สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ แต่เดิมรู้จักกันในนามของสวนพฤกษศาสตร์แม่สา นับว่าเป็น สวนพฤกษศาสตร์แห่งแรกของประเทศ ที่เป็นมาตรฐานสากล โดยมีจุดมุ่งหมาย เพื่อศึกษาวิจัยและให้ความรู้ทางด้านพฤกษศาสตร์ ในปี พ.ศ. 2537 องค์การสวนพฤกษศาสตร์ ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ให้ใช้ชื่อสวนพฤกษศาสตร์ใน ภาคเหนือขององค์การฯ จังหวัดเชียงใหม่ว่า “สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์”
ภาระกิจหลักของสวนพฤกษศาสตร์ คือ เป็นศูนย์รวมพรรณไม้ไทย ที่มีความเป็นเลิศทางวิชาการด้านพืช ทำหน้าที่เป็นศูนย์ศึกษาและค้นคว้าวิจัย ทางด้านพฤกษศาตร์ ด้านความหลากหลายทางชีวภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม รวมทั้งเป็นสถานที่เผยแพร่ความสวยงามและคุณค่าของพรรณพฤกษชาติไทย ให้เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนทั่วไป...ที่มาข้อมูล : www.qsbg.org , https://www.facebook.com/qsbgcm/
กลุ่มอาคารเรือนกระจก (Glasshouse Complex)กลุ่มอาคารเรือนกระจกเฉลิมพระเกียรติ ประกอบด้วยเรือนกระจก 12 โรงเรือน ภายในจัดปลูกตกแต่งพรรณไม้ไว้อย่างสวยงาม โดยเฉพาะพรรณไม้หายากและมีความโดดเด่นเป็นพิเศษ เป็นสถานที่ที่นักวิชาการ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ทั้งผู้สูงอายุ และเด็กๆ สามารถเข้าเที่ยวชม เรียนรู้สัมผัสคุณค่า และความงดงามของพรรณไม้ได้ตลอดทั้งปีทุกฤดูกาล
เรือนกระจก เป็นโรงเรือนที่ได้รับการจัดสร้างขึ้น เพื่อให้เป็นสถานที่จัดแสดงพืช ภายในมีการจัดปลูกและตกแต่งด้วยพืชประเภทเดียวกันชนิดต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาพที่ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด สามารถควบคุมความชื้น แสงหรืออุณหภูมิได้ในระดับหนึ่ง ให้ใกล้เคียงกับสภาพธรรมชาติที่พืชต้องการ
วัสดุที่ใช้เป็นโครงร่างของอาคารต่าง ๆ จะเป็นโลหะผสมที่มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ และไม่เป็นสนิมสามารถรับน้ำหนักได้มาก และมีความยืดหดตัวได้สูง กระจกที่ใช้ก็เป็นกระจกแบบพิเศษหนา 3 ชั้น สามารถกรองแสงและถ่ายเทระบายความร้อนได้ดี
นอกจากนี้ยังมีม่านพรางแสงที่ปรับเปิดเลื่อนได้ด้วยมือหมุน และระบบระบายอากาศแบบเรียบง่าย โดยการเปิดกระจกด้านข้างได้ทุกมุมและหลายระดับ พื้นล่างรองไว้ด้วยดินผสมที่มีความลึกถึง 2 เมตร และรองใต้ดินด้านล่างอีกชั้นหนึ่งด้วยท่อระบายน้ำ แบบก้างปลาเพื่อไม่ให้น้ำขัง
กลุ่มอาคารเรือนกระจกของสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ประกอบด้วยเรือนกระจก 3 แบบ ซึ่งมีทั้งหมด 12 โรงเรือน ได้แก่
เรือนกระจกใหญ่1. เรือนแสดงไม้ป่าดิบชื้น จัดแสดงสภาพป่าและพันธุ์ไม้ป่าดงดิบ สร้างบรรยากาศภายในด้วย เครื่องพ่นหมอกให้มีความชุ่มชื้นสูง นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งพื้นที่เป็นเนินเขาและน้ำตก มีทางเดินยกระดับเพื่อให้ผู้เยี่ยมชมได้ชื่นชมความสวยงามของเรือนยอดพืชจากมุมสูงอย่างทั่วถึง
เรือนกระจกขนาดกลาง2. เรือนไม้น้ำ จัดแสดงไม้น้ำและพืชชุ่มน้ำชนิดต่าง ๆ โดยเน้นพันธุ์บัวของไทย เป็นหลักและเสริมด้วยพรรณไม้น้ำ ไม้ชุ่มน้ำต่าง ๆ และพืชกินแมลง3. เรือนกล้วยไม้และเฟิน จัดแสดงกล้วยไม้และเฟิน4. เรือนพืชทนแล้ง จัดแสดงพืชไม้แล้ง พืชสกุลกระบองเพชรชนิดต่างๆ พืชสกุลศรนารายณ์ กุหลาบหิน เสมา และไม้แล้งทรงสูงหรือที่ยกลำต่าง ๆ
เรือนแสดงพรรณไม้ทั่วไป5. เรือนรวมพรรณบัว จัดแสดงพรรณบัวต่าง ๆ โดยรวมพรรณบัวโดยเฉพาะของไทยและของเอเชีย6. เรือนแสดงพันธุ์สัปปะรดสี จัดแสดงพันธุ์สัปปะรดสีที่มีการนิยมปลูกกันในประเทศไทย7. เรือนแสดงบอนสีและหน้าวัว จัดแสดงบอนสี บอนป่า หน้าวัว ไม้ด่าง ไม้แคระ และพืชขนาดเล็กที่สวยงาม8. เรือนแสดงส้มกุ้ง จัดแสดงพืชสกุลส้มกุ้งที่รวบรวมจากทั่วประเทศและชนิดที่สวยงามจากต่างประเทศ9. เรือนแสดงไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ด่าง จัดแสดงไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ลูกผสมและไม้ต่างประเทศที่พบทั่วไปในท้องตลาด10. เรือนแสดงไม้ไทยหายาก จัดแสดงไม้ไทยและไม้ไทยหายากชนิดต่าง ๆ มีป้ายชื่อบอกรายละเอียดโดยย่ออย่างชัดเจน11,12 เรือนแสดงพืชสมุนไพร จัดแสดงพืชสมุนไพรของภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือพร้อมป้ายบอกชื่อสรรพคุณต่าง ๆ โดยย่อ
ช่วงที่เราไป เรือนแสดงไม้ป่าดิบชื้น ปิดปรับปรุงค่ะที่นี่มาแล้วมาอีกได้ค่ะ เดินเพลิดเพลินดี ตอนเราไปคนไม่ค่อยเยอะด้วย (ก็โควิด-19 เนาะ)ใบสวย ยังกะกำมะหยี่เลยดอกผีเสื้อราตรีไม่รู้ชื่ออะไรกันบ้าง ใครยังไม่เคยไป อยากให้ไปดูเองนะคะดอกสร้อยระย้าหนุมานนั่งแท่นพวกสับปะรดสีค่ะเคราฤาษี น่ารักดี เข้าใจทำบัวเรือนกระจกบัววิคตอเรียกลุ่มกล้วยไม้และเฟินนั่งรอแม่ ถ่ายรูปนานเกิ๊น 555เรือนแสดงป่าไม้ดิบชื้น ปิดปรับปรุงค่ะเรือนพืชทนแล้งถังทอง หัวใหญ่มากออกมาจากดงหนามแล้วค่ะ / ไฮเดรนเยียกุหลาบหินมอร์นิ่งกลอรี่ ความเดิม ผู้หญิงกับดอกไม้ชมคาเฟ่ วัดพระธาตุดอยคำประตูท่าแพ วัดป่าดาราภิรมย์