สืบจากของชำร่วย !!
"คดีอุ้มฆ่า 2 ศพที่หัวหิน พนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับคนร้ายแล้ว 2 ราย คนร้ายลงมืออย่างอุกอาจอุ้มเหยื่อ 2 คนไปจากร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์แล้วพาไปยิงทิ้ง ยังดีที่คนร้ายทิ้งหลักฐานเอาไว้มากมาย เลยทำให้เจ้าหน้าที่แกะรอยจับกุมได้ สาเหตุการสังหารมาจากเรื่องทะเลาะวิวาทกันธรรมดา แต่คนร้ายลงมืออย่างโหดเหี้ยม" คือ คำกล่าวของ พ.ต.อ.กษณะ แจ่มสว่าง ผกก.สภ.หัวหิน ภายหลังรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติจับกุม 1. นายธรรมมะ ช่วยสุ่น อดีตทหาร อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1086 หมู่ที่ 8 ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ 2. นายสมศักดิ์ หรือภูวิช หอมฟุ้ง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ที่ 2 ต.ลาดโพธิ์ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี 3. นายรัตน์ ไม่ทราบนามสกุล ที่ร่วมกันอุ้มฆ่านายนฤเบศ หรือ "โป้ง" เสนะเวส อายุ 29 ปี ทำงานอยู่ร้าน "ฮาเล็กซ์" จำหน่ายเหล้าต่างประเทศใน อ.หัวหิน และนายเอกชัย หรือ "เอก" เอี่ยมผดุง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/07 ซอยโรงเจ ถนนเลียบทางรถไฟฝั่งตะวันตก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เอาไว้ได้สำเร็จ สยองช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมากลุ่มคนร้ายลงมืออย่างโหดเหี้ยม มีพฤติการณ์คล้ายตำรวจบุกอุ้มเหยื่อไปต่อหน้าต่อตาชาวบ้าน ก่อนจะพาไปยิงทะลุเบ้าตาอย่างน่าสยดสยอง ยังดีที่การสืบหาคนร้ายไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพราะคนร้ายทิ้งหลักฐานสำคัญเอาไว้หลายอย่าง ยึดรถไว้ตรวจสอบทั้งหมดจึงเป็นสะพานทอดไปถึงมือฆ่า!! ย้อนไปดูปฏิบัติการโหดครั้งนี้เกิดขึ้นวันที่ 15 เม.ย. ตำรวจหัวหินภายใต้การนำของผู้กำกับ กษณะ พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิทัศน์ บริรักษ์ รอง. ผกก.(ป.) พ.ต.ท.สมศักดิ์ เนื่องอ้น รอง.ผกก. (สส.) พ.ต.ต.ประสิทธิ์ เพชรศรี สว.สส. และ พ.ต.ท.ภูวิช โดยชื่นงาม สารวัตรเวร เดินทางไปชันสูตรพลิกศพนายนฤเบศ และนายเอกชัย ซึ่งถูกคนร้ายอุ้มไปสังหารทิ้งศพไว้ที่บริเวณลานข้างถนนสายหัวนา-ทับใต้ ห่างจากถนนเพชรเกษม 4 ก.ม. ในเขต อ.หัวหิน โดยนายนฤเบศถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม. เข้าบริเวณศีรษะทะลุเบ้าตา 3 นัด ขณะที่นายเอกชัย ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ชายโครงด้านซ้าย และมือขวารวม 4 นัด ทั้งคู่โดนจ่อยิงอย่างเหี้ยมโหดในที่เกิดเหตุตำรวจพบปลอกกระสุนขนาด 11 ม.ม. ตกอยู่ 8 ปลอก และปลอกกระสุนขนาด 9 ม.ม. อีก 3 ปลอก นอกจากนี้ ยังพบของชำร่วยงานแต่งงานรูปเต่าทอง-ปลาทอง ที่มีข้อความเขียนไว้ว่า แทนคำขอบคุณ มด-กอล์ฟ 6 เม.ย. 51 จำนวน 10 กว่าชิ้นตกอยู่ เชื่อว่าเป็นของคนร้ายที่อยู่ในรถ โดยผู้ตายหรือคนร้ายอาจจะทำตกออกมาจากรถในขณะดิ้นรนต่อสู้กัน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และยังพบร่องรอยของล้อรถยนต์ที่ขับเข้ามาบริเวณเกิดเหตุด้วยทั้งหมดจึงถูกรวบรวมไว้ ตำรวจสอบปากคำนางชลภัส อุปฐาก อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/1 ถ.คลองเทียน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ภรรยานายนฤเบศ ให้การว่า ในช่วงค่ำของวันที่ 14 เม.ย. นายนฤเบศนำรถจักรยานยนต์ไปซ่อมที่บริเวณซอยบ่อนไก่ ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน เมื่อเห็นว่าสามีหายไปนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงออกไปตามที่ร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ แต่เมื่อไปถึงร้านไม่พบสามี สอบถามชาวบ้านใกล้ๆ ร้านซ่อมรถเล่าว่าก่อนหน้านี้มีชาย 3 คนขับรถเก๋งมาอุ้มสามีขึ้นรถไปพร้อมกับนายเอกชัย ซึ่งเป็นช่างซ่อมมอเตอร์ไซค์ ตอนแรกนึกว่าถูกตำรวจจับไป จึงไปตามที่โรงพักแต่ไม่พบใครพอมาเจออีกทีก็กลายเป็นศพแล้ว นางชลภัสยืนยันว่าสามีเป็นคนเรียบร้อย ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร เจ้าหน้าที่จึงเบนเข็มไปตรวจสอบข้อมูลนายเอกชัย พบว่าก่อนหน้านี้หมอนี่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับลูกน้องของ นายธรรมมะ จากการเล่นสาดน้ำในวันสงกรานต์จนถึงขั้นยกพวกตีต่อยกัน เหตุเกิดบริเวณถนนเลียบคันคลองชลประทานหัวหิน และมีการขู่ฆ่ากัน นั่นแสดงว่าคนร้ายต้องการอุ้มนายเอกชัยไปฆ่ามากกว่า แต่นายนฤเบศเอารถมาซ่อมพอดีเลยโดนอุ้มไปด้วย เพราะคนร้ายคิดว่าเป็นพวกเดียวกัน เพียงเท่านั้นก็เกิดเหตุสลดฆ่า 2 ศพ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่เริ่มแกะรอยหาตัวคนร้าย โดยมีกำลังของ พ.ต.อ.สมชาย รักเสนาะ ผกก. ศสส.ภ.7 เข้าร่วมคลี่คลาย เจ้าหน้าที่เริ่มคลำจากหลักฐานของชำร่วยงานแต่งงาน ตามจนรู้ว่างานแต่งในวันนั้นมีนายธรรมมะ นายสมศักดิ์ และนายรัตน์เดินทางไปร่วมงานด้วย เมื่อนำทุกอย่างมาประมวลเข้าหากัน พบว่านายเอกชัยมีเรื่องกับลูกน้องของนายธรรมมะ และยังพบหลักฐานของชำร่วยงานแต่งงานที่นายธรรมมะเดินทางไปร่วมงานตกอยู่ในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ ยังมีคำให้การของพยานที่ยืนยันว่าเห็นคนร้ายใช้รถเก๋งนิสสัน รุ่นเทียน่า เป็นพาหนะใช้งาน ซึ่งรถเก๋งคันดังกล่าวเป็นรถคันเดียวกันกับที่นายรัตน์ เพื่อนในกลุ่มนายธรรมมะที่ใช้งานอยู่ เพียงเท่านั้นตำรวจจึงขออนุมัติหมายศาลจังหวัดประจวบฯ ที่ จ.232/2551 และ จ.233/2551 จับกุมนายธรรมมะกับนายสมศักดิ์ในทันที ขณะที่นายรัตน์เจ้าของรถเก๋งเทียน่าได้เดินทางเข้าพบตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ในภายหลัง เจ้าหน้าที่จึงยึดรถเก๋งนิสสันเทียน่า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ศต 9049 กทม. เอาไว้ตรวจสอบหาหลักฐานเรื่องที่เกิดขึ้นสร้างความเศร้าใจให้ญาติพี่น้องผู้ตายยิ่งนัก โดยเฉพาะครอบครัวของนายนฤเบศ ที่ตัองสูญเสียหัวหน้าครอบครัวไปทั้งๆ ที่นายนฤเบศเป็นคนเรียบร้อย ไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใคร แต่ต้องมาตายเพราะอยู่ในเหตุการณ์ คนเราใจคอช่างโหดร้าย!!
Create Date : 06 พฤษภาคม 2553 |
|
11 comments |
Last Update : 7 พฤษภาคม 2553 8:27:43 น. |
Counter : 1872 Pageviews. |
|
|
|