All Blog
|
ไม่มีนางฟ้าในชีวิตแพทย์ เขียนครั้งแรกในThaiclinic.com ครับ จากนั้นก๊อปมาลงในPantip.com กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในประเทศแห่งหนึ่งที่เหนือกาลเวลา ที่ซึ่งความรู้สึกอยู่เหนือเหตุผล คำพูดมีน้ำหนักกว่าความจริง เกรียงชัยอยู่เวรประจำห้องฉุกเฉินคืนนี้ วันนี้เขาได้รับโทรศัพท์จากพยาบาลรายงานเคสผู้ป่วยมาด้วยอาการผื่นคันตามตัว หน้าบวมเล็กน้อย มีประวัติเคยแพ้ยาเพนนิซิลินมาก่อน หลังจากรับโทรศัพท์ แพทย์หนุ่มก็เปลี่ยนเครื่องแต่งตัวแล้วเดินไปที่ห้องฉุกเฉินทันที "ป้าเป็นอะไรมาครับ"เกรียงชัยถาม "ไม่รู้เหมือนกัน จู่ๆก็มีผื่นขึ้นตามตัวแล้วก็คันๆ" ผุ้ป่วยตอบพลางเกาตามแขน เกรียงชัยตรวจดูตามลำตัวและใบหน้า ที่ใบหน้าและตามแขนขา มีผื่นสีแดงขึ้นเป็นวงนูนขนาด4-5ซม. ที่ตาเริ่มมีลักษณะแดงๆกระจกตาปกติ ปากก็ดูแดงเล็กน้อยแต่ไม่มีลักษณะลอกแต่อย่างใด ฟังปอดก็ปกติ กดท้อง ทุบที่ชายโครงก็เจ็บเล็กน้อย แต่ป้าก็บอกว่าปวดหลังมาหลายวันแล้ว "เมื่อก่อนป้าเคยแพ้ยา อาการเป็นยังไงครับ" แพทย์ถาม ป้าทำหน้านึกสักครู่ก่อนที่จะตอบ "ตอนนั้นป้ามีไข้อยู่วันนึง ก็เลยไปซื้อยาจากร้านขายยามากิน หลังจากนั้นก็มีผื่นขึ้นคล้ายๆแบบวันนี้แหละ แต่ตอนนั้นขึ้นแค่ที่ปากกับหน้า ไม่มีขึ้นที่แขนขากับตัวแบบวันนี้" เกรียงชัยจึงให้พยาบาลเจาะเลือด ตรวจปัสสาวะและวัดไข้ ผลที่ออกมา อุณหภูมิร่างกาย 36.9องศาเซลเซียส ปัสสาวะ เม็ดเลือดขาว 5-10ตัว เม็ดเลือดแดง 3-5ตัว เซลล์เยื่อบุ 2-3ตัว ผลเลือด เม็ดเลือดขาว 10000ตัว ชนิดNeutrophil 40% เลือด 40% เกร็ดเลือด 180,000ตัว "ในสามสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ป้าได้ไปกินยาอะไรมาหรือเปล่าครับ" เกรียงชัยถาม "ไม่ว่าจะยาแผนปัจจุบันและยาแผนโบราณนะครับ" ป้านึกอีกครั้ง "ไม่นะหมอ ป้าไม่ได้กินยาอะไรเลย ... ป้ากินยาครั้งสุดท้ายก็เมื่อปีที่แล้วเป็นยาพาราฯ ... หลังจากนั้นมาป้าไม่ได้กินยาอะไรอีกเลย" ป้านึกอีกนิดนึง " ยาบำรุงหรืออาหารเสริมป้าก็ไม่ได้กิน" "แล้วช่วงนี้มีไม่สบายอะไรหรือเปล่าครับ" เกรียงชัยถาม เพราะรู้ว่าการเกิดปฏิกริยาแพ้รุนแรงนั้น มากถึง1ใน3 เกิดจากการติดเชื้อ ไม่ได้เกิดจากการให้ยาเพียงอย่างเดียวอย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดกัน "ป้ามีไม่สบายมีไข้ครั้งสุดท้ายก็ต้นปีก่อนแหละหมอ ตอนที่กินพารานั่นแหละ ป้าไม่ได้ป่วยได้ไข้ไม่มีผื่นอะไรแบบนี้มาเกือบสองปีแล้ว" ป้าตอบอย่างมั่นใจ เกรียงชัยครุ่นคิดอย่างหนักใจ สิ่งที่เขาต้องระวังมากในตอนนี้คือ ป้าเป็นอะไรกันแน่ เพราะการรักษานั้นไปในทิศทางที่ตรงกันข้ามกันเลย 1. ป้าเป็นโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ... เพราะมีการตรวจพบเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ และป้าก็ไม่มีประวัติการกินยาหรือเรื่องเสี่ยงต่อการเกิดการแพ้ แต่ข้อที่ต้องระวังคือ การแพ้ ก็ทำให้เกิดเม็ดเลือดในปัสสาวะได้เหมือนกัน และในป้าก็ไม่มีไข้และการตรวจเลือดก็ปกติ 2. ป้าเกิดอาการแพ้ ... เพราะตรวจร่างกายเหมือนแพ้ แต่ที่ต้องระวังคือ ป้าไม่มีประวัติใดที่เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแพ้เลย ถ้าเป็นแต่ก่อนนี้ เกรียงชัยจะไม่หนักใจเลย เพราะว่าสามารถเฝ้าดูอาการได้ หากมีอาการหลังจากนอนรพ.ชี้นำไปในทิศใด ภายใน6-12ชม. ก็สามารถเริ่มการรักษาได้ แต่ภายหลังจากคดีสะเทือนขวัญคดีนึง มีแพทย์ได้มาบอกว่า ถ้าแพ้จะต้องให้ยาdexamethasoneทันที...เป็นการฉีกหน้าตำราการแพทย์ทั้งปวง เพราะพูดนั้นพูดง่ายว่าแพ้แล้วต้องให้ ... แต่การจะแยกว่าแพ้จริงหรือเปล่านั้นทำได้ยากมาก... อีกทั้งหลักฐานทางการแพทย์จนถึงปัจจุบันก็ชี้ว่า การให้dexamethasoneควรให้เมื่อแน่ใจ ไม่ใช่ให้กราดไปก่อน... การให้กราดมีแต่จะทำให้อันตราย ... แต่ตอนนี้กระแสสังคมกลับทิศกับความจริงทางวิทยาศาสตร์ไปแล้ว ซึ่งแพทย์ส่วนใหญ่ก็ต้องยอมรับ ถ้ารักษาการติดเชื้อ ไม่ได้รักษาแพ้ แล้วเป็นอาการแพ้ ... ผลที่ได้ อาจจะเกิดการแพ้อย่างหนักได้ ถ้ารักษาการแพ้ ไม่ได้รักษาการติดเชื้อ แล้วเป็นการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ... ผลที่ได้ อาจจะติดเชื้อรุนแรงได้ ถ้ารักษาทั้งสองอย่างควบคู่กันไป ก็ยังอันตรายอยู่ดี เพราะจะประเมินอะไรไม่ได้เลย บอกไม่ได้ว่าแพ้หรือไม่ และก็ไม่แน่ชัดว่าติดเชื้อหรือไม่ ............ ........ .... . หลังจากตรึกตรองอยู่พักหนึ่ง เกรียงชัยจึงให้รักษาแบบเรื่องแพ้ เนื่องจากเหตุผลที่ว่า ป้าเคยแพ้มาก่อน สิ่งที่ตรวจพบ ไม่มีอะไรที่ชี้ชัดเลยว่าติดเชื้อ... ส่วนของปัสสาวะนั้นถึงจะผิดปกติและเกิดจากการมีเชื้อ ก็อาจจะเป็นการมีเชื้อโดยที่ไม่ได้ก่อโรคเพราะว่าไม่ได้มีไข้และตรวจเลือดก็ ปกติ เกรียงชัยจึงให้ฉีดยาDexamethasoneทุก6ชั่วโมง และให้สังเกตอาการ ***ผ่านไป8ชั่วโมง*** หลังจากฉีดยาครั้งที่สองไปได้พักใหญ่ๆ จู่ๆป้าก็มีอาการหนาวสั่นสะท้าน แล้วก็เป็นลม วัดความดันโลหิตไม่ได้ แม้แพทย์จะพยายามรักษาอย่างเต็มที่ก็ไม่เป็นผล ป้าเสียชีวิตคาเตียงรพ. เกรียงศักดิ์ส่งศพชันสูตรท่ามกลางการคัดค้านของญาติๆที่ต้องการให้จ่ายเงินช ดเชยและไม่ต้องการให้ส่งผ่าพิสูจน์เพราะเชื่อว่าแพทย์ผิดแน่นอน ... ผลออกมา ป้าเสียชีวิตจากกรวยไตอักเสบและติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรง วันรุ่งขึ้น รายการทีวีช่องหนึ่ง มีแพทย์มาแสดงความเห็น "รายนี้เห็นได้ชัดครับว่าแพทย์ผิดพลาด เพราะเราก็เห็นๆอยู่ว่าปัสสาวะผิดปกติตั้งแต่แรก อีกทั้งผู้ป่วยอายุมาก การที่เม็ดเลือดขาวจะปกติและไม่มีไข้ก็เป็นเรื่องธรรมดา" แพทย์คนนั้นกล่าว "การให้ยาDexamethasoneจึงถือเป็นความผิดอย่างร้ายแรงที่แก้ตัวไม่ได้ ไปสู้ศาลไหนก็ผิดครับ" เกรียงชัยเสียใจมาก เพราะเรื่องพวกนี้แพทย์ที่ทำงานจริงๆก็รู้ว่าไม่มีอะไร100%ในการตรวจรักษา การรักษานั้นก็ทำอย่างระมัดระวัง ที่สำคัญ การให้dexaไปแค่6ชั่วโมง ยายังไม่ทันออกฤทธิ์ที่จะไปกดภูมิคุ้มกันอย่างที่หมอคนนั้นกล่าวอ้าง เกรียงชัยจึงเสียใจ เพราะถ้าโดนว่าโดยแพทย์ที่ทำงานจริงเขาจะไม่คิดอะไรมากเลย แต่นี่โดนกล่าวหาจากแพทย์ที่ไม่ได้รักษาคนไข้และกล่าวหาหลุดจากความจริง ..ฉับพลันนั้นเอง นางฟ้าก็มาปรากฎกาย "เราเห็นแก่เจ้าที่ทำดีมาตลอด จะให้พรเจ้าย้อนเวลาไปแก้ไขเหตุการณ์ได้ เจ้าจะกลับไปแก้อะไรล่ะ" นางฟ้ากล่าว "ผมขอกลับไปให้ยาปฏิชีวนะครับ จะไม่ให้dexaแล้ว" เกรียงชัยร้องอย่างดีใจ สายตาเปี่ยมด้วยความหวัง พลันแสงสว่างก็เจิดจ้าไปทั่วห้องของแพทย์หนุ่ม เกรียงชัยลืมตามาอีกครั้ง ป้าคนนั้นนอนอยู่ตรงหน้า ในมือเกรียงชัยมีใบคำสั่งการรักษาที่ยังไม่ได้เขียนอยู่ แพทย์ผู้ได้รับโอกาสครั้งที่สองในชีวิตรีบเขียนสั่งการรักษาให้ยาปฏิชีวนะ ให้ยาแก้แพ้แบบฉีดCPM และไม่ลืมที่จะเก็บปัสสาวะส่งเพาะเชื้อและเฝ้าระวังอาการแพ้ที่อาจจะเกิดขึ้ น ... หลังจากเขียนดักไว้ทุกทางแล้วเกรียงชัยก็ลองนึกว่าตนเองหลุดอะไรอีกหรือไม่ ... เมื่อไม่มีอะไรเพิ่มเติม เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ***ผ่านไป8ชั่วโมง*** พยาบาลรายงานว่าจู่ๆใบหน้าคนไข้ก็ขึ้นผื่นเต็มไปหมด การอักเสบลุกลามไปทั่ว ตอนนี้มองอย่างไรก็เหมือนอาการแพ้ที่เรียกว่า "สตีเวนจอห์นสัน" เกรียงชัยรีบสั่งการรักษาแบบอาการแพ้ ตรวจและบันทึกสภาพดวงตาที่ยังปกติ ตรวจดูปากที่ลอกไปทั่วแต่ยังไม่บวม ... เมื่อควบคุมทุกอย่างได้ก็ส่งไปรพ.จังหวัดในทันที หลังจากนั้นเกรียงชัยก็ได้ข่าวว่าผู้ป่วยรายนี้มีการอักเสบจนตาบอด จากนั้นก็เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนทางผิวหนังจนกระทั่งเสียชีวิต วันรุ่งขึ้น รายการทีวีช่องหนึ่ง มีแพทย์มาแสดงความเห็น "รายนี้เห็นได้ชัดครับว่าแพทย์ผิดพลาด เพราะว่ารายนี้แค่มีปัสสาวะผิดปกติอย่างเดียวโดยที่ไม่มีไข้หรือผลเลือดปกติ แถมมีการแพ้ในอดีต เราก็ต้องนึกถึงเรื่องการแพ้ซ้ำอีก" แพทย์คนนั้นบอก "การให้ยาปฏิชีวนะหรือให้แค่ยาแก้แพ้โดยไม่ให้ยาdexamethasoneจึงเป็นข้อผิดพลาดร้ายแรงมากอย่า งไม่น่าให้อภัย ไปสู้ศาลไหนก็แพ้หมดตูด" ระหว่างที่เกรียงชัยนั่งหมดอาลัยตายอยากนั้นเอง นางฟ้าก็มาปรากฎกายอีกครั้ง "สวัสดีจ๊ะ คุณหมอ...." นางฟ้าทักทาย "เห็นแก่ความดีที่เจ้าสั่งสมมาในอดีต เราจะให้โอกาสเจ้าขอพรครั้งสุดท้าย .... เจ้าจะขอแก้ไขอดีตอย่างไรดีจ๊ะ" เกรียงชัยคิดอย่างเคร่งเครียด จากนั้นก็กล่าวคำขอขึ้น...... แล้วแสงสว่างก็บังเกิดขึ้นทั่วทั้งห้อง ............ ........ .... . "สวัสดีค่ะคุณหมอ" หญิงสาวทักทายเกรียงชัย "จะมาดูเรื่องสิวค่ะ" แพทย์หนุ่มเพ่งพิศก่อนจะบอกแก่หญิงสาว "เป็นสิวน่ะครับ เดี๋ยวผมจัดยาให้นะครับ" ว่าแล้วก็บันทึกลงไปในสมุดจด ผู้ป่วยเป็นสิวชนิด 1A ใช้ยาชุด#12 และเข้าทรีทเมนท์แบบ#2 ............................ขณะบันทึก เกรียงชัยก็นั่งคิดว่าตนเองมาถูกทางไหม ที่เลือกว่าเมื่อเรียนจบก็จ่ายเงินไปเลยโดยไม่ทำงานชดใช้ทุนสามปี......... แต่อย่าคิดมากน่า มาถูกทางแล้ว เชื่อเถอะ และแล้ว นายแพทย์ก็ใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขตลอดไป The End จบแบบ Happy Ending เป็นหมอนี่ความรับผิดชอบใหญ่หลวงนะคะ สู้ต่อไปนะคะ
โดย: กระพรวนน้อยเสียงใส วันที่: 18 พฤษภาคม 2550 เวลา:0:16:51 น.
ตอนเรียนว่าเครียดแล้วทำงานยิ่งเครียดกว่านะคะ
น้องสาวเพิ่งจะจบก็เลือกที่จะเรียนตรวจชิ้นเนื้อต่อ วันๆคงเจอไม่ต้องเจอกับคนไข้ที่ไหน ชีวิตราบเรียบ โดย: Uki no Kimono วันที่: 18 พฤษภาคม 2550 เวลา:5:42:01 น.
ตอนนี้ก็เรียนอยู่ค่ะ เหนื่อยมากมาย
ยังคิดว่าตอนทำงานคงหนักกว่านี้ แต่ยังชอบ และรักจะเดินทางนี้ค่ะ โดย: ต.เต่าหลังตุง (pintakai ) วันที่: 19 พฤษภาคม 2550 เวลา:1:04:40 น.
ฮ่าๆอ่านแล้วหัวเราะเลยครับ เขียนสนุกมากเลยครับ
โดนใจ โดนใจ มันเป็นอย่างนี้จริงๆนะ เรารีบไปเรียนต่อกันดีกว่า จะได้ลดความเสี่ยงอ่ะครับ ถ้าไม่งั้น สงสัยต้องเอาแบบอเมริกา คือเป็น defensive medicine ส่งแลปมันทุกอย่าง consult มันทุกแผนก หมอแมวครับ ผมจะยืมประโยคนึงจากผู้ใหญ่มาบอกว่า ในวิชาชีพแพทย์เรา "สูงสุดคือ ไม่ practice" ครับ แซวเล่นนะครับ ผมเชื่อในเรื่องการทำดี ความดีนั่นเองจะเป็นเกราะป้องกันเราจากทุกๆอย่าง ยินดีที่ได้รู้จักครับ โดย: หมาป่าเก้าหาง IP: 203.154.159.180 วันที่: 11 สิงหาคม 2550 เวลา:16:39:07 น.
สวัสดีคับ
ขออนุญาต copy ให้พ่ออ่านนะคับ คงโดนใจแน่ๆโดนใจแน่ๆ โดย: หงุกหงิก วันที่: 19 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:02:18 น.
ยิ่งอ่าน ก้อยิ่งนึกว่าหมอเป็นนักเขียนจิงๆละมั้ง
เก่งจังเลยค่ะ ได้ความรู้มาก ปกติอ่านหนังสือง่วงตลอดเลย อ่านแบบนี้ตาสว่างมาก ขอเป็นแฟนคลับเลยนะค่ะ โดย: น้ำเต้าหู้ IP: 118.175.88.161 วันที่: 16 เมษายน 2552 เวลา:16:41:12 น.
เศร้าจังครับ ไม่อยากให้เป็นอย่างนี้เลย T_T
โดย: ปิ๊ป ปิ๊ป IP: 192.168.1.162, 118.173.227.254 วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:1:57:20 น.
|
หมอแมว
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?] Friends Blog Link |
ทำงานหนักมาก แต่บางที คนก็ไม่เข้าใจ
ยังไง ก็ให้กำลังใจคนเป็นหมอนะคะ
หมอดี ๆ ก็มีค่ะ สู้ ๆ