เสียน้อย-เสียยาก เสียมาก-เสียง่าย
หวังว่าคงจะจำคำพังเพยนี้ไม่ผิดมั้งครับ ^^
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นผันผวนอย่างหนัก แค่ไม่กี่วัน ติดลบไปกว่า 100 จุด ที่กำไรมาต้นปี แทบจะหายวับไปกับตา โชคยังดีที่ทำบุญเก่าไว้เยอะ ไม่งั้นทุนก็คงหดหายไปด้วย
ในเวปพันทิพเองก็จะมีกระทู้ถามกันว่า ตอนนี้ขาดทุนกันไปเท่าไหร่แล้ว พอดีไปอ่านเจอความเห็นนึงเข้า
------------------------------------ ผมอยากได้ปั๊มลม มาใช้เติมลมรถที่บ้าน ราคา 5,800 ไม่กล้าซื้อ วันนี้คัตไป 30,000 พรุ่งนี้ล่ะ... ผมจะไปซื้อปั๊มลม
--------------------------------------
คือ จะจ่ายเงิน 5,800 บาทนั้น คิดแล้วคิดอีก ไม่ยอมควัก ทั้งที่เป็นการซื้อและเกิดประโยชน์ แต่ยอมที่จะเสียเงิน 30,000 บาท ที่ไม่ได้อะไรตอบแทนกลับมาเลย กลับกล้าจะเสียโดยไม่คิดนาน (ถ้าคิดนาน คงจะเสียมากกว่านี้)
มานึกถึงตัวเอง สมัยก่อนมีของหลายชิ้นที่อยากได้ แต่ติดที่ราคาสูงไป (ประมาณ 3-4 พันบาท) ก็จะบอกกับตัวเองว่า เงินไม่พอที่จะซื้อ เวลาผ่านไป ก็ได้ซื้อของหลายต่อหลายชิ้น ที่ราคา 500-1500 หรือบางชิ้นอาจจะถึง 2 พันเลย
ถ้าเอาของเหล่านั้นหลายๆ ชิ้นมารวมกัน คิดว่า คงนำไปซื้อของที่อยากได้ราคา 3-4 พันได้หลายอันเลย ก็เลยนึกย้อนไปว่า ทำไม เพราะจนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่ได้ซื้อของชิ้นนั้นอยู่ดี แต่กลับจ่ายเิงินไปมากกว่าของชิ้นนั้นซะอีก สำหรับของสิ่งอื่นๆ แต่เป็นหมวดเดียวกัน
น่าเป็นเพราะมูลค่าของแต่ละชิ้น ที่พอเห็นว่า ไม่สูงมากนัก ก็ไม่ลังเล ที่จะจ่าย ถ้าเทียบกับของชิ้นใหญ่ แต่ถ้าแทนที่จะจ่ายของชิ้นเล็ก ชิ้นน้อย รวบรวมไว้เรื่อยๆ ป่านนี้คงได้ซื้อของชิ้นใหญ่นั้นไปนานแล้ว
รูปข้างบนคือ ของที่อยากได้มาแต่เด็ก จนปัจจุบันก็ยังไม่ได้ซื้อมาอยู่ดี T_T
จนถึงตอนนี้ยังไม่รู้ว่า ท้ายที่สุด จะได้ของชิ้นนี้มาครอบครองเลยหรือไม่ 55555
Create Date : 07 มิถุนายน 2556 |
Last Update : 7 มิถุนายน 2556 8:33:17 น. |
|
2 comments
|
Counter : 613 Pageviews. |
|
|
|
|