เมื่อหนูไปสมัครแอร์โอมาน กินดะ เมาโค้ง ไหว้พระ ถวายไข่ ณ เชียงใหม่
***เห็นหัวข้อบล็อกคงแปลกใจว่าทำไมไม่ใช่หัวข้อ 'ประสบการณ์สมัครแอร์' เหมือนก่อน ๆ คือต้องบอกก่อนว่าบล็อกนี้อ้อมเล่าอะไรไม่ได้นะคะเพราะอ้อมเซนต์สัญญากับทางโอมานไปแล้วว่าจะไม่เล่าอะไรเกี่ยวกับขั้นตอนการสมัครของโอมานแอร์ลงสื่อใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งหมดนี่จะเป็นเรื่องไร้สาระของอ้อมถ้าใครคิดหาสาระในบล็อกนี้ขอบอกว่าให้ปล่อยผ่านไปเลยค่ะเพราะไม่มี 555+
สวัสดีค่าาาา คือรู้นะว่าคงมีคนรออ่าน ขอโทษด้วยที่เพิ่งอัพ เพราะรูปมันเยอะมากเราขี้เกียจอัพเลยดอง ๆ ไว้ง่ะ
หลายคนน่าจะทราบแล้วเนอะว่าเราไปเชียงใหม่มาเพื่อไปสมัครโอมานแอร์ที่นู่น บอกตรง ๆ นะคะว่าครั้งนี้ไปแบบไม่หวังอะไรเลย ก่อนจะไปก็ไปงอแงกะพ่อไปเกาะแขนแม่ ไปนั่งเหี่ยวตรงบันไดบ่น ๆ ว่าไม่อยากไปเลยเพราะเพิ่งนอยด์กับกาต้าร์มา ไม่ได้ท้ออะไรนะแต่มันเหนื่อย ๆ น่ะล่ะ แต่ก็บ่นไปงั้นออกแนวห่อเหี่ยวแต่ก็ไปเพราะไม่อยากเสียโอกาสน่ะ งวดนี้ไปกับเพื่อนสาวที่เรียนคลาสภาษาอารบิคด้วยกันเรากับแก้มก็เรียกขึ้นนครชัยแอร์(เวยส์) ไปตั้งแต่ห้าทุ่มครึ่งถึงเชียงใหม่ตอนเก้าโมงครึ่ง คือจะบอกว่าก็โอเชเลยนะ นั่งสบายกว่ารถทัวร์ปกติเยอะ วันแรกที่ไปถึงเชียงใหม่ถามว่าทำอะไร? นอนจ้าาาาา นอนก่อนแล้วก็ตื่นมากิน!!! กิน ๆๆๆๆๆ อย่างเดียวเนื่องจากแก้มเป็นสาวร่างบางตัวเล็กที่กินเยอะมากกกกกก โคตรงงว่าไอ้ที่กินไปเนี่ยมันไปซุกไว้ตรงไหนวะทำไมถึงผอมได้ขนาดนั้น -*- ยิ่งเราพักอยู่ตรงนิมมานซอยเก้า ของกินอร่อย ๆ เพียบเลย วันแรกของเราก็หมดไปกะการกินและนอน เวรกรรม เชื่อป่ะว่าเป็นครั้งแรกที่เรากินมนต์นมสด ปกติเราไม่ชอบอะไรแบบนี้เพราะคนเยอะ ขี้เกียจรอ แต่เราชอบกินนมร้อนอยู่แล้วและปังนมที่นี่ก็อร่อยง่ะ
วันที่ 20 เราตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้าเพื่อแต่งหน้าทำผมตัวเองแล้วก็ต้องทำผมให้แก้มด้วย เพราะนางมาเรียนแต่งหน้ากับเราแล้วแต่สอนทำผมไม่ทันเลยต้องช่วยทำผมให้นางก่อนพร้อมกับไปหาอะไรกินตอนเช้า (เนื่องจากเราเป็นคนขาดอาหารเช้าไม่ได้จะรู้สึกเหมือนอะไรในชีวิตมันขาดหายไป) ซึ่งพอไปชั่ง นน. วัดส่วนสูง นางถึงกับมาขอบคุณเราเป็นการใหญ่เพราะน้ำหนักนางชั่งได้ 48.4 เกินเส้นตายมา 4 ขีด (เพราะโอมานเอาน้ำหนัก minimum 48 kg ค่ะ) ส่วนเราน่ะเหรอ หึ! เราเขียนในเรซูเม่ว่าหนัก 54 แต่ผลพวงจากการกินแบบมฤตยูคืนก่อนและยังไม่ได้มีการระบายออกเลยชั่งได้เป็น 55.4 T_T แง้ นี่มันอะไรรรรรรรร ที่เห็นใส่สูทนี่ไม่ใช่ไรนะ เราเอากระโปรงเอวสูงมา แต่ดันโง่ค่ะ เตารีดร้อนเกิน รีดกระโปรงเป็นรอยดำ ๆ ไหม้ ๆ - - เวรกรรม เลยต้องใส่สูทเลย ร้อน รัด อึดอัดดดดดด
สำหรับการพรีสกรีนกับอาจารย์อุ้มก็เป็นแบบเดิมแบบที่เคยเล่าให้ฟังเมื่อครั้งก่อนซึ่งรอบนี้เราผ่านมาได้แบบสบาย ๆ เพราะสติดีค่ะ เพราะเทสต์ภาษาอังกฤษอ้อมทำได้อยู่แล้ว และรอบสัมภาษณ์กับอาจารย์อุ้มเมื่อครั้งก่อนก็เจอคำถามหลอนมาก 555+ แต่ครั้งนี้เป็นคำถามแนวสมัครแอร์ที่เคยคิดไว้แล้ว ก็เลยตอบคำถามได้โอเค ตอนสัมภาษณ์กับอาจารย์ก็ตอบดีพอสมควร ไม่หลบตานางเลย ยิ้มสู้ด้วย และ อ.หน้าดุมากกกกกกก กลัวเว้ยยยแต่ยิ้มสู้ 5555555+ (บอกเลยว่าขั้นตอนการสมัครโอมานแอร์ทั้งหมด เครียดสุดนี่คือตอนเจออาจารย์อุ้มเนี่ยแหละ TwT อุแว้)
ตอนที่รู้ว่าได้ไปต่อจะได้ไปเจอกรรมการของโอมานวันที่ 22 ก็ดีใจสุด ๆ อารมณ์ว่าในที่สุดตรูก็รอดจากเงื้อมมือของอาจารย์อุ้มแล้ว 555+
วันที่ 21 เป็นวันที่ว่างหนึ่งวัน อ้อมตื่นมาแต่เช้าเพราะต้องย้ายห้องโรงแรมไปอีกห้องนึง ดีใจเพราะมีอ่างอาบน้ำด้วย 555+ สองสาวเลยแช่น้ำกันเพลิน คือเดี๋ยวนะ แก้มเป็นคนขยันอาบน้ำมากกกกก นางอาบน้ำวันละสองรอบเช้าเย็น ส่วนไอ้อ้อมน่ะเหรอ วันละครั้งก่อนนอนพอละ 555+ อาบมากเปลืองน้ำนะเราต้องช่วยโลกประหยักทรัพยากรธรรมชาติ
หลังจากตื่นกันแล้วก็พากันไปเดินเซนทรัลเฟสติวัล แก้มไม่อยากจ้างช่างแต่งหน้า เราจะแต่งหน้าตัวเองและแต่งให้แก้มโดยให้แก้มไปซื้อรองพื้นใหม่ ก่อนกลับบ้านก็เจอน้องเมย์ สาวน้อยที่อ่านบล็อกเราเนี่ยแหละ ถึงตอนนี้ยังแปลกใจอยู่ว่าทำไมน้องถึงยังคุยกับพี่อยู่ นึกว่าจะเลิกคบพี่ไปแล้ว 5555555+
ทำธุระเสร็จแล้วก็กลับมาหาไรกินแถวโรงแรม ที่เชียงใหม่มีร้านเค้ก ร้านกาแฟเยอะแยะ น่านั่งหลายร้านมาก ชอบบบบ
ตอนทานข้าวเย็นอยู่ (ร้านข้าวคอหมูย่าง อร่อยนะ) บังเอิญเจอกรุ๊ปสาว ๆ ที่มาสมัครแอร์เหมือนกัน เค้าก็บอกว่าเค้าเพิ่งขึ้นไปไหว้พระธาตุ ไหว้พระขอพรกันมา เรากับแก้มก็หันมามองหน้ากันเอง รู้สึกผิดทันที เอิ่ม? ทำไมเราช่างใช้เวลาได้คุ้มค่ามาก ทำไมเราไม่ไปไหว้พระ ทำไมเราไม่ได้อะไรเลยนอกจากรองพื้นกับคอนซีลเลอร์ให้แก้ม 55555555+ พอถึงโรงแรมปุ๊บก็เตรียมของก่อนจะนอนสะสมพลังเพื่อวันรุ่งขึ้น
วันต่อมา เราตื่นมาตั้งแต่ตีสี่เพื่อมาแต่งหน้าให้แก้มก่อนแล้วแต่งให้ตัวเอง ละแม่งงงงง เกิด accident ขึ้นเล็กน้อยเพราะตอนที่ลงรองพื้นอ่ะมันมืดอยู่ใช่มะ ก็แต่งกะไฟในห้อง (ซึ่งมันเป็นสีส้ม) เราก็ว่ามันสีมันพอดีแล้วนะ พอเดินเข้าไปเจอไฟห้องน้ำเท่านั้นแหละช็อคจ้าาาา สาดดดดด รองพื้นขาวกว่าหน้า!!! (คือเราผสมรองพื้นใช้เองไง ใช้สีเข้มกับสีอ่อนผสมกันเพราะเราอาบแดด สีผิวเราจะเปลี่ยนตลอดเพราะเวลาผ่านไปมันจะค่อย ๆ ขาวขึ้นเรื่อย ๆ) และนาทีนั้นแบบไม่มีเวลารื้อหน้าไง ก็เอาบรอนเซอร์กลบ ๆ เอา 55555+ พอได้อยู่ ไม่มีใครทักว่าหน้าลอย ตรูจะบ้า อ้อ ส่วนผม วันนี้เรากับแก้มจ้างช่างทำผมให้มาทำผมให้ที่ห้องคนละ 250 บาทเท่านั้น! พี่ช่างทำผมพอรู้ว่าแต่งกันเองนางถึงกับทึ่งแล้วบอกเก่งจังพร้อมขอถ่ายรูปหน้าเราไปด้วย 55+ ระหว่างทำผมพี่ช่างทำผมถามว่าได้ไปไหว้พระขอพรบ้างมั้ย แล้วก็เล่าให้ฟังถึงครูบาศรีวิชัยว่าใครบนอะไรท่านก็จะให้นะ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองเชียงใหม่พร้อมเล่าประวัติคร่าว ๆ ให้ฟัง ระหว่างนั่งรถแท็กซี่ไปที่โรงแรมอ้อมก็บนเลยค่ะ "ครูบาขาถ้าลูกผ่านไปได้ถึงไฟนอลลูกจะถวายไข่ 9 ฟองให้วันพรุ่งนี้เลยนะคะ"
รูปนี้คือ...แวะขี้ในห้องน้ำก่อนขึ้นไปที่ห้องประชุม
บอกทำไม? 555555555555555555555+
ทีนี้ล่ะพอไปถึงโรงแรมคือต้องยื่นเอกสารก่อนซึ่ง...มันก็ต้องมีเรื่องให้ปวดกะบาลอีกจนได้สิ นอกจากจะปวดขี้เอย อะไรเอย ระหว่างต่อคิวยื่นเอกสารเราถึงรู้ตัวว่าเราลืมรูป!!! ลืมรูปปปป!!!!
รูปสมัครงานนนน!!!!!
สาดดดดดดดดดดดดดดดด
นาทีที่รู้ตัวนั่นเองก็รีบพุ่งตัวด้วยความเร็วสูง(แบบมึนๆ)ไปด้านล่างโรงแรมที่สมัครเรียกแท็กซี่กลับไปเอารูปที่โรงแรมซึ่งห่างกันประมาน15 นาที ตอนนั้นแบบโกรธตัวเองมาก ทำไมถึงได้เป็นคนแบบนี้วะคือเตรียมของไว้ครบแล้วนะแต่ดันแยกแฟ้มที่ใส่รูปกับเอกสารออกจากกันT_T แล้วก็โทรไปหาแม่บอกว่า "แม่จะร้องไห้ว่ะ" (พูดว่ะจริง ๆ 5555+)
เป็นไร" ลืมเอารูปมาสมัครงานมา นี่กำลังนั่งแท็กซี่กลับไปเอา แต่กลัวไม่ทันมาก เพราะประตูเปิด8.30 น. ตอนนี้ 8.40 น. แล้ว" ห๊ะ...ไม่เป็นไรนะลูกถ้าทันก็ทัน ไม่ทันก็ไม่ใช่วันของเรา" งืม" คุณลุงคนขับแท็กซี่ก็ช่วยพูดปลอบแกมด่า ทำไมไม่เตรียมตัวแต่เนิ่น ๆ ล่ะหนู TwT พอไปถึงโรงแรมเท่านั้นล่ะ เราก็พุ่งตัวขึ้นโรงแรมไปหยิบรูปแล้วพุ่งตัวกลับขึ้นมาบนรถแท็กซี่อย่างไว ระหว่างทางกลับไปโรงแรมก็ภาวนาขอครูบาว่าถ้ากลับไปทันและได้ไปถึงรอบไฟนอลลูกจะถวายไข่ 99 ฟองเลยค่ะ T^T ฮือออออ และเราก็ไปถึงทันเวลา!!!!! T__________T นาทีนั้นไม่เหลือความตื่นเต้นใด ๆ ในการสมัครงานเหลืออยู่เลย 55555+
อ้อ... และต้องขอขอบคุณซุปไก่สกัดตราแบรนด์และกระทิงแดงที่เรากินไปตอนเค้าให้พักเบรคเพราะวันนั้นง่วงมากกกกกหลังกินกระทิงแดงเข้าไปอิชั้นตื่นเลยจ้าาา5555+ หลังจากนั้นเราก็ได้ไปต่อจนถึงรอบสัมภาษณ์ไฟนอลแบบงงๆ นี่ถ้ากลับไปเอารูปไม่ทันนี่เอาหัวโขกกำแพงตายจริงๆ นะ T_T แง้ ก่อนกลับก็ยืนคุยกับสาว ๆ ที่เข้าไปทำไฟนอลกรุ๊ปเดียวกันก่อนจะออกมาแชะถ่ายรูปตรงนี้ก่อนกลับ กลัวคนไม่เชื่อว่ามา 5555+ ขากลับ เนื่องจากไม่มีแท็กซี่และรถแดง ไอ้อ้อมก็บึ่งตุ๊ก ๆ มาเลยจ้า ใส่สูทสวยงามแต่ตะกายขึ้นตุ๊ก ๆ =_= กลับมาถึงก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพุ่งตัวไปกินปังนมกะนมร้อนที่มนต์นมสดทันที
หลังจากนั้นด้วยความเหนื่อยและเพลียก็เดินตระเวนหาร้านทำผมขี้เกียจสระผมเองแต่สุดท้ายหาร้านไม่ได้ก็ต้องกลับมาสระผมเอง
วันสุดท้าย เราจองรถทัวร์กลับกรุงเทพตอนกลางคืน ระหว่างวันก็เลยแวะไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพกับครูบาศรีวิชัยก่อนกลับ และแวะกินข้าวซอยฟ้าฮ่ามที่กินแล้วรู้สึกว่างั้น ๆ อ่ะ ไม่ได้อร่อยสมคำร่ำลือ แถวนิมมานร้านข้าวซอยนิมมานอร่อยกว่า
รถแดงอีกแล้วข่าาาาาา
แวะไหว้ครูบาศรีวิชัย
ขอบอกว่าทางขึ้นเขาเป็นอะไรที่แบบทรมาณมาก ปกติเราไม่เคยเมารถหรือเมาเครื่องบินใด ๆ ทั้งสิ้น! เมาอย่างเดียวคือทางโค้ง ซึ่งทางขึ้นดอยนี่แบบร้อยโค้งได้มั้ยยยย โค้งเยอะมากกกก เราแบบไม่ไหวอ่ะ ตอนหลังไม่ไหวละนอนแม่งเลยตรงเบาะหลังรถแดงนั่นแหละ คือจะอ้วกอ่ะ พอลงรถเสร็จลุงคนขับจะชวนไปดอยปุยต่อ แก้มหันมามองสภาพเราที่ยืนตัวงอ เกาะรถอีกคันเพื่อทรงตัวไม่งั้นกรูล้มตึงแน่ แล้วหันไปบอกลุง สภาพเพื่อนหนูคงไม่ไหวละค่ะ ลุงถาม อ้าว เป็นไรล่ะน่ะ นางตอบ อ๋อ เพื่อนหนูเมาโค้ง ลุงขำกลิ้งแล้วเอายาหม่องมาให้เราดม T_T หลังจากนั้นก็นั่งพักประมานเกือบครึ่งชั่วโมงก็ขึ้นรถอะไรสักอย่างขึ้นดอย ซึ่งในรถนั่นมีแต่อาม่าแก่ๆ กับเด็กเล็ก มีเรากับแก้มเท่านั้นที่ดูเป็นวัยรุ่นกันสองคน 5555+ จุดนี้กรูไม่แคร์ละเฟ้ย คือระหว่างรอรถเรายังต้องทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นเลยเพราะยืนไม่ไหวอ่ะ โคตรทรมาณณณณณ
พอได้ไปไหว้พระก็รู้สึกดีขึ้นนะคะสวยมาก เป็นครั้งแรกที่เราขึ้นดอยสุเทพนะงามแท้ ๆ
ตอนขับรถขึ้นดอยเราก็บ่นกับแก้มว่าอยากรู้มากว่าใครเป็นคนคิดมาสร้างดอยสุเทพบนเขาร้อยโค้ง ซึ่งมารู้เอาตอนหลังว่าก็คือครูบาศรีวิชัยนั่นเองค่ะ (ข้างบนพระธาตุก็สามารถกราบไหว้ครูบาได้ค่ะ) ประวัติท่านน่าสนใจมาก ๆ เลยนะ ตั้งแต่เกิดมาเราเพิ่งเคยได้ยินเรื่องราวของท่านครั้งแรกก็ตอนนี้เนี่ยแหละ
ขาลงจากดอยเราก็ไปขอยาหม่องลุงมากำไว้เผื่อหน้ามืดจะอ้วกอีก แต่ขาลงค่อยดีหน่อย ไม่เมารถเบย เรื่องที่แอบเสียดายก็คือเห็นพระธุดงค์ระหว่างทางลงจากดอยแต่ไม่ได้มีโอกาสใส่บาตรหรือแม้กระทั่งถวายปัจจัยหรืออะไรให้ท่านเพราะกลัวจะแหกโค้งตายเสียก่อน =_=;; หลังจากนั้นก็แวะไปนอนพอกหน้าของภูโคลนตรงหน้านิมมานซอย 9 เลย แอบแพงอ่ะ 450 บาทแต่พี่เจนที่ทำงานที่นั่นอัธยาศัยดีมาก น่ารักมาก ตอนนั้นเรากับแก้มคุยกันเรื่องถวายไข่ครูบา ว่าจะหาคนต้มไข่ให้ พี่เจนเองก็เคารพครูบาอยู่แล้วเลยอาสาช่วยต้มไข่ให้เรา ขอบคุณพี่เจนอีกครั้งที่ใจดีช่วยต้มไข่ให้และช่วยนำไข่ไปถวายครูบาแทนเรา ดวงจะได้ถวายไข่ให้ท่านจริงๆ ถึงได้มาเจอพี่เจน T^T
แค่นี้ล่ะค่ะทริปสมัครงานที่เชียงใหม่ของเราเน้นสมัครงาน 40 กินอีก 50 เที่ยว อีก 10-_-;;
ตอนนี้ก็เหลือแค่รอผลไฟนอลอย่างเดียวซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะรู้ผลเมื่อไหร่เพราะลืมถาม 555+ เอาน่ะ ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร สมัครใหม่ แต่ได้เถอะ เค้าขี้เกียจสมัครใหม่แล้วจริง ๆ นะ
Create Date : 08 ธันวาคม 2556 |
Last Update : 15 ธันวาคม 2556 18:31:00 น. |
|
6 comments
|
Counter : 5870 Pageviews. |
|
|