พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ได้เปิดห้องนิทรรศการเพิ่มอีก ๑๒ ห้อง หลังจากปรับปรุงครั้งใหญ่มาตั้งแต่ปี ๒๕๕๕ ภายในจัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุของแท้ ผลงานชิ้นเอกของมนุษยชาติบนผืนแผ่นดินไทยในแต่ละยุคสมัย รวมถึงหมู่พระที่นั่งต่าง ๆ พร้อมออกแบบแสงไฟ ให้ผู้ชมเห็นความงาม ๓๖๐ องศา มีการนำเทคโนโลยี เข้ามาช่วยสื่อสารเนื้อหาจากตัววัตถุแก่ผู้ชมอย่างพอเหมาะ ทั้งทัชสกรีน วีดิทัศน์ และ แอพพลิเคชั่น QR-Code / AR-Code โดยไม่บดบังสุนทรียภาพของตัววัตถุที่จัดแสดง

อาคารหมู่พระวิมาน  จัดแสดงนิทรรศการศิลปะไทยประเพณี ดังนี้

๑. พระที่นั่งบูรพาภิมุข จัดแสดงเครื่องศัสตราวุธโบราณ ศิลปะงานช่างหลวงประเภทเครื่องศัสตราวุธ ประกอบด้วยอาวุธโบราณประเภทต่างๆ ที่เคยใช้ในการสงครามตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรีถึงกรุงรัตนโกสินทร์ โบราณวัตถุชิ้นสำคัญ ได้แก่ ตำราพิชัยสงครามสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ จัดแสดงพร้อมหุ่นจำลองการจัดกระบวนทัพแบบครุฑ ตามตำราพิชัยสงคราม

๒. พระที่นั่งวสันตพิมาน (ชั้นบน) จัดแสดงเครื่องที่ประทับวังหน้า จัดวางเครื่องเรือนโบราณผลงานศิลปะงานช่างหลวงหลายสาขา ที่รวบรวมไว้ในพระราชวังบวรสถานมงคลมาแต่ต้น จำลองรูปแบบและบรรยากาศพระวิมานที่ประทับในกรมพระราชวังบวรสถานมงคล

๓. พระที่นั่งวสันตพิมาน (ชั้นล่าง) จัดแสดงเครื่องถ้วยในราชสำนัก ภาชนะเครื่องถ้วยในสำรับสำหรับราชสำนักสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์

๔. พระที่นั่งปัจฉิมาภิมุข จัดแสดงเครื่องโลหะศิลป์  ที่ได้รับเทคนิคงานช่างจากต่างชาติ เข้ามาผสมผสานภายใต้รูปแบบศิลปะช่างไทย ได้แก่ งานถมเงิน งานถมทอง งานถมปัด งานกะไหล่ งานดุนทอง-เงิน และเครื่องบังกะลอ

ภาชนะเครื่องใช้ประเภทเครื่องโลหะศิลป์ไทย มักสร้างด้วยความประณีต เพื่อถวายพระมหากษัตริย์ ใช้เป็นเครื่องประกอบอิสริยยศพระบรมวงศานุวงศ์ เครื่องยศขุนนาง และเครื่องใช้พระสงฆ์

๕. พระที่นั่งปฤษฎางคภิมุข จัดแสดงเครื่องสัปคับ คือ ที่นั่งบนหลังช้าง พาหนะในอดีตของไทย

๖. มุขเด็จ จัดแสดงเครื่องไม้แกะสลัก ศิลปะไม้แกะสลักชิ้นสำคัญ ได้แก่ บานประตูพระวิหารวัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร ผลงานฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

๗. พระที่นั่งอุตราภิมุข จัดแสดงอิสริยพัสตราภูษาภัณฑ์ โบราณวัตถุชิ้นสำคัญในนิทรรศการ ได้แก่ ฉลองพระองค์ครุยในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ฉลองพระองค์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เป็นต้น

๘. พระที่นั่งพรหมเมศธาดา (ชั้นบน) จัดแสดงเครื่องใช้ในพุทธศาสนา

๙. พระที่นั่งพรหมเมศธาดา (ชั้นล่าง) จัดแสดงศิลปะเครื่องมุก เครื่องใช้ เครื่องเรือนประดับมุก ที่จัดแสดงในนิทรรศการนี้ล้วนเป็นเครื่องใช้ในพระบรมวงศานุวงศ์ เช่น เครื่องมุกในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ฯลฯ

๑๐. พระที่นั่งทักษิณาภิมุข จัดแสดงเครื่องมหรสพและการละเล่น

อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์   จัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์โบราณคดีในประเทศไทยหลังพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ดังนี้

ห้องประวัติศาสตร์โบราณคดี ศิลปะแห่งกรุงศรีอยุธยา จัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุชิ้นเอก สื่อสารเนื้อหาประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองยาวนานถึง ๔๑๗ ปี ทั้งความมั่นคงทางการเมืองการปกครอง ความเจริญทางเศรษฐกิจในฐานะเมืองท่าการค้าของภูมิภาคเอเชีย ความรุ่งเรืองในพระพุทธศาสนา ก่อเกิดฝีมือช่างภายใต้ความศรัทธา สะท้อนผ่านพุทธศิลปกรรมอยุธยา อันเป็นเอกลักษณ์ เป็นรากฐานของศิลปกรรมรัตนโกสินทร์ในยุคต่อมา ซึ่งพัฒนาต่อไปเป็นศิลปะประจำชาติไทยในปัจจุบัน

ห้องประวัติศาสตร์โบราณคดี ศิลปะแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น จัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุสื่อสารประวัติศาสตร์เหตุการณ์การเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งของอาณาจักรคนไทยในนามกรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ การสร้างบ้านเมืองใหม่บนรากฐานวิทยาการความรู้ ลักษณะสังคม ศิลปกรรมจากครั้งบ้านเมืองยังดี ณ กรุงเก่า หรือกรุงศรีอยุธยา ก่อร่างสังคมไทยใหม่ท่ามกลางสงครามรอบด้าน การค้าขายนานาชาติ สัมพันธไมตรีทางการค้ากับจีน อินเดีย และชาวยุโรป เป็นต้น

ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการได้ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. ทุกวันพุธ – วันอาทิตย์
(ยกเว้นวันจันทร์ อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์)

อัตราค่าเข้าชม : คนไทย ๓๐ บาท ชาวต่างชาติ ๒๐๐ บาท

เพิ่งเปิดให้เข้าชมห้องจัดแสดงใหม่ เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๒

เราไปวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๒



ห้องจัดแสดงเครื่องสัปคับ หรือที่นั่งบนหลังช้างสำหรับการออกศึกหรือการเดินทางไปในที่ต่าง ๆ



ฉากหลังลอกลวดลายจิตรกรรมฝาผนังวัดบวรสถานสุทธาวาส - วังหน้า เป็นภาพการชนช้าง ทำให้เราได้เห็นการใช้ภาพงานของสัปคับด้วย

















ห้องมุขเด็จ จัดแสดงเครื่องไม้แกะสลักซึ่งเป็นงานประณีตศิลป์ไทยที่สะท้อนวิถีชีวิตคนไทยมาแต่อดีต 

งานจำหลักไม้ที่ต้องใช้ฝีมือและความประณีตเป็นอย่างสูงมักจะเป็นเครื่องไม้จำหลักในพระพุทธศาสนาและเครื่องราชูปโภค


 
งานจำหลักไม้ชิ้นเด่นที่อยู่กลางห้อง คือ ธรรมาสน์กลม หรือที่นั่งสำหรับพระสงฆ์นั่งเทศน์

เดิมอยู่ที่วัดค้างคาว จ.นนทบุรี เป็นฝีมือช่างสมัยอยุธยาตอนปลายที่งดงามมาก



งานชิ้นนี้โชว์ฝีมือช่างหลากหลาย ทั้งงานแกะไม้นูนต่ำ นูนสูง งานฉลุลาย งานประดับกระจก









ไฮไลท์อีกชิ้นหนึ่งคือบานประตูกลางด้านหน้าพระวิหารหลวงวัดสุทัศน์ ที่ ร.๒ ทรงฝากฝีมือแกะสลักไว้ร่วมกับช่างหลวง

ประตูไม้ลงรักปิดทองนี้จำหลักรูปนูนสูงลวดลายพรรณพฤกษาเป็นพืันลายลอยตัวและแกะล้วงให้เกิดวิถีชีวิตสัตว์ลอยตัวแลดูเคลื่อนไหวมีชีวิต

ขอบบานประตูจำหลักลายดอกพุดตานนูนต่ำต่อเนื่องกันโดยรอบอย่างเป็นระเบียบ

ภายหลังเกิดไฟไหม้บางส่วนชำรุด จึงได้นำบานประตูคู่หลังมาใส่ไว้แทน แล้วถอดบานประตูนี้มาเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร



บานประตูไม้จำหลักรูปทวารบาล







บานประตูไม้จำหลักลายป่าหิมพานต์



กินรีไม้จำหลัก



บุษบกยอดพรหมพักตร์





พระที่นั่งอุตราภิมุข







ฉลองพระองค์ครุยในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔



ฉลองพระองค์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ





ฉลองพระองค์ครุยกรองทอง ของสมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมา



พระมาลาตุ้มปี่

















พระที่นั่งพรหมเมศธาดา (ชั้นบน) จัดแสดงเครื่องใช้ในพระพุทธศาสนา



























พระที่นั่งพรหมเมศธาดา (ชั้นล่าง) จัดแสดงศิลปะเครื่องมุก เครื่องใช้ เครื่องเรือนประดับมุก ที่จัดแสดงในนิทรรศการนี้

ล้วนเป็นเครื่องใช้ในพระบรมวงศานุวงศ์ เช่น เครื่องมุกในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ฯลฯ









ถ่ายรูปยากพอสมควร... อยากให้ไปชมเองมากกว่าค่ะ















พึงปฏิบัติตามข้อห้ามด้วยค่ะ



ห้องจัดแสดงใหม่ในหมู่พระวิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร (๑)