พักกายพักใจที่แม่ฮ่องสอน - วัดจองคำ จองกลาง
วัดจองคำ วัดจองกลาง เปรียบเสมือนวัดแฝด ด้วยตั้งอยู่ในกำแพงเดียวกัน เมื่อมองจากด้านหน้า วัดจองคำ จะอยู่ด้านซ้ายมือ ส่วนวัดจองกลางจะอยู่ทาง ขวามือ วัดจองคำ จองกลาง ตั้งอยู่บริเวณสวนสาธารณะหนองจองคำ เป็นวัดเก่าแก่ สร้างเมื่อ พ.ศ. 2370 โดยช่างฝีมือชาวไทใหญ่เป็นศิลปะแบบไทยใหญ่ที่แปลกและงดงามมาก
วัดจองคำ จองกลาง เป็นวัดที่มีความสำคัญและเป็นสัญลักษณ์ของเมืองแม่ฮ่องสอน เพราะนอกจากความงดงามทางศิลปะแล้ว วัดทั้งสองยังเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางวัฒนธรรม และประเพณีของชาวแม่ฮ่องสอน พื้นที่ด้านหน้าของวัดซึ่งเป็นสวนสาธารณะหนองจองคำ ยังใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีตามประเพณีต่าง ๆ ในรอบปีอีกด้วย
วัดจองคำ หรือพระอารามหลวงวัดจองคำ ตั้งอยู่ข้าง "หนองจองคำ" สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2340 และเป็นวัดแรกของเมืองแม่ฮ่องสอนที่มีความเก่าแก่และสร้างตามแบบอย่างศิลปะไทใหญ่ โดยมีสิ่งที่น่าสนใจภายในวัดมากมาย เจดีย์วัดจองคำที่ชาวไทใหญ่เรียกกันว่า "กองมู" เจดีย์มีลักษณะคล้ายมณีทบ โดยช่างฝีมือชาวไทใหญ่รูปทรงจุฬามณี ความสูง 32 ศอก ฐานสี่เหลี่ยมมีมุข 4 ด้าน พร้อมสิงห์ด้านละหนึ่งตัว ประดิษฐานพระพุทธรูปนั่งด้านละหนึ่งองค์ และเริ่มสร้างเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2456 สร้างแล้วเสร็จในเดือนมกราคม พ.ศ. 2458 โดยศรัทธาขุนเพียร (พ่อเลี้ยงจองนุ) พิรุญกิจและแม่จองเฮือนคหบดี ชาวแม่ฮ่องสอนและในองค์พระเจดีย์ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่มานมัสการองค์พระเจดีย์
อุโบสถเป็นอาคารรูปทรงมณฑปรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 6 เมตร ยาว 12 แมตร หลังคาเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กรูป พระเจดีย์ 5 ยอด ภายในเขียนภาพพุทธประวัติบนฝาผนัง บานประตู หน้าต่างทำด้วยไม้แกะสลัก วิหารหลวงพ่อโต ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระประธาน คือ "หลวงพ่อโต" สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2496 โดยช่างชาวพม่าเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ มีขนาดหน้าตักกว้าง 4.85 ม. จำลองมาจากพระศรีศากยมุนี (หลวงพ่อโต) ที่วัดสุทัศน์เทพวราราม วิหารแห่งนี้มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบไทใหญ่ผสมฝรั่ง อาคารมีผังเป็นรูปตัวแอล ผนังก่ออิฐถือปูน ประตู หน้าต่างตอนบนโค้ง ประดับลวดลายแบบสถาปัตยกรรมตะวันตก หลังคามุงสังกะสี เชิงชายมีลูกไม้ฉลุแบบขนมปังขิง
วัดจองกลาง ตั้งอยู่ข้างกับวัดจองคำ ภายในวิหารมีแท่นบูชาตั้งพระพุทธสิหิงค์จำลอง ปิดทองเหลืองอร่ามไปทั้งองค์ และยังมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงตุ๊กตาไม้แกะสลักเป็นรูปคนและสัตว์ ฝีมือแกะสลักของช่างชาวพม่า ซึ่งนำมาจากพม่าตั้งแต่ พ.ศ. 2400
พระประธานคือ ‘พระเจ้าอินทร์สาน’ หรือ ‘พระอินทร์สาน’ ทำจากไม้ไผ่ สร้างตามแบบอย่างศิลปะไทใหญ่ที่พบเห็นทั่วไปในรัฐฉาน
ภาพวาดแผ่นกระจก เรื่องพระเวชสันดรชาดก และภาพประวัติเจ้าชายสิทธัตถะ ฝีมือช่างพม่าผสมไทใหญ่
ตุ๊กตาไม้แกะสลักเหล่านี้ทำจากไม้สักและสร้างโดยสล่าหรือช่างฝีมือชาวพม่าเมื่อ พ.ศ. 2400 โดยนำมาทางเรือ ถ่อขึ้นมาตามแม่น้ำสาละวิน ขึ้นต่อลำน้ำปาย ถึงท่าเรือท่าโป่งแดง จึงนำมาบรรทุกเกวียนเข้าสู่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน แล้วนำมาไว้บนยังศาลาที่ก่อสร้างขึ้นซึ่งอยู่บริเวณทิศตะวันตกของเจดีย์ด้านนอกวัด ต่อมามีตุ๊กตาบางตัวถูกลักขโมยไป จึงมีการนำมาเก็บรักษาไว้บนศาลาการเปรียญ โดยได้จัดทำเป็นห้องพิพิธภัณฑ์ของวัดเพื่อให้เป็นแหล่งสืบค้นต่อไป ตุ๊กตาไม้แกะสลักเหล่านี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระเวชสันดรชาดก และเป็นที่น่าสังเกตว่าการเก็บรักษาของเก่า ของมีค่าต่าง ๆ ของคนไทใหญ่ พม่า และมอญ นิยมเก็บไว้ในวัดเพราะเห็นว่าปลอดภัยดี นอกเหนือจากตุ๊กตาไม้แกะสลักแล้ว ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังมีของโบราณหลากหลายชนิดที่หาชมได้ยาก เช่น คัมภีร์ใบลาน หุ่นกระบอกพม่า หีบไม้โบราณ ซากปรักหักพังของยอดพระเจดีย์ของวัดกิ่วขมิ้นซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่มีตำนานเรื่อง ‘ลูกแก้วลอยกลางอากาศ’ และมีรูปเจ้าฟ้าไทใหญ่ 33 องค์ในสมัยที่เป็นรัฐในอารักขาของอังกฤษ
ด้านหน้าวัดมีระฆังเก่าที่สร้างถวายโดยพญาสิงหนาทราชา เจ้าเมืององค์แรกของจังหวัดแม่ฮ่องสอนพระอุปคุต17.33 น. วิหารหลวงพ่อโตแสงเข้าพอดีเลย17.42 น.มองเห็นพระธาตุดอยกองมู อยู่ด้านบนออกจากวัดจองคำ จองกลาง เดินผ่านสวนสาธารณะหนองจองคำพนักงานต้อนรับค่ะเดินผ่านบริเวณเตรียมงาน “วิจิตร @แม่ฮ่องสอน เมืองแสงสิเนหา”แมวสวน มีปลอกคอกำลังจะกลับที่พัก แมว เพิ่งกลับจากเชียงใหม่ มาถึงที่พักเราพอดี เลยเดินมากินข้าวด้วยกัน สั่งตอนหิว สุดท้าย แม่แมวต้องห่อกลับให้ลูก ๆ 4 ขา ที่หอพักกินต่อส้มตำ ปู ปลาร้า, แหนมซี่โครงหมู, ข้าวผัด, ไก่ผัดเม็ดมะม่วง, ยำวุ้นเส้น กิน 3 คน 5 อย่าง