CyberGal666 [ ตอน 19 ]
ความเดิมจากตอนที่แล้ว


Episode XIX



ในห้องพักอันคับแคบเขตนอกเมืองตะวันออก ความตึงเครียดเขม่งเกลียวขึ้นทุกขณะ... ในความเงียบที่ร้อนระอุ เสียงครางของเครื่องปรับอากาศยังคำรามแผ่วเบาเป็นระรอก.... เหงื่อบนหน้าผากของผมผุดออกมาชัดเจนขึ้นและไหลกระทบกับวัตถุสีดำซึ่งตอนนี้กำลังกดแนบอยู่ที่ขมับ

“ใจเย็น.. ใจเย็น.. ตกลงมันอะไรกันนี่... “ ผมพูดด้วยเสียงตะกุกตะกักพลางยกมือทั้งสองข้างแบอยู่ในระดับอก สายตาจับจ้องตรงไปยังสตรีผู้ยื่นอาวุธขนาดเล็กชี้ตรงมาที่ผม

“ก็ไม่มีอะไรมาก ชั้นมาเอาข้อมูลตัวนี้กลับไปอังกฤษ ก็เท่านั้นเอง ถ้าไม่อยากเป็นวิญญาณเฝ้าโรงแรมนี้ก็อย่ามายุ่งดีกว่า”…. น้ำเสียงแข็งกระด้างและรังสีอำมหิตปลุกผมตื่นสู่ความจริง... หล่อนดึงปืนกลับก่อนทำท่าตวัดแกว่งลักษณะไล่ให้ถอยไป....

ผมถอยห่างออกจากวัตถุอันตรายจนขากระแทบปลายเตียงและเสียหลักล้มลงนั่งอยู่บนเตียง สภาพจนตรอกหมดทางสู้... ภาพสะท้อนของหญิงสาวพร้อมอาวุธในกระจกเงาสร้างภาพน่าสะพรึงกลัวในความเงียบของห้องอันทรุดโทรม

“แนน นี่มันอะไรกัน!!” เสียงหญิงสาวอีกคนในห้องเบี่ยงเบนความสนใจของหล่อน.... “เธอจะเอาข้อมูลไปทำไมกัน.. เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอเลยนี่น่า!!!”

“เรื่องนั้นเธออย่ารู้จะดีกว่า คนที่ต้องการข้อมูลนี้มากกว่าพวกเธอมีอำนาจมากมายนัก....” ชั้นคงต้องขอยืมรถเธอด้วยนะ” หญิงสาวยื่นมือซ้ายมาด้านหน้า ส่วนมือขวายังเล็งปืนไปทางหญิงสาวในเสื้อแขนกุดสีขาว...
แป๋มหยิบกุญแจจากกระเป๋าสะพาย ก่อนจะค่อยๆ วางบนโต๊ะด้วยสีหน้าตระหนก


“อ๋อ.. มิน่าเสียงเธอฟังคุ้นๆ หู... ตกลงเธอคือเสียงผู้หญิงที่โทรจากมือถือของธนาในคืนวันก่อนที่ธนาจะหายตัวไป.. ใช่ไม๊”
“แหม กว่าจะรู้ตัวก็นานเหมือนกันนะ คุณเบิ้ม.. ชั้นก็คิดไว้แล้วละว่าเรื่องราวที่ชั้นสร้างสถานการณ์เพิ่มเติมคงจะทำให้คนขี้สงสัยและไม่ไว้ใจใครง่ายๆ แบบคุณจะต้องตามไปจนถึงเทมาเส็ก” แนนยิ้มด้วนสีหน้าเย้ยหยัน

“หมายความว่ายังไงกัน!!” แป๋มเสียงแข็งถาม
"ชั้นก็แค่เข้าไปที่ห้องของธนา แล้วทิ้งโน้ตปริศนาให้แกตามไปจนถึงเทมาเส็กน่ะสิ.. เพื่อจะได้เอาชิบข้อมูลนี้ออกมาให้."

“แนน... หมายความว่าเธอไม่ได้เพิ่งจะมาจากลอนดอน!!!”
“ชั้นน่ะ มาถึงที่นี่ตั้งแต่รู้ว่าเธอดึงไฟล์ออกมาจากเทมาเส็กได้แล้ว... แต่มันยังหาคนไปเอาข้อมูลนั้นออกมาไม่ได้....ที่นั่นน่ะข้อมูลใดๆ ก็ตามที่ถูกดึงออกมาจากระบบ... ระบบอัจฉริยะของมันจะจำการเข้าออกของข้อมูลทั้งหมดเอาไว้ เครื่องตรวจจับที่ประตูทางเข้าสแกนข้อมูลในตัวเราด้วย... แม้เธอจะเก่งแค่ไหนก็ตาม ที่ไม่ถูกทำอะไรก็เพราะชั้นคอยสังเกตการณ์และสร้างระบบแก้ไขข้อมูลขึ้นมาอีกชั้นนึง.. มันก็เท่านั้นเอง.. เธอมันก็ไม่ได้แน่มาจากไหนหรอก” หญิงสาวพูดด้วยใบหน้ายิ้มเยาะแต่แฝงความเด็ดขาด


“ยังไงก็ตาม ก็ต้องขอบคุณพวกเธอทั้งสองมากนะที่ทำให้ชั้นไม่ต้องเข้าไปเอาเอง.. ตอนนี้ทางนั้นก็คงต้องการตัวนายเบิ้มเพราะนายเข้าไปทิ้งหลักฐานไว้ที่นั่นมากมาย.. ส่วนเธอ แป๋ม.. ต่อไปหลักฐานมันก็จะโยงมาจนถึงเธอจนได้.. ไซเบอร์เกิลมันก็เป็นแค่เรื่องหลอกๆ ที่ไม่มีใครเขาจะสนใจกันหรอก...”
“ส่วนชั้นก็จะได้เอาข้อมูลจากที่นี่ไปใที่อังกฤษ... เรื่องราวต่อไปหลังจากนี้น่าสนใจนัก.. อะไรจะเกิดขึ้นบ้างนะหลังจากที่ข้อมูลหลักฐานนี้กลับสู่จุดกำเนิด”

...............................

เราสองคนถูกต้อนไปที่หน้าห้องบริเวณที่จอดรถของแป๋ม ประตูท้ายถูกเปิดออกและเราสองคนถูกบังคับให้เข้าไปเบียดกันในช่องเก็บของท้ายรถ... แป๋มพยายามร้องและทุบฝากระโปรงหลังแต่ดูเหมือนจะไม่มีใครในสถานที่แห่งนั้นได้ยินเสียงของเธอ... มันคงไม่ใช่เวลาที่ใครจะสนใจใครในโรงแรมชานเมืองเช่นนี้..

ไม่นานนักเครื่องยนต์ก็ถูกสตาร์ทขึ้น ความตึงเครียดเริ่มเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง จินตนาการภายในใจเริ่มสร้างสรรค์สถานการณ์ต่างๆ... เราจะถูกจับไปฆ่าทิ้งที่ไหนรึเปล่านะ.. ภายในค่อนข้างแน่นแออัด เราสองคนแทบจะขยับเขยื่อนไปไหนไม่ได้.. ไม่นานนักรถก็เคลื่อนตัว...เสียงเพลงจากลำโพงเหนือหัวดังกระหึ่มขึ้น ระดับความดังของมันกระแทกเข้าไปในจิตใจอันร้อนรุ่มราวกับว่าคนขับจะแกล้งทรมานเราสอง....

“แป๋ม.. โอเคไม๊” ผมหันหน้าไปทางหญิงสาวด้านข้างและตะโกนใส่
“อะไรนะคะ.. ไม่ได้ยินเลย” เธอตะโกนตอบ.. “พี่เบิ้ม.. พี่เก็บมือถือไว้ที่ไหน”
“เออ จิงสงสัยลืมไว้ในห้องแน่ๆ”
“แป๋มมีอีกเครื่องนึง... อยู่ในกระเป๋าที่เบาะหลัง” เธอตอบที่ข้างหู
“แล้วเราจะหยิบมาได้ไง”

หญิงสาวข้างๆ ผมค่อยๆ เบียดตัวมาที่ผม เธอยื่นมือไปที่ช่องรอยต่อด้านข้างของผนังเบาะด้านหลัง.. ใบหน้าของเราเบียดกันอย่างไม่มีทางเลี่ยง... เธอขยับตัวสูงขึ้นเพื่อสอดมือเข้าไปในช่องแคบนั้น หน้าอกในเสื้อแขนกุดสีขาวเบียดร่างกายในขณะที่ผมไม่สามารถทำอะไรได้มากนอกจากพยายามเบี่ยงตัวเพื่อให้เธอดันมือเข้าไปข้างหน้าได้
“ไม่ไหวค่ะพี่” แป๋มตะโกนที่ข้างหู.. “เอื้อมไปเจอกระเป๋าแล้ว แต่มันล้วงลงไปไม่ค่อยได้เลย..”

“ลองใหม่ๆ เดี๋ยวลองสลับตำแหน่งกันหน่อย” ผมขยับตัวลงด้านล่างและยื่นมือซ้ายอ้อมตัวหล่อนที่ด้านล่าง ก่อนจะดันตัวเธอให้มาอยู่เหนือตัวผม.. แข้งขาเราติดพันกันค่อนข้างลำบาก ในบางช่วงรถก็กระแทกหัวหล่อนให้กระแทกกับผนังเหล็กของกระโปรงหลัง.. “ขอโทษนะคะพี่” แป๋มขยับตัวเบียดเลื่อนไปด้านในด้วยความยากลำบาก.. ถ้าเป็นสถานที่อื่นคงจะดีกว่านี้ ..ผมคิดในใจ

ไม่นานนักเธอก็มานอนอยู่ด้านในของภายในช่องเก็บของ ด้านบนเหนือวันมีลำโพงที่แผดเสียงก้องกระแทกแก้วหูและหัวใจด้วยความทรมาน.. เธอพยายามล้วงไปด้านหน้าและทำอย่างเงียบที่สุดเพื่อไม่ให้หญิงสาวที่กำลังขับรถสังเกตเห็นความผิดปกติที่เบาะหลัง.. เราพยายามอยู่เกือบสิบนาทีแป๋มจึงค่อยๆ ดึงมือกลับมาพร้อมเครื่องมือถือสีดำอีกเครื่องหนึ่งที่ปิดอยู่.. เครื่องนี้ดูเหมือนมือถือปกติทั่วๆ ไป..

แป๋มใช้มือปาดเหงื่อที่ซึมอยู่ทั่วใบหน้าของเธอและยื่นมือถือเครื่องนั้นมาที่ผม.. “พี่ช่วยเปิดมันหน่อยคะ... แล้วลองโทรหาเพื่อนพี่ดู” เธอตะเบงเสียงแข่งกับเสียงเพลงที่หนักหน่วง...
“พี่จำเบอร์ใครไม่ได้เลย.. เดี๋ยวนี้เลขมันเยอะมาก เมมไว้ในเครื่องหมดเลย” ผมตะโกนด้วยความรู้สึกผิด.. “เหลือทางเดียวคือโทรหาตำรวจแล้ว”.. ผมหยิบมือถือและงอพับแขนจับมันเพื่อเปิด...

ไม่นานนักภาพบนจอก็เริ่มสว่าง.. สัญญาณบนหน้าปัดต่ำมากๆ ปริมาณแบ๊ตเตอรี่ก็อ่อนจนเกือบหมดแล้ว “ไม่มีทางเลือก” .. ผมกด 191 อย่างเร่งรีบ... ไม่นานนักเครื่องก็เริ่มต่อสัญญาณ... “ฮัลโหลๆ.. ได้ยินไม๊ครับ”... ผมตะโกนใส่ช่องไมโคนโฟน.. ไม่มีเสียงตอบกลับมา.. ผมหยิบมาดูที่หน้าจอ เครื่องยังเชื่อมต่อสัญญาณอยู่ ระดับพลังไฟในแบ๊ตใกล้หมดเต็มทน.. “ผมอำพล ที่เอาข้อมูลจากเทมาเส็ก”... ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากปลายทาง.. ผมหยิบมาดูอีกครั้งนึง.. แบ๊ตหมดซะแล้วเหรอนี่.. หน้าจอดำมืด..

“แบ๊ตหมดแล้ว” ผมหันไปตะโกนบอกแป๋ม
“มีตำรวจรับสายไม๊” สีหน้าเธอดูสิ้นหวัง
“ไม่รู้เหมือนกัน.... เราทำดีที่สุดแล้วละ”... ผมตะโกนอย่างสิ้นหวังในความมืดขณะที่รถยังเคลื่อนตัวด้วยความเร็วต่อไป....

………………………..
10 นาทีให้หลัง ณ หน่วยปฏิบัติการพิเศษของ DSI

บุรุษหนุ่มในเสื้อเชิ๊ตสีฟ้าผูกไทต์และป้ายห้อยคอกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาในห้องปฏิบัติการพิเศษ
“ท่านครับ.. เราได้รับการติดต่อจากทีม B ว่าได้รับการติดต่อจากตำรวจท้องที่ว่ามีโทรศัพท์เข้ามา แต่ฟังไม่ค่อยชัด ที่น่าสนใจคือ ในเสียงที่แตกพร่ามีคำว่า อำพล อยู่ด้วยครับ” นายตำรวจนอกเครื่องแบบยืนรายงานในห้องประชุมปฏิบัติการเฉพาะกิจ

“ช่วงส่งไฟล์เสียงเข้ามาที่ห้องประชุมนี้ด่วยเลยครับ.. ผมขอฟังเสียงนั้นซักหน่อย... อาจเป็นนายอำพลติดต่อเข้ามาก็เป็นได้” นายตำรวจใหญ่ในเครื่องแบบลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ ... ไม่นานนักไฟล์เสียงก็ถูกส่งเข้ามาที่เครื่องคอมพ์และส่งขึ้นจอ LCD ขนาดใหญ่ที่ผนัง...

ภาพบนจอเป็นภาพคลื่นเสียงและมีเสียงจากลำโพงที่ฟังไม่ค่อยถนัด.. “ช่วยตัดเสียงรบกวนออกหน่อยครับ” นายตำรวจใหญ่สั่งการ สายตายังจับจ้องอยู่ที่ภาพบนจอ... เจ้าหน้าที่ที่ควบคุมอุปกรณ์ไฮเทคกดปุ่มต่างๆ อย่างรีบเร่ง... เสียงจากลำโพงเริ่มเคลียร์ขึ้นแต่ก็ยังจับใจความอะไรไม่ได้มากนัก... คำว่าอำพลค่อนข้างจะแตกพร่า

“ช่วยเรียกผู้ต้องหา คานิซาว่า เข้ามาที่ห้องนี้ด่วน” รตอ.หนุ่มสั่งการ...
ไม่นานนักแฮ๊กเกอร์หนุ่มก็ถูกคุมตัวเข้ามาพร้อมกับเจ้าหน้าที่หญิง.....

“คุณคานิซาว่า.. คุณช่วยฟังเสียงนี้หน่อย.. คุณว่ามันเป็นเสียงของเพื่อนคุณรึเปล่า” นายตำรวจมองไปยังคานิซาว่าก่อนจะหันไปสั่งการให้เจ้าหน้าที่เล่นเสียงบันทึกนั้นอีกครั้ง.... แฮ๊กเกอร์หนุ่มพยายามฟังพลางลูบเคราสีน้ำตาลอ่อนที่คาง... “ผมว่ามันไม่ค่อยจะแจ้งนะ.. แต่ก็คล้ายมากทีเดียว” .. เขาตอบด้วยสีหน้าครุ้นคิดสายตายังจับจ้องที่คลื่นเสียงบนจอเบื้องหน้า

“ติดต่อหน่วย TM1 ให้ส่งพิกัดของคลื่นมือถือนั้นมาด่วน.. ติดต่อ ICT ของภาพถ่ายจากดาวเทียมในเวลาและพิกัดที่สัญญาณนั้นถูกส่งมาด้วย”.. สิ้นคำสั่งเจ้าหน้าที่แต่ละคนก็รีบขมักเขม่นดำเนินการในส่วนหน้าที่ของแต่ละคน...

“ท่านครับ ภาพถูกส่งมาแล้วครับ” นายตำรวจชั้นผู้น้อยรายงานต่อหัวหน้า.. เขาหันไปดูที่หน้าจอขนาดใหญ่ที่หน้าห้องประชุม.. ภาพถ่ายจากดาวเทียมเป็นรูปถนนซุปเปอร์ไฮเวย์มีรถวิ่งอยู่มากมาย และมีรถสีเหลืองที่มีสัญลักษณ์วงกลมสีแดงเป้าหมายกำลังเคลื่อนตัวอยู่...

“มุ่งหน้าไปทางไหนอยู่” ร้อยตำรวจเอกหันไปถามเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังอยู่หน้าคอมพ์
“ออกจากเขตลาดกระบัง มุ่งหน้าเข้าสู่วงแหวนรอบนอกขึ้นไปทางตอนเหนือของกรุงเทพครับ”
“สั่งให้ตำรวจทางหลวงตั้งด่านสกัดจับโดนด่วน ป่านนี้อาจไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้... เตรียมฮอ.ให้พร้อม ผมจะตามไปดูด้วยตัวเอง”....

“คานิซาว่า คุณไปกับผมด้วย” ร้อยตำรวจเอกหันมาที่เพลบอยหนุ่ม


“ดีครับ ผมเบื่อตึกนี้เต็มทน อยากนั่งค๊อปเตอร์มานานแล้ว” เขาตอบอย่างไม่สะทกสะท้านกับเรื่องราวทั้งหมดนี้


อ่านต่อฉบับหน้า



Create Date : 23 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 23 ธันวาคม 2549 10:04:00 น.
Counter : 402 Pageviews.

9 comments
  
Will they fall in love while they are trying to escape ?

Love scene, love scene !! ...haha
โดย: aNniE IP: 203.155.165.248 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:13:36:18 น.
  

ลึกลับซับซ้อนซ่อนอะไรไว้นักหนาเนี่ย....ต้องมาคอยตามอ่าน

อยากรู้ๆๆ

รอตอนต่อไป
โดย: มัชฌิมา วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:13:39:43 น.
  
น่าคิดต่อนะว่าคนที่อยู่เบื้องหลังต้องการข้อมูลไปทำไร...เพื่อไร และเค้าจะเป็นใครกัน ลองคิดไว้เล่นๆ บ้างแล้ว

มีฉากแนบเนื้อชิดกายเล็กๆ (ติ๊ดเดียว) มาให้เห็นพอให้รู้ว่าพ่อเบิ้มก็คงม่ายด้ายเป็นเกย์แน่ๆ ....

และคราวนี้คานิซังก็ได้ออกโรงโชว์กึ๋นอีกซะที มันส์แน่ๆ ..........
โดย: belittle big IP: 221.128.116.172 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:02:32 น.
  
มาประทับรอยไว้ก่อน เด๋วรวบยอดทีเดียว

...อิอิ





โดย: Michiyo วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:24:26 น.
  

ฉากท้ายรถเหมือนในหนังเลยอะ

น่าจะมีเลิฟซีนนิดๆ
โดย: Sugar and spice วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:54:46 น.
  
อยากรู้ซ๊าแล้วค่ะว่า เจ้าข้อมูลลับนี่มันคืออะไร
โดย: JewNid วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:21:50:57 น.
  
ผมคิดไว้แล้ว ว่าแนนต้องเป็นคนเดียวกับคนที่ไปที่ห้องของธนาคารวันนั้นแน่ๆ

แล้วพี่เบิ้มจะรอดได้ยังไงหว่า น่าลุ้น
ตอนนี้มีอะไรวับๆแวมๆ ด้วยอ่ะ
แล้วต่อไปจะมีฉากอีโรติกมั้ยครับ
โดย: King Of Pain วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:46:00 น.
  
มีฉากรักปล่าวเนี่ย

โดย: keyzer วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:20:54 น.
  
ดูเป็นงานเขียนบุรุษเพศมากมาย
โดย: PADAPA--DOO IP: 210.75.123.194 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:17:10:07 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

biggg
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



my everyday life on EARTH

New Comments
พฤศจิกายน 2549

 
 
 
1
2
4
6
8
9
11
13
14
16
17
18
19
21
22
24
26
27
28
29
30
 
 
23 พฤศจิกายน 2549