ภูกระดึงรำลึก
ภูกระดึงรำลึก ได้เห็นข่าวโครงการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงแล้ว เราเองในฐานะที่เคยปีนขึ้นภูด้วยตนเองมาแล้วถึง 3 ครั้งเมื่อหลายปีก่อน ก็เลยอยากจะระลึกถึงความทรงจำเก่าๆ ผ่านตัวหนังสือให้ทุกคนได้อ่านกันบ้าง ก่อนที่วันข้างหน้า วิถีชีวิต ณ ภูกระดึงแห่งนี้อาจเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะในทิศทางใดก็ตาม... จากกรุงเทพฯ คณะของเราเหมารถตู้ออกเดินทางกันตอนสามทุ่มครึ่ง แล้วก็หลับเอาแรงไปในรถ ถึงจังหวัดเลยราวๆ ตีห้าครึ่ง แล้วก็แวะล้างหน้าล้างตา กินข้าวเช้าที่ร้านเจ๊กิม ซึ่งดูเหมือนเป็นร้านที่ใครๆ ก็ต้องมาแวะทานข้าวเช้าที่นี่กันก่อนขึ้นภูค่ะ พออิ่มแล้ว เวลาเจ็ดโมงเช้าอากาศกำลังสบายๆ ก็ได้เวลาที่พวกเราจะออก start จากตีนภูแล้วค่ะ ของที่เอาติดตัวขึ้นไปก็พยายามเลือกแต่ของที่จำเป็นค่ะ ส่วนพวกเสื้อผ้า สัมภาระอื่นๆ ที่เราแบกขึ้นไปเองไม่ไหว ก็ต้องจ้างลูกหาบให้ช่วยหาบขึ้นไปให้ คิดราคากิโลกรัมละเท่าไหร่จำไม่ได้แล้ว แต่ไม่แพงหรอกค่ะ เพราะตอนขาขึ้น เราจ่ายค่าลูกหาบขนสัมภาระเฉพาะของเราไป 90 บาทเอง ส่วนค่าธรรมเนียมขึ้นภู บวกค่าธรรมเนียมประตูทางเข้าอุทยานก็ประมาณ 30 บาทต่อคนค่ะ
ก่อนขึ้นก็ไม่ลืมที่จะไปไหว้ศาลเจ้าปู่ภูกระดึงก่อนเพื่อขอพรให้เราปีนขึ้นภูได้โดยสวัสดิภาพ ส่วนด่านต่างๆ ที่เราจะต้องปีนผ่านขึ้นไปก็มีดังนี้เลยค่ะ ปางกกค่า ซำแฮก (ซำนี้แฮกสมชื่อเพราะหอบแฮกกันเลยทีเดียว) ซำบอน ซำกกกอก ซำกอซาง พร่านพรานแป ซำกกหว้า ซำกกไผ่ ซำกกโดน และซำแคร่..
จริงๆ ระยะทางก็ไม่ไกลนะคะ บางซำก็เดินง๊ายยย..ง่าย เหมือนเดินขึ้นเนินธรรมดาๆ แต่บางซำก็สูงชันเอาเรื่องเลยทีเดียว เราแวะพักทุกจุดเพื่อถ่ายรูป แล้วก็ถือเป็นการแวะพักดื่มน้ำ ทานขนม หรือถ้าอยากจะทานข้าวก็มีขายเกือบทุกซำ ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีอะไรทาน เคยบ้าพกนู่นพกนี่ติดตัวขึ้นไป เพราะเห็นว่าไอ้นู่นก็สำคัญ ไอ้นี่ก็จำเป็น พอเอาเข้าจริง ถึงเวลาที่เหนื่อยๆ ขึ้นมา เพิ่งจะรู้สึกตัวว่าจะพกอะไรขึ้นมามากมายกันนักกันหนา อยากจะขว้างทิ้งให้หมดเพราะหนักเหลือเกินค่ะ
แต่ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน ยังไงเราก็ไม่ทิ้งเป้าหมายของเราไปได้หรอกค่ะ ในที่สุดเราก็ปีนขึ้นไปถึงยอดภู หรือที่เขาเรียกกันว่า หลังแป ได้สำเร็จ ระยะทางจากตีนภูถึงหลังแปก็ 5,500 เมตร หรือ 5 กิโลกว่าๆ ค่ะ เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง แต่คิดว่าถ้าไม่แวะพักชมนกชมไม้รายทางก็คงถึงเร็วกว่านั้นนะคะ
พอทุกคนขึ้นมากันครบแล้ว เราก็ออกเดินทางกันต่อ ช่วงนี้ไม่ยากแล้วค่ะ เราจะเดินจากหลังแปไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอีกประมาณ 3 กิโลครึ่ง เป็นทางเดินเรียบๆ แต่ทอดยาวไกลไปสุดลูกหูลูกตาทีเดียว บางช่วงเป็นพื้นทราย อาจจะเดินยากไปนิด แดดก็ร้อนด้วยเพราะใกล้เที่ยงพอดี เพราะฉะนั้น ร่มก็เป็นสิ่งสำคัญเหมือนกันนะ แต่ถ้าขี้เกียจถือร่ม ใส่หมวกเอาก็ได้ค่ะ ใช้เวลาเดินอีกประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึง เย๊ๆๆ...จากนั้นก็ไปติดต่อเรื่องบ้านพักที่พวกเราได้โทรมาจองไว้ก่อนแล้ว ถ้าไม่จองไว้ก็อดนอนบ้าน ต้องนอนเต้นท์สถานเดียว แถวๆ ที่พักจะมีกวาง 2 แม่ลูกมาเดินเล่นกันด้วย เราก็เลยถือโอกาสถ่ายรูปไว้ซะเลย
ตอนที่เราไปเป็นช่วงเดือนตุลาคม อากาศกำลังดีเลย บนภูกระดึงตอนกลางคืนไม่หนาวเกินไป จะได้พักผ่อนได้เต็มที่ เช้าวันใหม่จะได้สดชื่นแจ่มใสพร้อมเดินป่าต่อค่ะ รุ่งเช้า มีบางคนตื่นก่อนฟ้าสางไปรอเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้น แต่เราขอบาย นอนเอาแรงถึง 7 โมงเช้า อาบน้ำทานข้าว แล้วออกเดินทางไปไหว้องค์พระพุทธเมตตาก่อน แล้วก็ไปสระอโนดาด น้ำตกถ้ำสอเหนือ ลืมบอกไปว่าถ้าขึ้นภูกระดึง สิ่งหนึ่งที่ต้องไม่ลืมใส่ก็คือ ถุงกันทากค่ะ ใส่ก่อนที่จะใส่รองเท้าทับ จริงๆ ก็ไม่ได้ช่วยกันทากอะไรมากมายหรอกค่ะ แค่ทำให้เห็นง่ายเวลาทากมาเกาะ พอทากมาเกาะเราก็หยิบทากออกไปก็เท่านั้นเอง 555
เราเดินกันเรื่อยๆ เอื่อยๆ ไปจนถึงผาหล่มสัก ซึ่งถือเป็นโลโก้ของภูกระดึงเลยล่ะค่ะ หวาดเสียวมั๊ยคะ
แชะรูปเป็นที่ระลึกกับผาหล่มสักเสร็จแล้วเราก็เดินเลียบผาต่างๆ มาเรื่อยๆ แวะพักบ้างอะไรบ้างมาจนถึงผาหมากดูก แล้วก็วกกลับเข้าที่พักตอนเย็นพอดี ถ้าดูแผนที่ประกอบจะเห็นเลยว่าเราเดินเป็นระยะทางไกลมากกกกกก...เพราะฉะนั้นคืนนี้เราก็หลับเป็นตายเลยค่ะ
เช้าอีกวัน เรามุ่งหน้าไปเที่ยวน้ำตกกันบ้าง เริ่มที่น้ำตกวังกวาง เพ็ญพบใหม่ โผนพบ เพ็ญพบ และถ้ำใหญ่ ได้บรรยากาศไปอีกแบบนะคะ...พอได้เวลาแดดร่มลมตกเราก็กลับที่พัก อาบน้ำเย็นเจี๊ยบแล้วนอนหลับพักผ่อนเตรียมเดินทางกลับพรุ่งนี้ค่ะ
...ขาลงใครว่าสบาย เมื่อยกว่าขาขึ้นอีก แต่ก็ใช้เวลาน้อยกว่าตอนปีนขึ้นภูก็แล้วกันค่ะ เพราะเราแทบจะดิ่งลงมาตามแรงโน้มถ่วงกันเลยทีเดียว ดีนะ...ที่ไม่ต้องแบกกระเป๋าเสื้อผ้าลงมาเอง เพราะเรามีลูกหาบช่วยขน ขาลงจ่ายไป 100 บาทค่ะ
เราก็เลยเดินตัวปลิว ชิลๆ ลงมา ใช้เวลาแป๊บเดียวก็ถึงตีนภูแล้วค่ะ เที่ยวป่านี่ก็มีความสุขได้ฟีลไปอีกแบบนะคะ แต่พอกลับถึงบ้านกลายเป็นมีความทุกข์ไปซะงั้น เพราะปวดน่องมากๆ โชว์ขาอ่อนไม่ได้เลย เพราะน่องปูดซะจนใครๆ ก็ทักว่าไปถีบซาเล้งมาหรือไง ฮ่าๆๆๆๆ........ ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงล่ะค่า
Free TextEditor
Create Date : 20 กันยายน 2553 |
|
19 comments |
Last Update : 20 กันยายน 2553 16:17:51 น. |
Counter : 837 Pageviews. |
|
|
|