Bloggang.com : สายหมอกและก้อนเมฆ : น้ำตกปิตุ๊โกร หรือ น้ำตกเปรโต๊ะลอซู หรือ น้ำตกรูปหัวใจ

น้ำตกปิตุ๊โกร หรือ น้ำตกเปรโต๊ะลอซู หรือ น้ำตกรูปหัวใจ

เดินป่าหน้าฝน 19 - 22 กรกฎาคม 2567

น้ำตกปิตุ๊โกร หรือ น้ำตกเปรโต๊ะลอซู หรือ น้ำตกรูปหัวใจ

ทริปนี้เราไปกับเพจวิถีเป้ค่ะ ช่วงหน้าฝนคงไม่มีอะไรจะฮอตฮิตไปกว่า น้ำตกปิตุ๊โกร - น้ำตกรูปหัวใจ ทีแรกตัดใจว่าจะไม่มาแล้ว
ดูรีวิว ดูคลิป (มีคนทำไว้เยอะมากค่ะ) เละเทะไปหมด ถามตัวเองว่า จะสวยขนาดนั้นเลยเหรอ...แต่พอได้มาเห็นกับตา...สวยจริง ไม่ผิดหวังค่ะ

กำหนดการเดินทาง

วันศุกร์ ที่ 19 กรกฎาคม 2567
- 20.00 น. เจอกันที่บิ๊กซีสะพานควาย
- 20.30 น. พร้อมแล้วออกเดินทาง

วันเสาร์ ที่ 20 กรกฎาคม 2567
- เวลา 07.00 น. ทานมื้อเช้าที่อุ้มผาง (มื้อ 1 รวมในทริป) เปลี่ยนชุด พร้อมเดิน เสร็จแล้วเดินทางนั่งรถกระบะไปบ้านกุยเลอตอ อีกทั้งติดต่อลูกหาบ เพื่อแบกสัมภาระ และชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ พร้อมออกเดินทาง
- เวลา 12.00 น. แวะรับประทานอาหาร (มื้อ 2 อาหารห่อ)
- เวลา 14.00 น. ถึงจุดกางเต้นท์ เตรียมที่พักอาศัยกัน พร้อมอาบน้ำชำระร่างกาย รับประทานของว่าง และตระเตรียมทำอาหาร
- เวลา 17.30 น. เตรียมรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน (มื้อ 3 รวมในทริป) เสร็จแล้วพักผ่อนตามสะดวก

วันอาทิตย์ ที่ 21 กรกฎาคม 2567
- เวลา 06.00 น. รับประทานอาหารเช้า (มื้อ 4 รวมในทริป)
- เวลา 07.00 น. เตรียมตัวเดินขึ้นยอดมะม่วงสามหมื่น
- เวลา 12.00 น. รับประทานอาหารระหว่างทาง (มื้อ 5 อาหารห่อ)
- เวลา 13.00 น. เดินทางกลับมาทางน้ำตกรูปหัวใจ เล่นน้ำระหว่างทางขากลับ ระหว่างทาง ไป-กลับ อากาศค่อนชื้น และลื่น แนะนำ!! ควรมีถุงมือ รองเท้า เสื้อกันฝน อุปกรณ์กันฝนที่ดี ฯลฯ
- เวลา 17.30 น. เตรียมตัวรับประทานอาหารเย็น (มื้อ 6 รวมในทริป) ทานเสร็จ พูดคุย สังสรรค์ นอนหลับ พักผ่อนกันต่อไป

วันจันทร์ ที่ 22 กรกฎาคม 2567
- เวลา 07.00 น. ทานอาหารเช้า (มื้อ 7 รวมในทริป) หลังจากนั้นเก็บเต็นท์ และทำความสะอาดสถานที่ เตรียมตัวเดินทางกลับหมู่บ้านกุยเลอตอ พร้อมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า พร้อมออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ
- เวลา 12.00 น. ทานข้าวเที่ยง (มื้อ 8 รวมในทริป) ทานเสร็จแล้ว เตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยความปลอดภัย
- เวลา 19.30 น. แวะทานอาหารเย็นระหว่างทาง

*** โปรแกรมอาจจะเปลี่ยนแปลง เพื่อความเหมาะสมในการเดินทาง และการดูแลลูกทริป เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก

สิ่งของที่ต้องเตรียม
- ของใช้ส่วนตัว เต็นท์, ถุงนอน
- จาน ชาม ช้อน และแก้วน้ำ
- ขนม หรือของที่ชอบ
- ยาประจำตัว

รายละเอียดเพิ่มเติม :
1. เราจะเดินทางจาก กทม-คำสิงห์โฮมสเตย์ (ที่โฮมสเตย์มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำให้ ล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนชุดทั้งไปทั้งกลับ
- ทานอาหารเช้า
- มีอาหารห่อ
- และขากลับจากน้ำตก ก็มาทานอาหารเที่ยงที่นี่นะครับ)
2. เสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนขากลับ ไม่ควรนำติดเป้ไปที่แคมป์ เพราะจะหนัก (เก็บใส่ถุงฝากไว้ที่บนรถตู้ได้)
3. กระเป๋าเป้ของท่าน ควรมีถุงดำ หรือเอาเสื้อผ้าของใช้ใส่ไว้ในถุงกันน้ำ กันฝนให้เรียบร้อยนะครับ มิฉะนั้นของทุกๆๆ ท่านอาจจะเปียกชื้น ไม่ได้นอนหลับได้นอนได้
4. รองเท้า แนะนำว่าควรเป็น สตั๊ดดอย รองเท้าบูธ หรือรองเท้าที่มีดอกยางใหญ่ ๆ หรือไม่ควรใส่รองเท้าที่รักมาก ๆ เพราะเปื้อนโคลนหนักแน่ ๆ
5. เต็นท์ แนะนำควรนำมาเอง เพราะจะมีประสิทธิภาพพอที่จะกันฝนได้อย่างดี เพราะน้ำฝนอาจซึมเข้าไปได้ (เช่าจากของผมประสิทธิภาพอาจจะกันน้ำได้ไม่ดีพอนะครับ)
6. เตรียมเสื้อผ้ากันหนาว กันฝน ร่ม ติดตัวไปด้วยจะดียิ่ง เพราะสภาพอากาศต้องผันแปรง่ายมาก ครับผม
7. อย่าลืมไฟฉายคาดหัว ที่มีไฟพร้อมใช้
8. เตรียมรองเท้าแตะไปด้วยก็จะดีงาม
9. เตรียมเสื้อผ้า เผื่อไปด้วยนะครับ เพราะเรานอนกันในป่า 2 คืน

ไม่มีภาพตอนไปถึงโฮมสเตย์คำสิงห์นะคะ วุ่นวายกับการทำธุระส่วนตัว
จัดของ แยกของ กินข้าวมื้อกลางวัน ขอรวบรัดเลยละกัน
ประมาณเที่ยง วันที่ 20 กรกฎาคม 2567 ด้านหน้าทางเข้าค่ะ

เติมคาเฟอีนก่อนเดิน อเมริกาโน่ น้ำผึ้ง มะนาว 100 บาท

ทริปนี้ กรุ๊ปเรามากัน 20 คน รถตู้ 2 คัน

รถลูกหาบขนของ ส่วนมากจะฝากลูกหาบค่ะ ไม่ได้แบกเองหมด

12.26 น.

น้ำตกปิตุ๊โกร หรือ น้ำตกเปรโต๊ะลอซู หรือ น้ำตกรูปหัวใจ ทั้ง 3 อย่างนี้คืออันเดียวกัน และก็เป็นหัวใจแห่งอุ้มผาง ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ใกล้กับยอดเขาดอยมะม่วงสามหมื่น ติดกับเขตรอยต่อชายแดนไทย-เมียนมา ตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ท่ามกลางธรรมชาติป่าเขาสีเขียวขจี สดชื่นเย็นสบาย ยังคงมีความเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์

ที่มาชื่อ น้ำตกปิตุ๊โกร

ส่วนใหญ่เรามักจะได้ยินชื่อเรียกน้ำตกแห่งนี้หลากหลายชื่อ บ้างก็เรียกน้ำตกปิตุ๊โกร บ้างก็เรียกน้ำตกเปรโต๊ะลอซู หากแต่ชาวบ้านท้องถิ่นจะเรียก "ปิตุ๊โกร" เสียมากกว่า ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นปกาเกอะญอ ปิตุ๊ แปลว่า กระท่อม และ โกร แปลว่า ลำห้วย ไม่ใช่ เปรโต๊ะลอซู ที่หลายคนเข้าใจผิดกัน

น้ำตกปิตุ๊โกร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในป่าลึก ธรรมชาติรอบด้านยังคงสวยงาม และที่สำคัญคือมีรูปร่างคล้ายกับรูปหัวใจ โดยเฉพาะในฤดูฝนจะมีสายน้ำมากมายหลั่งไหลพรั่งพรูลงมาจากตาน้ำบนยอดเขาดอยมะม่วงสามหมื่น ผ่านหน้าผาหินลงมาตามช่องผาหลัก 2 สาย เมื่อมองดูไกล ๆ จะเห็นผืนป่าสีเขียวที่อยู่รอบ ๆ ตัดกับสายน้ำที่เป็นรูปหัวใจสีขาวงดงาม สูงจากด้านบนลงไปยังแอ่งน้ำด้านล่างมากถึง 500 เมตร แม้ว่าจะยืนอยู่ไกล ๆ ก็ยังโดนน้ำที่กระเซ็นมาจากน้ำตก

ระยะเส้นทางเดินน้ำตกปิตุ๊โกร
ใครที่ยังไม่เคยมาเที่ยวน้ำตกปิตุ๊โกร อาจจะเคยได้ยินกิตติศัพท์มานักต่อนักว่าไม่ธรรมดา เพราะคนมาเที่ยวจะต้องอาศัยกำลังขาที่จะต้องเดินลุย ลุย และลุยเท่านั้น โดยช่วงระยะเส้นทางจะแบ่งเป็นคร่าว ๆ

ช่วงกิโลเมตรแรก ทางค่อนข้างลื่น ควรเตรียมรองเท้าให้ดี และแนะนำว่าควรมี Trekking Pole เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ช่วยเสริม
ช่วงกิโลมตรที่สอง ระหว่างสองข้างทางจะเจอกับไร่ข้าวโพด
ช่วงกิโลเมตรที่สาม พบกับลำธารและป่าเล็กน้อย พร้อมด้วยฉากหลังเป็นภูเขาโอบล้อม
ช่วงกิโลเมตรที่สี่ เข้าสู่พื้นที่ป่า นักท่องเที่ยวเตรียมตัวเจอกับความลื่นและความชัน เรื่อยไปจนถึงพื้นที่ตั้งแคมป์

https://travel.kapook.com/view228582.html

เป้สีเขียว - คุณเป้ วิถีเป้ค่ะ

เอากล้องใหญ่ไปค่ะ หอบไป และหอบกลับ ไม่ได้เอาออกมาเลย ฝนตกแทบทั้งวันทั้งคืน ไม่น่าเสี่ยงด้วยประการทั้งปวง ทริปนี้เลยมีแค่รูปจากกล้องมือถือล้วน ๆ เลยค่ะ

เดินทางเดินด้านบนได้ค่ะ แฉะบ้าง แต่พอไหว ดีกว่าทางรถอีแต๊กไป

แต่สุดท้าย ก็ต้องลงไปเดินรวมทางเดียวกัน

13.22 น.

สิ้นสุดทางรถวิ่ง...ลูกหาบค่ะ

13.49 น. ข้าวห่อมื้อกลางวัน

สลับกันไป ช่วงลุยน้ำ โคลน แฉะ

14.23 น.

แวะไหว้เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่าเจ้าเขาก่อนเนาะ

กิโลเมตรสุดท้าย ก่อนถึงบริเวณตั้งแคมป์

กติกาป่าชุมชน

14.28 น.

ร้านค้าสุดท้าย ใครอยากตุนอะไร ซื้อโลดค่ะ ข้างหน้าไม่มีอะไรขายแล้ว

15.00 น. ป้าย ใกล้จะถึงแคมป์แล้ว

15.51 น. เรามาถึงบริเวณกางเต็นท์ ฝนเทลงมาอีก กว่าจะรอฝนซา กว่าจะหาที่กางเต็นท์ได้ ฉ่ำแฉะไปหมด

ถึงแคมป์วันแรก บางคนจะไปน้ำตกก่อน พรุ่งนี้อีกวัน ถึงจะขึ้นยอดดอยสามหมื่น...เราไม่ได้ไปไหนค่ะ

08.13 น. เช้าวันที่ 21 กรกฎาคม 2567 วันนี้เดินขึ้นดอยกัน
ไม่ได้ต้องการไปพิชิตยอดดอยสามหมื่น คือถ้าไปได้ ไปไหวก็ไป ถ้าไม่ไหวก็ไม่เสียใจ