เป็นมอเตอร์พัดลมที่ทำหน้าที่ทั้งระบายความร้อน และ พัดลมแอร์ด้วย ดังนั้นตัวนี้สำคัญครับ

หากเสียหายขึ้นมา ทั้งแอร์ ไม่เย็น ความร้อนก็จะสูง ทำให้เครื่อง overheat ได้ครับ

ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า หา vdo สำหรับถอดพัดลม หม้อน้ำ ford fiesta มีแต่ต้องถอดสายหม้อน้ำ เยอะแยะเต็มไปหมด ผมก็เลยหาวิธีง่ายๆ

จริงๆ น่าจะง่ายที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะว่า ไม่ต้องถอดสายหม้อน้ำ ไม่ต้องใช้อะไรมากมายเลยครับ

ภาพบน คล้ายๆ นะครับ แต่ไม่ทั้งหมด ที่จะถอด แต่ของผมที่จะทำ ไม่ได้ถอดสายหม้อน้ำแต่อย่างใด ซึ่งมาดูกันครับ

ง่ายกว่าใน vdo ที่ทางฝรั่งนำเสนอ แต่อาจจะเป็นเพราะว่า รุ่นมันต่างกันครับ เริ่มกันเลยนะครับ

ภาพบน กรองอากาศ ถอดครับใช้ประแจ รูปดาว 5 แฉกครับ

สภาพด้านบน ว่ามีสายอากาศ ท่ออากาศก็ทำการคลายน๊อต แล้วก็ดึงออกได้เลย

ภาพบน ขันน๊อตออก 4 ตัว ฝาก็เปิดแล้วครับ

ภาพบน ตัวล๊อกฝา ก็ขันออกครับ

ภาพ ท่อที่ดักไอน้ำมัน ก็ถอดออกครับ ดึงออกตรงๆ

ภาพบน ท่อดักอากาศก็งัดขึ้นครับ เป็นพลาสติกอ่อน ไม่หัก มัน งอ ได้ครับ

ภาพบน สลักเก็บเหล็กค้ำฝากระโปรง ก็ถอดออกครับ

ภาพบน หลังจากดึงท่อ และ คลาดน๊อต ตามขั้นตอน ก็ดันขึ้นมาตรงๆ ครับ

ภาพบน กรองอากาศไม่เคยล้าง ก็ล้างทำความสะอาดตากแดดไว้ครับ

ตอนนี้ ก็เริ่มเกี่ยวกับ โครงพัดลมหม้อน้ำแล้วนะครับ มีสลัก 2 ตัว บน และ ตัวยึดด้านล่างอีก  2 ตัวแค่นั้นเองครับ

ภาพบน โยกตัวล๊อกขึ้นแล้วดันโครงหม้อน้ำออกได้เลย ง่ายๆ ครับ ไม่ต้องใช้แรงมาก

ภาพบน ดันตัวสลักขึ้น แล้วดันโครงออกมาตรงๆ

ภาพบน แสดงการดันสลักขึ้นครับ

ภาพบน ตัวนี้ น่าจะเกี่ยวกับท่อแรงดันจากห้องเกียร์ น่าจะเอาไว้ดักอากาศ เพราะว่า มันไม่ได้มีสายไฟ มีแต่ท่อออกมาแล้วข้างในน่าจะเป็นตัวดักลม ธรรมดา

ภาพบน จับโยกไปข้างๆ แล้วดึงออกครับ หากดึงขึ้นตรงๆ ไม่ออก ต้องโยกไปด้านข้างแล้วดึงครับ

ภาพบน เป็นยี่ห้อ fomoco cjnka ค้นหาข้อมูลดู ก็เป็นอะไหล่แท้ จาก FoMoCo เอาไว้สำหรับ ดักอากาศจากกระปุกเกียร์ ประมาณนั้น (Gearbox Breather Pipe )

ส่วนหลักการทำงานลองอ่านๆ แปลๆ ดูนะครับ น่าจะเป็นตัวดักความชื้น ดักอากาศในห้องเกียร์ไม่ให้มีสิ่งสกปรกตกค้างในห้องเกียร์ประมาณนั้น

ภาพบน พอไล่สายไปก็มันออกมาจากห้องเกียร์ น่าจะเป็น อากาศร้อน หรือ แรงดันอากาศในห้องเกียร์

ภาพบ sensor ถุงลมต่างๆ ก็ดึงออกครับ เพราะว่ามันพ่วงกับ หม้อน้ำอยู่ ไม่งั้น ดึงหม้อน้ำออกไม่ได้

ภาพบน อะไหล่ sensor airbag

ภาพบน ก็โยกตัวแดง แล้วกดสลัก แล้วดึงครับ

ภาพบน ตัวนี้ ก็แค่ กดสลักเข้าแล้วดึงออกครับ

ภาพบน เป็น resistor สำหรับ พัดลมหม้อน้ำ เอาไว้เร่ง speed พัดลมครับ ตัวนี้เสียกันบ่อยๆ แต่ของผมยังไม่เสียครับ ยังใช้งานได้ดี วิ่งไปแล้ว แสนสองพันกิโลครับ

ภาพบน สภาพสกปรก ก็เอามาฉีดน้ำยาเอนกประสงค์ให้สะอาด เช็ด แล้วก็เตรียมใส่ประกอบไว้เหมือนเดิม หลังจากทำความสะอาดมอเตอร์พัดลมหม้อน้ำครับ

ภาพบน ยากสุดตรงนี้หละครับ เพราะว่ามันแน่น เราก็ต้องดึงสลัก แล้วค่อยๆ โยกๆ ๆ ถ้าไม่ออก น้ำยาเอนกประสงค์ฉีดแล้วค่อยๆ ดึง โยก ครับ

ภาพบน หลังจากดึง สายไฟต่างๆ ออกแล้ว ก็จับ โครงหม้อน้ำยกขึ้น (ตัวบนต้องปลดสลักก่อนนะครับ)

ภาพบน สลักล่าง จะมี  2 ตัว ก็ยกขึ้นตรงๆ (หลังจากปลดสลักข้างบนนะครับ)

ภาพบน ต้องใช้น้ำยาเอนกประสงค์ช่วยในการดึงสลักสายไฟออกครับ เพราะว่า รถวิ่งมา 7 ปี ไม่เคยถอดออกเลย มันเลยแน่น และยากหน่อย แต่ก็ฉีดน้ำยา ก็ดึงออกง่ายๆ ครับ ค่อย โยก และ ดึงออกครับ

สภาพไม่ขึ้นสนิม ฉีดน้ำยาทำความสะอาดแล้วเช็ด

ภาพบน เรียบร้อยแล้วครับ หลังจากปลดสลักบน และ สลักล่าง ก็หลุดลงแล้วครับ แนะนำให้ ปลดสายไฟต่างๆ ออกก่อนนะครับ

ภาพบน จะเห็นสลักบน และ สลักล่าง อย่างละ 2 ที่

ภาพบน น๊อตต่างๆ สลักต่างๆ เก็บไว้ในกระป๋องน้ำที่ไม่ใช้ครับ จะได้ไม่หล่น ไม่กลิ้ง ไม่ต้องหาให้ยากครับตอนประกอบ

ภาพบน นีอตต้องหมุนตามเข็มนาฬิกาครับ ถึงจะออกนะครับ

ภาพบน สภาพคลาบเขม่า สิ่งสกปรกต่างๆ ก่อนทำความสะอาด

ภาพบน หลังจากเป่า ฝุ่น คราบต่างๆ ออกจากตัวมอเตอร์ครับ

ก่อนเป่าครับ

เป่าเสร็จ ประกอบเหมือนเดิมครับ สภาพภายใน เห็นทองแดงเลย ก่อนทำความสะอาด สกปรกมาก

ใส่พัดลม ให้ตรงบาก และ ร่องนะครับ

หมุนน๊อตเข้าให้หมุน ทวนเข็มนาฬิกา ครับ

ภาพบน ประคองพัดลม อย่าให้ไปโดนคอยร้อน จริงๆ มันไม่ยากนะครับ เพราะว่า ช่องค่อนข้างกว้าง service ง่ายหน่อย

ภาพบน หลังจาก วางสลักล่างเสร็จ เราก็ สลักบ่น จับใส่เหมือนเดิม แล้วจับใบพัดลม หมุนดูครับ ว่าฝึด หรือติด ตรงส่วนไหน ก็เป็นอันว่าเรียบร้อย หมุนปกติ (พอดีฉีดน้ำยาเข้าไปในตัวมอเตอร์ด้วย ก็น่าจะดีขึ้น)

ภาพบน ก็เตรียมประกอบเหมือนเดิมครับ sensor ต่างๆ ตัว connector ต่างๆ สายไฟ ประกอบกลับเหมือนเดิม

ประกอบตัว resistor พัดลมหม้อน้ำเหมือนเดิม

สลักต่างๆ ใส่เหมือนเดิม ทาจาระบีหน่อยจะได้ลื่นหน่อยนะครับ

ประกอบกรองอากาศเหมือนเดิม

ประกอบท่อดักไอน้ำมันเหมือนเดิม

ประกอบดันเข้าไปตรงๆ

ตัวยึด ก็จับเข้าเหมือนเดิม

ใส่กรองเหมือนเดิม เอามาเป่า ทำความสะอาดครับ  สภาพยังพอใช้งานได้นะครับ ไม่สกปรกมาก

สลักค้ำฝากระโปรง ใส่เหมือนเดิม

ทั้งหมดจริงๆ ใช้เวลาไม่มากครับ แต่ภาพมันเยอะ เพื่อให้ เพื่อนๆ ได้ดู จะได้เป็นตัวอย่าง หรืออาจจะหากจะเปลี่ยน มอเตอร์พัดลมไฟฟ้า หากมีเงิน หากถึง แสนกิโลยังไม่เสีย ทำงานปกติ ก็เอามาทำความสะอาดก่อน แต่ถ้ามีงบ ก็เปลี่ยนได้เลยครับ ไม่ต้องรอให้มันเสีย เพราะว่าตัวนี้ สำคัญที่สุดในระบบระบายความร้อนเลยทีเดียว

พอดีผมมีตัว odb2 monior จะดูระดับความร้อนอยู่ที่ 93 องศา ซึ่งรถผมมันเป็นค่าปรกติ จริงๆ อนาคตหากเปลี่ยนวาล์วน้ำ จะเอาตัวอุณภูมิ 85 องศามาเปลี่ยนครับ เอาไว้ระยะทางซัก แสนสอง แสนสามกิโลก่อนค่อยว่ากันอีกทีหนึ่งนะครับ

หลังจากทำความสะอาดอย่างน้อยๆ ก็น่าจะยืดอายุการทำงานให้ตัวมอเตอร์ดีขึ้นมาหน่อย เพราะว่า คราบเขม่า ฝุ่นต่างๆ ที่เกาะบนตัว โรเตอร์ แกน ต่างๆ มันไม่มีคราบเขม่าการทำงานก็น่าจะดีขึ้น และผมก็ฉีดน้ำยาเอนกประสงค์ เข้าไปในตัวแกน และ ตัวแหวน แนะนำให้ใช้ spay ฉีดเฉพาะทางนะครับ เอาพวกฉีดเฉพาะลูกปืน มอเตอร์

กระป๋องละ 2-3 ร้อยบาท หรือใช้ wd-40 ฉีดจะดีครับ

วันนี้คงพอแค่นี้ หวังเป็นอย่างยิ่งอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับคนใช้ ford fiesta กรณีเปลี่ยนมอเตอร์เมื่อถึงอายุมัน หรือจะถอดมาทำความสะอาดเช็คว่ามันทำงานปกติ หรือฝึด หรือซ่อมมันนะครับ

อะไหล่ฝากไว้เผื่อใครกำลังหาอยู่ หรือใครมีราคาถูกกว่านี้ แนะนำ post ทิ้งไว้เลยนะครับ

ตัวนี้ราคาพันกว่าๆ ครับ มีหลายราคา จากหลายๆ web 2-3 พันบาทก็มีนะครับ เอาเลือกที่สบายใจครับ