CyberGal666 [ ตอน 24 ]
Episode XXIV



“อย่างนั้น.... ตกลงว่า แนน-เมธินีก็คงเป็น CyberGal สินะครับ” นายตำรวจหันไปถามกลุ่มสามผู้ร่วมชะตากรรมขณะยืนจิบกาแฟร้อนเพื่อสกัดความเหนื่อยล้าของค่ำคืน

“แป๋มว่ายังคงสรุปชัดๆ ไม่ได้หรอกค่ะ... แต่ข้อมูลในโน้ตบุ๊คเครื่องนี้อาจจะช่วยทำให้อะไรกระจ่างขึ้นแน่ๆ” แป๋มอธิบายให้ รตอ. ฟังก่อนจะหันไปที่เครื่องโน๊ตบุ๊คปริศนา ซึ่งขณะนี้แฮ๊กเกอร์หนุ่มคานิซาว่ากำลังขมักเขม่นตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ภายในเครื่องอยู่

“ผมตรวจเช็คการใช้งานในรอบสองเดือน เอาเวลาที่เบิ้มบอกถึงครั้งแรกที่เขาได้เจอกับไซเบอร์เกิลในเน็ท คิดว่าเรื่องราวต่างๆ น่าจะเริ่มจากตรงนั้น” คานิซาว่าพูดอธิบายแต่สายตายังจับจ้องอยู่ที่หน้าจออย่างตั้งใจก่อนจะอธิบายต่อ “เหมือนเธอจะไม่ได้เก็บข้อมูล log ของการใช้งานแต่ละวันนะ.. แต่มันก็พอจะสืบค้นได้บ้างว่าเกิดอะไรขึ้นในระยะเวลาที่เกิดเรื่องขึ้น” สายตาเบื้องหลังกระจกแว่นที่สะท้อนแสงของจอโน๊ตบุ๊คดูจริงจังราวกับว่าการเจาะข้อมูลเป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับเขา

“เฮ้ย กูเห็นไฟล์นามสกุลเหมือนพวกบัญชีข้อมูล access อยู่หลายไฟล์ว่ะ มึงลองเปิดไฟล์ที่ชื่อมันน่าสงสัยดูหน่อยสิ” เบิ้มชี้ไปที่รายชื่อไฟล์ที่เรียงราวชื่อตามวันเวลาในกรอบหน้าต่างๆ ที่ขึ้นอยู่เต็มหน้าจอ


“อืม... ผมว่า คงต้องพอแค่นี้แล้วล่ะครับ.. เรื่องต่อไปขอให้เป็นเรื่องที่ทางการจัดการเองจะดีกว่านะครับ” เสียงเข้มๆ และฟังดูดุดันของนายตำรวจดูจริงจังขณะเดินเข้ามาที่ด้านหลังของกลุ่มพวกเรา
“แต่เรากำลังน่าจะสาวไปถึงต้นตอแล้วนะครับ... ผมว่าให้พวกเราค้นหาต่ออีกซักหน่อยก็คงจะเจอแล้วละ” เบิ้มหันมาบอกกับนายตำรวจที่ด้านหลัง

“ผมว่า ผมต้องขอให้พวกคุณยุติบทบาทไว้แต่เพียงเท่านี้นะครับ ไม่งั้นจะถือว่าขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงาน เดี๋ยวที่เหลือผมให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของเราดูแลต่อจะดีกว่า” เสียงดุดันขึงชังของเขาดูจริงจังจนทำให้บรรยากาศเริ่มตึงเครียดและทำให้ทุกคนในห้องต้องหยุดชะงักกับกิจกรรมที่กำลังทำอยู่..... ไม่นานนักก็มีเจ้าหน้าที่ชายฉกรรจ์สามคนก็เดินเข้าประตูมาเหมือนได้รับคำสั่งหรือนัดหมายสำหรับการนี้

“ต้องขอบคุณพวกคุณทั้งสามมากนะครับที่ช่วยถอดรหัสการเข้าเครื่องโน๊ตบุ๊คต้องสงสัยเครื่องนี้ได้....... แต่เรื่องนี้อาจมีผลต่อรูปคดีและทางเทมาเส็กอาจต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ยังไงสิ่งที่อยู่ภายในผมคงต้องขอเก็บเป็นความลับไว้ก่อน……” นายตำรวจใหญ่ดูยืนยันคำสั่งของเขาด้วยเสียงที่เรียบง่ายแต่แสดงถึงอำนาจ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทั้งสามเดินเข้ามาล้อมที่เครื่องโน๊ตบุ๊คสีดำบนโต๊ะจนพวกเราทั้งสามต้องแตกถอยห่างออกจากโต๊ะประชุมตัวใหญ่นั่น

“แล้วเรื่องของพี่ธนาละคะ!!.... จะเป็นตายร้ายดียังไง ให้พวกเราค้นหาอีกหน่อยก่อนเถอะ” หญิงสาวพูดอ้อนวอนกับ รตอ. ภาคภูมิ แต่ดูเหมือนความแน่วแน่ของเขาจะไม่สะทกสะท้านกับความอ่อนหวานของอิสตรี....
“ไม่เป็นไรหรอกแป๋ม ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสารวัติและทางการเหอะ...” เสียงของชายร่างโปร่งซึ่งอยู่ด้านหลังเอื้อมมือมาโอบที่ไหล่ของหญิงสาว

“พี่ว่า คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางการแล้วละอย่างที่คานิซาว่าบอกแหละ” เบิ้มเสริมขณะเดินถอยหลังออกจากเจ้าหน้าที่ที่มายืนขวางที่เครื่องคอมพ์... “หวังว่าเราจะได้ความกระจ่างชัดเรื่องการหายตัวไปของเพื่อนของพวกเรานะครับ” เขาหันไปมองที่นายตำรวจใหญ่ที่ยืนห่างออกไปที่กลางโต๊ะประชุมตัวใหญ่

“รถของคุณแป๋มจอดอยู่ที่หน้าตึก....... ส่วนกุญแจและของใช้ต่างๆ เดี๋ยวผมจะให้เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้ที่เคาน์เตอร์แผนกของกลาง” รตอ.ภาคภูมิหันหลังมองไปที่นอกหน้าต่างขณะพูดต่อบุคคลในห้องอย่างไม่สนใจใยดี.... “เชิญครับ!!” เสียงเชื้อเชิญที่เข้มข้นเจือคำสั่งของเจ้าหน้าที่รัฐที่บุคคลทั้งสามรับรู้ได้

………………………………..


ทั้งสามเดินออกจากห้องด้วยความงุนงงและประหลาดใจ.. แต่ไม่มีใครพูดอะไรออกมากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีก็เพียงหญิงสาวที่ดูสีหน้างุนงงและเก็บอาการไม่อยู่... ทั้งสามเดินเข้าสู่ลิฟท์ที่โถงใหญ่อย่างรวดเร็วก่อนที่แป๋มจะพูดออกมา..

“ทำไมพวกพี่ยอมกันง่ายจัง!!” เสียงเธอดูขุ่นมัวและไม่พอใจ.. เธอหยุดพูดเมื่อรู้สึกถึงแรงบีบเล็กๆ ที่ข้อมือเธอ.. เบิ้มบีบที่ข้อมือเธอและทำมือชี้ที่ริมฝีปากด้วยสีหน้าจริงจัง “เดี๋ยวเราค่อยคุยกันในรถดีกว่า” เขาหันไปมองเธอที่ข้างๆ ก่อนจะมองตรงไปยังเพื่อนนักคอมพ์ที่ยังนิ่งและไม่ปริปากพูดอะไรขณะอยู่ในลิฟท์

ไม่นานนักทั้งสามก็เดินผ่านโถงลิฟท์ที่ชั้นล่างสุดซึ่งขณะนี้มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินตรงเข้ามาจากเงามืดพร้อมซองสีน้ำตาลขนาดใหญ่
“เซ็นรับด้วยครับ” เสียงเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบพูดพร้อมยื่นเอกสารบนแผ่นพลาสติกใส่สำหรับเซ็นรับของ
“อ้าว ผมนึกว่าต้องไปรับที่แผนกของกลาง..” เบิ้มถามขณะหญิงสาวหยิบเอกสารมาดูด้วยความงุนงง
“เมื่อซักชั่วโมงกว่าที่แล้วท่านภาคภูมิให้ผมเตรียมของเอาไว้ให้พวกคุณแล้วล่ะ แต่เพิ่งโทรมาแจ้งยืนยันให้เอามาให้ที่โถงนี้เลยเมื่อซักครู่นี้เอง” เจ้าหน้าที่ตอบอย่างเรียบเฉย


แป๋มเปิดดูในซองซึ่งมีพวงกุญแจ กระเป๋าสะพายโน๊ต บุ๊คสีขาวและของใช้ส่วนตัวอีกหลายอย่างอยู่ด้านใน... เธอเซ็นรับเอกสารด้วยความงุนงงและยื่นกลับให้เจ้าหน้าที่ซึ่งยืนรออยู่... “ขอบคุณครับ” เขากล่าวก่อนจะเดินหายกลับไปตามทางเดินที่ไม่สว่างนักของตึกสำนักงานแห่งนี้ในยามวิกาล

ทั้งสามมองหน้ากันอย่างจนด้วยคำตอบก่อนจะเดินผ่านโถงใหญ่ที่ดูเงียบงัน มีเพียงเจ้าหน้าที่ 2-3 คนที่เคาน์เตอร์หินแกรนิตสีดำขนาดใหญ่เท่านั้นซึ่งคอยเฝ้ามองตามบุคคลทั้งสามขณะเดินผ่านอย่างไม่ละสายตา...

....................................


ที่หน้าอาคารกระจกสูงของกรมตำรวจคดีพิเศษ รถสปอร์ตสีเหลืองจอดอยู่บริเวณที่จอดรถอันว่างเปล่า.. สภาพรถด้านหน้ามีรอยบุบและร่องรอยแห่งการไล่ล่าเมื่อตอนบ่ายของวันวาน... ทั้งสามเดินตรงไปที่รถโดยมีแป๋มเป็นคนขับ... ไม่นานนักรถสปอร์ตสีเหลืองคันนั้นก็เคลื่อนตัวออกจากบริเวณที่จอดรถและผ่านประตูใหญ่ออกสู่ถนนกลางเมืองอันเปียกปอนหลังฝนตกในยามค่ำคืน...

“ไปที่บ้านแป๋มก่อนละกันนะคะ” เธอหันมาบอกชายหนุ่มทั้งสองที่หน้าตาตอนนี้ดูอิดโรยเต็มที่.. “ครับ เราคงต้องค้นหาอะไรกันอีกหน่อย” เบิ้มหลับตาอันเมื้อยล้าของเขาขณะตอบก่อนจะลุกนั่งตรงและหันไปหาเพื่อนนักคอมพ์ของเขาที่เบาะหลัง.. “ตกลงมึงเซฟไฟล์พวกนั้นมารึเปล่าวะ คานิซัง”

“ไฟล์อะไรวะ เพิ่งเปิดเครื่องก็มีคนมาคุมแล้ว จะทำอะไรได้ กลับไปนอนก่อนเหอะ เรื่องไอ้ธนาคงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ” แฮ๊กเกอร์หนุ่มตอบด้วยความเรียบง่าย เขาเอนตัวลงพิงกับเบาะหนังที่ด้านหลังโดยมีแสงไฟจากถนนส่องที่หน้าในความมืดอยู่เป็นระยะๆ

“อ้าว ไหงงั้นวะ กูก็นึกว่ามึงมีอะไรพิเศษ แล้วไอ้ตำรวจนั่นมันก็มายึดเครื่องไปเฉยเลยปล่อยให้พวกเราแก้ปริศนาหาพาสเวิร์ดกันแทบตาย มันอะไรกันวะเนี่ย” เบิ้มพูดเสียงดังอย่างมีอารมณ์
“กูเหนื่อยแล้วว่ะ... ขี้เกียจสนใจเรื่องของพวกมึงแล้ว” คานิซาว่าตอบอย่างไม่ยี่ระต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

“มึงจะเกินไปแล้วนะ ชีวิตเพื่อนมึงทั้งคนนะเว้ย...” เบิ้มดูท่าจะไม่ยอมหยุดอารมณ์ฉุนเฉียวลงง่ายๆ.. เขาขยับหมุนตัวไปด้านหลัง “เฮ้ย มึงนอนหลับได้เหรอวะ!!”
“เฮ้ย!!!” แฮ๊กเกอร์หนุ่มตะคอกเสียงดังสวนกลับและลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วก่อนจะทำท่าเอานิ้วชี้ที่ริวฝีปากให้เพื่อนเขาสงบลง.... เขาหยิบ PDA ตัวเก่งขึ้นมากดปุ่มต่างๆ ก่อนจะหันหน้าจอมาที่เบิ้ม...

กูไม่แน่ใจว่าในรถนี้มีเครื่องดักฟังรึเปล่า
กูไม่เชื่อใจไอ้สารวัตินั่น
เดี๋ยวออกจากรถก่อนแล้วค่อยพูดกัน


“โอเคๆ...” เบิ้มตอบและหันกลับไปนั่งตามเดิม เขาถอนหายใจยาวเป่าปาก สายตามองเหม่อไปที่กระจกเบื้องหน้าที่ขณะนี้รถกำลังพุ่งไปในแสงไฟบนท้องถนน
“เกิดอะไรกันขึ้นเหรอคะ” หญิงสาวหลังพวงมาลัยหันมาถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ.... กลับถึงบ้านแล้วค่อยคุยกันดีกว่า” เบิ้มตอบด้วยสายตาเหม่อลอยไปยังถนนที่เบื้องหน้า..


........................................


รถสปอร์ตสีเหลืองทะยานผ่านถนนอันเปียกแฉะหลังพายุฝนมาสู่อาคารคอนโดหรูกลางเมือง... บุคคลภายในรถที่ดูเงียบเชียบกลับพลันตื่นตัวพื้นจากความสงบเมื่อแสงไฟของพื้นที่จอดรถใต้ดินสว่างขึ้น...
“ถึงแล้วค่ะ วันนี้พักกันที่ห้องแป๋มก่อนนะคะ หวังว่าเรื่องต่างๆ น่าจะสงบลงได้ซะที” หญิงสาวในชุดแขนกุดสีขาวหันมามองขณะดับเครื่องยนต์และเปิดประตูรถออก...

ชายหนุ่มทั้งสองคนซึ่งขณะนี้อยู่ในสภาพที่มึนครึ่งหลับครึ่งตื่นค่อยๆ รวบรวมสติและลุกออกจากภายในรถยนต์....
“ไอ้ตำรวจนั่นมันจะเอายังไงของมันวะเนี่ย.. ทำไมต้องกันพวกเราออกมาจากเครื่องคอมพ์ของแนนด้วยนะทั้งๆ ที่พวกเราอาจจะค้นหาข้อมูลที่อยู่ของธนาเจอก็ได้” เบิ้มหันไปบ่นกับคานิซาว่าหลังจากออกมายืนที่นอกรถ

ขณะที่ทุกคนออกมายืนหน้ารถในสภาพหน้าตายุ่งเหยิงหมดแล้วนั้น แป๋มก็กลับเข้าไปที่บริเวณที่นั่งด้านหลังอีกครั้งหนึ่ง เธอมุดเข้าไปเพื่อหาอะไรบางอย่าง..... ซึ่งพอเบิ้มเห็นเข้าก็รีบเดินเข้าไปหาโดยหวังจะช่วยเหลือ...

“มีอะไรเหรอแป๋ม” เบิ้มถามด้วยความสนใจขณะยืนดูอยู่ทีด้านหลังซึ่งเบื้องหน้าของเขาหญิงสาวกำลังก้มโค้งเข้าไปล้วงอะไรบางอย่างอยู่โดยหันบั้นท้ายในกางเกงยีนสีซีดที่ฟิตพอดีตัว
“แป๋มว่าเรามีอะไรบางอย่างที่ต้องตรวจสอบนะคะ” เธอตอบด้วยเสียงหอบโดยยังคงสาละวนอยู่กับการหาอะไรบางอย่างซึ่งมองจากภายนอกดูเหมือนเธอจะล้วงเข้าไปในช่องข้างเบาะหลังของรถนั้นอย่างยากลำบาก... ไม่นานนักเธอก็หยิบของบางอย่างในซองหนังสีดำออกมา...

“เฮ้ย.. นั่นมัน!!” เบิ้มร้องเสียงหลงซึ่งสะท้อนกับความว่างเปล่าในบริเวณจอดรถนั่นเมื่อเห็นวัตถุที่คุ้นเคย

“ใช่แล้วค่ะ.. ตอนที่แป๋มล้วงมือถือจากกระเป๋าตอนที่เราติดกันอยู่ในท้ายกระโปรงรถ แป๋มล้วงไปเจอฮาร์ดดิสของแนนในกระเป๋าที่เธอวางไว้ที่เบาะหลังด้วย” แป๋มออกมายืนและปิดประตูรถสีเหลืองของเธอ... “แป๋มซ่อนไว้ในฟองน้ำของเบาะที่นั่งเพื่อซ่อนจากแนน... แต่พอสถานการณ์เปลี่ยนไปก็เลยว่าจะเอาออกมาดู....ที่ยังไม่ได้บอกไปเพราะคิดว่าจะรอให้ถอดรหัสของโน๊ตบุ๊คของแนนให้ได้ก่อน...” เธอบิดศรีษะและบีบต้นคอและอธิบายต่อ “ก็พอดีว่าเราถูกไล่ออกมาจากการเข้าสู่ฐานข้อมูลในเครื่องโน๊ตบุ๊คของแนนนั้น.. ก็เลยไม่จำเป็นต้องบอกความลับนี้กับนายตำรวจนั่น”

“เราคงจะไว้ใจกันได้นะคะ” เธอหันมามองชายหนุ่มทั้งสอง
“ข้อมูลในโน๊ตบุ๊คเมื่อกี้นี้.. ผมก็ได้ก๊อปปี้ไฟล์ที่ดูแปลกๆ มาหมดแล้วละ” คานิซาว่าหยิบ PDA คู่ใจของเขาออกมาโชว์
“ส่วนข้อมูลที่เทมาเส็กได้ไป.. พี่คิดว่าแป๋มคงจะก๊อปปี้สำเนาเอาไว้ในโน๊ตบุ๊คของแป๋มด้วยใช่ไม๊” เบิ้มหันไปมองหญิงสาวที่หิ้วกระเป๋าสะพาย

“ใช่ค่ะ.. กว่าจะเอาข้อมูลลับนี้ออกมาจากที่นั่นได้แสนจะลำบาก แป๋มคงไม่ปล่อยให้ข้อมูลเก็บไว้ในชิป XXD ตัวนั้นตัวเดียวหรอกค่ะ... ตอนที่เราอยู่ที่โรงแรม แป๋มก๊อปไว้หมดแล้วละ ถ้ารวมกับฮาร์ดดิสของแนนที่เรามีอยู่ตอนนี้.... ฮาร์ดดิสตัวที่เธอใช้เปิดอ่านข้อมูลของเทมาเส็กตัวนั้นด้วยละก็... เราก็คงจะรู้ความลับของ CyberGal ที่แนนต้องการมากจนต้องแลกด้วยชีวิตของเธอ…” เธอถอนหายใจยาวหลังจากพูดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา

“โอเค งั้นตอนนี้เราก็มีโอกาสจะค้นหาความจริงอะไรหลายๆ อย่าง.. รวมไปถึงช่วยไอ้เจ้าธนาที่หายตัวไปด้วยสินะเนี่ย” แฮ๊กเกอร์หนุ่มแสดงอาการพึงใจต่อสถานการณ์ที่ได้เปรียบในครั้งนี้
“แป๋มว่าเราไปขี้นไปพักผ่อนกันก่อนดีกว่าค่ะ... พรุ่งนี้เช้าเราค่อยมาลุยแก้ปริศนากันต่อจะดีกว่า” เธอพูดจบก็ยื่นมือไปจับข้อมือของเบิ้มก่อนที่ทั้งสองจะสบตากันและยิ้ม
“ไปกันเหอะๆ กูเหนื่อยเต็มทีแล้วว่ะ สถานี่ตำรวจนั่นนอนไม่สบายเลย” คานิซาว่าพูดตัดบท

ทั้งสามเดินตรงเข้าสู่โถงลิฟท์ที่ชั้นใต้ดินที่เปิดไฟสว่างอยู่ไม่ไกลจากจุดจอดรถของแป๋ม ใบหน้าของทั้งสามกระจ่างขึ้นในแสงสว่าง เบิ้มใช้มือปิดที่เปลือกตาเมื่อพบกับแสงสว่างและเพื่อลดความเมื้อยล้าที่เกิดขึ้น... คานิซาว่าหาวยาวๆ ก่อนจะบิดคอคลายความเมื้อยล้า... ทุกคนดูสีหน้าจะคลายความกดดันลงเมื่อพบว่าเหตุการณ์ต่างๆ อาจจะมีทางคลี่คลายลงได้และสถานการณ์ที่เลวร้ายต่างๆ อาจจะจบลงในไม่ช้านี้......


อ่านต่อฉบับหน้า



Create Date : 15 ธันวาคม 2549
Last Update : 23 ธันวาคม 2549 9:59:07 น.
Counter : 374 Pageviews.

11 comments
  
ตอนนี้ดีจัง .... เรื่องเริ่มเดินต่อแล้ว

เหมือนจมน้ำไปกับปริศนาหลายตอน แต่ตอนนี้ลอยขึ้นมาเหนือน้ำแล้ว ... มีการแอบปิ้งกันอยู่ด้วยติ๊ดนึงส์นะ เค้าแอบเห็นน้า

โดย: belittle big IP: 61.47.114.236 วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:10:35:34 น.
  
มีโอบไหล่ด้วย แอบโรแม๊นซ์นะครับเนี่ย




ปล. มีสาวน้อยน่ารักคนหนึ่งมาขับกล่อมเพลงให้ฟังครับ รับประกันความน่ารักครับผม
โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:11:40:25 น.
  
อือ..
โดย: Sugar and spice วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:12:45:38 น.
  
เข้ามาลงชื่อก่อนครับ
เดี๋ยวดึกๆ ค่อยกลับมาอ่าน
โดย: King Of Pain IP: 58.9.145.217 วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:13:14:21 น.
  
กว่าตอนนี้จะออกมาให้เราใจชื้นกันได้หน่อยๆ ก็นานพอดูเหมือนกันนะค่ะ

แต่ว่ามาแล้วคุ้มค่า เพราะว่าบรรยากาศตอนนี้เริ่มเบานิดๆ แระ
โดย: JewNid วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:13:34:55 น.
  
กะจะทักฉากโอบไหล่....


ทักกันไปก่อนซะแล้ว


กริ๊ดกริ้ว
โดย: PADAPA--DOO IP: 210.75.123.194 วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:13:52:16 น.
  


โดย: keyzer วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:15:24:55 น.
  
มาต่อไวๆ นะครับ
อยากรู้ว่าจะจบยังไง
นี่แค่มีฉากปิ๊งๆ กัน แฟนๆ นิยายเรื่องนี้พากันแซวใหญ่เลย
ถ้ามีฉากเลิฟซีนเรทอาร์ สงสัยว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในบล็อกนี้บ้าง อิอิ
โดย: King Of Pain วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:22:36:04 น.
  
แวะไปบอร์ดบราโว่มั่งเปล่า

ใช้การได้แล้วนะ แต่ติดพวกโพสต์ขายของเยอะมากเลย
โดย: keyzer วันที่: 17 ธันวาคม 2549 เวลา:21:19:24 น.
  
ไม่ได้ติดตามนิยาย โผล่มาหลอนเฉยๆ
โดย: เสี่ยเอง IP: 203.113.41.8 วันที่: 19 ธันวาคม 2549 เวลา:0:05:01 น.
  
มาหลอนหลังคุณเสี่ย
โดย: lomocat วันที่: 19 ธันวาคม 2549 เวลา:1:06:03 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

biggg
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



my everyday life on EARTH

New Comments
ธันวาคม 2549

 
 
 
 
 
2
3
4
5
6
8
9
11
12
13
14
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
15 ธันวาคม 2549