~ บุหรี่ไฟฟ้า ฤทธิ์เท่าเฮโรอีน ~
สธ.เร่งสกัดการนำเข้า"บุหรี่ไฟฟ้า"ชี้เป็นภัยอันตรายถึงชีวิต มี"นิโคติน"ซึ่งเป็นสารเสพติดมีฤทธิ์สูงเท่าเฮโรอีน-โคเคนเสี่ยงหัวใจวายสูงกว่าคนทั่วไป3เท่าตัว พบมีโทษทั้งจำทั้งปรับ... เมื่อวันที่ 9 มี.ค. นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ได้รับรายงานว่ามีวัยรุ่นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียนมัธยมศึกษาบางกลุ่มนำบุหรี่ไฟฟ้ามาสูบ เป็นที่แพร่หลายในกลุ่มวัยรุ่น โดยเด็กสั่งซื้อมาจากอินเทอร์เน็ตในราคามวนละ 2,500 บาท ขายเป็นชุด มีบุหรี่ 1 ตัว และน้ำยาที่ระบุนิโคตินสกัด 1 ขวด และมีหลายกลิ่น เช่น กลิ่นวานิลลา, ช็อคโกแล็ต, มินต์ และผลไม้รวม พร้อมกล่อง สายชาร์จแบตเตอรี่ โดยก่อนสูบบุหรี่จะต้องชาร์จแบ็ตให้เต็ม แล้วนำตัวบุหรี่มาถอดแล้วหยดน้ำยานิโคตินเข้าไป 2-3 หยด จากนั้นนำบุหรี่มาประกอบเวลาสูบจะมีไฟคล้ายการจุดบุหรี่จริงๆ ปลายบุหรี่มีสีทั้งแดง ส้ม น้ำเงินแต่ไม่มีความร้อน เมื่อสูบจะมีควันออกมาจากก้นกรองจริงๆ มีกลิ่นหอม
จากการตรวจสอบพบว่าบุหรี่ดังกล่าวคือ บุหรี่ไฟฟ้า หรืออี ซิกาแร็ต (E-Cigarette)เป็นสินค้าเลียนแบบบุหรี่ ที่ผู้จำหน่ายโฆษณาว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเลิกสูบบุหรี่ แต่พบว่าปริมาณนิโคติน (Nicotine) สูงกว่าบุหรี่ทั่วไปหลายเท่า นับเป็นภัยตัวใหม่ จึงมีผลเสียต่อผู้ที่สูบ หากสูบบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ 1 มวน จะเท่ากับสูบบุหรี่ทั่วไปถึง 15 มวนแม้ว่าตัวน้ำยานิโคตินจะมีการปรุงแต่งกลิ่นให้หอมก็ตาม แต่พิษภัยยังคงมีเหมือนเดิมหากนำไปใช้โดยปราศจากการดูแลของแพทย์จะเป็น อันตรายต่อหัวใจและหลอดเลือดได้หลายประเทศได้สั่งห้ามการใช้สินค้านี้แล้ว เช่น รัฐวิคตอเรียของออสเตรเลียบราซิล อิสราเอล จอร์แดน ตุรกีเนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าวยังไม่มีผลการวิจัยรองรับว่าช่วยเลิก บุหรี่ได้จริง
รมช.สาธารณสุข กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้มีมาตรการห้ามนำบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาจำหน่ายในประเทศโดยใช้กฎหมาย 3 ฉบับ ได้แก่ 1.พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2535มาตรา 10 เรื่องห้ามผลิต นำเข้า เพื่อขายหรือเพื่อจ่ายแจกเป็นการทั่วไปหรือโฆษณาสินค้าอื่นใดที่มีรูปลักษณะ ที่ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นสิ่งเลียนแบบผลิตภัณฑ์ยาสูบประเภทบุหรี่ซิการ์แรต หรือบุหรี่ซิการ์ มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท 2.พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 มาตรา 12 ห้ามมิให้ผู้ใดผลิต ขายหรือนำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งยาแผนปัจจุบัน เว้นได้แต่ได้รับอนุญาตฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีและปรับไม่เกิน 10,000 บาท และมาตรา 72ห้ามมิให้ผู้ใดผลิตขาย หรือนำเข้าหรือสั่งนำเข้ายาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มาในราชอาณาจักร ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีและปรับไม่เกิน 20,000 บาท และฉบับที่ 3 ได้แก่พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27ผู้ใดนำหรือพาของที่ยังมิได้เสียค่าภาษีหรือของต้องจำกัดหรือของต้องห้าม หรือที่ยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในราชอาณาจักรสยามความผิดครั้ง หนึ่งจะมีโทษปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรขาเข้าด้วยแล้ว หรือจำคุกไม่เกิน 10 ปีหรือทั้งปรับทั้งจำ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะทำหนังสือถึงกรมศุลกากรเพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบ บุหรี่ไฟฟ้า ตามด่านชายแดนทั่วประเทศ นางพรรณสิริ กล่าว เพิ่มว่า การปล่อยให้มีการ ใช้บุหรี่ไฟฟ้า จะเกิดผลเสียหลายประการ อย่างแรกคือทำให้เด็ก เยาวชน และประชาชนสูบบุหรี่มากขึ้นเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นบุหรี่ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ 2.ทำให้ผู้ที่เลิกสูบบุหรี่แล้วหันมาสูบมากขึ้นเนื่องจากกลิ่นไม่เหม็นรบกวน ผู้อื่น และเป็นผลจากการติดนิโคตินอย่างแรง 3.สารนิโคตินเป็นสารเสพติดที่มีฤทธิ์เสพติดสูง เท่ากับเฮโรอีนและโคเคนเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดและ 4.บุหรี่ ไฟฟ้าทำให้ไม่สามารถควบคุมปริมาณสารนิโคตินได้แตกต่างจากผลิตภัณฑ์ช่วยเลิก บุหรี่ทางการแพทย์อื่นๆ เช่นแผ่นแปะและหมากฝรั่งนิโคติน ที่มีปริมาณนิโคตินแน่นอนและใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้าน นพ.ชูฤทธิ์ เต็งไตรรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมบริโภคยาสูบกรมควบคุมโรค กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้านี้กระทรวงสาธารณสุขได้จับตามาตั้งแต่ปี 2551โดยบริษัทผลิตบุหรี่แห่งหนึ่งได้ผลิตบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ ที่ไม่มีใบยาสูบแต่มีสารนิโคตินและสารเคมีโพรไพลีนไกลคอลที่มีลักษณะคล้าย ควันบุหรี่ โดยจะบรรจุในรูปแท่ง ควบคุมโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ขนาดจิ๋ว และเทคโนโลยีอะตอม โดยใช้แบตเตอรี่สำหรับอัดไฟไว้ในเครื่องเพื่อใช้งานเมื่อเจ้าของต้องการสูบ โดยบุหรี่ดังกล่าวได้แพร่หลายไปทั่วโลกแล้ว และเตรียมนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย จากข้อมูลของบุหรี่ดังกล่าวระบุว่าบรรจุนิโคตินแท่งละ 18 มิลลิกรัม ขณะที่บุหรี่ทั่วไป 1 มวนจะมีนิโคติน 1.2 มิลลิกรัม ซึ่งนิโคตินเป็นสารเสพติดที่มีฤทธิ์สูงเท่าเฮโรอีนและโคเคน การสูดสารนิโคตินแต่ละครั้ง ร่างกายจะได้รับนิโคตินประมาณ 50 ไมโครกรัม ซึ่งสารนี้มีพิษร้ายแรงต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ในขณะสูบบุหรี่ระดับนิโคตินในเลือดจะเพิ่มสูงถึง 25-50 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร เสี่ยงต่อโรคหัวใจขาดเลือดเพิ่มมากขึ้นถึง 3 เท่าตัวทั้งผู้ชายและผู้หญิง.
Create Date : 09 เมษายน 2553 |
|
11 comments |
Last Update : 9 เมษายน 2553 7:35:26 น. |
Counter : 2195 Pageviews. |
|
|
|