กิจกรรม Photo Walk ภายใต้ โครงการ ใต้ร่มพระบารมี 240 ปี กรุงรัตนโกสินทร์ (2)
Route ที่ 3 โพ้นทะเลอพยพ คบหาสมาคม A
RPST : PHOTO WALK วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน 2565 (รอบเช้า)
เวลา 08.00-11.00 พบกันที่หอศิลป์ราชดำเนิน
ถนนข้าวสาร
วัดบวร
บางลำพู
วัดชนะสงคราม เป็นวัดโบราณตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมเรียกว่า ‘วัดกลางนา’ เพราะในอดีตรอบ ๆ วัดเป็นทุ่งนากว้างใหญ่ ต่อมาในสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ทรงบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ทั้งอาราม และเปลี่ยนชื่อวัดเป็น ‘วัดตองปุ’
ซึ่งเหตุที่ตั้งชื่อวัดนี้ว่าวัดตองปุนั้นมี 2 กระแส กระแสแรกกล่าวว่า ชื่อตองปุมีที่มาจาก ‘หมู่บ้านตองปุ’ หมู่บ้านของชาวมอญในหงสาวดีที่ต่อมาคนเหล่านี้อพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณวัด แต่อีกกระแสหนึ่งกล่าวว่ามาจากชื่อ ‘วัดตองปุ’ วัดพระรามัญในสมัยอยุธยา ซึ่งมาจากการที่รัชกาลที่ 1 ทรงตั้งพระราชาคณะฝ่ายรามัญสำหรับพระนคร โดยให้พระสงฆ์ฝ่ายรามัญมาอยู่ที่วัดนี้นั่นเอง
แต่ไม่ว่าที่มาจากที่ใด ต่อมาหลังจากทำสงครามชนะพม่า 3 ครั้ง นับแต่สงครามเก้าทัพ พ.ศ. 2328 สงครามท่าดินแดงและสามสบ พ.ศ. 2329 และสงครามป่าซาง นครลำปาง พ.ศ. 2330 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชจึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามวัดแห่งนี้ใหม่เป็น ‘วัดไชยชนะสงคราม’ แต่ภายหลังตัดเหลือเพียง ‘วัดชนะสงคราม’ และใช้มาจนถึงปัจจุบัน
คำว่า ‘ตองปุ’ แปลว่า ที่รวมพลทหารไปออกรบ
วัดชนะสงครามแห่งนี้ต่อมาได้รับการทำนุบำรุงกันมาเรื่อย ๆ ในทุกรัชกาล ทั้งจากเจ้านายฝ่ายวังหน้าเอง เช่น สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์ โปรดให้รื้อพระที่นั่งพิมานดุสิตาและให้นำไม้มาสร้างกุฏิที่วัดแห่งนี้ หรือเจ้านายฝ่ายวังหลวงอย่าง สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานอุทิศพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ให้ก่อสร้างที่บรรจุอัฐิที่เฉลียงท้ายพระอุโบสถวัดชนะสงคราม โดยกั้นผนังระหว่างเสาท้ายพระอุโบสถ ซึ่งการก่อสร้างแล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 7 เป็นต้น แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของวัดนี้ได้เป็นอย่างดี https://readthecloud.co/chanasongkhram-temple/
หน้าบันเจาะเป็นช่องหน้าต่าง บานหน้าต่างเป็นลายเทพพนมเหนือบานหน้าต่างเป็นลายพระนารายณ์ทรงครุฑ ลวดลายพื้นหน้าบันแตกต่างกันคือ หน้าบันด้านหน้าลายพื้นเป็นลายเทพพนม ส่วนหน้าบันด้านหลังลายพื้นเป็นลายก้านแย่งใบเทศ ประดับกระจกสีปิดทอง วัดส่วนใหญ่ กรอบจะมีนาคสะดุ้ง ทำให้กรอบหน้าบันมีความคดโค้ง แต่ของที่นี่ทำเพียงรวยระกา ตัดนาคสะดุ้งออก จึงกลายเป็นกรอบที่ยาวลงมาไม่คดโค้งคล้ายหน้าจั่วบ้านทั่ว ๆ ไป ซึ่งนี่ถือเป็นลักษณะสำคัญอย่างหนึ่งของงานสถาปัตยกรรมสกุลช่างวังหน้าที่พบได้ตามวัดหรือวังที่สร้างโดยเจ้านายฝ่ายวังหน้างานสกุลช่างวังหน้าสวยงามกว่าสกุลช่างวังหลวงคันทวยรองรับชายคาภายในพระอุโบสถพระประธานในพระอุโบสถ มีนามว่า “พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฏฐ์ มเหทธิศักดิ์ ปูชนียะชยันตะโคดม บรมศาสดา อนาวรญาณ” หรือชาวบ้านเรียกขานว่า “หลวงพ่อปู่” เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 2.50 เมตร สูง 3.50 เมตรเบื้องหลังพระประธานมีประภามณฑลโพธิพฤกษ์และภาพจินตนาการ เหนือพระประธาน มีฉัตร 7 ชั้นกางกั้น อันหมายถึงพระสัปตปฎลเศวตฉัตรของกรมพระราชวังบวรสถานมงคลโดยรอบพระประธานมีพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย 15 องค์ แต่ละองค์หน้าตักกว้าง 0.95 เมตร สูง 1.20 เมตร และหลังพระประธานมีรูปปั้นพระมหากัจจายนะ 1 องค์สมัยรัชกาลที่ 6 สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงได้พระราชทานอุทิศพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ให้ก่อสร้างที่บรรจุพระอัฐิที่เฉลียงท้ายพระอุโบสถวัดชนะสงคราม
บริเวณนี้มีการทำเฉลียงกั้นห้องทำเป็นคูหาบรรจุอัฐิเจ้านายฝ่ายวังหน้า โดยแบ่งเป็นออกเป็น 5 กรอบ แต่ละกรอบจะมีช่องทรง 6 เหลี่ยมบรรจุพระอัฐิโดยมีชื่อของเจ้านายฝ่ายวังหน้าแต่ละพระองค์อยู่
เช่น พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์เป็นเพียงพระองค์เดียวที่ช่องบรรจุพระบรมอัฐิของท่านแยกออกมาต่างหากไม่ได้อยู่ในกรอบ แต่อยู่ระหว่างกรอบที่ 3 และ 4 และมีกรอบเป็นของพระองค์เอง
หรือ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 8 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ช่องของท่านจะอยู่ในกรอบที่ 2 ในช่องของท่านเขียนว่า ‘พระองค์เจ้าชายฤกษ์ (สมเด็จกรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์)’ หรือ พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ปราชญ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระบิดาแห่งสหกรณ์ไทย ช่องของท่านจะอยู่ในกรอบที่ 5 ในช่องท่านเขียนว่า ‘พระองค์เจ้าชายรัชนีแจ่มจรัส กรมหมื่นพิทยาลงกรณ’
ช่องบรรจุพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวอีกอย่างที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของงานสถาปัตยกรรมสกุลช่างวังหน้า คือ ใบเสมา ตามปกติแล้ว ใบเสมาจะตั้งอยู่บนฐานหรือในซุ้มล้อมรอบพระอุโบสถทั้ง 8 ทิศ ใบเสมาของที่นี่ก็อยู่ทั้ง 8 ทิศเหมือนกัน และมีใบเสมาบนฐานตั้งอยู่ข้างหน้าพระอุโบสถด้วย แต่มีเพียงแค่ใบเดียวเท่านั้น ในขณะที่ใบเสมาใบอื่น ๆ อยู่บนผนังเลย โดยข้างนอกจะอยู่ที่มุมทั้งสี่ ส่วนด้านในจะอยู่ที่ด้านทั้งสี่ นี่จึงเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์และความไม่เหมือนใครของงานสถาปัตยกรรมสกุลช่างวังหน้าซุ้มประตูหน้าต่างเป็นซุ้มเรือนแก้วปูนปั้นเป็นลายกนกประดับด้วยกระจกสีต่าง ๆจุดธูปไหว้พระด้านนอกพระอุโบสถค่ะพระเจดีย์ทรงกลมอยู่ด้านหลังพระอุโบสถรอยพระพุทธบาท สร้างใหม่ ปี พ.ศ. 2545เจดีย์พระบรมธาตุ ศิลปะรัตนโกสินทร์ มี 3 ชั้น ชั้นล่างเป็นหอระฆังและหอกลอง ชั้นที่สองเป็นหอพระพุทธรูป และชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุทางเข้าวัด และลานจอดรถด้านหลังเพิ่งเคยเดินออกมาทางนี้ค่ะกุฏิวัดชนะสงครามมองกลับไปทางเจดีย์พระบรมธาตุใกล้ทางออกเล็ก ๆ ที่จะทะลุไปซอยวัดชนะสงคราม มีต้นโพธิ์อายุ 200 ปีพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยแถวนี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะ (ถ้าเป็นช่วงก่อนโควิด-19 คงคึกคักเนาะ)บ้านพระอาทิตย์หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยาสิ้นสุดกิจกรรมตรงจุดนี้ ในเวลา 11.00 น.