อาหารการกินในเมืองจีน

อยู่เมืองจีนมาก็สี่ปีแล้วขอบอกตามตรงว่ายังงัย ๆ ก็ยังยืนยัน นั่งยัน และนอนยันว่ารักอาหารไทยค่ะ อาหารหลายๆอย่างที่ทานแล้วรู้สึกว่าอร่อย แต่ก็ไม่เหมือนอาหารไทยค่ะ ทานได้แค่ครั้งสองครั้งก็ไม่เอาแล้ว เพราะรสชาติไม่ถูกปากจริงๆค่ะ

ตอนมาอยู่จีนใหม่ๆนี่ลำบากมากๆค่ะ สามเดือนแรกนี่พึ่งแต่ KFC ทุกวันและทุกมื้อค่ะ ทานจนจำเมนูของ KFC ได้เลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง เนื่องจากพูดภาษาจีนก็ไม่ได้ ร้านอาหารจีนทั่วไปก็ไม่มีภาษาอังกฤษ ไม่มีรูปภาพ เหมือนสมัยนี้ คนจีนก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เวลาจะไปทานต้องใช้วิธีเดินดูแต่ละโต๊ะค่ะว่าเค้าทานอะไรกัน แล้วก็ไปจูงคนเสิร์ฟมาแล้วชี้ให้ดูว่าอยากทานอะไร คิดแล้วก็อนาถตัวเองเหมือนกัน

อาหารจีนแต่ละภาครสชาติจะแตกต่างกันไปค่ะ ในบรรดาอาหารจีนแต่ละภาคอาหารเสฉวนจะมีรสชาติคล้ายๆ บ้านเราเพราะมีรสชาติของอาหารจะมีทั้งรส เปรี้ยว เค็มหวาน และเผ็ด แต่อาหารหนิงโปเมืองที่ตาอยู่นี่จะมีแค่เค็มกับจืดค่ะ คนจีนไม่ค่อยทานผักสด ผักทุกชนิดที่ทำเป็นอาหารจะต้องปรุงให้สุกซะก่อน ไอ้ประเภท สลัด หรือ ผักสดที่เราทานกันเป็นผักแกล้มเค้าทานกันไม่เป็นค่ะอีกอย่างเค้าจะถือเรื่องหยิน หยาง มากๆ เวลาเห็นเราทานผักสด หรือทำสลัด เค้าจะชอบเค้ามาดูแล้วถามว่าทานได้ด้วยเหรอ

ว่าด้วยเครื่องปรุงสำหรับอาหารจีน จะมีไม่กี่อย่างค่ะ อาหารทุกอย่างจะปรุงด้วย

1. เจี้ยงโหยว (คล้ายๆซ๊อสปรุงรสบ้านเราอ่ะค่ะ)
2. เกลือ
3. ผงปรุงรส(ใส่เยอะมาก ใส่ทีไม่ต่ำกว่า สามถึงสี่ช้อนโต๊ะ)
4. อีกอย่างคือคนจีนไม่ทานมะนาวค่ะ หากอาหารประเภทใดต้องการรสชาติเปรี้ยวๆ เค้าจะใช้น้ำส้มสายชูใส่เลยค่ะ ทีนี้รสชาติมันก็จะออกเปรี้ยวแบบจี๊ดอ่ะค่ะ ไม่กลมกล่อมแบบใช้มะนาว (มีเพื่อนคนจีนกระซิบมาว่าที่พวกเค้าไม่ใช้มะนาวอ่ะเพราะมะนาวมันแพงงงงง ซื้อมานาวหนึ่งลูก สามารถซื้อน้ำส้มสายชูขวดกลางๆ ได้หนึ่งขวด แถมทานได้นานกว่าอีก)
5. ความเผ็ดคนจีนเวลาทำอาหารถ้าต้องการเผ็ดๆส่วนใหญ่เค้าจะใส่ ฮัวเจียว (คล้ายพริกไทยเม็ดตากแห้ง) อันนี้ขอบอกว่าเกลียดมากๆ เลยค่ะ เพราะความเผ็ดไม่ได้เผ็ดเหมือนพริกแต่เผ็ดซ่าๆ ติดลิ้น ถ้ากัดเข้าไปจะทำให้ทานอะไรก็ไม่อร่อยเลยค่ะ)
6. แป้งมันหรือแป้งข้าวโพด

อ้อ อีกอย่างค่ะอาหารจีนของแท้ต้องน้ำมันหนาประมาณครึ่งเซ็นต์นะคะ อิอิ

จะว่าไปอาหารที่จีนก็แพงไม่ใช่เล่นนะคะ กับข้าวที่เค้าขายอย่างต่ำๆก็ไม่ต่ำกว่ายี่สิบบาทค่ะ อันนี้แค่ผัดผักอย่างเดียวนะคะไม่มีเนื้ออะไรปนให้เป็นที่ระคายเคือง



รูปข้างบนเนี่ยะทราบมั้ยคะอาหารสามอย่างราคาเท่าไร ทั้งหมดจ่ายไป 29 เหรียญ (ก็ประมาณ 145 บาทค่ะ) ไม่ได้อะไรเลย กุ้งต้มประมาณ 7 ตัว ผัดกะหล่ำปลีใส่วิญญาณหมู กับปลาตัวเล็กๆทำเป็นปลาเปรี้ยวหวาน แค่นี้แหละค่ะ อ้อคนจีนเวลาทำอาหารทะเลจะไม่เหมือนบ้านเรานะคะ บ้านเค้ารู้จักการปรุงอาหารทะเลแค่ นึ่งกับต้มค่ะ กุ้ง หอย ก็เอามาต้ม ปลาก็เอามานึ่งกับทอดแค่นั้นแหละค่ะ น้ำจิ้มอาหารทะเลก็คือซ๊อสสารพัดประโยชน์ เจี้ยงโหยวนั่นเอง อาจมีซ๊อสน้ำส้มที่เค้าเรียกว่า ชู่ ในบางครั้งแค่นั้นแหละค่ะ

รูปข้างล่างมีโอกาสได้ไปทานอาหารบ้านเพื่อนค่ะ เค้าก็ทำง่าย แค่ผัดๆกับซู๊ปหนึ่งถ้วยก็ทานได้แล้วค่ะ

1. ซุ๊ปไก่กับผักโปวช่ายค่ะอันนี้เนื้อไก่นุ่มดี



2. ข้าวโพดต้มกระดูกหมู



3. แมงกระพรุนลวกทานกับเจี้ยงโหยว (อันนี้เค้าชอบกันมากเลยนะคะทุกร้านอาหารต้องมีค่ะ



4. ผัดหน่อไม้แห้งกับหมูสามชั้น



5. ผัดบวบกับกุ้ง



6. ผัดข้าวโพดกับถั่วลันเตา



เชื่อมั้ยคะอาหารทั้ง 5 อย่าง (ไม่รวมซุปไก่นะคะ)เค้าใช้เวลาทำแค่ประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเองค่ะ เหลือเชื่ออ่ะ เพื่อนบอกว่าเค้าทำไม่ได้หรอกอาหารไทยน่ะใช้เวลานานเหลือเกินว่าจะได้ทานแต่ละอย่าง (แหมก็ชั้นทำไม่เก่งนี่ยะก็ต้องใช้เวลากันหน่อย)

สำหรับอาหารประเภท Food Street ก็จะเป็นพวกมันเผา (จะมีเยอะมากตอนหน้าหนาวค่ะ) อาหารประเภทย่างที่เค้าเรียกกันว่า หยางโร่วชวน ชื่อน่ะเป็นเนื้อแกะย่าง แต่จริงๆแล้วพี่แกย่างทุกอย่างเลยนะคะ เนื้อแกะ หมู ไก่ ปลา ผักต่าง ไม่ว่าจะเป็น พริก ต้นหอม หัวหอม แม้กระทั่งต้นกุยช่าย หรือจะเป็นหมั่นโถว เค้าจะเอามาย่างๆ แล้วโรยด้วยผงปรุงถ้าชอบเผ็ดก็บอกให้เค้าใส่พริกเยอะ หยางโร่วชวนนี้คนขายส่วนใหญ่ที่เห็นจะเป็นคนซินเกียงค่ะ หน้าตาจะออกแขกๆ หน่อย ดูเหมือนเป็นโลโก้ของหยางโร่ชวนเลยค่ะเอ่อแต่รูปข้างล่างนี่ไม่ใช่นะคะ คนนี้อุดหนุนบ่อยจนเค้าแถมให้ซื้อ 5 ไม้แถม 2 ไม้อ่ะค่ะ อิอิ



หรือจะเป็น โชวโต้วฝุ อันนี้จะเป็นเต้าหู้เหม็นทอดค่ะ สุดฮิตของคนจีนเลยล่ะค่ะ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเต้าหู้เหม็น ขอยืนยันค่ะว่าเวลาทอดนี่กลิ่นเหม็นจริงๆแต่เค้าบอกว่าอร่อยเวลาทานอ่ะ (คงคล้ายๆทุเรียนบ้านเรา) ทุกๆวันประมาณบ่ายสามโมงนี่จะรู้เวลาเลยค่ะว่าต้องรีบปิดหน้าต่าง เพราะเค้าจะมาตั้งร้านขายหน้าออฟฟิศ เคยทานครั้งหนึ่งค่ะทานไปต้องกลั้นหายใจกัดเข้าไป แต่พอทานไปแล้วก็โอเค (เอ่อ บริเวณที่วางอาหาร ก็สกปรกเหมือนกับรูปน่ะแหล่ะค่ะ เวลาจะซื้อทานก็ต้องทำใจค่ะ เพราะที่ไหนๆก็เหมือนกันหมด ถ้าไม่ใช่ตามโรงแรมหรือภัตตาคารใหญ่ๆ)



อันนี้ก็สุดฮิตค่ะ พวกคอเป็ด ลิ้นเป็ด หัวใจเป็ด พวกนี้จะหาเนื้อไม่ได้เลยนะคะ แต่พวกเค้าบอกว่าสาเหตุที่ชอบทานก็เพราะว่ามันส์ตรงได้แทะกระดูกนี่แหละค่ะ เฮ้อ



มาถึงร้านค้าที่เป็นเหมือนร้านก๋วยเตี๋ยวรอบดึกเหมือนบ้านเราแต่ของเค้าจะไม่ได้เป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำแบบบ้านเรา ของเค้าส่วนใหญ่จะเป็นก๋วยเตี๋ยวผัดค่ะจานหนึ่งอย่างต่ำก็ 5 เหรียญ (ประมาณ 25 บาท) แต่มีแต่เส้นนะคะไม่มีเนื้อไม่มีไข่ ใส่ผักกาดขาวให้นิดหน่อย อื้ออะไรจะแพงขนาดนั้นนะ



ร้านค้าแบบนี้จะขายคู่ไปกับ หมาล่าทง หรือ โหวโกว ค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังแยกไม่ออกค่ะว่าไอ้สองอย่างนี้มันต่างกันยังงัย เพราะก็เห็นใส่ทุกอย่างเหมือนๆ กัน พวกนี้ก็จะมีผักชนิดต่างค่ะ อย่างเช่น ฟัก มันฝรั่งฝานเป็นแว่น เห็ดประเภทต่างๆ เลือด เนื้อหมู หรือ เนื้อไก่ เสียบเป็นไม้ๆ ไว้ มีผักต่างๆ เช่น ผักกาดหอม ผักบุ้ง ผักกาดขาว แล้วก็ลูกชิ้นต่างๆ (เอ่อเชื่อมั้ยคะสี่ปีที่อยู่ในเมืองจีนเคยทานลูกชิ้นจีนแค่ลูกเดียวค่ะทานไม่หมดอีกต่างหากกัดไปได้แค่ครึ่งเดียว เพราะมีแต่แป้งจริงๆ ค่ะ ทุกวันนี้เวลาจะซื้อลูกชิ้นจะซื้อของไต้หวันทานค่ะถุงหนึ่ง ประมาณ 250 บาท) เวลาจะทานเราก็ไปเลือกๆมาว่าจะทานอะไรใส่ตะกร้าไว้ ถ้าต้องการใส่เส้นก็บอกเค้าว่าต้องการเส้นอะไร (เส้นพวกนี้ก็เป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว วุ้นเส้น อุด้ง หรือมาม่าน่ะแหละค่ะ) เสร็จแล้วเค้าก็จะเอาของทุกอย่างลงไปลวกในน้ำซุปทีเคี่ยวด้วยกระดูกหมู ใบกระวาน พริกไทย แล้วก็พริกแห้ง พอสุกก็ใส่ถ้วยตักน้ำที่เอาของต่างลงไปลวกน่ะแหล่ะค่ะใส่ลงไป แล้วก็ใส่ผงปรุงรสแบบน่ากลัวมากกกกก ราคาก็ขึ้นอยู่กับว่าใส่เครื่องมากน้อยแค่ไหนค่ะ แต่ธรรมดาเวลาไปซื้อจะเลือกใส่แค่ผักให้เค้าเอาไปลวก แล้วไม่ใส่น้ำ เอากลับมาทานกับน้ำจิ้มสุกี้บ้านเรา อร่อยกว่าเยอะเลยค่ะ

แต่ร้านแบบนี้เพื่อนๆคนจีนเค้าไม่ค่อยอยากให้เราทานเท่าไร เค้าบอกว่ามันสกปรก ก็จริงอย่างเค้าบอกแหล่ะค่ะ เจอกับตัวเอง ไปยืนรอให้เค้าลวกผักอยู่ ฝนก็ตก พื้นก็แฉะ มีคนเดินมาชนตะกร้าใส่ผักของอีกคนที่รอลวกอยู่(เจ้าของไม่อยู่เพราะไปซื้ออะไรซักอย่างนี่แหละค่ะ) ผักตกลงพื้นเลยค่ะ อีตาคนขายก็หยิบมาจากพื้นแฉะๆ ใส่ไว้ในตะกร้ารอลวกหน้าตาเฉย เห็นแล้วเหวอเลยค่ะ คิดดูสิคะ พื้นน่ะสกปรกแค่ไหน แถมก็รู้ๆกันอยู่ว่าคนจีนอ่ะถุยไม่เลือกที่ ไม่อยากคิดเลยค่ะ วันนั้นของที่ซื้อมาไม่ได้ทานอ่ะค่ะ ทานไม่ลง





ถ้าเป็นอาหารตามภัตตาคารใหญ่ๆอาหารแต่ละอย่างจะจัดอย่างสวยงามมากค่ะ ทางร้านจะทำหน้าตาอาหารจำลอง หรือเตรียมเครื่องของอาหารแต่ละอย่างให้เลือกดูเลยค่ะว่าหน้าตาอาหารสำเร็จแล้วจะเป็นอย่างไร ร้านอาหารเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีรูปภาพให้เลือก หรือ ให้เราเดินเข้าไปเลือกเอาเลยค่ะว่าอยากได้อะไรแบบไหน ส่วนใหญ่เวลาไปทานตามภัตตาคารเค้าจะชอบให้เราไปเลือกอาหาร บางทีเราขี้เกียจก็จะบอกว่าให้เค้าเลือกมาตามใจเค้าแล้วกันไม่ต้องห่วงเรา บางครั้งก็ทานได้ค่ะ บางครั้งก็ทานเป็นพิธีไป มีอยู่สองเหตุการณ์ที่ลืมไม่ลงเลยค่ะ เหตุการณ์แรกพวกเค้าก็ถามว่าอยากทานซุปอะไรเราก็บอกว่าอะไรก็ได้เราทานได้ทุกอย่าง ก็โอเคถึงเวลาอาหารก็ทยอยมาค่ะ มาได้สองอย่าง ซุปก็มาค่ะ เท่านั้นแหละค่ะ เลิกทานข้าวแล้วขอตัวออกไปรอข้างนอกเลย ทำใจไม่ได้ค่ะ เพราะสิ่งที่เห็นคือเต่า หรือ ตะพาบน้ำนี่แหละเป็นตัวๆค่ะถูกหั่นเป็นสองท่อนนอนแช่มาในน้ำซุป

อีกเหตุการณ์ก็ไปนั่งทานข้าวกันเหมือนเดิมพวกเค้าก็พูดกันถึงเรื่องหมา ตอนนั้นภาษาจีนก็ยังไม่ถ่องเท่าไรใช่มั้ยคะ ฟังพอได้งูๆ ปลาๆ เค้าก็ถามเราถึงเรื่องหมา เราก็คิดว่าพูดกันเฉยๆ เลยบอกว่าเราชอบหมามาก ก็ไม่ได้คิดอะไร ซักพักก็มีอาหารมาเสิร์ฟ เป็นเนื้อผัดพริกน้ำมันหอย เค้าก็คะยั้นคะยอให้เราทาน เราก็ทาน แล้วเค้าก็ถามเราว่าอร่อยมั้ยเราก็บอกว่าก็ใช้ได้ เค้าก็บอกว่าทานเยอะๆ นะ เพราะเป็นสิ่งที่เราชอบ อ๊ะ มาถึงตอนนี้เราก็งงๆ อะไรฟะ ยังไม่ได้บอกเลยว่าชอบทานอะไรทำไมรู้ใจเราซะอย่างนี้ เลยถามไปว่า ทำไมถึงคิดว่าเราชอบ คำเฉลยทำให้อึ้งค่ะ เค้าบอกว่าก็เราเพิ่งบอกว่าเราชอบทานเนื้อหมาเค้าเลยสั่งมาให้ เท่านั้นแหล่ะค่ะถึงบ้างอ้อเลย อ๋อ ที่แท้พวกเธอพูดกันถึงเรื่องเนื้อหมานี่นะ นะจังงังเลยค่ะ จุก ตื้อ แล้วก็หยุดทานไปเลย พอตอนหลังๆ ต้องบอกค่ะว่าไม่ทานอะไรบ้าง กลัวซ้ำเหตุการณ์เดิม

อาหารตามภัตตาคารแต่ละอย่างจานจะใหญ่มาก สงสัยไม่หายเหมือนกันค่ะว่าจะใส่จานใหญ่ๆมาทำไม เคยถามไปเหมือนกัน แต่ยังหาคำตอบไม่ได้

ปลิงทะเลค่ะ ราคาแพงมาก ไม่เคยสั่งทานเลยเพราะไม่ชอบค่ะ



ตัวอย่างรายการอาหารค่ะ อยากทานอะไรก็เดินไปจิ้มๆ เอา





อาหารทะเลค่ะแล้วแต่จะเลือกค่ะ แต่ส่วนมากที่จะปรุงเป็นอาหารก็แค่ ต้ม นึ่ง ผัด



ตัวอย่างอาหารที่พึ่งได้ทานที่โรงแรมเมื่ออาทิตย์ที่แล้วค่ะ

เริ่มจากซุปฟักทองค่ะ มีแต่รสชาติของฟักทองจริงๆ ไม่มีเกลือหรือน้ำตาลปนซักนิ๊ดเดียว



ออเดิร์ฟก็เป็นยำแมงกะพรุนกับแตงกวา กับหน่อไม้ค่ะ





ผัดเห็ดรวมมิตร



มะเขือยาวชุบแป้งทอด (อันนี้อร่อยดี)



ตามด้วยมะเขือยาวทรงเครื่อง (ชอบทานมะเขือยาวค่ะ)



ปูขนมาแล้ว



เกี๊ยวนึ่งใส้ผัก (จานใหญ่มาก ราคาก็ใหญ่ด้วยค่ะ)



หอยเชลล์ผัดฉ่า (ชิ้นเดียว 19 เหรียญ ก็ประมาณ 95 บาทอ่ะค่ะ)



ซุปปลา (คนละชิ้น ชิ้นเดียวก็ 38 เหรียญ ประมาณ 190 บาท)



ยังไม่หมดนะคะ ยังมีอีกสามอย่างที่ถ่ายจากกล้องคนอื่น เอ่อ......ที่เห็นรายการอาหารนี่ไม่ใช่ทานกัน สิบคนนะคะ ทานกันแค่ 4 คนเองค่ะ นี่แหล่ะค่ะคนจีน ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะสั่งทำไมเยอะแยะ ทานไม่หมดนะคะ เพราะเราเองก็ทานไม่ได้มากเนื่องจากมันเลี่ยน ก็ยังดีค่ะที่เค้ายังห่อกลับบ้าน ไม่เหมือนบางคนอาหารเหลือเต็มโต๊ะ ไม่แม้แต่จะหันมามองว่าละลายเงินไปตั้งเท่าไร เฮ้อ

แถมให้อีกนิดเป็นอาหารทะเลผัดผงกระหรี่คล้ายๆบ้านเรา แต่บ้านเราอร่อยกว่าเยอะเลยค่ะ เค้าจะมีให้เลือกว่าต้องการอะไร จะเป็น กุ้ง หรือปู แต่เครื่องยืนพื้นก็จะมีเท่าไก่ มันฝรั่ง หน่อไม้วางไว้ข้างล่างเยอะมาก ทานไปก็อร่อยดีค่ะ ที่อร่อยเนี่ยเพราะผงปรุงรสนะคะ(ขอยืนยันค่ะว่าใส่ผงปรุงรสทีไม่ต่ำกว่าสามช้อนโต๊ะ)

นี่เลยค่ะเริ่มจากถั่วทอด กับ หัวไชเท้าดอง



แล้วก็ตามด้วยจานนี้ค่ะกุ้งผัดผงกระหรี่



อุ๊ย....เขียนมายาวอีกแล้ว เป็นงัยบ้างคะเห็นรายการอาหารจีนแท้ๆแล้วเกิดอาการหิวกันบ้างหรือเปล่า

Create Date : 08 พฤศจิกายน 2552		12 comments
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2552 4:43:53 น.
Counter : 6185 Pageviews.
Share Tweet