เข้าสู่ฤดูฝนกันแล้วสินะครับ.. เร็วผ่านรกจริงๆ สำหรับบ้านเมืองเราในช่วงปีสองปีนี้.. ปีที่แล้วหน้าฝนก็เข้าตั้งแต่ปลายเมษาแล้วก็ไปจบเอาเดือนพฤศจิกาโน่น.. เหมือนโลกมันเปลี่ยนแปลงไปซะจนดินแดนป่าฝนแถบนี้มันร้อนระอุและอุดมไปด้วยฝนและพายุมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะ
พูดถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไปนี่ทำให้นึกถึงคำกล่าวที่ติดปากประชาชนชาวไทยที่มีอายุต่ำกว่า 36 ลงไปน่าจะพูดกันจนติดปาก
เวลาบรรยากาศในสถานที่ต่างๆ เริ่มไม่ดี เริ่มมีกลิ่นตุๆ เรามักจะเรียกสถานการณ์นี้ว่า
"บรรยากาศมาคุ"บรรยากาศมาคุนี่เราใช้กันจนติดปากเลยนะครับ เหมือนว่ามันเกือบจะถูกบรรจุลงในพจนานุกรมได้แล้ว(ซะที)
สถานการณ์ที่มันเลวร้าย มันเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดี ไม่เป็นประโยชน์กับตัวเรา บรรยากาศแบบนี้มันช่าง "มาคุ" เสียนี่กระไร... โอ้ว จอร์จ..
ตัวอย่างเช่น ----
บรรยากาศที่เริ่มเครียด แฟนเริ่มโกรธ เริ่มโดนจับได้ว่าเลว โดนจับได้ว่ามีกิ๊ก ทำงานให้เจ้านายผิด ทำเงินบริษัทหายไป ลืมทำงานส่ง ทำให้บริษัทเสียหน้า โดนด่าในที่ประชุม ขึ้นลิฟกับคนที่ไม่ชอบหน้าในบริษัท ไปนั่งโต๊ะงานแต่งงานกับคนที่ไม่รู้จัก โดนแฉต่อหน้าคณะรัฐมนตรี หาเรื่องแก้ตัวไม่ได้ โดนสรยุทธถามอะไรที่ตอบยากๆ โดนสุทธิชัยหยุ่นตั้งคำถามยาก เข้าห้องสอบโดยไม่อ่านหนังสือมา..
ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ มันช่าง "มาคุ" เสียนี่กระไร
แล้วบรรยากาศมาคุนี่ มันมาจากไหน ใครเคยสนใจกันบ้างไม๊ว่า ใครเป็นคนบัญญัติบรรทัดฐานนี้ขึ้นมา.. จริงๆ แล้วถ้าคนที่อายุซัก 27-32 น่าจะเคยได้ดูซีรี่ส์ยอดมนุษย์ญี่ปุ่นทางช่อง 9 สมัยซักเกือบยี่สิบปีก่อนที่มีตำรวจอวกาศชื่อ "เกียร์บัน"
เกียร์บันจะคอยปราบเหล่าร้าย และจะแปลงร่างได้เหมือนยอดมนุษย์ทั่วไป ในทุกตอนพอพวกปีศาจมันเพลี้ยงพล้ำ มันก็จะเปลี่ยนบรรยากาศโลกเราให้เป็นบรรยากาศ"มาคุ" คือโลกจะตีลังกาและผู้ร้ายจะแข็งแรงขึ้น (เพราะปีศาจชอบบรรยากาศแบบนี้)..
จนพระเอกของเราต้องเรียกยานหุ่นยนตร์ยักษ์ต่างๆ นาๆ มาช่วยเสริมพลังไว้สู้กับศัตรูร้ายต่อไป...
บรรยากาศมาคุจึงถูกเรียกใช้เสมอมาเมื่ออะไรๆ มันดูไม่เป็นใจ หรือมันเป็นใจกับสิ่งที่ไม่ดี(ปีศาจ) ทำให้เราเสียเปรียบและอาจแย่ได้ในสถานการณ์นั้นๆ...
และสุดท้ายก็ติดปาก จากปากสู่ปาก จากเด็กสู่ผู้ใหญ่ จนมันระบาดไปทั่วประเทศและถูกเรียกใช้กันจนลืมที่มาที่ไปมันซะแล้ว... สมควรให้เครดิตกับเกียร์บัน น้าต๋อยเซนเบ้และทีมพากษ์ช่อง 9
เช่นนั้นแล.....
ตำรวจอวกาศเกียร์บันกับยานคู่ใจ