Day 10 Bicycle Tour in Osaka
ขี่จักรยานอ้อมโลกไปปราสาทโอซาก้าโจวันก่อนวันสุดท้ายในโอซาก้า ขาผมที่เคยเดี้ยงในช่วงวันแรกก็หายใน 4 วันหลังจากนั้น แต่ท่านหัวหน้าคณะทัวร์เราก็โดนรองเท้ากัดจนระบมเนื่องจากเดินท่องเที่ยวกันเยอะไปหน่อย ในวันนี้เราเลยวางแผนว่าเรามาขี่จักรยานเล่นในเมืองโอซาก้ากันดีกว่าหลังจากเคยขี่กันไปหนนึงที่เกียวโตแล้วสนุกติดใจและไม่เหนื่อยด้วย
จักรยานในเมืองที่จอดกันในที่จอดที่ถูกกฏหมายและปลอดภัย
ทุกเส้นทางมีสัญลักษณ์ของจักรยานที่แสนสะดวก
วันนี้เต้ยหาข้อมูลเรื่องร้านจักรยานเช่ามาแล้วว่าอยู่ไม่ไกลจากที่พักเท่าไหร่ เดินไปประมาณกิโลกว่าจากย่าน Nipponbashi ที่เราพัก เราออกเดินทางหลังอาหารเช้าจนเจอร้านจักรยานที่มีคุณลุงคอยให้บริการ จักรยานลักษณะแบบมาตรฐานที่ใช้กันที่นี่ มีตะกร้าหน้าดูเก่าๆ แต่พอลองขี่แล้วก็คล่องและเร็วกว่าจักรยานที่บ้านใช้อยู่ซะอีก สนนราคาค่าเช่าอยู่ที่คันละ 700 เยนแต่เช่าได้ถึงตอน 6 โมงเย็น ไม่เหมือนจักรยานที่โรงแรมที่พักที่เกียวโตที่ให้เช่าได้จนถึง 5 ทุ่ม ลุงเขาก็คงต้องปิดร้านกลับบ้านอะนะครับ
ต้นแปะก๊วยที่ปลูกกันในเมืองโอซาก้า
ร้านเก๋ๆ ระหว่างการขี่จักรยาน
อย่างไรก็ดีเมื่อได้ขี่จักรยานเราดันไม่ได้มีแผนจะไปขี่ที่ไหน ผมจึงเสนอ “ปราสาทโอซาก้าโจ” เนื่องจากมันน่าจะขี่เล่นได้โดยรอบและมีสวนสาธารณะด้วยอาจปิกนิกกันได้ซึ่งทุกคนก็เห็นตรงกัน ทีมงานจึงกางแผนที่ดูที่ตั้งของปราสาทและตำแหน่งที่เรากำลังขี่อยู่ ในแผนที่เราต้องเลียบแม่น้ำไปเรื่อยๆ ก็จะถึงดังนั้นเราจึงขี่ทะลุทะลวงไปเรื่อยๆ ไปตามฟุตบาทบ้างลัดเลาะเข้าตามซอยย่อยบ้างเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ หยุดถ่ายรูปบ้านเรือนสวยๆ บ้าง เลียบตามแม่น้ำไปเรื่อยๆ จนคิดว่าใกล้ถึงแล้วเราจึงแวะซุปเปอร์มาเก็ตเพื่อซื้ออาหารไว้กินที่สวนสาธารณะแถวปราสาท (ซึ่งคิดว่าใกล้แล้ว) หลังจากนั้นท่านโม่งจึงไปสอบถามชาวบ้านแถวนั้นและพบว่า เรากำลังมุ่งหน้าไปในทางที่ผิด 555 คือเหมือนว่าเราขี่เลาะผิดแม่น้ำ
ตึก Organic Bldg. ปลูกต้นไม้รอบตึก
ขณะขี่ผิดเส้นทาง 555
เราขี่ผิดไปไกลเลยครับ ขี่ไปเกือบชั่วโมงในทิศทางที่ผิด อย่างฮา เราเลยต้องขี่ย้อนกลับไปอีกไม่น้อย ขี่ขึ้นพื้นที่ลาดเอียงผ่านย่านชุมชนชาวเกาหลีผ่านแยกแล้วแยกเล่า จนในที่สุดก็มาถึงสวนสาธารณะ Morinomiya ใกล้ๆ กับพิพิธภัณฑ์ Peace Osaka (พิพิธภัณฑ์สงครามโลกที่หดหู่น่ะ) ที่เราได้มาเมื่อหลายวันก่อน เราขี่ตัดเข้าไปภายในสวนผ่านสระน้ำขนาดใหญ่ที่เห็นวิวปราสาทโอซาก้าด้านหลังและตั้งวงกินข้าวกล่องที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาเก็ต ซูชิคนละชุดในสวนสวยลมเย็นสบายและมีผืนน้ำอยู่เบื้องหน้า บรรยากาศสบายดีจริงๆ
โฉมหน้าขบวนการโอตาคุบุกญี่ปุ่น
หนุ่มสาวก็ขี่จักรยานมาปิกนิคกันในสวน อาหารการกินเพียบ
อาหารกลางวันของเราในวันนี้
หลังอาหารกลางวันเราขี่ต่อไปยังปราสาทโอซาก้าอันยิ่งใหญ่ ถ่ายรูปเล่นและขี่เข้าไปจนถึงด้านหน้าของปราสาทก่อนจะจอดจักรยานและเดินเล่นบริเวณสวนด้านในรอบปราสาทและถ่ายรูปเล่นจนไปเจอกับคุณลุงท่านหนึ่งที่อยากจะถ่ายรูปหมู่ให้พวกเราหลังจากเห็นพวกเราตั้งกล้องถ่ายกันเอง ลุงพยายามชวนคุยและแจกโอริงามิกระดาษที่แกพับเป็นรูปนกยูงให้น้องเต้ยและชักชวนให้พวกเราเสียเวลากับแกซักนิด แกจะสอนพับอะไรเล่นเป็นของที่ระลึกสำหรับพวกเรา นี่คงเป็นอีกน้ำใจที่เราเจอระหว่างท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เราเจอกันไปหลายหนระหว่างเส้นทางท่องเที่ยวในที่ต่างๆ
ห้องน้ำเก๋ๆ ก่อนเข้าสู่ทางลาดเข้าสู่ปราสาท
ปราสาทอันยิ่งใหญ่เป็นฉากหลังของการขี่
โอซาก้าโจ
ลุงผู้อยากเผยแพร่วัฒนธรรมการพับกระดาษให้ชาวไทย
หลังจากเดินเล่นถ่ายภาพต่างๆ นาๆ แล้วเราก็ย้อนกลับเส้นทางเก่าอีกครั้งแต่คราวนี้ไม่ได้อ้อมโลกแบบคราวก่อน เรากลับมาถึงย่านที่พักแล้วเลยไปจอดจักรยานแถวโดทอนโบริและเดินเล่นในย่านนั้นกินขนมกดตู้ของเล่นโน่นนี่นั่นจนเย็นจึงขี่จักรยานไปคืนร้านลุงจักรยานแล้วจึงเดินกลับมาย่านนี้อีกครั้ง
ตู้กดของเล่นที่กินเงินเราไปไม่น้อย
ขณะขี่จักรยาน
เย็นนี้เรากินร้านแนวโอโคโนมิยากิ ยากิโซบะ และของเสียบไม้ทอดแบบ Kushi katsu กินกันจนอิ่มหนำสำราญก็ออกมาเดินเที่ยวและมานั่งเล่นซดเบียร์กันริมคลองโดทอนโบริในตอนค่ำคืนที่อากาศแจ่มใส แสงสีนีออนของป้ายไฟย่านนี้ทำให้เมืองทั้งเมืองสว่างสดใสและหลากสีสันทีเดียว
อาหารเย็นมื้อสุดท้าย
-------------------------------------------------------------------------------
Day 11 Final Day
SHOPPING SHOPPING & SHOPPINGวันสุดท้ายของการท่องเที่ยว วันนี้เราคงไม่อะไรมากละครับ ส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อของฝากและของเล่นที่ยังขาดเหลือกันอยู่ อย่างที่บอกว่าระเบียบของโรงแรมที่นี่คือเช็คเอาท์ตอน 10 โมง เราแพ๊คข้าวของลง มาที่ชั้นล๊อบบี้แล้วฝากกระเป๋าไว้กับทางโรงแรมก่อนออกไปเดินซื้อของฝากที่ย่านโดทอนโบริซึ่งในเวลาที่เราออกนั้นยังเช้าเกินไปเราจึงต้องไปนั่งพักจิบกาแฟที่ร้านกาแฟย่านนั้นก่อน เขียนโปสการ์ดฆ่าเวลา
ยามเช้าที่ร้านค้ายังไม่เปิด
ริมคลองโดทอนโบริยามเช้า
หลังจากซื้อขนมของฝากแล้วก็เดินกลับไปเก็บที่โรงแรมที่พักก่อน 1 รอบก่อนออกไปย่าน Den Den Town เพื่อซื้อของเล่นเป็นงวดสุดท้าย ซึ่งก็เต็มกระเป๋ากันไปเลยทีเดียว เราตบท้ายด้วยราเม็งเผ็ดที่ร้านเดิมที่เราเคยซัดไปเมื่อวันก่อนและเดินเล่นจนถึงประมาณบ่ายต้นๆ จึงกลับสู่โรงแรมอีกครั้งเพื่อจัดกระเป๋าเป็นครั้งสุดท้าย
Den Den Town
ร้านนี้คงทำให้กันดั้มโกรธ
ของเล่นเก๋ๆ
เมื่อสมควรแก่เวลาเราจึงลากกระเป๋าและเรียกแท็กซี่ไปยังสถานี Namba Park เพื่อต่อรถไฟเข้าสนามบิน Kansai International Airport กลับสู่จุดเริ่มต้นของการเดินทางในครั้งนี้ ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นและหลังจากเช็คอินที่เคาน์เตอร์เรียบร้อยแล้วเราก็เดินซื้อขนมของกินอะไรอีกหน่อยเพื่อผลาญเงินเยนที่เหลืออยู่อีก ก่อนเดินทางกลับสู่เมืองหลวงแผ่นดินเกิดเพื่อมาลุ้นน้ำท่วมให้เครียดกันต่อ
ซาโยนาระ