญ่อาการจะสงบภายใน 11-12 ชั่วโมง ในรายที่รุนแรงอาจเสียชีวิตได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษา


Create Date : 18 มกราคม 2553
Last Update : 18 มกราคม 2553 23:40:06 น. 2 comments
Counter : 3077 Pageviews.

 
น่าจะมีรูปเห็ดพิษที่พบมากในเมืองไทยให้ดูเป็นตัวอย่างด้วยนะคะเผื่อคนชอบทานเห็ดจะได้ระวังตัวไว้บ้างไม่เผลอกินเห็ดพิษเข้าไปด้วยความไม่รู้


โดย: forensic pug (forenspug ) วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:53:32 น.  

 
ขอบคุณนะคะคุณหมอ มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ หนูต้องทำรายงานพอดี ^^


โดย: student IP: 202.28.21.97 วันที่: 16 กรกฎาคม 2555 เวลา:10:35:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

DR.MOO CAN DO
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




ผมเป็น นิติพยาธิแพทย์ หรือ จะเรียกว่า หมอนิติเวช ก็ได้ครับ นิติพยาธิแพทย์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปีแล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง นิติพยาธิอีก 3 ปี และเมื่อสอบผ่าน ก็จะได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ และได้เป็นนิติพยาธิแพทย์ โดยสมบูรณ์
หน้าที่ของหมอนิติเวช แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ
ส่วนแรก จะเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยคดี โดยในผู้ป่วยคดีนั้นแพทย์นิติเวชจะมีหน้าที่ในการตรวจ และให้ความเห็นกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับบาดแผลที่ตรวจพบ ซึ่งตำรวจจะนำไปใช้ในการตั้งข้อกล่าวหากับคู่กรณี และหน้าที่ต่อมาของแพทย์นิติเวชคือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีดังกล่าว
ส่วนที่สอง จะเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต โดยในกรณีผู้เสียชีวิตนั้นแพทย์นิติเวชมีหน้าที่ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุในกรณีตายผิดธรรมชาติตามที่กฎหมายกำหนด และหากมีความจำเป็นต้องผ่าชันสูตร ก็จะต้องมีการทำรายงาน และให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต ส่งให้พนักงานสอบสวน สุดท้ายหน้าที่หลักที่สำคัญโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีนั้นๆครับ
ประวัติการศึกษา
1.แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
2.วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3.ประกาศนียบัตร “Crime Scene Investigation” โครงการร่วมระหว่าง International Law Enforcement Academy กับ Federal Bureau of Investigation Academy
4.ประกาศนียบัตร “การบริหารงานโรงพยาบาล” คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ผลงาน
1.อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มศว.
2.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
3.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
4.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
5.วิทยากร หัวข้อ "ICD-10" ของกระทรวงสาธารณสุข
6.วิทยากร หัวข้อ "การตรวจสถานที่เกิดเหตุ" ของมูลนิธิร่วมกตัญญู และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
7.วิทยากรอบรมหลักสูตรนายร้อยตำรวจอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
8.วิทยากร หัวข้อ "KPI รายบุคคล" ให้กับโรงพยาบาลและมหาลัยวิทยาลัย ในภาครัฐ
9.วิทยากร หัวข้อ "Living will" ให้กับโรงพยาบาลในภาครัฐและเอกชน10.วิทยากร หัวข้อ "นิติเวชศาสตร์กับงานด้านโบราณคดี" ให้กับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
11.ร่วมเขียนหนังสือ "KPI รายบุคคล"
12.ร่วมเขียนหนังสือ "มาตรฐาน ICD-10, ICD-9"
13.ที่ปรึกษารายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" และ "Redline"
14.บทความทางวิชาการและผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ 15 เรื่อง
15.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ตั้งแต่ ปี พศ.2553
16.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ ฯ คณะแพทยศาสตร์ มศว. ตั้งแต่ปี พศ.2551
ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (DR.MOO CAN DO)
New Comments
Friends' blogs
[Add DR.MOO CAN DO's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.